สวนชีวิต(4)...ชีวิตกับบทกวี






ผมรู้ว่าสี่ห้าปีมานี้ ผมเขียนบทกวีได้ไม่กี่ชิ้น อาจเป็นเพราะต้องอยู่กับโลกข่าวสารที่จำเป็นต้องเร่งและเร็ว หรืออาจเป็นเพราะว่ามีบางสิ่งบางอย่างบดบัง จนหลงลืมมองสิ่งที่รอบข้าง มองเห็นอะไรพร่ามัวไปหมด หรือว่าเรากำลังหลงลืมความจริง...ผมเฝ้าถามตัวเอง...

อย่างไรก็ตามเถอะ...มาถึงตอนนี้ ผมกำลังพยายามฝึกใช้ชีวิต ให้อยู่กับความฝันและความจริงไปพร้อมๆ กัน

ทุกวัน ทุกวัน หลังพักจากงานสวน ผมจึงมีเวลาอยู่กับความเงียบลำพัง เพ่งมองภายในและสิ่งรายรอบมากยิ่งขึ้น

และผมเริ่มบันทึกบทกวีแคนโต้เหมือนสายน้ำ หลั่งไหล อย่างต่อเนื่อง ทุกวันๆ ตามดวงตาที่เห็น ตามหัวใจได้สัมผัสต้อง บ่อยครั้งมันมากระทบทันใด ไม่รู้ตัว จนบางครั้งยังนึกงุนงง และตื่นใจกับการเดินทางของความรู้สึก การเดินทางของถ้อยคำ...

นับแต่นี้ไป ผมจะทำสวนและเขียนบทกวี...ผมบอกย้ำกับตัวเอง


(๑)
เช้านี้หมอกขาวห่มคลุมยอดดอยผาแดง
หลังฝนโปรยมาใกล้แจ้ง สงสัยคือฝนสั่งลา
ก่อนหนาวฤดูจะเดินทางมาพำนักอยู่ยาวนานและทารุณ

(๒)
เชียงดาวเริ่มกลายเป็นเด็กน้อยอีกครั้ง
รอให้อากาศหนาวยะเยือก เราจะช่วยกันก่อกองไฟ
เผาข้าวหลาม หมกมันคลุกเถ้าบิแบ่งกันกิน

(๓)
ทุกอย่างที่นี่ดำเนินไปอย่างเงียบๆ ช้าๆ
เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หากหัวใจยังคงเต้นไหวไปตามจังหวะชีวิต

(๔)
ในหุบเขาของความเรียบง่าย
ไม่เดือดร้อน ไม่วุ่นวาย
ทุกฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง

(๕)
ฝูงมดดำขนเม็ดข้าวเปลือก
นกเขาป่าขันคูเกาะกิ่งไผ่หน้าบ้าน
คนเขียนหนังสือพาชีวิตน้อยๆ เคลื่อนไหวในสวนอักษร

(๖)
เปิดดูหนัง Out Of Afaika พบภาพถ้อยคำสะกิดใจ
...อะไรบ้างที่เป็นของเธอ เราไม่ใช่เจ้าของเธอ
เราเพียงแค่แวะเวียนผ่านมาเท่านั้น

(๗)
จ้องมองดูสิ ในหุบเขานี้มีดอกไม้
มีสายหมอก สายแดดห่อห่ม
มีลมหายใจ มีชีวิต


๘)
กรรม ธรรม ธรรมชาติ
ข้ารู้ว่าสามสิ่งนี้
ต่างเกื้อหนุนกันและกัน


(๙) บนทางผ่าน
ข้ามองเห็นผู้คนเดินเพ่นพ่าน
ลมหายใจที่ไม่มีจิตวิญญาณ

(๑๐)
ในขณะหลายคนกำลังไขว่คว้าเกาะกุม
แต่มีบางคนพยายามสละบางสิ่ง ละทิ้งบางอย่าง
พันธนาการ.




Create Date : 21 มกราคม 2552
Last Update : 21 มกราคม 2552 12:45:17 น.
Counter : 850 Pageviews.

28 comments
  
สวัสดีครับทุกๆ คน
หายไปนานเลย ไม่ได้อัพบล็อค เพราะช่วงนี้เจออากาศหนาวจนเป็นไข้
และยังมาปวดข้อมือขวาอีก สงสัยเป็นเพราะใช้จอบขุดดินมากไป หรือไม่ก็ใช้เม้าส์ทำงานหนัก จนบวม ล่าสุด หมอบอกว่าเอ็นอักเสบ ให้ยามากินแล้วงดใช้มือขวา ถ้ายังไม่หายให้ฉีดยาอีกที
ต้องขอโทษด้วยที่ช่วงนี้ไม่ได้ไปเยี่ยมหากันนะครับ

...
โดย: pu_chiangdao วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:12:52:38 น.
  
พี่มาเยี่ยมไข้เป็นรายแรก

พักมือสักพักก็คงหายเอง หมอกิ่งเธอว่ามีโรคมากมายที่หายเองได้นะแค่เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง
โดย: แพรจารุ วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:21:45:01 น.
  
พี่ชาย อ้ายภู หม่ายซุงคา
หนังสือยังอยู่ปกติ...ค่อยๆ อ่านไป พี่อย่าว่านะ งานเยอะ เจ้า ตอนแรกเลือกตัดสินใจว่าจะส่งข่าวทางไหน คิดว่าน่าจะทางนี้เพราะได้อ่านงานพี่ชาย อ้ายภูด้วยอีกต่อ ในขณะที่เวลาค่อนข้างจำกัดจำเขี่ย สวนทางกะอายุ ตกใจที่ทราบข่าวพี่ไม่สบาย คงทำอะไรได้ไม่มาก นอกจากอวยพรให้พี่หายเร็ววัน จริงๆ เพราะถ้าพี่หายช้า ก็อดอ่านงานของพี่ชาย อ้ายภู ...แฮะๆๆ อ่ะล้อเล่น
โดย: คนรู้จักกัน IP: 118.175.235.55 วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:9:20:53 น.
  
ให้คุณภู หายไข้โดยเร็ว

อย่างที่คุณแพรจารุบอก บางโรคก็หายเองได้ แค่เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง

ดอกปีบเห็นด้วยค่ะ แล้วก็จะนำมาใช้กับตัวเองด้วย

อิจฉาคุณภู มีคนห่วงใยมากมาย หายเร็ว ๆ เช่นกันนะค่ะ

จะได้มาเขียนให้ได้อ่านกันอีก.........
โดย: ดอกปีบ IP: 58.147.41.37 วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:9:46:44 น.
  
รุ่นนี้แล้วกัดไม่ปร่อยนะ เห็นไหม?บ่าวภู เขียนแล้ว อ่านก็สนุกดี ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ ต้นมะระกอที่บ้านพี่ มันโดนแช่แข็งกับอากาศ ใบตายหมด เหลือแต่ผล เอาผ้าห่มไปห่มไม่ทันแล้ว ต้องทำใจเตรียมปลูกใหม่....แล้วงานนี้ ...เป็นเรื่องน่าแปลกมาก..ที่บ้านศรีสะเกษ เรียกว่า "ดอกคันโค้ง" พิมท์ชื่อเข้าหาทางเน็ตไม่เจอ ..ดูหนังเรื่อง"เจ้าหญิงลำชิ่ง ใช่แล้ว..ใช่มันดอกปีบนี้เอง เดือนที่แล้วโทรถามแม่ว่า เจ้าดอกคันโค้ง(ภาษาอิสานนะ) ต้นอยู่ที่วัดนะยังอยู่หรือเปล่าคะ แม่บอกว่าทางวัดตัตทิ้งแล้ว ทำไงดีจะหาชื้อได้ที่ไหนอีกละแม่ จะให้พี่สาวคนโตหาชื้อไปปลูกที่วัดให้หน่อย แม่ตอบว่า ไม่ต้องเลย ต้นดอกปีบที่หลังบ้านพี่สาวแกนะ ดอกมันร่วงเต็ม ต้นเล็กๆมันขึ้นเต็มไปหมด แม่ละโมโหไปกราดใบไม้มันสร้างความรกให้กับสวนของแม่ แม่ห้ามถอนทิ้งนะ รอหนูกลับไปก่อน ..เจ้าดอกปีบนี้ละ ทำให้ต้องตื้นตีห้า สมัยเป็นเด็ก ต้นมันอยู่สูงมาก เก็บดอกมาถักเป็นมาลัยคล้องคอ แต่ตื่นไม่ทันเพื่อนหรอก ..สมัยนั้นของหวานถ้วยละสลึง ชื้อต่อจากเพื่อนเอา..อย่าว่าแต่มือบ่าวภูเลย ..นิ้วหัวแม่มือเจ็บเพราะไปถอนหญ้า ..ต้องไปชื้อเฝือกนิ้วมือมาใส่ ถ้าไม่หายเจ็บโดนฉีดสเตอร์รอยแน่ ความสุขของบ่าวภูได้อยู่กับตัวเอง ส่วนพี่ชอบเด็กๆ เห็นไม่ได้ต้องเข้าไปถาม ขอแม่เขาอุ้ม อยู่ที่ศรีสะเกษจะให้เงินรับขัวญคนละยี่สิบบาท ถามว่ามีชื่อหรือยัง ตั้งให้พร้อม ถ้าพ่อแม่เขาต้องการ...คิดว่าทุกวันพุธ ..จะไปวา-เรน-เทีย..ที่เดแคร์เพื่อจะได้อุ้มเด็กๆ ยังไม่ได้ไปลงชื่อหรอก ..รอตาสตีฟผ่าตัตพุงเรียบร้อยก่อน
จะแวะมาที่บล็อกนี้เป็นประจำนะ ...ห้ามเบื่อละ..พบกันใหม่นะ
โดย: สาวอิสานพลัดถิ่น (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:1:55:52 น.
  
สวัสดีค่ะ...คุณสาวอิสานพลัดถิ่น(ดาวกระพริบฟ้า)

คุณได้กล่าวถึงดอกปีบด้วย..ดีใจนะเนี่ย...อยากจะขอกล่าวถึงที่มาของดอกปีบ

สักนิด ดอกปีบหรือที่เรียกกันว่า กาสะลอง ยังงัยละคะ เป็นไม้มงคลค่ะ

โดยลักษณะแล้วเหมาะสมกับตนเองเป็นที่สุด (คิดเอง) คนไทยโบราณเชื่อว่า

บ้านใดปลูกต้นปีปไว้ประจำบ้านจะทำให้เก็บเงินเก็บทองได้มาก เพราะ ปีป คือ

ภาชนะที่ใช้ในการบรรจุของ ดังนั้นคนไทยโบราณเรียกภาชนะใส่ของที่มีค่าว่า

ปีปเงิน ปีปทอง นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่าสามารถทำให้มีชื่อเสียง

โด่งดัง เพราะปีปมีลักษณะแข็งและโปร่ง เวลาเคาะหรือตีจะเกิดเสียงดังไปไกล

นี่คือ..ที่มาของ..ดอกปีบ...กาสะลอง

ข้อมูลที่ได้มาขอไม่ยืนยันนะคะ เผื่อว่ามีความผิดพลาดจะได้ไม่พาดพิงถึงคนอื่น

555555 (คนไทยเปิ้นเอิ้นว่า.. เอาตั๋วรอดไว้ก่อน)

การเพาะบ่มต้นกล้าของชีวิต...เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ แฟนนักอ่านของ

คุณภูตลอดเวลาค่ะ...เป็นกำลังใจค่ะ(ให้ทุกคน)...

ดอกปีบ

โดย: ดอกปีบ IP: 58.147.41.29 วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:13:55:29 น.
  
ขอบคุณๆดอกปีบมาก จะโทรบอกแม่เลยคืนนี้ "ไม่เชื่อ ก็คงไม่ลบหลู่นะ " ได้ทั้งสองชื่อ เห็นที่วัดไทย มีสองกระถาง แต่ไม่มั่นใจ จะได้บอกหลวงพี่ให้ท่านปลูกลงดิน แต่ท่านจะปลูกตอนที่บุคคลสำคัญมาที่วัดเท่านั้น ไว้เป็นที่ละลึก จะไปอ่านชื่อมันดู จะถ่ายรูปมาลงที่บล็อกดาวกระพริบฟ้า จะแจ้งข่าวให้ทราบอีกทีนนะคะ ตอนนี้ต้องนั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าเลย ต้นมะม่วงพึ่งออกดอกได้หนึ่งช่อดันโดนแช่แข็งตาย ว่าจะห่มผ้าให้แล้วเชียว ...เสียดายมาก.ที่...เชียงดาวหนาวจนต้นไม้ตายหรือเปล่านะบ่าวภู..ช่วยตอบพี่ทราบด้วย ....
พบกันใหม่
โดย: สาวอิสานพลัดถิ่น (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 24 มกราคม 2552 เวลา:4:38:10 น.
  
สวัสดีค่ะพี่ภู
ขอให้หายไวไวนะคะพี่
โห.....อากาศหนาวจนเป็นไข้เนี่ย คงเย็นมากเลยนะเนี่ย
โดย: รุ้งสีที่แปด IP: 58.97.14.68 วันที่: 24 มกราคม 2552 เวลา:9:36:17 น.
  
สายลมหนาวยังเย็นชาต่อคนในภูอยู่ไหม
โดย: (@-@) (ตาพรานบุญ ) วันที่: 24 มกราคม 2552 เวลา:13:51:49 น.
  
วันก่อนกลับบ้าน...เชียงดาวหนาวจริง ๆ พี่....
พาลจะเป็นหวัดเป็นไข้เอาได้ง่าย ๆเลย
หายไวไวนะคะ..^^
โดย: แม่นู๋มี่ วันที่: 25 มกราคม 2552 เวลา:2:00:18 น.
  
ทำสวนกับเขียนบทกวี
มันก็เป็นอะไรที่เข้ากันดีนะคะ...แบบว่า...ต้องทำให้มันสดชื่นอยู่ตลอด
โดย: ทากชมพู IP: 125.24.76.229 วันที่: 25 มกราคม 2552 เวลา:10:27:56 น.
  
สายัณห์สวัสดีค่ะคุณภูฯ
----------------------------------------------------
อ่านบทกวีราตรีผ่านกาลเวลา
จินตนาพาเพ่งภาพขาวเทาดำ
เขียนถ้อยคำเรียงร้อยสร้อยประสาน
เรื่องวันวานหว่านความฝันจรรโลงใจ
---------*---------


เขียนได้ไง เก่งจัง อะคึ่ ๆ
โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:21:16:26 น.
  
สวัสดีขอรับ...ยินดีมากครับที่มิ่งมิตรแวะเข้ามาสนทนากันผ่านบล็อคตรงนี้ อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นจังเลย เหมือนเป็นเครือญาติเดียวกันเลยเนาะ ทำให้นึกถึงเพลง คำสอนของ ชิ สุวิชาน นักร้องเผ่าปวาเก่อญอ ขึ้นมาเลย...

มาเถิด,มาร่วมกินฟักเขียวเครือเดียวกัน
มาร่วมกินข้าวในขันโตกเดียวกัน

ช่วงนี้ขึ้นดอยลงดอยอุตลุตเลยครับ
ไปร่วมงานปีใหม่ชนเผ่าหลายหมู่บ้าน
ไว้มีโอกาสจะเอาภาพงามๆมาฝากกันที่นี่นะครับ



โดย: pu_chiangdao วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:12:08:13 น.
  
แต่ถ้าภูจะเรียกพี่ว่า พี่คนสวยไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด.....เป็นนามที่พี่ปลื้มมาก...สาวอิสานพลัดถิ่นก็ชอบนะ .....(อะไรกันแน่เรา.).ภู..ทำบุญด้วยอะไรนะ...ได้อยู่กับธรรมชาติ...ส่วนพี่โดนธรรมชาติลงโทษ...ไม่ห่มผ้าให้ต้นไม้...เลยต้องย้ายต้นไม่มารวมกัน .....ข่าวออกว่าหนาวเมื่อไหร่จะห่มไม่ให้พลาดเลย......อิจฉา...พวกผู้ชายนะ..จะขึ้นเขาลงห้วย..ไม่ต้องพกพา...ครีมกลางวันกลางคืน..พี่ดีใจกับภาพดอกปีบมาก..เลย..ทำให้ได้ย้อนเวลาหาอดีตได้...พี่จะรอชมภาพงานปีใหม่ชาวดอยนะ....เขาเปิดเพลงอะไรกับการเต้นรำละ...แถวบ้านพี่จะเปิดหมอลำกัน...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ..ถ้าเป็นเพลงลูกทุ่งและหมอลำ..จะร้องและจำทำนองได้เก่งมาก....เพลงเพื่อชีวิตลูกกรุง..เพลงภาษาอิงลิช..ฟังสามเดือนก็ร้องไม่เข้าทำนอง...ฟังจนตาสตีฟแยกทำนองได้ว่ามันเป็นเพลงลูกทุ่งหมอลำ....พูดเรื่องธรรมชาติหลุดเรื่องเพลงไปได้.....บ้านปีกไม้นะ...มันคงเป็นบ้านในฝันของภูใช่ไหม....อยู่นี้พี่ชอบไปดูความเป็นอยู่ของพวกเม็กชิกันเขาอยู่กันสนุกมาก...ไม่เหมือนฝรั่ง...อย่างตาสตีฟ...พอกับแพททริกพูดอิสานได้เหมือนมาก...แต่ให้พูดภาษากลางกับเหมือนผรั่งพูดไทย...จบละ
พบกันใหม่นะ
โดย: คุณแม่คนสวย (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:9:48:02 น.
  
อรุณสวัสดียามตะวันโด่งค่ะคุณภูฯ
----------------------------------------------------------
//www.jazzmoment.com/
ทันทีที่เปิดฟัง อารมณ์ดีมีชีวิตชีวาในทันใด

ขอบคุณมากค่ะที่นำสิ่งดีดีสู่ชีวิตสาวบ้านนอกฯ
นั่งจิบกาแฟยามอรุณรุ่งแล้วฟังดนตรีแจ๊ส มันช่างมีความสุขเหลือเกินค่ะ


อ้าว! คุณภูฯ นั่งเพลิดเพลินเกินไปแล้ว ลุก ๆ ๆ ๆ ไปทำสวนได้แล้วค่ะ อะคึ่ ๆ
โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:10:24:53 น.
  
นี้ภู พี่หลงป่า มาเข้าบล็อกนี้ เห็นคุณสาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น ทำให้นึกถึงพี่ เปรมจิต แกเป็นคนใต้ ตอนนั้นทำงานพี่เป็นเด็กฝึกงาน ไปตลาดที่จังหวัดขอนแก่น พี่จิตรเขาก็พาไปตลาด แกบ่นว่า"ลูกพี่มันไม่ยอมกินผักเลย พี่ละกลุ้มใจ" พี่ก็พยายามชิ แกเล่นมุข สอนแล้วมันไม่จำ มันขี้น้อยใจ "ทำท่าทางชะเหมือนมาก พอบทสรุป มันคือกระต่ายที่พี่แกเลี้ยงไว้...เลยถึงบางอ้อ... เป็นภาพที่ทำให้คิดถึงจ. ขอนแก่น...ช่วงที่นั่งพิมพ์นี้ ..ฝนตก..พรุ้งนี้จะมีฝนตกอีก...โลกบ่ายโมงนะภู...มันไม่เที่ยง...มุขเดิม...ที่มาหาบ่อยๆ นี้..เพราะชอบบ้านปีกไม้นะ....ของแต่งบ้านหลังนี้นะ..สั่งมาจาก..เชียงใหม่...ตาสตีฟเป็นฝรั่งที่ชอบสไตล์แบบไทยๆนะ...เห็นเพื่อนน้องสาวที่ทำร้านอาหารไทยได้แต่งงานกับฝรั่งที่อยู่นิวยอกร์..บอกว่าถ้าพวกเราได้ไปขอไปเที่ยว ขอพักที่บ้านนะ เขาตอบว่า "บ้านหลังเล็กยินดีต้อนรับถ้าไม่รังเกียจ" ทำไม ไม่บอกเพื่อนไปละ บ้านยายเรานะ เตาไฟติตกับคอกควาย ขี้มันก็เต็มเราก็ยังอยู่มาได้..พากันนั่งนึก..กินข้าวได้อย่างไรนะ...เจ้าควายมันก็นั่งมองพวกเรากินข้าวอยู่ .....พรุ่งนี้เป็นวันศุกร์..จะแวะมาเยี่ยมใหม่นะ
โดย: เล่าเอง (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:8:04:12 น.
  
สวัสดีเจ้า....อ้าย ^^

สบายดีเจ้า...

อยากปิ๊กบ้าน...แต่บ่าว่างเลยเจ้า

เดี๋ยวถ้าว่างหลาย ๆ วัน แวะไปแอ่วบ้านสวนอ้ายท่าจะดี อิอิ

เปิ้นจะยินดีต้อนฮับก่หา.......^^
โดย: แม่นู๋มี่ วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:22:03:09 น.
  
เชิญชวนครับ...

- - เ ติ ม ห นั ง สื อ ใ ห้ เ ต็ ม ชั้ น... เ ติ ม ฝั น ใ ห้ ว า วี - -

ช่วยกันคนละไม้คนละมือ หว่านเมล็ดฝันทางความคิด ให้สวนอักษรบานสะพรั่งทั้งวาวี

ด้วยการส่งหนังสือ, นิตยสาร เก่าหรือใหม่ ไปเติมชั้นในห้องสมุดของโรงเรียน กรุณาจัดใส่กล่องพัสดุแล้วจ่าหน้าซองถึง...

คุณครูบุญทม วันสูง
ห้องสมุดโรงเรียนบ้านวาวี
โรงเรียนบ้านวาวี ตำบลวาวี
อำเภอแม่สรวย
จังหวัดเชียงราย (57180)
โทร. 053 – 760147

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บล็อกโดม วุฒิชัย

ปล.ถ้าหนังสือเต็มห้องสมุดดอยวาวีแล้ว ถึงครามาช่วยห้องสมุดร.ร.ในหุบเขาผาแดงกันมั่งนะครับ
โดย: pu_chiangdao IP: 118.175.184.138 วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:22:11:20 น.
  

สวัสดีค่ะคุณpu_chiangdao ทำสวนและเขียนบทกวี เป็นชีวิตที่น่าอิจฉามากค่ะ


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:20:34:34 น.
  
นี้ภู พี่ก็แปลกใจนะ ทั้งโรงเรียนไม่มีห้องสมุด แถวบ้านพี่ที่ศรีสะเกษขนาดว่าจนแล้ว หนังสือเขาบริจาคมาเต็มเลย อนุโมทนา สาธุคนที่บริจาคหนังสือนะคะ หนังสือพี่คงเอาไปบริจากที่วัด ไทย ปีที่แล้ว สองสาวฝาแฝด เขาสร้างโรงเรียนใหม่ พี่คนอ่านอังกฤษ ตีความไม่แตก เขาไปรอประชุมประชุมที่ห้องสมุด ผู้ปกครองคนใดสนใจ ไปออกความเห็นได้พี่คนที่ฟังเขาไม่รู้เรื่องคงไปออกกับเขาไม่ได้ ไปแค่พอรู้ พวกที่ทำงาน School board เขามาสอบถามผู้ปกครอง น้องสาวพี่ มันคงเอานิสัยครูติตตัวมา ชอบพาไปชื้อหนังสือนิทานเด็ก ที่ตลาดมือสองกัน แรกก็คิดว่าเอาหนังสือมาจากที่ไหนมาขายนะ พอไปที่โรงเรียนใหม่ของลูก หนังสือ, โต๊ะ, เก้าอี้. ทุกอย่างใหม่หมด หนังสือเก่า มีกลิ่น เขาก็เอาไปบริจาคหรือขายให้พวกชื้อของเก่า อันนี้ละที่พี่ไปชื้อมา กระดาษเขาก็พิมท์อย่างดีถ้าเป็นโรงเรียนเก่าๆ อย่างโรงเรียนของพี่ มีทั้งหนังสือเก่าและใหม่ ที่ทำให้พี่ตกใจ ก็หนังสือประวัติศาสตร์อเมริกา พิมพ์เล่มใหญ่มากขนาด ความยาวสามฟุต มีตั้งหลายเล่ม พี่ลองยกออกมาอ่าน จะเป็นลม ข้อมูลทุกอย่างครบ เห็นหนังสือภาษาอังกฤษ มีทุกประเภท ทำไมตัวเองถึงอ่านไม่เข้าเรื่อง เข้าใจแค่ ๒๐ เปอร์เชนต์ ไม่ได้อรรถรสในการอ่าน ความเข้าใจของพี่ประเทศที่เขาเจริญ
นี้ การอ่านและห้องสมุดจำเป็นจริงๆนะ อันนี้ก็ตีความเอง โรงเรียนไฮสคูล แข่งขันกันออกโบว์ชัวร์ ส่งมาถึงบ้าน ว่าพวกเขาสอนเก่งด้านใด นักศึกษาผู้ใหญ่อย่างพวกพี่
และเพื่อนต่างชาติ ครูจะขอร้อง ให้ตั้งใจเรียน ทำข้อสอบให้ได้ ทางโรงเรียนจะได้งบ
ประมาณเพิ่ม พวกนักเรียนหัวขี้เลื้อยอย่างพี่ ก็จะบอกครูว่าช่วยเต็มที่แล้วนะ ความสามารถมีแค่นี้จริงๆ ถ้าเป็นคนเก่ง คงไม่หาผัวฝรั่งหรอกคะ นักเรียนจากประเทศกลุ่มจี๗ไม่ค่อยมี แต่ที่พบบ่อยที่สุด ณ ตอนนี้ คือ พวกรัสเชีย นักเรียน เข้าๆออกๆมาเจ็ดปีอย่างพี่ รู้หมด สองปีนี้ตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ เพราะแพททริกเริ่มโตแล้ว
เอาเรื่องตลกบ้างนะ เมื่อสองวันก่อน เห็นนักเรียนคนไหนไม่รู้ พี่ได้ยินเสียงสะอึก
พี่ก็เข้าไปบอก ว่า" ทำไมยูส่งเสียงดังในห้อง" ความที่โมโห ฝรั่งมันจะเลือดขึ้นหน้าเลย ผิวทำให้มองเห็น "ไอไม่ได้ทำอะไร" เสียงแบบโมโห พี่เลยหัวเราะขึ้น "ไออยากช่วยอยู่ให้หายสะอึก" เขาบอกขอบคุณมาก ตอนพักเที่ยงช่วยเปิดประตูให้ ดีนะที่เป็นฝรั่ง ถ้าเป็นไอ้มืด ผิวดำ เด็กวัยรุ่น พี่คงโดนหมัดสวน ที่ไปว่าให้เขา คนผิวดำนี้จะดูไม่ออกว่าโมโห พี่คงหลบหมัดไม่ทันแน่ๆ ลูกสาวบอกแม่อย่าไปทำอย่างนั้นอีกนะ
มันอันตราย..แม่ก็พยายามระวังเหมือนกัน..
ฝนตกเมื่อวาน วันนี้อากาศเย็นอีกแล้ว ร่างกายมนุษย์ปรับตัวไม่ทันแน่ๆ
มีโอกาสได้ไป หุบผาแดง คงบริจาคหนังสือให้นะ
พบกันใหม่












































































































.++++++
+----+













++++


+++++++++++++++++++++++--999----+-++++++++-----++++---เหมือนกัน บ้านไหนเป็นบ้านหลังแรกอายุมาก ที่เขาจะอนุรักษ์ ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ จะมาชื้อจากเจ้าของ
ขอชื้อจากเจ้าของไว้เลย ขนาด ต้องเรียกว่า เถียงนา ทางรัฐ ชื้อไปไว้ และประกอบเหมือนรูปเดิมหมด เห็นเอามาโชว์งานประจำปี พิพิธทภันฑ์ ไม่ตัองพูดถึง มีทุกอย่างครบ ใครมาอยู่นี้เป็นคนแรก ห้องสมุดมีทุกที่ บริการ แต่น่าเสียดาย พี่เหมือนเด็กอนุบาลที่เดินเข้าห้องสมุด เปิดดูรูปภาพเอา


โดย: คนสวย (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:03:02 น.
  
ใครคนนั้น
กำลังหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งถ้อยคำ
บนหัวใจประชาชนผู้ตาบอด




โดย: กากีซ่าส์ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:20:42 น.
  
ขอให้คุณภูได้มีความสุขกับงานที่รักทั้งสองอย่าง
ทั้งการทำสวน และการเขียนบทกวีด้วยค่ะ

สำหรับอาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ ก็ขอให้หายโดยเร็ว
ด้วยนะคะ .. อากาศทางกรุงเทพตอนนี้อุ่นขึ้นแล้ว
แต่ที่โน่นคงยังหนาวเย็นอยู่ใช่ไหมคะ
โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:00:38 น.
  
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:06:43 น.
  
ขออภัยกับการพิมท์ และส่ง พวกบรรณาธิการ แม้กระทั้งช่างคอมพ์พากันป่วย..พี่เลยส่งแบบ ..จัดหน้าไม่เป็น..ขออภัยกับคนอ่านท่านอื่นด้วยนะคะ..สภาพอากาศ
ครบสามฤดู...ในอาทิตย์เดียว...นกอินทรีย์ที่ทำรัง ..ตามเสาร์ไฟฟ้า..ยังไม่เห็นสร้างรังกันเลย...แต่นกเล็กๆ..เริ่มสร้างรังแล้ว..ไม่รู้...ฝนจะไปหรือพายุจะมา..หมอดูอย่างพี่เลยยังไม่ได้เก็บสถิติไว้...นกกระเรียน..ก็ย้ายไปสร้างรังแถวอื่น..คงตามไปดูอีกตามเคย...
อาทิตย์หน้าที่วัดไทย จัดเวียนเทียนที่วัด วันอาทิตย์พราะท่านจะเวียนเทียนบ่ายโมง วันจริงวันอังคารเวียนเทียนตอนทุ่ม.คนที่อยู่ใกล้ก็คงไปกัน
พี่จุ๋มแกจะไปบวชชีพรามณ์กับพวกป้าๆอายุมากๆที่เข้าวัดประจำ
พี่คนบุญไม่ถึง เพราะกลัวผีไม่กล้านอนวัด
เจ้าอาวาสท่านบอกว่า บวชเป็นพระมาสี่สิบปี
มีโยมบุญสิตา..เขียนจ.ม.หาท่านเป็นคนแรกท่าน
บอกไม่เคยเห็น.."ต่อไปหนูไม่เขียนอีกแล้วคะ ..หลวงตา"
พี่ไปนมัสการท่าน..ก็จะถามว่า.".เดวิทไม่มาด้วยหรือ.".
หลวงตาเจ้าคะ..สามีหนูนะ ชื่อตาสตีฟ..จะหาสามีใหม่
ให้หนูเหรอคะ....เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่
ตอนเส้นเลือดในสมองแตก..ก็ได้หลวงตานี้ละ
ไปสวดต่อดวงชะตา...ไม่ต้องพูดถึงเมืองไทย
แม่ไปดูหมอทดูทุกที่..ไปวัดเกือบทุกวัด..ฟื้นขึ้นมา
เลยต้องทำบุญไว้มากๆ...พอตายไปจะได้ไม่เสียดาย
.....ที่ไม่ได้ทำบุญ
พบกันใหม่นะภู (ถ้าไม่ชอบที่พี่เขียนก็ลบทิ้งนะ บางที่พี่กลับมาอ่านก็อายตัวเองเหมือนกัน เป็นตัวเองหรือเปล่าที่เขียน)
โดย: คนสวย (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:24:11 น.
  
แวะมาอ่านกลอนเพราะ ๆ บ้านอ้ายภูเจ้า..
อ้ายภูเป็นไข้หายหรือยังเอ่ย..
ปวดมือเพราะว่าจับเมาส์นักกว่าจับขอบ๊ก ก้าอ้าย..
..
เจียงดาวยังหนาวอยู่ก่อ ฮักษาสุขภาพเน้อเจ้า..
โดย: Prettymaew วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:56:14 น.
  
วันนี้ไม่แวะมาพูดเพ้อเจ้อแล้ว.....
อยากจะมาบอกว่า..แวะไปดูสวนที่บล็อกพี่..หน่อยนะ..
ช่างคอมพ์..พึ่งเอาลงให้...จะรอภูไปดู.....ปร่อยตามดวง..
มันก็เลยเป็นไปตามดวง..เฉกเช่น..เจ้าของมัน...
ดีนะ..ต้นไม้มันไปไหนไม่ได้....ถ้าเหมือนเจ้าของมัน..คงไม่เจอ
..เพราะหล่อนชอบไป...เกิดปีลิง...นี้นะ..ช่วยไม่ได้
โดย: คนสวย (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:21:50 น.
  
หวัดดีเจ้า ก่อนอื่นต้องฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ เพิ่งเข้าเยี่ยมชมค่ะ แล้วจะเข้ามาอ่านบ่อยๆค่ะ ชอบธรรมชาติเหมือนกัน เคยอยู่ในกรุงเทพซะนาน ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ แต่ก็ยังอยู่ในเมืองอยู่ดี แอบอิจฉาคุณพี่ที่มีบ้านในหุบเขาค่ะ อยากมีบ้างจัง
โดย: bluesky IP: 118.172.59.229 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:31:00 น.
  
ดีใจที่ภูแวะไปดูสวนพี่..พรุ่งนี้ก็จะเป็นเกร็ดน้ำแข็งอีก..พี่ห่มผ้าให้กับทุกต้นแล้ว
มะระกอเอาคืนไม่ได้แล้ว..ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา..บ้านหลังอื่นก็ทะยอยห่มกันแล้ว..แม้แต่ต้นปาล์มยังไม่เหลือ ...บ้านปู่คือพ่อตาสตีฟ..ที่บอสตัน..หลังจากแม่แกตาย..โทรหาพ่อทุกวัน..บอกหิมะยังไม่ตก..แต่หนาวมาก..บ้านที่บอสตัน..สร้างมาห้าสิบกว่าปี..พึ่งติดแอร์ได้สองปี...เพราะโลกร้อนขึ้น..บ้านรัฐทางเหนือเขาสร้างมีเตาไฟด้วย..ที่นี้ก็มี...แต่ตอนพี่ชื้อบ้านหลังนี้ถามราคาเตาผิงแล้ว...ไม่มีปัญญาจ่าย....ที่พูดเรื่องบ้านนะ..เพราะพี่ชอบบ้านปีกไม้ของภู....น้องคุณหมอ..เป็นไอ้หนุ่มสถาปนิก..นักเรียนทุน..ของฮาร์วาร์ดยู..พี่ถามน้องเขา(อันนี้เรียกน้องได้..)..บ้านในฝันของยูเป็นอย่างไร...บอกให้ส่งเมล์มาให้ดูหน่อย..แต่โทษทีคุณน้องเขาเขียนไทยไม่เป็น..เลยยังไม่ส่งมาเพราะ..คุณพี่คนนี้ก็เขียนอิงลิชไม่เก่งเลย...วันวาเรนไทร์นี้ชิจะเขียนเรื่องและลงรูปของไอ้หนุ่มฮาร์วาร์ดให้ดู...(..ถ่ายภาพโดยตาสตีฟ)แล้วพี่จะแวะมาบอกนะ...
....วันนี้เห็นตาสตีฟอยู่บ้าน..เลยชวนให้แกไปรับแพททริก กลับจากโรงเรียนด้วยกัน..เพราะแพททริกหน้าตาจะมีความสุขมาก เวลาที่พ่อกับแม่รับ ก่อนถึงบ้าน..มันก็จะมีฟาร์มเลี้ยงม้า..มีต้นส้ม..เลยพาแกแวะดูบ่นใหญ่.".ว่าคนไม่สบายยูยังพาไอมาดูแพะกับต้นส้มนี้นะ "เห็นมันออกลูกเยอะเป็นบ้านของคุณยายออร์ลีน น้องสาวพี่ไปทำความสะอาดบ้านให้แก..พูดให้หรูหน่อย(คนใช้ฝรั่งดีๆนี้เอง.)"มือจับช็อกล์ดีๆไม่ชอบ..เลยต้องมาขัดหัวส้วมให้ฝรั่ง"..และไอ้เจ้าแพะตัวดีลูกเต้ามันก็เต็มไปหมดเห็นแล้วมันน่ารัก....หลังบ้านพี่ที่ถ่ายรูปนะมันเป็นลำคลอง...ถัดไปก็ทุ่งเลี้ยงวัว.....เป็นชาวเม็กชิกันอาศัยอยู่ ..วันดีคืนดีพี่แกก็เปิดเพลงละตินกัน...แต่นานๆครั้งนะ..เพราะถ้ามีคนโทรไปแจ้งตำรวจ..พี่แกก็หมดสิทธิ์สนุก..เพราะไปรบกวนเพื่อนบ้านเขา....ต้นกล้วยก็แข็งตาย..โลกหนอโลกเรา...ที่ไหนก็สู้เมืองไทยไม่ได้..แม่บอกว่า..ที่ศรีสะเกษก็หนาวมากๆ....ที่ดินที่ชื้อไว้ที่เชียงใหม่...ของพี่อยู่ที่กิ่งอำเภอแม่ออนใต้....ดูทิศทางลมของตาสตีฟก่อน..ว่าแกจะพัดไปทางไหน...พี่จะได้ไปถูกทาง...ไม่หลงทาง..เสียก่อน
ไปแล้วนะ..พูดเพ้อเจ้อ..นานแล้ว..พบกันใหม่นะ

โดย: คนสวย (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:00:53 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pu_chiangdao
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



ภาพและงานเขียนทุกชิ้นที่ปรากฏในเวบไซต์นี้
เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบทประพันธ์นั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว
ห้ามกระทำการดัดแปลง แก้ไข
หรือแอบอ้างไปเป็นผลงานของตน
โดยไม่มีการอ้างถึงเจ้าของลิขสิทธิ์
หากผู้ใดมีความประสงค์
จะนำข้อมูลดังกล่าวออกเผยแพร่ ตีพิมพ์
หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด
โปรดติดต่อเจ้าของบทประพันธ์โดยตรง


***************************

งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ที่มา : เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา









มกราคม 2552

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog
Friends Blog
[Add pu_chiangdao's blog to your weblog]