มนุษย์เอยเคยรู้จักความรักกันบ้างไหม?

เปิดบล็อคของ ปะหล่อง ขึ้นมา...
เห็นภาพโจรใต้ใช้ปืนจ่อยิงศีรษะผู้โดยสารรถตู้ทีละคนๆ แล้วรู้สึกสลดหดหู่ขึ้นมาทันใด

เลยขอหยิบงานเก่าชิ้นนี้มาอ่านอีกครั้งนึง...

ทำไมหนอมนุษย์ถึงโหดร้ายต่อกันอย่างนี้นะ...

* * * * *


<
"คนกินเนื้อจนเคย คนดื่มเลือดจนชิน
เปลี่ยนเป็นคนโหดร้ายอำมหิต?
ฟันคมยิ่งกว่าหิน แย่งหนังเสือก็ตีกัน
คนชนะหัวเราะชอบใจ คนแพ้ถูกกัดบาดเจ็บ
แย่งหนังเสือไปได้ไปห่มร่างกาย
ใครแข็งแรงใครกำเริบเสิบสาน
คนกำเริบเสิบสาน สัตว์ก็ยังกลัว
เก้งกวางหนีหายสิ้น เสือและเสือดาวไม่กล้ามา
คนบ้าระห่ำมากเภทภัย ใจคนซ่อนหนามแหลม
ต่างระแวดระวังป้องกันตน พูดจาพ่นน้ำลาย?
ต่างอิจฉาตาร้อน ถือกระบองติดมือ
แย่งเนื้อก็ชกต่อย หัวแข็งใช้หัวชน
มือแข็งใช้มือจับ ชกต่อยแพ้ก็กัด
ฟันขาวกลายเป็นฟันสีแดง
มนุษยชาติที่น่าเวทนา พี่น้องฆ่ากันเอง
คนอ่อนแอถูกทุบล้ม คนแข็งแรงขึ้นขี่ข่ม
เหมือนหมาป่าที่หิวโหย เหมือนเสือที่หิวโซ
รู้ทั้งรู้ว่าเป็นแม่ ก็ยังจะฉีกเนื้อกิน
ฟ้าไม่มีตา ดินไม่มีน้ำใจ
เภทภัยเมื่อใดจะสงบ เภทภัยหากทอดยาว
มนุษยชาติจะสิ้นสูญ..."

"เพลงวิวาท" บทเพลงชนเผ่าไท แคว้นสิบสองปันนา

เปิดเจอบทเพลงของชนเผ่าไทบทนี้เข้าโดยบังเอิญ- -
"เรืองรอง รุ่งรัศมี" แปลและเขียนไว้ในคอลัมน์"สายลมในกิ่งหลิว" เนชั่นสุดสัปดาห์ เมื่อหลายปีก่อน

อ่านแล้วอดครุ่นคิดถึงหัวจิตหัวใจคนเราในยุคสมัยนี้ไม่ได้

ทำไมใจคนเราถึงมืดดำอำมหิตกันถึงเพียงนี้
ทั้งๆ ที่ทุกคนต่างมีเลือดสีแดงสีเดียวกัน
อาศัยบนผืนแผ่นดินเดียวกัน โลกใบเดียวกัน
ไยจึงมุ่งมาดฆาตร้าย ต่างฝ่ายต่างสะสมความเกลียดชัง
จนกลายเป็นความขัดแย้งรุนแรงยากเกินเยียวยา

"เพลงวิวาท เป็นเพลงที่ขับขานสืบทอดกันมายาวนาน
สะท้อนถึงด้านโหดร้ายของชีวิต
เป็นความจริงอีกด้านหนึ่งที่ดำรงอยู่
เคียงคู่กับความงดงามของธรรมชาติ
และความบริสุทธิ์อ่อนโยนของจิตใจผู้คน
ไม่ว่าจะอยู่เมือง อยู่ดอย
คนล้วนมีด้านที่โหดร้าย!!" เขาบอกเล่าเอาไว้ตอนท้าย

ทำให้หวนนึกถึงชีวิตผู้คนมากมายในผืนแผ่นดินนี้
บางวิถีชีวิตอยู่กันอย่างหวั่นหวาดขลาดกลัว
ไม่ว่าตามแนวชายแดนบนภูเขา
หรือชายแดนใต้ในห้วงขณะนี้
ล้วนไม่แตกต่างกัน!!

กี่ชีวิตที่ปลิดร่างเหมือนใบไม้ร่วงละลิ่วกองพื้นดิน
ไฟสงครามความขัดแย้งปะทุไหม้ลามเลียไปทั่วเมือง
แล้วใครเล่าจะหยุดปัญหาอันหมักหมมเหล่านี้ให้จางหาย
ให้กลายเปลี่ยนเป็นดินแดนแห่งสันติกันเสียที

หรือว่าคนเราล้วนมีด้านที่โหดร้าย
หรือว่า- -คนกินเนื้อจนเคย ดื่มเลือดจนชิน!!

ห้วงยามที่เงียบงัน...
คล้ายยินเสียงเพรียกของโลกขับขาน

"มนุษย์เอยเคยรู้จักความรักกันบ้างไหม??"






Create Date : 18 มีนาคม 2550
Last Update : 2 เมษายน 2550 9:10:59 น.
Counter : 559 Pageviews.

16 comments
  
อ้ายภูครับ ผมก็สลดสังเวชใจเป็นอย่างมาก

อ่านข่าวทุกวันก็ยังมีเรื่องแบบนี้ทุกวัน

ยิ่งเมื่อวานไปเจอรูปนั้นอีก

อารมณ์ก็ยิ่งปะทุจนระงับไม่อยู่

ผมว่าเราอย่ามัวสมานฉันท์กันเลย

เมื่อเขาแรงเราก็แรงตามแรงเขา

ยิ่งกับพวกม็อบที่ชอบมาปิดล้อมเจ้าหน้าที่น่ะ

ผมว่าจับให้หมดเลย แล้วค่อยสอบสวนทีละคน

ดีไม่ดีเราอาจจะได้คนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในนั้นก็ได้

ซึ่งผมคิดว่ามีแน่นอน

เมื่อไหร่เพลงสันติภาพจะกังวานที่ภาคใต้ของเราเสียที

คำตอบนี้พระเจ้าเท่านั้นที่รู้

จะต้องสิ้นอีกกี่ศพจึงกลบเกลื่อน
ความโหดร้ายป่าเถื่อนที่เธอสร้าง
จักต้องเจ็บอีกกี่ใจจึงจะจาง
ความเลวร้ายรายทางที่เธอทำ

หรือต้องเสียน้ำตาสักแสนสาย
จึงจะหยุดความกระหายทุกเช้าค่ำ
ที่เธอก่อคือการณ์ที่เกื้อกรรม
เป็นอธรรมมืดมิดอวิชชา

เธอไม่เคยย้อนคิดสักนิดหรือ
ว่านี่มันก็คือการเข่นฆ่า
ว่าที่ทำมันย้ำซึ่งวิญญา
ที่สิงสู่กายาเธอใช่คน

วิสัยสัตว์หากินแค่พออิ่ม
แต่เธอยิ้มแล้วยิงจนปี้ป่น
จะเป็นใครไม่สำคัญเลือกชั้นชน
เพียงหวังผลที่เธอหวังจึงสั่งตาย

ถ้าเป็นพ่อแม่ลูกของเธอบ้าง
เธอจะเศร้าอ้างว้างยามห่างหาย
วันหนึ่งเคยมีคนอยู่ข้างกาย
แต่วันนี้มองหายไม่เห็นมี

ใช้ส้นเท้าตรองดูให้รู้สึก
แล้วสำนึกกลับใจเถิดน้องพี่
หยุดยีย่ำดวงใจไว้ไมตรี
โลกคงมีสันติภาพอาบนิรันดร์
...............................................
หยุดยีย่ำดวงใจไว้ไมตรี
โลกคงมีสันติภาพอาบนิรันดร์

โดย: ปะหล่อง วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:9:25:10 น.
  
เฮ้อ...มันก็จริงแหละ แต่ว่าหากใช้ความรุนแรงเข้าแลก ก็ไม่น่าจะดีขึ้นหรอก

เพราะไม่มีที่ไหนที่ สงครามจะทำให้เกิดสันติภาพ
ความรุนแรงหรือจะชนะความรัก ความเข้าใจ

ผมยังไม่เคยเห็นทางออกเลย...

คงต้องกลับไปฟื้นฟูที่จิตสำนึกของคนตั้งแต่เล็กๆ ละมั้ง

หรือว่ามันใกล้ถึงกลียุคของสังคมมนุษย์เราเสียแล้ว?
โดย: pu_chiangdao วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:9:50:10 น.
  
ความรุนแรงแม้ไม่ใช่ทางออกแต่ก็น่าจะปรามผู้กระทำได้ ขึ้นอยู่ว่าใช้ถูกวิธีและเป็นไปตามกฎหมายหรือเปล่า ตอนนี้เรายังไม่รู้ชัดเจนเลยว่าใครเป็นผู้กระทำ เหมือนเขาอยู่ในที่มืดเราอยู่ในที่สว่าง ถ้าเราไม่สามารถดึงมวลชนกลับมาได้ ก็ยากนักที่จะสำเร็จ
เฮ้อ..................................................
โดย: วังบัวบาน วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:13:42:56 น.
  
"สันติภาพ"
น่าจะสร้างจากจิตใจเรา...และรอบๆตัวเรา...
และในสังคมที่เราอยู่ก่อน...น่าจะดี...
ถ้ามีแล้ว...ปัญหาต่างๆ มันคงไม่เกิด...

สบายดีป่าวค่ะคุณภู...
เราสบายดีค่ะ...
โดย: แดดร่มลมโชย ^-^ IP: 203.144.130.176 วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:16:40:42 น.
  
คนก็มีต้นกำเนิดจากแหล่งเดียวกัน..

สงคราม การสูญเสีย ก็มีตัวอย่างให้เห็นในอดีต

เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนเหล่านั้นมองชีวิต..การสูญเสีย..ความโศกเศร้า เป็นอะไร แค่ไหน อย่างไร

ถ้าเกิด ชีวิตของเรามีค่าพอ ที่จะทำให้เหตุการณ์เหล่านี้ยุติ เราขอแลก..

โดย: ก้อนหินริมทาง วันที่: 21 มีนาคม 2550 เวลา:11:19:48 น.
  
ไปทำงานหลายวัน ได้ยินข่าวแล้ว โห เศร้าอ่ะ

สงสารเหยื่อ ที่สุดเลย

บาปกรรมมันจะตามไปถึงคนบงการเมื่อไหร่กันนะ

ปล.อ้ายภูสบายดีน๊อ นก บ่สบายค่ะ ก้าหาปิ๊กมานิ

ควันนักขนาด เจียงใหม่อ่ะ อุณหภูมิก็เปลี่ยนนัก

เป๋นหวัดลงคอ แหบบบบบบบบ สนิทเลยเจ้า
โดย: varissaporn327 วันที่: 21 มีนาคม 2550 เวลา:15:57:05 น.
  
ไปอ่านมาแล้วเนาะ

อู้ยากเจ้า เรื่องจิตสำนึกเนี่ย

โดยเฉพาะอ่านไปถึงตอนที่ ป่าไม้เห็นแล้วยังเฉย หรือทำซะเองอ่ะ

จ๋นใจ๋ละแบบนี้ เปิงละ อาจารย์ผู้ฮู้ ทั้งหลาย นิ่งไปเลยเนาะ ปอ บ่ออกมาแนะนำเรื่องผ้าปิดปากน่ะ ฝุ่นมันขนาดเล็กแต๊ ๆ ผ้าน่ะต้องชุบน้ำหมาด ๆ แล้วก็ต้องทำหลาย ๆ ชั้น ถึงจะจ่วยได้หนา

แว่นตา Safety ปุ๊นล่ะ ถึงจะกั๋นได้แต๊

ป่าไม้มันต้องวางแผนแต่เนิ่น ๆ ละ ตั้งแต่เปิ้นเริ่มเตือนว่าจะ แล้งมาได้เป็นปีแล้วน่ะ แทนที่จะเข้าไปขอคำแนะนำ เรื่องน้ำ เรื่องฝนหลวงเนาะซ้ำมาเป๋นแบบนี้ เฮ้อออออออ

นกไปล่ะปูนมา เผาไฮ่ เผานาก่นัก อย่างที่เขียนในบล็อกอ่ะ เผาแต๊ เผาว่า เกษตรอำเภอ ไปไหนเสี้ยงนิ เฮ้ออออออ (แหมกำ)

ไปละ แวะมาจ่มก่อนนอนเจ้า

ฝันดีเน่อ อ้ายภู
โดย: varissaporn327 วันที่: 21 มีนาคม 2550 เวลา:23:05:06 น.
  
ทุกวันสายหน่อยต้องลงมาในเมืองและตอนบ่ายก็ขึ้นบนดอยโป่งแยง เกือบจะทุกวัน มองไปทางไหนก็ ร่มรื้นเขียวครื้มสบายตาและพลอยทำให้เราสดชื่นได้นะ เออ ฉันนี้โชคดีนะจัง แค่นี้ก็มีความสุขแล้วล่ะ แต่
เมื่อประมาณสักเดือนกว่าๆ มานี้แหละ เห็นป่าข้างทางรวมทั้งภูเขา รอบๆ หมู่บ้านถูกเผาทุกวัน โดยเฉพาะตอนเย็นจนถึงดึก มองออกไปจากบ้านจะเห็นภูเขาเป็นสีแสด(เปลวไฟ) เห็นแล้วเศร้าจัง เมื่อไหร่ป่าไม้จะดูพยายามลุ้นอยู่นะ บางคนลุกป่าเพื่อปลูกดอกที่พวกเราเห็นกันว่าสวยๆ (หน้าคล้ายเบญจมาศ) ตามตลาดใหญ่ๆ นี้แหละปลูกกันทั้งภูเขา จนป่าจะไม่มีเหลือให้เห็นแล้ว แล้วอีกหน่อยความแห้งแล้งคงจะตามมาติดๆ นี้แหละ เพราะว่าต้นไม้ใหญ่เกือบจะไม่เหลือให้เห็นแล้ว เออ เห็นแล้วเศร้านะ จะทำไงดีล่ะ

โดย: p tim IP: 222.123.81.225 วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:19:45:38 น.
  
อึ้งน่ะ ภู อ่านข่าวแล้ว ตกใจสุดหัวใจ ไม่รู้จะพูดอะไร พูดไม่ออกเลย เรื่องโจรใต้ ถึงทางใต้จะร้อนระอุ แต่เราอ่านข่าวแล้วหนาวยิ่งกว่าตอนติดลบอีก
โดย: Kala_mydog วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:20:00:48 น.
  
น่ากลัวว่าในอนาคตปัญหาพวกนี้จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
โดย: สลิลลา No.1 วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:23:14:44 น.
  
"มนุษย์เอยเคยรู้จักความรักกันบ้างไหม??"
เราเป็นอีกคนที่อยากรู้คำตอบ
โดย: ตะวันออกไม่แพ้ วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:10:35:15 น.
  
สวัสดีเจ้าค่ะ
อ่านข่าวแล้วหดหู่ใจ บางครั้งยังคิดว่าถ้ามีคำสั่งให้ไปทำงานที่ทางใต้จะเป็นงัย เมื่อก่อนเคยไปทำแต่ยังไม่มีเหตุรุนแรงขนาดนี้ ได้แต่คิดว่าเมื่อไหร่ สันติภาพจะเกิดขึ้นในดินแดนนี้ ชาวบ้านเองก็หวาดกลัวหน้าสงสารจัง เฮ้อ
โดย: บูรพกาล (กลกาล ) วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:19:22:11 น.
  
ดูข่าวจาก ASTV ทุกวันเลยคุณภู
ดูไปก็หวังไปว่า ทุกอย่างจะสงบในเร็ววัน
จำไม่ได้แล้วล่ะว่า ดูมันมานานเท่าไหร่
ปีไหนที่พี่เขามาติดตั้งให้ฟรี
จนป่านนี้เหตุการณ์ก็ยังไม่สงบเลย

แล้วคุณภูอ่ะ เลือบอาบ..หายหรือยัง
ผ้าขะม้ามันจะหายเท่าเอามือเข่น
เป็นไม่มีหรอกนะคุณภู อย่ามะเก่าให้มันมากนัก
โรงบาลก็ใช่ไกลบ้าน..เนาะ


โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.135.140 วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:23:03:17 น.
  

จิตใจพวกนั้น มันก็เหมือนสัตว์ป่าดี ๆ นี่เองค่ะ หากโดนพ่อแม่ หรือลูกหลานของตัวเองเข้าบ้าง คงจะมีความรู้สึกขึ้นบ้าง แล้วคุณภูเป็นอะไรหรือคะ ขอให้หายเร็วๆ นะ
โดย: แซนด์ซี วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:23:14:20 น.
  
ดูเหมือนเหตุการณ์ทางภาคใต้นับวันยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที
สลดใจค่ะ ได้รับแต่ข่าวร้ายๆทุกวันๆ
เมื่อไหร่จะเกิดสันติภาพซักทีก็ไม่รู้

ตะกร้าก็สบายดีตามอรรถภาพค่ะ
คุณภูคงสบายดีเช่นกันนะคะ

โดย: ตะกร้าหวายสีขาว วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:0:03:29 น.
  
โดย: สสั้ตยั้สยื้ย IP: 61.7.229.18 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:00:30 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pu_chiangdao
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



ภาพและงานเขียนทุกชิ้นที่ปรากฏในเวบไซต์นี้
เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบทประพันธ์นั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว
ห้ามกระทำการดัดแปลง แก้ไข
หรือแอบอ้างไปเป็นผลงานของตน
โดยไม่มีการอ้างถึงเจ้าของลิขสิทธิ์
หากผู้ใดมีความประสงค์
จะนำข้อมูลดังกล่าวออกเผยแพร่ ตีพิมพ์
หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด
โปรดติดต่อเจ้าของบทประพันธ์โดยตรง


***************************

งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ที่มา : เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา









มีนาคม 2550

 
 
 
 
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog
Friends Blog
[Add pu_chiangdao's blog to your weblog]