"Hula Girls" & "Priceless" ... สองหนังเล็กๆ ดีๆ ที่ ลิโด และ ผมขอนำเสนอ
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ หนนี้ ขอเบิ้ลสอง มาแบบ คอมโบเซ็ต กับ 2 หนังอินดี้ฟอร์มเล็ก ที่แอบทำตัวเด่นซุ่มเงียบ รอคนมาดูอย่างใจเย็น ที่ ลิโด สยามสแควร์ ...นี่คือ สองเรื่อง ที่ผมกล้าพูดได้ว่าดีทั้งคู่ (หากแต่ระดับความชอบมันก็ต่างกัน) และอยากชวนไปดู ไปเสียตังค์กันบ้าง ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ หนีอะไรที่มันเป็นหนังฟอร์มใหญ่ยักษ์อภิมหาซัมเมอร์กวาดเงินมหาศาล สักกะหน่อยละกัน
"Hula Girls"
หนังเล็กๆ made in Japan ที่เข้าโรงบ้านเราแบบเงียบๆ (แต่ถึงอย่างนั้นก็เคยอภิมหาดังในบ้านเกิด ได้ทั้งเงินและกล่องมาหลายอยู่) ว่าด้วยเรื่องของ ชาวบ้านผู้ทำเหมืองแร่ในจังหวัดหนึ่งทางอีสานของญี่ปุ่น ที่กำลังประสบปัญหาจะตกงาน จากความจำเป็นที่นายทุนต้องปิดเหมืองเพราะมีรายได้มาจุนเจือไม่พอยาไส้ ...และด้วยความที่ยุคนั้น เป็นยุคที่ญี่ปุ่นกำลังเริ่มก้าวหน้ารุ่งเรือง จากการพยายามที่จะทำตัวให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ นั้นจึงเป็นเหตุให้นายทุนเหล่านี้มีแผนการ จะสร้าง 'ฮาวายเซ็นเตอร์' ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูด คนที่ชื่นชอบ บ่อน้ำพุร้อน ได้มาลองสัมผัสความอุ่นสบายกับบรรยากาศแบบ ฮาวายๆ ที่ถูกจำลองมาไว้อยู่ในพื้นที่หุบเขาอันหนาวเหน็บ
ด้วยความที่ยังหัวโบราณ และรักความสันโดษ ในการใช้ชีวิตขุดแร่มานาน ...เหล่าชาวบ้านผู้หลักผู้ใหญ่ เลยต่างพากันออกมาต่อต้านในความคิด และการกระทำ ที่เกินตัวของนายทุน ซึ่งเห็นว่า มันเพ้อเจ้อ และไร้สาระ ...แต่ก็ยังมีกลุ่มเด็กสาวลูกหลานคนงาน ที่กล้าจะคิดเห็นแตกต่าง และอยากจะทำอะไรบางอย่างเพื่อเป็นการกอบกู้ศักดิ์ศรีของชาวบ้านรุ่นพ่อรุ่นน้าที่ไม่ยอมรับความศิวิไลซ์
ที่พวกเธอทำนั่นก็คือ การเป็น นักเต้นระบำฮูล่า แบบฮาวาย ...กิจกรรมที่ดู non-sense ในสายตาของชาวบ้าน ผู้ที่คิดว่า มันคือ ความบันเทิงยั่วยวนทางเพศดีๆนี่เอง
"Hula Girls" ... เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มาแบบหนังแนวดรามา โหยหาอดีต ซึ่งดูจะกลายเป็นพิมพ์นิยมสำหรับผู้สร้างหนังชาวญี่ปุ่นในช่วงนี้ (อย่างปีก่อนก็มี Always , The Village Album จนถึงปีนี้ ก็ยกตัวอย่าง อาทิ Memories of Matsuko) ...จะเรียกว่า ทำกันจนเกร่อ มันก็อาจจะพอพูดได้ แต่ถึงอย่างไงมันก็มีความน่าไว้ใจระดับหนึ่ง ที่จะสร้างออกมา หากเพียง มีบทหนังดีๆ งานกำกับดีๆ และการแสดงดีๆ คอยค้ำจุนคุณภาพงานอยู่
ซึ่งสำหรับ Hula Girls ก็ต้องถือว่า ทำออกมาได้ดี ไม่ผิดไปจากธรรมเนียมปฏิบัติของหนังญี่ปุ่นโหยหาอดีต ...ตัวหนังมีเสน่ห์ มีความหอมหวาน อย่างที่จะล่อตาล่อใจให้เราๆ อยากตามติดไปได้แต่ต้นจนจบ
บรรยากาศของ Hula Girls อบอวลไปด้วยอดีตวันวานของญี่ปุ่นอีสาน ...ดินแดนที่กลิ่นของแร่ เหม็นฟุ้ง แต่ก็หอมหวนไปด้วยความรู้สึกดีๆ ที่เราคล้อยตามเรื่องราวไป ...แม้หนังจะไม่ได้ดำเนินเรื่องแบบ Feel Good ไปตลอดศก แต่ความดีที่ตัวหนังมี มันก็นำพาเราให้อิน และประทับใจในสิ่งที่หนังเป็น
เรื่องหนังอาจดำเนินไปอย่างเชื่องช้าเป็นปกติทั่วไปของหนังรูปแนวนี้อยู่ก็จริง ...แต่ผมกลับรู้สึกว่าหนังมีความกระชับ และให้อารมณ์ที่ต่อเนื่องกันไป ไม่ถึงกับทำให้น่าเบื่อ ...ผู้กำกับ "Sang-il Lee" รู้จังหวะหนังของตัวเองเป็นอย่างดี เขาควบคุมโทนเรื่อง บรรยากาศ ได้ไม่หลุดมือ มีความพอดีพอดิบในอารมณ์ที่ไม่พยายามทำให้ต้องฟูมฟาย ภาพสวยๆ การวางมุมกล้อง ก็ดูลงตัวเหมาะเจาะกับการสร้างอารมณ์ที่ขอมาแบบเรื่อยๆเรียงๆ แต่ก็ให้ความจี๊ดสุดๆ เมื่อถึงฉากที่มีจุดพีคในตัวมัน ยกตัวอย่างในฉาก จากลาของตัวละครเพื่อนนางเอก (ผมรู้สึกผูกพันและเสียน้ำตาให้กับตัวละครนี้ไปไม่น้อย แม้เธอจะมีบทบาทเป็นเวลาสั้นๆ แค่ช่วงต้นๆก็ตามทีเถอะ) หรือ ฉาก ที่นางเอกทำภาษามือขอร้องอาจารย์ (หนึ่งฉากเด็ดที่ผมขอรับประกันว่าคุณต้องโดน!!! แน่ๆ) จนถึง ไคลแม๊กซ์สุดท้าย ที่ทรงพลัง ทำเอาขนลุกซู่ เลยทีเดียว
การแสดงของดาราบทบาทหลักๆของหนัง ก็ถือเป็นที่น่าจดจำไปทั้งหมด ...ที่ประทับใจมากหน่อย ก็คือ นางเอก "คิมิโกะ" , ครูนางเอก "มาโดกะ" และเพื่อนสนิทนางเอก "ซานาเอะ" ลดหลั่นลงมา ก็คือเหล่าตัวประกอบที่มีฉากเด็ดๆเป็นของตัวเอง ...ถึงฉากนั้นมันจะมีค่าเล็กๆน้อยๆต่อหนัง แต่มันก็ให้ความรู้สึกอินกับผมได้มากมาย
แม้ตัวหนังโดยรวมเท่าที่เป็นอยู่ จะถือว่าดูดีมากแล้ว ในความคิดของผมและคนเฉลิมไทยที่ได้ดู ...หากแต่ สาวฮูล่า มันก็ยังขาดซึ่งบางอย่างที่มันน่าจะดีกว่านี้ได้ นั่นก็คือ การสานต่อพลอตรองบางเรื่อง ที่น่าจะให้อะไรมากกว่านี้อีกสักนิด ...โดยส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าหนังใส่ใจใส่รายละเอียดเรื่องของชาวเหมืองแร่ มากกว่านี้อีกสักหน่อย เราคงจะรู้สึกผูกพันกับ Hula Girls ได้มากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน ...(เพราะเท่าที่มีบทบาทอยู่ ผมไม่ยักรู้สึกผูกพันกับตัวละครชาวบ้านเลยสักนิดเดียว)
"Hula Girls" ... หนังญี่ปุ่น โหยหาอดีต อีกเรื่อง ที่ทำได้จี๊ดโดนใจผม ...ถึงมันจะไม่สุดๆ แต่มันก็ดีมากพอจะเป็นอีกหนึ่งหนังเล็ก คุณภาพเยี่ยมที่ผมภูมิใจนำเสนอ อยากให้ทุกคนได้ดูกัน
ขอแนะนำ...ครับ
เกรด A-...{}
"Priceless"
หนังเล็กๆ made in France ที่เข้าลิโดเดี่ยวๆ มาอย่างเงียบๆ ว่าด้วยเรื่องของ สาวนักรักหลอกๆล่อพ่อหัวงู หวังรวยทางลัด กับ ชายหนุ่มซื่อๆที่จับผลัดจับผลูได้เป็น ต้อยของสาวแก่แม่หม้าย โดยบังเอิญ
สาวนักรักคนนี้ชื่อ "ไอรีน" มีอาชีพเป็นโรบินฮู้ดผู้ที่หวังตามหาความรักเพียงเพื่อจะร่ำรวยโดยไม่ต้องเหนื่อยหนักลำบากเนื้อตัว ...หากแต่เธอก็ไม่เคยเจอรักครั้งไหนที่ไปรอด จนถึงวันแต่งงานเลยสักที
ชายหนุ่มคนที่ว่านาม "ยีน" เป็นพนักงานบริกรในโรงแรม ที่ดันเผลอใจไปตกหลุมรักสาว ไอรีน แล้วก็ดันซุ่มซ่ามตกหลุมลวงของเธอ เข้าอย่างจังไปอีก ...หากแต่เขาก็ไม่ท้อใจ พร้อมสู้ต่อไปเพื่อรักแท้ ที่เขาคิดว่าเป็นเธอ
ในขณะที่ ยีน ยังคงพยายามตามตื้อจีบ ไอรีน อยู่ต่อไป ...มันก็มีบังเอิญพับผ่า ที่แม่หม้าย "เมเดอรีน" ดันเข้าใจว่า เขาเป็นชายขายบริการเสียซะนี่ เขาเลยต้องเลยตามเลยตกกระไดพลอยโจนเป็น กิ๊กกั๊ก ให้เมเดอรีน อย่างจำเป็น ...โดยมี ไอรีน เป็นครูสอนเชิงมวย(พ่อปลาไหล)ให้ฟรีๆ ไม่มีคิดสตางค์
แต่จนแล้วจนรอด มีหรือที่ นางเอก เธอจะไม่เผลอใจให้... เมื่อการสวมวิญญาณพ่อปลาไหล(อันลื่นปรื๊ดๆ)ของ ยีน ทำเอา ไอรีน เคลิ้ม ตกหลุมบ่วง หลงเสน่ห์ที่ไม่หล่อแต่เร้าใจของเขาเข้าอย่างจังเอาจนได้
"Priceless" ... โรแมนติกคอมเมดี้ รสละมุน อุ่นไอกลิ่นขนมปัง ที่มาพร้อมพลอตเรื่องอันอลวนสนุกสนานแบบฉบับหนังยุโรปพึงชอบ ...ผู้กำกับ "ปิแอร์ ซัลวาโดริ" จัดการความชุลมุนวุ่นวายออกมาได้อย่างน่ารักน่าหยิก ทั้งส่วนเรื่องราว และมุขตลก
บทหนังเขียนออกมาด้วยความเพลิดเพลินลื่นไหล ที่ดำเนินไปพร้อมกับเกมความรักที่เข้มข้นของคู่พระ-นาง ...การผสมความเป็นโรแมนติกละมุนละไม ไปกับการเรียกรอยยิ้มพร้อมมุขฮามุมปาก ทำออกมาได้ดูลงตัว ให้ภาพการกระทำและการแสดงออกทางใบหน้าที่ดูน่ารักน่าหยิกของ สองตัวละครเอก
"ออเดรย์ โตตู" ... เอมิลี่ ตาโต สร้างภาพของสาวร้ายใจกุ๊กกิ๊กที่ทำให้คนดู(ผู้ชาย)ต้องตกหลุมรักในตัว "ไอรีน" อย่างถอนตัวไม่ขึ้น ...เธอน่ารักทุกเวลาที่เธออยู่บนจอ เธอน่าหลงไหลแม้ต่อให้เธอไม่รับรักทำทรกรรมจิตใจพระเอกของเราอย่างเจ็บแสบก็ตามเหอะ ...ภาพที่ได้เห็น โตตู ใน Priceless ดูน่าเชื่อถือมากไปกว่าตอนเป็น โซฟี เนอเวอ รหัสลับดาวินชี อย่างลิบลับ
"แกด เอลมาเล" ... เป็นเคมีที่ลงตัวของ โตตู เหมาะเจาะ ...มีภาพลักษณ์เป็นชายไม่หล่อ ที่น่าหลงไหลได้ง่ายๆ หากเพียงใช้ใบหน้าซื่อๆ ดวงตาซึมๆ จ้องเขม็ง ใส่เหยื่อสาว ใครไม่แอบเคลิ้มก็บ้าแล้ว ...แม้จะไม่สามารถขโมยซีนมาจาก โตตู ได้อย่างเด็ดขาด แต่เขาก็ดูมีรังสีแข่งคู่เคียงนางเอกได้ไม่ตกไปจากจอ
Priceless มีการดำเนินเรื่องที่ดูกระชับ และฉับไว ไม่เชื่องช้าเอื่อยเฉื่อยแบบจังหวะหนังยุโรป ...หากแต่ ผมก็ยังเผลอหลับได้ลงคอ ในช่วงแรกๆของหนัง ซึ่งมันก็คงเป็นเพราะว่า ยังไม่มีอะไรเด็ดๆให้รู้สึกอยากติดตาม อยากสนใจ ได้มากไปกว่าการปูเรื่อง ปูลักษณะตัวละครให้คนดูรู้จัก ก็ต้องรอให้ผมตื่นขึ้นมาเต็มตาอีกสักทีแล้ว หนังถึงได้ค่อยมีความสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ จนลืมไปเลย ว่าช่วงก่อนหน้า ผมเคยสลบฟุบลงซะงั้น ...ถึงจะเป็นเวลาสั้นๆที่ผมหลับไป แต่มันก็ฉุดให้คะแนนในใจของตัวหนัง ต้องโดนบั่นทอนออกไปด้วยโดยจำเป็น
"Priceless" ... ดูเพลินมากๆ ในความเป็นหนังยุโรป ที่ไม่รอช้าเนิบนาบเล่าเรื่อง ดูสนุกสุขใจ ในความน่ารักที่พระนางรับส่งกันได้ลื่นไหล ...เป็นหนึ่งหนังดีเล็กๆที่คอโรแมนติกคอมเมดี้ น่าจะได้ดู และ(อีกทั้ง)น่าจะชอบใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เกรด B+ ... {}
ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ
Create Date : 12 กรกฎาคม 2550 |
|
8 comments |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2550 7:15:24 น. |
Counter : 3601 Pageviews. |
|
|
|