"ด้วยเกล้า" ... ในความธรรมดา ยังแอบแฝงซึ่งความยิ่งใหญ่
"ด้วยเกล้า" ... เป็นเรื่องของชาวบ้านคนหนึ่ง "นายเสาคำ" ที่ได้มีโอกาสมาเก็บข้าวเปลือกในพระราชพิธีจรดพระนังคัลฯครั้งแรก ...ถึงแม้ว่าเขาจะเก็บได้เพียงน้อยนิด แต่คุณค่าของมันก็มากมายยิ่งนักสำหรับเขา เพราะมันเป็นข้าวของในหลวง
แม้ว่านายเสาคำจะเป็นผู้โชคดีในไม่กี่คน ที่สามารถเก็บข้าวพระราชทานไปได้ ...แต่ต่างกันสิ้นเชิง เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน นายเสาคำเป็นเกษตรกรผู้โชคร้าย ที่ประสบพบแต่อุปสรรคต่างๆนานา สำหรับการทำนาจากข้าวพระราชทาน
เจอฝนแล้ง น้ำก็แห้ง พอจะมีฝน มันก็ต้องมากับพายุฟ้าคะนองอีก ...หนำซ้ำ ความยากจนข้นแค้นก็ทำให้นายเสาคำเป็นหนึ่งในชาวบ้าน ที่ต้องหวังพึ่งการกู้หนี้ยืมสิน จากแม่เลี้ยงใจโหด "บัวเรียน"
โดยแม่เลี้ยงบัวเรียนได้มีข้อสัญญาผูกมัดไว้กับนายเสาคำ ว่าถ้าเขาไม่นำเงินมาคืนตามกำหนด ที่นาทั้งหมดจะถูกยึดเป็นของแม่เลี้ยงทันที
แม้จะทุกข์ทนเดือดร้อนขนาดไหน แต่นายเสาคำไม่เคยยอมแพ้เลยสักครั้ง ...เขาเลือกที่จะทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด ถึงแม้ปากท้องจะหิวโหยสักเท่าไหร่ ถึงแม้ลูกๆจะไม่เข้าใจ ถึงแม้แม่เลี้ยงจะกดดันจดหมดกำลังจะสู้ แต่เสาคำ ชาวนาการศึกษาต่ำ ก็สะกดคำว่า "ท้อ" ไม่เป็น
"ด้วยเกล้า" ...หนังไทยเทิดพระเกียรติ ผลงานการกำกับของ คุณลุง บัณฑิต ฤทธิ์ถกล ซึ่งเคยได้รับการฉายมาแล้วในปี 2530 ...แล้วกับในวาระพิเศษซึ่งองค์ในหลวงของพวกเรา ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี จึงเป็นโอกาสอันดีที่สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์แห่งประเทศไทย นำหนังเรื่องนี้มาฉายซ้ำอีกครั้ง เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติขององค์ท่านในปีมหามงคลนี้
ด้วยเกล้าเรื่องนี้ในความคิดของผม ...บอกได้เลยว่า เป็นหนังดรามาธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีจังหวะจะโคนการเล่า-การเดินเรื่องที่เนือย เนิบ เรื่อย แต่ไม่ทรงพลังเฉกเช่นหนังดรามาที่ผมเคยประทับใจมา แล้วกับตัวหนังก็ไม่ได้มีความน่าติดตามโดยตลอด ยังมีความน่าเบื่อ ที่ชวนให้ง่วงอยู่หลายที แม้จะมีความกินใจของเรื่องราวที่ตอนดูยังรู้สึกได้อยู่ แต่ก็น่าแปลกที่เมื่อหนังจบผมออกจากโรงแล้ว ความอินที่ควรจะค้างคาจากการนั่งชมหนังดรามามาตลอดสองชั่วโมง ยังไม่มีสำหรับผม
ที่ผมพูดมานั้น ไม่ได้หมายความว่า ผมไม่ชอบหนังเรื่องนี้ ...ไม่ใช่แน่นอนครับ ผมชอบครับ และผมก็ประทับใจในสิ่งที่หนังเรื่องนี้ต้องการเสนอให้กับคนดูเราๆทุกคน
อย่างแรก ที่ผมชอบใน "ด้วยเกล้า" ก็คือ บทหนังที่ผสานเอาพระราชกรณียกิจสำคัญๆขององค์ในหลวง เอามาเรียงร้อยคล้อยตามไปพร้อมกับเรื่องราวหนัง ...ข้าวในหลวง /ฝนหลวง /แพทย์อาสา /ทุนเล่าเรียนหลวง และโครงการหลวง เป็น 5 สิ่งที่หนังเรื่องนี้ได้นำเข้ามามีส่วนร่วมกับ ด้วยเกล้า
อย่างที่สอง ที่ผมชอบใน "ด้วยเกล้า" คือ การแสดงนำของคุณลุง จรัล มโนเพ็ชร ...บทบาท "นายเสาคำ" ของเขาทำได้ยอดเยี่ยมเป็นที่สุด กับการสวมวิญญาณเป็นชาวนาคนยากจนคนหนึ่งที่รักองค์ในหลวงอย่างจริงใจและสุดหัวใจ การกระทำของผู้ชายคนนี้สร้างอารมณ์ความอินให้กับคนดูได้ทุกฉาก โดยเฉพาะกับฉากที่เสาคำต้องจำใจนำข้าวเปลือกซึ่งเขาเก็บไว้หุงกิน ออกมาขายให้กับนายหน้า เป็นจุคพีคของหนังที่กินใจได้อย่างรุนแรง น้ำตาร่วงในความสงสารชาวนาตาดำๆ และเหลืออดกับแม่เลี้ยงใจบาปซึ่งไม่ยอมเว้นกับคนไม่มีจะกินคนนี้ ...
ด้วยความร้ายกาจที่ คุณป้า นฤมล นิลวรรณ ตั้งใจบรรจงใส่ลงไปสุดฝีมือกับบทบาทตัวร้ายของหนังเรื่องนี้นั่นเอง ที่ทำให้ผมอินเอาใจช่วยนายเสาคำอย่างสุดๆ ...จึงถือได้ว่า สิ่งที่ผมไม่ชอบที่สุดใน "ด้วยเกล้า" คงต้องเป็น แม่เลี้ยงบัวเรียนคนนี้เพียงคนเดียว ไปโดยปริยาย
อย่างที่สาม ที่ผมชอบใน "ด้วยเกล้า" คือ ความตั้งใจของผู้สร้างหนังเรื่องนี้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ-ผู้เขียนบท คุณลุงบัณฑิตที่สร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมาจากหัวใจที่คนดูสามารถสัมผัสได้ ,ผู้กำกับภาพ ที่ถ่ายภาพออกมาได้สวยจับใจ ให้คนดูรู้สึกเกิดอารมณ์ร่วมดีๆ กับภาพความรักของเหล่าตัวละครที่มีต่อองค์ในหลวง และยังต้องรวมไปถึงทีมงานที่มีส่วนร่วมกับหนังเรื่องนี้ ทุกคนปรารถนาที่จะทำให้หนังเรื่องนี้ออกมาได้ดีมีคุณค่า ควรจดจำประทับใจ
"ด้วยเกล้า" ...อาจจะดูเป็นหนังธรรมดาๆ สำหรับคนชอบดูหนังอย่างผมก็จริง แต่ความธรรมดาของมันยังแอบแฝงไว้ซึ่ง ความประทับใจในความตั้งใจที่ผู้มีส่วนร่วมทุกคนแสดงออกมาผ่านหนังเรื่องนี้ ทีมงานทุกๆคนรักที่จะทำหนังเรื่องนี้ให้ออกมาเป็นหนังธรรมดาๆ แต่ยิ่งใหญ่ได้ในความรู้สึกของคนไทยทุกๆคน
ผมขอขอบคุณ สมาคมผู้กำกับฯ ที่นำหนังดีๆเรื่องนี้กลับมาฉายซ้ำ ให้คนรุ่นใหม่คนนี้ได้มีโอกาสดูครับ ...
ขอชวนให้ไปดู และไปร่วมสร้างกุศลกับหนังเรื่องนี้กัน ...เพราะ รายได้จากการฉายทั้งหมด จะนำไปสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนาครับ
วันศุกร์ที่ 15 นี้ เป็นวันสุดท้ายแล้วนะครับ ...ด่วน!!!
Create Date : 13 กันยายน 2549 |
Last Update : 13 กันยายน 2549 0:17:13 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1267 Pageviews. |
|
|
|