สวนชีวิต (3)...การเดินทางของเมล็ดพันธุ์











เกือบสามเดือนแล้วที่ผมพาตัวเองกลับมาอยู่ในหุบเขาบ้านเกิด
ชีวิตส่วนใหญ่จึงขลุกอยู่แต่ในสวน ไม่ค่อยได้เดินทางไปไหนไกล แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่าเหงาหรือห่างไกลกับผู้คนเลย เพราะในแต่ละเดือนมักมีมิ่งมิตรเดินทางมาเยี่ยมเยือนหากันตลอด

และทำให้ผมรู้อีกอย่างหนึ่งว่า...บางทีการอยู่นิ่งก็หมายถึงการเดินทาง

ใช่ ผมหมายถึงว่า ในขณะที่ผมอยู่ในสวน หากยังมีผู้คนเดินทางแวะเวียนมาหา

และที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ ผมยังมองเห็นเมล็ดพันธุ์เดินทางมายังสวนอย่างต่อเนื่อง

“ผมเอาเมล็ดพันธุ์มาฝาก...” นักเดินทางคนหนึ่งเดินทางไกลมาจากสงขลา ล้วงเอาเมล็ดพันธุ์ที่ใส่ไว้ในกล่องฟิล์มยื่นให้ ขณะผมกำลังง่วนทำงานอยู่ในสวน

ในนั้น, นอกจากมีเมล็ดถั่วเม็ดเล็กๆ รวมกันราวยี่สิบเมล็ดแล้ว ยังมีเมล็ดอะไรไม่รู้สีเหลืองนวลปนมาด้วย เขาบอกว่า นี่คือเมล็ดของดอกไม้จีน เป็นพืชล้มลุก มีดอกสีเหลือง




เขาสาธยายถึงคุณค่าของดอกไม้จีนนานหลายนาน ว่ากันว่าเป็นอาหารที่คนจีนนิยมนำมาใส่แกงจืด ไก่นึ่งดอกไม้จีนใส่เห็ดหูหนู หรือเนื้อตุ๋นใส่ดอกไม้จีน นอกจากนั้น เขายังบอกย้ำอีกว่า มันเป็นพืชสมุนไพร หากทานดอกไม้จีนแล้วจะดูสดใส เพราะเกสรของดอกไม้จีนนี้มีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาท บำรุงเลือดและเพิ่มการคัดหลั่งของฮอร์โมน ทำให้ร่างกายของเรา กระปรี้กระเปร่า

แค่ฟังเขาบอกเล่า ก็พลอยทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้รู้จักเพื่อนใหม่ จนต้องสืบค้นข้อมูลด้วยตนเองต่อว่า ในดอกไม้จีนนั้น มีสารที่พบได้แก่พวกแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก โพแทสเซียมและวิตามินต่างๆ อีกมาก

ผมเพิ่งลงมือนำเมล็ดดอกไม้จีนลงในถุงชำ
และเฝ้าทำความคุ้นเคยสมาชิกใหม่ในสวนชีวิตแห่งนี้อยู่เงียบๆ


ทำให้ผมนึกไปถึงอีกเมล็ดพันธุ์หนึ่งที่เดินทางไกลมาจากกระบี่ ผ่านกล่องพัสดุไปรษณีย์ฯ มาถึงหุบเขาผาแดง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

ในกล่องมีลายมือถ้อยคำของนักเขียนหนุ่มแห่งสำนักนิตยสารสารคดี บอกเล่าถึงตัวตนของห้าสิบเมล็ดพันธุ์ที่นอนนิ่งอยู่ในนั้น

“...แถวพังงา-ภูเก็ต เขาเรียกว่า ‘กาหยี’ กระบี่-ตรัง เรียก‘ยาโห้ย’ สงขลา-นครศรีฯ เรียกว่า‘หัวครก’ แต่อย่างไรไม่รู้ ทางกรุงเทพฯ กลับเรียกว่า ‘มะม่วงหิมพานต์’…”

เขาย้ำบอกว่า มีประโยชน์มากและปลูกง่าย





เขาแนะนำอีกว่าให้เอาเมล็ดที่ให้มานี้ ลงในแปลงเพาะก่อน กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่มน้ำตลอดเวลา ระหว่างนั้นก็เอาดินใส่ถุงเพาะชำเตรียมไว้ พอหน่ออ่อนแตกใบแท้ 2-4 ใบ หลังจากนั้นก็แยกใส่ต้นละถุง เลี้ยงในถุงเพาะชำให้โตพอควร จึงนำลงหลุมปลูกในช่วงฤดูฝน แล้วปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ ไม่ต้องใส่ปุ๋ย รดน้ำ พ่นยา


“พี่จะไปเที่ยวที่ไหนกี่ปีก็ไป สี่ห้าปีกลับมา พี่จะเห็นลูกแดงๆ แขวนอยู่เต็มพุ่มไม้ในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.สอยกินได้ชื่นใจ...พี่เพาะช่วงนี้พอฝนลงก็ได้ปลูก ผมไปเยี่ยมคงได้เก็บยอดกิน ปลูกต้นไม้ พัฒนาด้วยใจ และอาจเป็นวัตถุดิบสำหรับงานเขียนได้” เขาบอกเล่าทิ้งท้าย


ทุกย่ำเย็น ในยามแดดอ่อน ลมโชย ผมชอบเดินละเลียดไปในสวนหลังบ้าน เดินไปทักทายต้นมะม่วงหิมพานต์ที่กำลังแตกช่อผลิใบเขียวสดให้เห็น ให้ชื่นใจ










จริงสิ เมื่อพูดถึงเมล็ดพันธุ์ ทำให้ผมอดนึกไปถึง ‘ห่อวอเนอมู’ของพี่น้องปวาเก่อญอที่ผมเคยขอมาจากแม่เฒ่าบนดอยสูงไม่ได้

‘ห่อวอเนอมู’ คือพันธุ์พืชพันธุ์หนึ่งซึ่งอยู่ในตระกูลเครื่องเทศ เครื่องปรุงของชาวปวาเก่อญอ ที่ขึ้นแซมในไร่ข้าว บ้างอยู่ร่วมกับต้นหญ้าจนกลายเป็นพวกเดียวกันไปเลย









หลายครั้งที่มีการเปรียบ ห่อวอเนอมู เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของคนปวาเก่อญอ


คนในเมืองอาจมองว่า ห่อวอเนอมู เป็นเพียงหญ้าป่า เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ใครๆ เขาไม่ต้องการ เป็นวัชพืชที่ดูด้อยค่า ต้องตัดมันให้ขาด ต้องถางมันให้สิ้น แต่เขาอาจไม่เคยรับรู้เลยว่า แท้จริงแล้ว ห่อวอเนอมู เป็นพืชพันธุ์ที่มีคุณค่าสำหรับคนบนภูเขา


ใช่ มาถึงตรงนี้แล้ว ผมอยากจะบอกว่า ผมชอบการเดินทางของเมล็ดพันธุ์ ที่ล้วนต่างเดินทางมาไกลและไกล สุดท้ายมาเติบใหญ่อยู่ในสวนของผมแห่งนี้ ซึ่งผมถือว่าช่างเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง


และบ่อยครั้งที่ผมครุ่นคิดไปว่า…บางที ชีวิตคนเราก็เหมือนกับเมล็ดพันธุ์หนึ่ง ที่ปลิวเร่คว้างไปยังดินแดนแปลกใหม่ไม่คุ้นเคย แล้วแต่ลมชะตากรรมจะพัดพาเราไป


เพียงแต่เราไม่รู้ล่วงหน้าว่า เมื่อไรมันพร้อมจะหล่นลงในผืนดินใดเพื่องอกและงาม

หรือไม่ก็เป็นได้เพียงแค่เมล็ดพันธุ์ที่ถูกมด มอดแมลงกัดกินเท่านั้นเอง.



งานชิ้นนี้ตีพิมพ์ครั้งแรก ในคอลัมน์ ‘คนคือการเดินทาง’...เสาร์สวัสดี กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 15 พ.ย.2551



Create Date : 15 ธันวาคม 2551
Last Update : 3 มกราคม 2552 12:38:34 น.
Counter : 1624 Pageviews.

44 comments
  
ใช่แล้ว เราต่างคือเมล็ดพันธุ์ ระหกระเหินไปจากต้นกำเนิดตามคลื่นชีวิต
บางเม็ดงอก บางเม็ดลีบ


* เพิ่งอัพบล็อกเหมือนกัน ปิ๊กลุกบ้านดอยมา ถ่ายรูปดอยมาเยอะแยะ
โดย: อวน. IP: 119.42.78.151 วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:14:53:35 น.
  
น่าอิจฉา..เจ้าชบากิ่งนั้นจัง

มาอยู่ไม่เท่าไหร่ ก็รู้จักเพื่อนใหม่ๆ จากแดนไกลเป็นว่าเล่นเลย...

......แต่ น่าอิจฉาสุดๆๆ ก็เจ้าของสวนซินะ

แค่เห็นภาพก็ลืมตัว แอบสูดลมหายใจลึกๆเข้าไปซะละ 5555
โดย: ช่อชบา IP: 58.9.159.148 วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:18:08:14 น.
  
มีความสุขอยู่ที่บ้านก็ดีนะ บางคนยังต่อสู่อยู่ที่เมืองอยู่

สวัสดีปีใหม่พี่ด้วยนะครับ
โดย: ตะวันออกไม่แพ้ วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:19:31:33 น.
  
ห่อวอเนอมู’ หรือห่อวอ อย่างเดียวกันใช่ไหม
มันหอมมาก เอาใส่อาหาร ต้มไก่ ทำน้ำพริกก็ใส่ใช่ไหม

และมาบอกว่า งานคอลัมน์ ในกุลสตรีเริ่มลงแล้ว เป็นการเตรียมพร้อมื้ยาวนานมา
ตุนต้นฉบับถึงห้าตอนก่อนจะเริ่มลง

ว่าง ๆ ไปหาอ่านนะ ฉบับนี้ ภาพโดย ภู เชียงดาว
โดย: แพรจารุ วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:12:26:27 น.
  
แม้ฉันจะเป็นเมล็ดพันธุ์มันคงไม่ได้เม็ดที่ดีที่สุดกระมัง สำหรับการไปเยี่ยมเยือน..ในปี2552 หากท่านภูไม่ตะลอนทัวร์ไปไหนไกลซะก่อนเสียดายวันเวลาที่ผันผ่านมัน
บ่งบอกถึงความไม่เอาไหนของจ่าตำรวจคนหนึ่งที่ไร้สิ้นแห่งความพยายาม...ขอบคุณเมล็ดพันธ์แห่งความดีที่นำมาให้อ่านครับผม...
โดย: จสต.จินตวีร์ เกียงมี IP: 58.8.171.89 วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:13:42:22 น.
  
ขอให้เป็นคอลัมน์ประจำโดยไวด้วยเถิดดด
เรื่องดี เขียนดีอย่างนี้ ต้องเป็นจริงซิน่า
โดย: ยิปซีสีย้ำเงิน IP: 124.121.51.29 วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:17:58:13 น.
  
ตอนนี้ก็กำลังเป็นเหมือนเมล็ดที่ลอยไปตามลมอยู่ค่ะ

ไม่รู้ลมจะเบื่อและเหนื่อยหน่ายทิ้งเราไว้ตรงไหน....

บางทีอาจจะต้องชิงทิ้งตัวลงต้านกะแรงลมบ้างแล้ว...

กลัวลมจะหอบไปตกลงป่าคอนกรีต...ไม่ได้งอกเงยงอกงามอะไรกะเค้า ^^
โดย: แม่นู๋มี่ วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:21:19:35 น.
  
หวัดดีเจ้า อ้ายภู..
เมล็ดพันธุ์ตี้อ้ายภู ได้ฮับมาจากเปื้อน ..
หมายถึงมิตรภาพของคนเฮา..
ย่อมงอกเงยขึ้นติ๊ก ๆ ตามกาลเวลาเจ้า..
ถ้าอ้ายภูบ่หมั่น ฮดน้ำดูแลเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก๋จะต๋ายไป..
ถ้าหากว่าอ้ายภู คอยดูแล และฮักษา.. เมล็ดพันธุ์ เหล่านั้นก็เจริญงอกงาม..
...
หน้าหนาวจะอี้..ห่มผ้าหนา ๆ จิบชาอุ่น ๆ เน้อเจ้า..
..
ปล..ตี้หื้อแน่ๆ หาคนนอนกอดอุ่น ๆ โตยจะดีไม่น้อย..ฮิ้วววว..
...
โดย: Prettymaew IP: 217.231.211.181 วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:8:30:26 น.
  
สวัสดีปีใหม่ครับลุงภู

วิภูจะไปสัมผัสหนาว 21 มกรานี้ครับ ด้วยเหตุว่า

น้าเนสของวิภูจะรับปริญญาที่ มช.ครับ

แต่จนป่านนี้วิภูยังเดินบ่ได้เลย ท่าทางแม่ต้องอุ้มเสียแล้ว

ปล.แม่ว่า จะรอดูมะม่วงหิมพานต์ อีก 4 -5 ปีนะครับ และรักษาสุขภาพนะครับ
โดย: Envi_NY วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:15:56:56 น.
  


สุขสันต์ มีความสุขทุกวันในปีใหม่นะคะคุณภูฯ

เห็นด้วย ว่าความสุข ไม่ต้องเดินทาง
น่าอิจฉาจังนะคะ ที่ได้เฝ้าดูการเดินทางของเมล็ดพันธุ์
ได้เฝ้าดูการเจริญเติบโตของมัน
แล้วจะรอชมรูปสวยๆของดอกไม้จีนนะคะ ^ ^
โดย: PANDIN วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:20:05:33 น.
  
มาฟังเพลงในยามค่ำคืนที่ดึกสงัดของเมืองกรุงเทพฯแท้จริงแล้วเราก็ต่างเมล็ดพันธ์เดียวกันมิใช่หรือครับท่านภู...ความสุขของฉันคือการเดินทาง...แต่บ่อยครั้งที่นอนนับดาวที่ระเบียงบ้านเกิดกับเจ้ากลิ่นกาสะลองที่จ่าตำรวจอย่างฉันปลูกมากับมือ..ฮึ่มไม่ต้องเดินทางก็มีความสุขได้...สักวันเป้บนหลังจะไประวางที่ยอดภูเชียงดาวสักวันครับผม...
โดย: จสต.จินตวีร์ เกียงมี IP: 58.8.174.112 วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:1:17:52 น.
  
สวัสดีปีใหม่ ในวันเก่าๆ ครับ
ขอให้มีความสุขตลอดไปน่ะครับ

ด้วยมิตรภาพ
โดย: ดอกเสี้ยวขาว วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:12:35:03 น.
  
สายัณห์สวัสดีค่ะคุณภูฯ
--------------------------------------------------------------
เรื่องเล่าอ่านเพลิน ประทับใจสม่ำเสมอนะค่ะ
โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:17:25:28 น.
  
ชอบกินมากค่ะ
ไประนองทีนึง ซื้อเม็ดกาหยูมากินเป็นถุงๆ

..ชื่อมะม่วงหิมพานต์ เป็นชื่อที่เพราะมาก...


โดย: ทากชมพู วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:19:26:43 น.
  
รมณีย์ดอกไม้ในผู้สร้าง
ทอดทางมลังเมลืองอยู่เบื้องหน้า
ดอกไม้ปลูกดอกไม้ประกายผกา
เบ่งบานขึ้นช้าช้าบุปผาชน...

สบายดีนะครับ
โดย: อังคาร จันทาทิพย์ http://www.oknation.net/blog/pimkawee IP: 202.142.193.15 วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:15:03:39 น.
  
คุณภูเจ้า ตะวาปี้อ่านขวัญเรือนที่เพื่อนเอามาหื้อยืมอ่านเพราะเฮาแลกนิตยสารอ่านกั๋น หันคอลัมน์คุณโดมลงภาพเล่าเรื่องคุณภู ได้หันภาพบ้านคุณภูแล้วนึกอยากถ่ายรูปบ้านที่โอเรกอนมาหื้อผ่ เผื่อจะมีแนวอยากทำเพิ่มเติมหื้อมันงามแต่เรียบง่าย

ตะก่อนปี้เขาหันแต่ภาพบ้านไกล๋ๆ บ่ได้หันภายในอย่างคุณโดมเปิ้นถ่ายภาพมาลง
เอาไว้ ดีเนาะคุณภู บ้านน้อยหรือใหญ่มันบ่สำคัญเท่ากับว่า มันเป๋นบ้านหลังแรกของเฮาและมันเติบใหญ่ด้วยน้ำพักน้ำแรงของเฮาเอง ยินดีเจ้ายินดี

โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:7:34:44 น.
  
การปลูกคือการเริ่มต้น แต่การเริ่มต้นที่เริ่มต้นกว่า....คือการรอดูการเติบโต

เมื่อถึงวันนั้น....การเจริญเติบโต....คือการที่จะต้องเริ่มต้น.....(อย่างแท้จริง)

สวัสดีปี๋ใหม่เจ้า อ้ายภู สุขภาพแข็งแรง ขอหื้อมีเงิน นัก นัก และจ๊าดนักนะเจ้า จะได้

เอามาแป๋ง ต่อเติมบ้านหื้อใหญ่กว่าเดิม จะได้มีตี่กิ๋น ตี่นั่ง ตี่นอน นักกว่าเดิม และ

จะได้มีเรื่องมาเล่าหื้อฟัง นัก นัก กว่าเดิม เจ้า

เป๋นกำลังใจ๋หื้ออ้ายภูนะเจ้า .............

โดย: ดอกปีบ IP: 202.149.25.239 วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:10:05:17 น.
  
ปี้ก่ว่าอั้นละคุณภู บ้านเฮา จะรื้อจะแป๋ง จะยะหยังก่มีความสุข
ค่อยๆทำไปเจ้า ปี้ยังขอยคุณภูมีบ้านอยู่บนดอย เงียบดี
ซักวัน เมล็ดพันธุ์ที่หว่านลงไป มันจะงอกงามหื้อเฮาได้หันผลงาน
ว่าแต่..ผักเอย ผลไม้เอย พอมันออกผล คุณภูยะอย่างใด
ปี้แมวปลูกมะเขือเทศ พ่องก่เมล็ดเก่าปี๋ที่แล้วงอกออกมา
แล้วนิกก่ขายต๋ามหมู่บ้าน ทุกฤดูร้อน ได้เงินหลายพันเจ้า
เงินนิกทั้งนั้น ใจ้หาอายเลาะ งกอ่ะ
โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.82.68 วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:10:19:34 น.
  
สวัสดีปีใหม่จ้ะภู ช้านิดดีกว่าไม่มานะจ้ะ ปีใหม่นี้ก็ขอให้มีความสุขตลอดไปนะ
นึกสิ่งใดก็ขอให้สมมาดปรารถนาเน้อ หลายวัน หลายเดือนและเกือบจะสองปีกว่า ที่อ้างจะเอาหนังสือ ที่อ่านแล้วไปบริจาก ให้โรงเรียน วันนี้ก็ฮื้ด สู้ความขี้เกียจ เอาไปให้โรงเรียน โป่งแยงใน โรงเรียนในหมู่บ้านนี้แหละ โดยเฉพาะหนังสือขัวญเรือนก็ ปาไป 180 เล่มแนะ เห็นคุณครูและนักเรียน ดีใจ รู้งี้เอาไปให้ตั้งนานแล้ว ก็เพราะติดคำว่า เดี๋ยวก่อน ยังไงก็ให้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เอาไปสักที เฮ้อ พอได้ทำแล้วก็สบายใจ และอีกอย่างหนึ่ง โรงเรียนที่นี้ไม่ค่อยจะมีงบประมาณพัฒนามากนัก
เพราะว่านักเรียนมีน้อยคน เพราะว่าลูกคนพอมีจะกินก็ไปเรียนที่อำเภอแม่ริม ซะส่วนใหญ่ โรงเรียนที่นี้ก็เป็น โรงเรียน นานาชาติ มีคนพื้นเมืองหรือคนเมือง แม้วหรือม้งและไทยใหญ่ โดยเฉพาะลูกหลานไทยใหญ่เยอะมาก มากกว่าคนเมืองและม้ง แต่ก็ดีเน้อเราให้การศึกษาให้เขา เขาจะได้ไม่สร้างปัญหาให้เรา ในอนาคต ถ้าสร้างก็คงจะน้อยกว่าที่ไม่ได้เรียนเลย และฝากอีกอย่างหนึ่ง ที่นี้ยังรับบริจาก อุปกรณ์การเรียนนะถ้าใครมีเหลือค่ะ ถ้ามีโอกาสจะไปเที่ยวหานะจ้ะ
โดย: พี่ติ๋ม IP: 222.123.24.154 วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:18:24:18 น.
  
แวะมาสวัสดีปี๋ใหม่เน้ออ้ายภู มาช้านิดหน่อย เลยไปยังบ่ถึงเดือนเน้าะ
ได้อ่านบทความของอ้ายภู ได้ความรู้เรื่องเมล็ดพันธุ์โตย
ปิ๊กไปจะกลับไปยะสวน อยากทำไร่นาสวนผสมอย่างอ้ายแหล่ะ
ขอเป็นอีกแรงใจหื้ออ้ายเน้อ สู้ๆ เจ้า
โดย: กวิสรา วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:20:15:40 น.
  
ตามมาจาก"คอลัมน์ "ริมรั้ว หัวใจ ของคุณ โดม ตอน "บ้านปีกไม้ ในหุบ ผาแดง"ในนิตยสาร ขัวญเรือนคะ มาตรงกับชีวิตดิฉัน ตอนไปนั่งรอเช่ารถ ตู้ ไปเที่ยวกันที่เชียงใหม่ นานมาแล้วจาก หนังสือพิมท์ทองถิ่น ของจังหวัดเชียงใหม่..เจอนามปากกา ว่า " ภู เชียงดาว" คุณโดมก็เล่นลงรายละเอียดจนไม่มีคำต้องถามบ่าวภู(ที่บ้านศรีสะเกษ ถ้าอายุไม่มากพวกเราเรียกว่าบ่าว" แต่ถ้าเป็นพระเอกที่ชอบก็จะเรียกว่า "น้องอ้วน น้องมาร์ทประมาณนี้ คะ) บทความอันนั้นก็จำไม่ได้หรอกคะ ผ่านมาหกปีแล้ว..ตอนสมัยเรียนเคยไปฝึกงานที่สวนนวลน้อย อำเภอภูกระดึง จ.เลย คุณตาเจ้าของสวน ปลูกมะขามหวานเป็นรายได้หลัก จะมีที่ประมาณสองไร่ ปลูก ไม้ผลทุกประเภท ที่กินได้ที่มีในประเทศไทย มีตั้งแต่ มะยง มะชิดมะปรางค์ ส้มโอ เงาะ ทุเรียน กาแฟ น้อยหน่า ลองกอง ฯลฯ ท่านเดินทางไปที่ไหน เจอผลไม้พันธ์ไหนที่อร่อย ท่านก็จะขอยอดของต้นพันธุ์ มาติดตา ต่อยอด ..ไร่นาสวนผสมของท่าน มีความรู้ดีมาก ไล่มาตั้งแต่ การต่อน้ำมาใช้จากภูเขา จากที่สูงไหลลงที่ต่ำ ทำนาได้ตลอดปีถ้าต้องการ แต่คุณตาบอกว่า ณ ตอนนั้น ยี่สิบปีที่แล้ว การทำนาข้าวกำไรไม่คุ้มทุน เพราะเอารายได้จากการทำสวนมาจ่ายค่าแรงคนงาน..มีป้าคนหนึ่ง ได้เงินจากการรีไทร์..ลงทุนกลับไปฝึกการปลูกผักแบบไม่ใช้ดินที่ม.เกษตร สั่งอุปกรณ์ส่งจากเมืองไทยมาที่ฟอริด้า อเมริกานี้ อุปกรณ์ที่เมืองไทยถูก ค่าส่งแพง ป้าแกคงไม่รู้นะว่า เรานะต้องเรียนรู้เอาจากฝรั่งเลยละ ไปดูตามฟาร์มที่นี้ ถ้าขยัน ถูกแสนถูก ทั้งอุปกรณ์และเคมีทุกอย่าง ...เราเป็นเด็กก็ได้แต่รับฟังอย่างเดียวไม่กล้าบอกและออกความเห็น...เห็นสามีป้าบ่นให้ฟัง ..ว่า "ลงทุนเป็นหมื่นดอล..ปลูกผักขายกำละเหรียญนี้นะ"...ดิฉันก็ตอบไปว่า "ความสุขคนไม่เหมือนกัน" ใครคิดได้ก่อนก็รวยก่อน....พูดมาก็มาก ...เห็นคุณโดม ถ่ายภาพออกมาได้ "ประทับใจ บรรยากาศ "เหมือนยกประเทศสวิทส์เชอร์แลนด์ มาไว้ที่ใน หุบผาแดงเลยคะ เห็นจากภาพ นอกจากข้าว พืชไร่ที่เห็น เป็นกาแฟ ของบ่าวภูนี้เอง
คงไม่ช้าเกินไปกับคำว่า สวัสดีปีใหม่ น้องคนใหม่ ดู..ดูๆๆคุณโดมลงให้แม้แต่อายุอีก แค่ไปนอนบ้านเขาแค่สามคืนนี้นะโฆษณาเสียยาวเลยนะคุณพี่ ...ดิฉันเลยแก่กว่าบ่าวภูสองปีคะ ขอบคุณ คุณโดม มา ณ ตรงนี้ด้วยคะที่ทำให้ได้เพื่อนใหม่อีกคน (ที่ไม่เรียกน้อง เพราะหน้าตาไม่บอกว่า เป็น พระเอกคะ)
โดย: ดาวกระพริบฟ้า IP: 97.102.33.213 วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:0:57:59 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ...
เช้านี้ในหุบเขาหนาวสิบเอ็ดองศาเลยครับ
นั่งมองแพรวา ลูกสาวตัวน้อยของ วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง นักเขียนสารคดีพาครอบครัวมาเยือน นั่งเล่นหน้าระเบียง แล้วทำให้หุบเขามีชีวิตชีวาขึ้นทันใดเลย

ยินดีครับที่ทุกคนแวะเวียนมาหาเจอกันที่นี่
ขอให้วันใหม่ของชีวิตทุกชีวิตมีพลัง มีความหวังและความสุขนะครับ

โดย: ภู IP: 118.175.184.138 วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:8:42:08 น.
  
สวัสดีตอนเช้าคะแต่เป็นตอนเย็นที่เมืองไทย
หมอกที่บ้านดิฉันลงมากเช้านี้ ดีนะที่เชียงดาวมันมีภูเขา แต่ฟรอริด้าทั้งรัฐมันไม่มีภูเขา มีแต่นกเยอะมากคะ ถ้ามีที่ดินอย่างคุณภู สวนดิฉันนะจะต้องมีต้นสะเดา ผักติ้ว ใบย่านาง ผักแบบทางภาคอิสานที่มี เห็นหลวงตาท่านจะกลับไปอยู่เมืองไทย วัดที่บุรีรมย์ "หลวงตา ญาติโยมปลูกต้นม้ให้หรือยัง หลวงตาบอกว่าปลูกทำไมให้เหนื่อย ชื้อเอาที่ตลาดกำละบาท พูดเหมือนพ่อหนูอีกแล้ว ชอบถามพ่อว่า ทำไม่ไม่ทำเองละคะ พ่อจะบอกว่า ทำให้เหนื่อยทำไม ชื้อมาขายไป นักเกษตรอย่างดิฉันเลยอึ้งคะ ที่นี้ดิฉันปลูกผักทุกอย่างต้องชื้อดินไม่งั้นมันไม่งาม เพราะดินไม่อุ้มน้ำ ดิฉันเพาะเมล็ดพันธุ์ทุกประเภท ที่ปลูกแต่การดูแลลำบากมาก หน้าหนาว ต้องเอาผ้าไปห่มให้มันอีก ปีหนึ่งจะมีสักประมาณหนึ่งอาทิตย์ จะเข้ามาคุยเรื่องต้นไม้ใหม่คะ ไปส่งลูกเรียนดนตรีก่อนคะ
โดย: ดาวกระพริบฟ้า IP: 97.102.33.213 วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:20:48:29 น.
  
อากาศที่อีสานหนาวมาก ปีนี้เป็นปีแรกที่เราอยู่พื้นที่นี้ในฤดูหนาว ลมหนาวที่นี่ช่างต่างจากที่เชียงของที่เราเคยไปพักอยู่จริงๆเลย
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:8:19:34 น.
  
สวัสดีภู เชียงดาว


วันนี้ไปเที่ยวบ้านที่ให้กล้าต้นชา
ยังไม่ทันเที่ยงเขาก็ยกสำรับกับข้าวมาเลี้ยงดู

อิ่มอร่อยไปอีกมื้อนึ่ง

อย่างนี้ ไม่ให้รักวาวีได้ไง ใช่ไหม ?

ดูแลต้นชาให้ดีนะ
สัญญาว่าถ้าวันหนึ่งสามารถใช้ดื่มได้
จะไปดื่มชาจากวาวีแต่กลายเป็นชา ภู เชียงดาว ไปแล้ว
โดย: พ่อพเยีย วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:19:37:31 น.
  
มาโหวตให้คุณภู เขียงดาว ในสาขา
Best Literature Blog ค่ะ ..


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:21:46:55 น.
  
มารู้จักคุณภูใหม่ๆจะพิมท์ได้ยาวมาก พอตอนนี้เริ่มหมดเรื่องพิมท์แล้ว มาอ่านที่ตัวเองเขียนจะขำตัวเองเขียนไปได้ยังไงนี้ วิญญานไหนเข้าสิงกันแน่ ..แล้วดิฉันก็จะล่องหนหายไปจากจอคอมพ์ไปเฉยๆ เพราะไปติดละคร น้องสาวเขาจะอยู่บล็อกกลุ่มคนไกลบ้าน เราก็อยู่เมริกามานานแล้ว ชอบบล็อกนักเขียนมากกว่า ชอบการเกษตร ตอนที่ earth box ฮิตใหม่ๆก็ชื้อมาปลูกกับเขา ตอนนี้ก็หันกลับมาใช้กระถางพาสติกเหมือนเดิม ตอนนี้ที่ห้างมีขายทุกอย่างในการปลูก คิดถึงป้าผู้จากไปสี่ปีแล้ว ตอนที่ป้าอยู่ป้า กินหมาก มีต้นพลู ที่บ้านศรีสะเกษ แต่แม่ไปสนใจ ต้นใบพลูเลยตายตามเจ้าของไปอีก พอไปวัดไทย ป้าคนขายต้นไม้ มีต้นพลูมาขายอีก จะไม่ชื้อแกก็ลดให้อีก ถ้าใบมันเยอะเก็บใบมาให้ป้าขายนะ "ป้าหางานให้หนูทำแล้ว"
จะใช้คำแทนตัว ว่าพี่ดูหน้าตัวเองก็เอ๊าะๆอยู่ ใช้คำแทนตัวว่าดิฉันก็ฟังดูว่าตัวเองแก่
ขอทำใจก่อน ขอใช้คำแทนตัวว่าพี่ก็แล้วกัน ไปทวงป้าจอยคนขายต้นไม้ที่วัด ไปหาต้นมะกอกอิสาน ที่ใส่ส้มตำ ป้าบอกมันยังไม่ออกราก เลยได้ต้นใบพลูมาก่อน จะขอคุณภูไว้ตรงนี้ว่า..เมื่อใดที่ขึ้นไปเชียงใหม่..ขอไปเที่ยวบ้านปีกไม้หน่อยนะคะ ไม่ต้องเชิญให้พักนะ เพราะเป็นคนกลัวผีมาก คงเช่ารีสอร์ทพักเอา อยากไปดูไร่ ของนักเขียนเท่านั้นเองคะ
พบกันใหม่คะ
โดย: ดาวกระพริบฟ้า IP: 97.102.33.213 วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:5:18:30 น.
  
แอบมานั่งจิบน้ำเปล่าดูผู้คนสนทนา
จะจิบกาแฟก็ยังกินไม่ได้

จะจิบน้ำชาเดี๋ยวพาท้องผูก...ระบบขับถ่ายรวนอีก
เอาน้ำเปล่าละกัน...
วันนี้หนาวได้ใจ...คนสัมผัสร่างอยู่ในอ้อมกอดขุนเขา
ท่าทางจะหนาวยะเยือกกว่า

รีบๆหาคนมาห่มกายเสียเน้อ...อ้ายภู
โดย: ปลายแปรง วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:10:55:23 น.
  
ภู ไม่ได้ไปตามที่บอกไว้ เพราะถ้าไปต้องไปกันถึง ห้าคน มีแสงดาว ถนอม เพื่อนพี่จากกรุงเทพฯ และลุงสืบ (เจ้าของรถ)

ขบวนใหญ่เกินไปค่ะ กลัวภูจะรับไม่ไหว ความจริงอยากเห็นหน้า แพรวา ชื่อแพรวาใช่ไหม ลูกสาวของวี

กลับมาถึงบ้านเมื่อคืน แวะไปที่อาศรมของพี่ชัชที่พระพุทธบาทสีรอย เขาจะเปิดตัววันที่ 24 นี้แต่พี่อยากไปดูก่อน เป็นบ้านดินหลายหลัง แต่ไปปฏิบัติ 7 วันกลัวจะว่างเกินไป การอยู่เฉย ๆ ได้เราว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นะภู

โดย: แพรจารุ วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:18:30:04 น.
  
สวัสดีครับทุกๆคน ที่เชียงดาวอากาศกลับมายะเยือกหนาวอีกรอบนึงแล้วครับ
เช้าๆ แปด-เก้าองศา ทำให้ปวดมือได้เลยนะเนี่ย
ถึงว่า จึงไม่แปลกเลยที่ในงานเขียนของรัสเซียหลายๆ เรื่อง ทำไมตัวละครถึงชอบเอามือมาถูกัน ให้มันอุ่น อย่างนี้นี่เอง

ช่วงนี้กำลังกักตัวเองเพื่อเร่งเคลียร์งานเขียนที่คั่งค้าง
ก่อนจะลงมือปลูกผักในสวนหลังบ้านอีกรอบนึง
วงจรของผักหมดอายุแล้วครับ...

โลกเปลี่ยน
อากาศเปลี่ยน
ดูแลชีวิตกันให้ดีๆ เน้อ
โดย: ภู เชียงดาว IP: 118.175.184.138 วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:8:21:02 น.
  

อ่านจนจบแล้วสัมผัสได้เลยค่ะคุณภู
โดย: อุ้มสี วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:12:56:40 น.
  
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณภูฯ สุขกายสุขใจตลอดกาลนะคะ
อ่านริมรั้วหัวใจ พี่โดมไปนอนบ้านคุณภูมา อิจฉา เจ้าของบ้านจั้งบ้านน่ารักมากๆ
โดย: โมกสีเงิน วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:12:27:52 น.
  
สวัสดียามค่ำคืนครับ
อากาศในหุบเขาผาแดงตอนนี้บอกได้เลยว่าหนาวรุนแรงเลย จนร่างกายปรับตัวไม่ทัน ตื่นมาเช้านี้เป็นไข้ ปวดเข้ากระดูก จนต้องกินยา นอนซมทั้งวันเลยครับ
หนาว 8-9 องศาผมว่าไม่ธรรมดาเลยในขณะนี้
ถ้าไม่อบอุ่นร่างกายสามารถทรุดได้เลยนะคนเรา

ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้แวะเวียนไปหา เพราะเนตที่บ้านอืดอย่างมากเลยครับ...
โดย: pu_chiangdao IP: 118.175.184.138 วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:19:32:34 น.
  
เมื่อวานพิมท์เรื่องผักได้เยอะมากคอมพ์ค้าง ปวดเข้ากระดูกไข้หวัดใหญ่เล่นงานแล้ว
ถ้าอยากหายเร็วต้องหมอฉีดยาต้านไวรัสแล้ว ถึงจะนอนได้ ถ้าหนาวขนาดนั้น แม่พี่เขาเอาน้ำร้อนใส่ขวดให้กอดหลังกินยาแก้หวัด อยู่ที่นี้หมอจับตรวจเลือดก่อนว่า
หวัดตัวนี้มาจากเชื้อไวรัสตัวไหน ค่อยจับฉีดยา ตอนนี้สวนหลังบ้าน ข่าตระไคร์ ใบโหรพา กระเพรา ปลูกได้เป็นต้องปลูกหมด ชอบคุณภูตรงที่มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง ไม่ต้องห่วงใคร เป็นนักข่าว นักเขียน แต่พี่ต้องอยู่ในวัยเลี้ยงลูกก่อน เพราะต้องสอนการบ้าน พาไปเล่น แพทททริกยังเด็ก ส่วนตัวคนชอบเด็กมาก รู้ เพื่อน ไทยอยู่ใหม่ ยังไม่ได้ใบขับขี่ ขอติดรถไปวัดไทยนี้ ที่นั่งเต็ม เด็กหกคน อยากให้เขาไปด้วยเพราะสงสาร มีพี่สาวคนรู้ย้ายจากอเมริกาไปอยู่ที่อ. สันกำแพง เราสอง คนรักกันมาก คนที่ไม่คิดกลับไปเมืองไทยเขากับได้ไป พี่คิดไว้นานมากยังไม่ได้กลับ รอตาสตีฟหกสิบสองก่อน นี้ก็ไกลเวลาแล้ว เห็นคุณโดมเขาไปแต่ละที่ ให้อิจฉาเป็นอย่างมาก ระบบเงินทุนแบอเมริกันชนมันก็ดี แต่แล้วแต่คนชอบ เรามันลูกชาวนา เมื่อก่อน คิดว่าถ้าให้กลับไปอยู่ที่ศรีสะเกษ อยู่ไม่ได้แน่ พอกลับไปอยู่จริงๆกับเป็นชีวิตที่มีความสุข พ่อเป็นพ่อค้าในหมู่บ้าน ขนาดหนีมาอยู่อเมริกา น้องอีกคนคิดจะเอาสินค้าที่เขาขายทางยุโรปไม่ออก ให้ช่วยขายให้หน่อย นี้เราหนีความเป็นแม่ค้าไม่พ้นเลยหรือ ตาสตีฟ(สามี)เหตุผลว่า ชีวิตทำงานอยู่แต่กับคอมพ์ ไปพักผ่อนแทบไม่อยากเห็น ที่นี้ไปเมืองไทยความอดทนเลยสิ้นสุด เพราะขี้เกียจเดินไปร้านอินเตอร์เน็ตงานมีปัญหา เลยตัตสินใจชื้อที่เมืองไทยแกคงหนีคอมพ์ไม่พ้น ถามคุณแม่ไอ้หนุ่มสถาปนิกจากฮาวาร์ด น้องชายคุณหมอ ว่าน้องสหรัฐ ในเมื่อเกิดเป็นลูกหมอ ทำไมน้องเขาหนี ความเป็นหมอพ้นได้อย่างไรคะคุณยาย ?"ยายบอกหนูเขาไปเปลี่ยนตอนเรียนไฮสคูล" ตอนเด็ก เขาพูดตลอดว่าจะเป็นหมออย่างคุณพ่อ ยายก็งงกับลูกชายเหมือนกัน" พี่เป็นลูกแม่ค้าทั้งที่ไม่ชอบก็คงหนีไม่พ้นเหมือนกัน" พยายามจะวิ่งหนี ที่รู้เรื่องคุณหมอ พี่ป็นพี่เลี้ยงลูกสาวคุณหมอ อายุห้าขวบ ตอนวันหยุด เสาร์อาทิตย์ คุณภูทำสวนแล้ว มือดำคงไม่เป็นไร เพราะเป็นผู้ชาย พี่ต้องเอามะนาถูมือ ทั้งที่ใส่ถุงมือ เล็บมันดำ คุณภูก็รักษาสุขภาพนะ เดี๋ยวชาวบล็อกไม่ได้เห็น สวนผัก วัดใกล้หมู่บ้าน มีคนเอาต้นสาละไปปลูกหรือยังคะ กลับบ้านที่ศรีสะเกษหนนี้ หางานให้พระท่านทำ พี่จะชื้อต้นสาละกับวัดที่ในหมู่บ้าน เพราะจะได้เป็นคนที่มีสาระกับเขาบ้าง เป็นคนตลกมากชีวิตเลยไม่มีสาระตาสตีฟงงว่า คนไทยเป็นแบบนี้หรือ ไปชื้อส้มตำยังมีการสั่งแม่ค้าให้ใส่ส่วนผสมที่ต้องการ แกถึงบางอ้อ มียูคนเดียวที่ไอเห็น พบกันใหม่นะ
สวัสดีวันเสาร์
โดย: สาวอิสานพลัดถิ่น IP: 97.102.33.213 วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:23:00:59 น.
  
บล็อกนี้สงสัยสาวอิสานเป็นเจ้าของบล็อก มาให้เหตุผลว่า ที่ไม่ไปพักบ้านพี่แจ๋วที่ อ.สันกำแพง เพราะเราสองคนคุยกันไม่หยุด ทำให้หลายคนไม่ได้หลับได้นอน เราต้องแยกกันเจอกันไม่ได้ ....มีพี่สาวที่สนิทอีกคนที่นครปฐม ..ไปเที่ยวบ้านได้ ..แต่ห้ามนอน...คุยกันแบบไม่หยุดตามเคย ..ชอบคุยทั้งคู่ ...แต่ละคนตลกกันทั้งนั้นเลย..ดีใจกับคอมพ์ใหม่..เลยมาพิมท์เล่น...อากาศหนาวมากปีนี้..ชุดกันหนาวสุดสวยได้ออกมาวาดลวดลายกัน ..พวกป้าๆที่วัด..บอกนานๆได้โชว์ชุดกันที่เอาให้เต็มที่เลย...
มีปัญหา ต้นมะละกอปลูกที่นี้มันเอาใจยากมากดูแลกันยิ่งกว่าลูกอีก ...ผลไม้ท้องถิ่น ..พืชตระกูลส้ม..ออกผลปีละสองครั้ง..ยิ่งปีนีอากาศหนาว..ออกลูกเต็มทั่วเมือง..รสมันจะหวานมาก..ต้นอโวคาโด้อีกอย่าง ปลูกอย่างไรก็ขึ้น...พี่แจ๋วที่เชียงใหม่..ลงทุนโทรทางไกลมาหา..ก็นึกว่าแกมีปัญหาอะไร..โทรมาส่งข่าวว่า..กำลังจะเลี้ยงโคนม..ทางนี้ก็จัดการตั้งชื่อวัวแต่ละตัวให้แกว่า..ทองพันชั่ง ...ตำลึงทอง.. ขอให้แกตั้งชื่อวัวแต่ละตัวให้เป็น..เงินเป็นทอง...ถ้าเป็นตัวผู้ก็ให้แกตั้งว่า..เงินไหลกอง..ตัวเมียก็ทองไหลมา....ยังไม่ได้ส่งรายชื่อไปให้แก..เพราะพี่แกเล่นเอาคอมพ์ไปบริจาควัด..เหตุผลบอกไม่มีเวลา..ชอบทำตัวเป็นไกค์พาฝรั่งเที่ยวไหนจะเพื่อนพี่สาวจากเยอรมัน
ไหนจะเพื่อนจากอเมริกา..พอแล้วละ..วันหยุดเสาร์อาทิตย์จะแวะมาหา.....ชอบบรรยากาศที่ไร่นะ...บล็อกนี้จองแล้วจะแวะมาหาบ่อยๆ...ไม่ใช่เจ้าของบล็อกยังโสดหรอกนะ...เพราะไปจองไอ้หนุ่มสถาปนิกจากฮาวาร์ดแล้ว...ตอนแรกเห็นว่าเรียนเก่ง..สำภาษณ์คุณยายแล้ว ..ไม่คิดว่าพ่อกับแม่จะมีสมบัติมากมายขนาดนั้น...แกล้งแชวคุณแม่ว่า...".คนอย่างหนูนี้ไม่กล้าเป็นลูกสะใภ้คุณหมอหรอกค่ะ"..ไม่อยากเป็นสะใภ้ไร้ศักดินา.....เลยถามน้องเขาว่า"พี่จะไปสร้างกระท่อมที่จ.เชียงใหม่จะใช้สถาปนิกจากฮาวาร์ด ยูเสียหน่อย..เขาตกปากรับคำแล้ว...พอถามว่ารู้จักเถียงนาหรือเปล่า..บอกไม่รู้ครับ..อายุน้องสหรัฐสามสิบเจ็ดปี....อันนี้เรียกน้องได้ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ ..ทรัพย์สมบัติ. ได้หมด.ห้ามบ้าตามคนเขียนนะ...พบกันใหม่เด้อ..
โดย: สาวอิสานพลัดถิ่น (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:9:18:58 น.
  
บล็อกนี้สงสัยสาวอิสานเป็นเจ้าของบล็อก มาให้เหตุผลว่า ที่ไม่ไปพักบ้านพี่แจ๋วที่ อ.สันกำแพง เพราะเราสองคนคุยกันไม่หยุด ทำให้หลายคนไม่ได้หลับได้นอน เราต้องแยกกันเจอกันไม่ได้ ....มีพี่สาวที่สนิทอีกคนที่นครปฐม ..ไปเที่ยวบ้านได้ ..แต่ห้ามนอน...คุยกันแบบไม่หยุดตามเคย ..ชอบคุยทั้งคู่ ...แต่ละคนตลกกันทั้งนั้นเลย..ดีใจกับคอมพ์ใหม่..เลยมาพิมท์เล่น...อากาศหนาวมากปีนี้..ชุดกันหนาวสุดสวยได้ออกมาวาดลวดลายกัน ..พวกป้าๆที่วัด..บอกนานๆได้โชว์ชุดกันที่เอาให้เต็มที่เลย...
มีปัญหา ต้นมะละกอปลูกที่นี้มันเอาใจยากมากดูแลกันยิ่งกว่าลูกอีก ...ผลไม้ท้องถิ่น ..พืชตระกูลส้ม..ออกผลปีละสองครั้ง..ยิ่งปีนีอากาศหนาว..ออกลูกเต็มทั่วเมือง..รสมันจะหวานมาก..ต้นอโวคาโด้อีกอย่าง ปลูกอย่างไรก็ขึ้น...พี่แจ๋วที่เชียงใหม่..ลงทุนโทรทางไกลมาหา..ก็นึกว่าแกมีปัญหาอะไร..โทรมาส่งข่าวว่า..กำลังจะเลี้ยงโคนม..ทางนี้ก็จัดการตั้งชื่อวัวแต่ละตัวให้แกว่า..ทองพันชั่ง ...ตำลึงทอง.. ขอให้แกตั้งชื่อวัวแต่ละตัวให้เป็น..เงินเป็นทอง...ถ้าเป็นตัวผู้ก็ให้แกตั้งว่า..เงินไหลกอง..ตัวเมียก็ทองไหลมา....ยังไม่ได้ส่งรายชื่อไปให้แก..เพราะพี่แกเล่นเอาคอมพ์ไปบริจาควัด..เหตุผลบอกไม่มีเวลา..ชอบทำตัวเป็นไกค์พาฝรั่งเที่ยวไหนจะเพื่อนพี่สาวจากเยอรมัน
ไหนจะเพื่อนจากอเมริกา..พอแล้วละ..วันหยุดเสาร์อาทิตย์จะแวะมาหา.....ชอบบรรยากาศที่ไร่นะ...บล็อกนี้จองแล้วจะแวะมาหาบ่อยๆ...ไม่ใช่เจ้าของบล็อกยังโสดหรอกนะ...เพราะไปจองไอ้หนุ่มสถาปนิกจากฮาวาร์ดแล้ว...ตอนแรกเห็นว่าเรียนเก่ง..สำภาษณ์คุณยายแล้ว ..ไม่คิดว่าพ่อกับแม่จะมีสมบัติมากมายขนาดนั้น...แกล้งแชวคุณแม่ว่า...".คนอย่างหนูนี้ไม่กล้าเป็นลูกสะใภ้คุณหมอหรอกค่ะ"..ไม่อยากเป็นสะใภ้ไร้ศักดินา.....เลยถามน้องเขาว่า"พี่จะไปสร้างกระท่อมที่จ.เชียงใหม่จะใช้สถาปนิกจากฮาวาร์ด ยูเสียหน่อย..เขาตกปากรับคำแล้ว...พอถามว่ารู้จักเถียงนาหรือเปล่า..บอกไม่รู้ครับ..อายุน้องสหรัฐสามสิบเจ็ดปี....อันนี้เรียกน้องได้ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ ..ทรัพย์สมบัติ. ได้หมด.ห้ามบ้าตามคนเขียนนะ...พบกันใหม่เด้อ..
โดย: สาวอิสานพลัดถิ่น (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:9:19:00 น.
  
อรุณสวัสดีค่ะคุณภูฯ
----------------------------------
แวะมาเสริฟกาแฟโสด เอ้ย! กาแฟสดค่ะ

แบบว่า..เพิ่งเข้าอบรม "ชงกาแฟสด" มาหมาด ๆ (บิดสุดแรง) เมื่อวานนี้ค่ะ
(18 ม.ค.52)

อยากลองมือค่ะ ซึ่งสูตรสาวบ้านนอกฯ ใส่ใจลงไปด้วยค่ะ
โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:9:40:29 น.
  

สวัสดีทุกๆ คนครับ
ยินดีมากครับที่ได้รู้จักพบเจอกันผ่านทางนี้ อ่านเรื่องเล่าแล้วรู้สึกเหมือนว่าคุ้นเคยกันมากเลยเนาะ ha...
ดีใจที่มีคนชอบทำสวนเหมือนกันนะครับ

ผมเพิ่งเดินทางกลับจากเวียงแหง อำเภอเล็กๆ ในหุบเขาติดชายแดนไทย-พม่า มาครับ แวะหาพรรคพวกเป็นหมอโรงพยาบาลแต่มีบ้านสวนเหมือนกัน แกทำเป็นเกสเฮ้าส์เล็กๆ ด้วย ไว้จะเอารูปมาอวดเน้อครับ





ยินดีมากครับที่ได้รู้จักพบเจอกันผ่านทางนี้
ผมเพิ่งเดินทางกลับจากเวียงแหง อำเภอเล็กๆ ในหุบเขาติดชายแดนไทย-พม่า มาครับ แวะหาพรรคพวกเป็นหมอโรงพยาบาลแต่มีบ้านสวนเหมือนกัน แกทำเป็นเกสเฮ้าส์เล็กๆ ด้วย ไว้จะเอารูปมาอวดเน้อครับ



โดย: ภู เชียงดาว IP: 118.175.184.138 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:9:52:01 น.
  
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (16 มกราคม 2552) เพิ่งกลับมาจาก อ.อุ้มผาง จ.ตาก

อากาศตอนเช้าเย็นมาก วัดได้ 6 องศา เย็นถึงกระดูกเชียว

เย็นวันที่ 15 มีเวลาตัดสินใจแค่ 15 นาที เอง จะไปไม่ไปดีนะ....คิดอีกที หากอยู่ที่

อ.แม่สอด แล้วเราจะทำอะไรดี ไปสัมผัสดูสิ ว่าอากาศที่ว่าหนาว มันจะหนาวแค่

ไหน

โอ้โห....หนาวจริง ๆ 6 องศา ไม่ธรรมดาเลย เสื้อกันหนาว 2 ชั้น ผ้าพันคอ

หมวก ถุงมือ ถุงเท้า ต้องนำมาใช้ให้ครบ มีเท่าไร เอาออกมาใส่ให้หมด เพื่อให้

ร่างกายอบอุ่น

...คิดถึง คนอื่น ๆ ที่อยู่ในหุบเขา บนภูสูง พวกเขาจะหนาวกันสักแค่ไหนนะ

ยังงัยดอกปีบก็จะเอาใจช่วยค่ะ ขอให้หนาวนี้ผ่านไปด้วยดีนะ ให้หนาวแต่กาย

ขอให้ใจมีแต่ ความอบอุ่นค่ะ

พอดีเพื่อนมีรีสอร์ทอยู่ที่นั่น ถ้าทุกคนมีโอกาส ก็แวะเข้ามาพักได้นะคะ

ยินดีต้อนรับค่ะ.......

ถ้ามีโอกาส และนำรูปมาลงได้( บอกตามตรง ลงไม่เป็น) จะนำมาให้ดูค่ะ

แต่...ตอนนี้ขอไปฝึกวิทยายุทธการลงรูปก่อนนะค่ะ

บายค่ะ

โดย: ดอกปีบ IP: 58.147.41.32 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:12:31:18 น.
  
ขออนุญาตใช้บล็อกนะบ่าวภู ถ้าคุณดอกปีบมีภาพรีสอร์ท ก็กรุณาลงไว้ด้วยคะ จะดูบรรยากาศ ถ้าได้ไปเชียงใหม่จะจองไปนอนนับดาวเล่นๆ ว่ามันมีกี่ดวงกันแน่...?.แต่ตอนนี้หาค่าตั๋วเครื่องบินก่อน...นี้บ่าวภูเห็นหน้า พี่คนสวยแล้วชิ...คงเห็นรูปสวนจากบล็อกแล้ว...เพาะพันธุ์ต้นขนุนไว้เยอะมาก ...พริกก็ขึ้นเต็มเลย..ตาสตีฟขอร้องให้ปลูกมะเขือเทศ เลยปลูกให้แกหนึ่งต้น ..มะเขือเทศ.. แตงกวา..แมลงชอบกินใบมัน..ไม่ชอบฉีดยาฆ่าแมลงเลยไม่ปลูก..ขอบคุณนะที่แวะไปหาที่บล็อก..เข้าไปอ่านหนังสือพิมท์ของจังหวัดเชียงใหม่ ชอบไปอ่านการเกตร...พี่แสงแกเป็นคนหางดง..ไปเมืองไทย..แกบอกไปชื้อมะระกอที่ศูนย์เพราะพันธุ์ บอกเม็ดละบาท..แกชื้อมายี่สิบเม็ด..เอามาเพาะปลูก..ที่มันแพงเพราะว่า ..ออกลูกเร็วตันเตี้ย...กรอบด้วยชีวิตนี้ขาดส้มตำไม่ได้...ไปละพบกันใหม่
โดย: สาวอิสานพลัดถิ่น (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:2:13:17 น.
  
แวะมาอีกรอบ...เห็นแมวแล้วนึถึงแมวที่ปลายวา
ทิ้งมันมาเกือบครึ่งปีแล้วนะเนี่ย
โทรไปถามครั้งก่อน นึกว่ามันจะกลายเป็นแมวเถื่อนเสียแล้ว
เพราะมันติดเราสองคนมาก พอไม่อยู่มันก็แอบอยู่ในบ้านไม่ยอมไปไหน
แต่ปลาหมอสีที่เลี้ยงไว้ อาการไม่ค่อยดีตั้งแต่ก่อนมา ตอนนี้ก็หงายท้องเรียบร้อยแล้ว
ตั้งแต่กลับไปอยู่ปลายวา เลยไม่อยากเลี้ยงอะไร ทั้งๆที่อยากเลี้ยงหมาสักตัว
แต่ถ้าเลี้ยงแล้วเราเร่ร่อนไปทั่วอย่างนี้ก็สงสารมันนะ...เลยไม่เลี้ยง
ขนาดเลี้ยงเต่า เลี้ยงปลา มันตายยังใจหายเลย

เลี้ยงคนดีกว่าเนอะ....
โดย: ปลายแปรง IP: 124.157.157.32 วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:9:39:19 น.
  
พี่ชาย อ้ายภู หม่าย ซุงคา
ความระลึกถึงยังคงมี
แม้อยู่ต่างที่ต่างถิ่นฐาน
คง ยังคงระลึกถึง...
พี่ชายที่เคยพานพบ...เมื่อวันวาน
แม่เพียงพบบนทางผ่าน
ทางชีวิต ที่พบเจอ
หวังว่าพี่ชาย อ้ายภูสบายดี
โดย: คนรู้จักกัน IP: 118.175.235.55 วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:14:53:23 น.
  
แวะมารับลมหนาวที่ ภู เชียงดาว เพราะพรุ่งนี้ ที่นี้จะเป็นเกล็ดน้ำแข็ง บ้านหลายหลัง เขาก็เอาผ้ามาห่มต้นไม้ แต่บ้านนี้ไม่ห่ม ปีนี้ปร่อยตามดวง เหมือนเจ้าของมัน...บล็อกนี้เจ้าของทำงานเกี่ยวกับเว็บไม่ใช่หรือ ? ไม่เห็นเอารูปเปลี่ยนใหม่ ถ้าเป็นแถวบ้านที่ศรีสะเกษนะ เสาไฟฟ้าแถวบ้าน หมาเยี่ยวรดไฟก็ดับ...ถ้าตาสตีฟ ไปหน้าร้อนแป้งตรางูหมดเป็นโหล.....คำไทยที่ฝรั่งอย่างตาสตีฟชอบมากที่สุด..คือฝรั่งขี้นก..เห็นชอบอกชอบใจ...ฟังวิทยุ..กับลูก..รายการให้คนโทรไปตอบปัญหา....ถามว่าปะธานาธิบดี....โอบามา เป็นคนที่เท่าไหร่? ...สามสายไม่มีใครตอบถูก แม่ลูกพากันโมโห.. ตอบไม่ถูกยังโทรไปอีก"คนที่ ๔๔ ผิดคะ คนจัดรายการเฉลยว่า ..คนที่๑ เป็นผิวสี...พวกเราพากันอึ้งเลย..พวกเราชิโง่...ใครที่ตอบถูกเขาให้สั่งพิชช่าได้ ..แล้วพิชช่าจะไปส่งถึงบ้าน...เห็นไหมบ่าวภู ..รุ่นนี้แล้ว..จองบล็อกยูแล้ว..พบกันใหม่
โดย: สาวอิสานพลัดถิ่่น (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:7:08:39 น.
  
คิดบ้านจัง เมื่อเห็นดอยผาแดงแม่ป๋าม จากมาตั้งนานคิดถึงแม่พ่อและพี่น้อง แล้ววันหนึ่งลูกจะกลับมาหอบเอาปริญญามาฝากให้พ่อแม่ได้ชื่นชมลูกของแม่คนนี้แม้อดีดชีวิตจะล้มเหลวลุกของแม่ไม่ย่อท้อ อดีตเป็นสิ่งที่ช่วยเป็นเหมือนพลังใจให้ต่อสู้ ให้อดีตผ่านไปวันฟ้าใหม่จะกลับมา ฟ้าหลังฝนคงสดใส ใส่ใจใยกับอดีตที่ขื่นขม
โดย: คนไกลบ้าน IP: 223.206.14.251 วันที่: 9 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:19:46 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pu_chiangdao
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



ภาพและงานเขียนทุกชิ้นที่ปรากฏในเวบไซต์นี้
เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบทประพันธ์นั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว
ห้ามกระทำการดัดแปลง แก้ไข
หรือแอบอ้างไปเป็นผลงานของตน
โดยไม่มีการอ้างถึงเจ้าของลิขสิทธิ์
หากผู้ใดมีความประสงค์
จะนำข้อมูลดังกล่าวออกเผยแพร่ ตีพิมพ์
หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด
โปรดติดต่อเจ้าของบทประพันธ์โดยตรง


***************************

งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ที่มา : เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา









ธันวาคม 2551

 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add pu_chiangdao's blog to your weblog]