+-+ OncE UPoN'-'a MaN +-+ รักนะ.. คนอ่าน เข้ามาดู.. โดนใจ ออกไป.. อย่าลืมกัน
Summary for Best of the Year 2012 ..Please CLICK!!
“Kick-Ass” ... ด้วย f**k และกราบตรีน จากใจ ‘เด็กเกรียน’

นอกจากติดตามตัวผมในบล็อกนี้แล้ว ก็ขอชวนไปสนุกกันในอีกช่องทางกับ "Facebook" และ "Twitter" ด้วยครับ

Like Me @ //www.facebook.com/pages/OncE-UPoN-a-MaN/362974106204

และ Follow Me @ //twitter.com/once_upon_a_man









บทความนี้ เป็นบทความที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่เยาวชนผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะมีเนื้อหา และถ้อยคำ ที่รุนแรง อาจไม่เหมาะสมสำหรับคนในวัยดังกล่าว





สวัสดี ตัวผม แมร่งเกิดมามีชื่อว่า “เดฟ” ..ตัวตนของผมจริงๆ ถูกสั่งถูกสอนให้เป็นเด็กเนิร์ด ซึ่งแมร่งก็ไม่รู้คิดไงให้ใส่แว่นแล้วแมร่งจะต้องเนิร์ดทันที ก็เลยต้องถูกบังคับให้ใส่มันอย่างนั้น ..ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ผมล่ะโคตรเซ็ง ที่ดันต้องมาติดอยู่กับอะไรที่แมร่งไม่ใช่ตัวเองเลยว่ะ

ดังนั้น เมื่อผมมีโอกาสจะได้เป็นอิสระ จากการไปโรงเรียนเพื่อไปทำตัวเป็นเด็กติ๋มเหรี้ยๆคนหนึ่ง.. ผมก็อยากลองทำตัวเป็นเด็กเกรียนๆ ที่เขากำลังฮิตๆกันดูบ้าง ..อยากรู้แมร่งเหลือเกิน ทำไมใครต่อใครเขาถึงชอบเป็นกันจริงๆ ยุคนี้

ตอนแรก ที่ผมลองเป็นก็ยอมรับล่ะว่ะ แมร่งยากฉิบหายเลย ..ก็คนมันไม่เคยทำตัวเหรี้ยๆอย่างนี้มาก่อนนี่หว่า คือจะบอกว่า พ่อแม่ผมสอนสั่งมาดีก็ได้หรอกว่ะ

แต่เอาเหอะ นั่นมันก็แค่ตอนแรก ..แต่เมื่อมันเข้าที่เข้าทางแล้วนั่นแหละ ผมถึงได้รู้ว่า ผมแมร่งเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ

แม้ถึงผมจะเกิดมาเพื่อเกรียน ..แต่โลกนี้มันก็ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆว่ะ ที่ทำไมถึงได้ส่งผมมาเกิดอยู่ในสังคมที่มีแต่กฎระเบียบ

คุณคิดดูสิ ..มองไปทางไหน ห่าเหวก็อ้างว่ามีระเบียบ ทำอะไรแมร่งก็ต้องอยู่ในกฎหมาย ได้เกิดเป็นคนทั้งที ก็ต้องเหนื่อยหน่ายกับการต้องทำอะไรๆแบบไร้อิสรเสรี ไม่เหมือนอย่างที่สัตว์อื่นๆ มันยังเป็นตัวของตัวมันได้ ...แล้วอย่างงี้ จะไม่ให้เซ็งได้ไงไหว




อีกอย่างที่มันน่าให้เซ็งฉิบหาย ก็เป็นเรื่องที่โคตรจะงงเหลือเกิน.. ผมสงสัยมาตั้งแต่เด็กแล้ว ว่าทำไม โลกใบนี้ มันถึงไม่มีซูเปอร์ฮีโร่ เหมือนดังที่หนังสือการ์ตูนคอมมิคส์มันยังมีได้วะ

ก็ไม่อยากเถียงหรอกเฟ้ย ว่าโลกเรา แมร่งไม่ได้มีเมืองก็อทแธมสักหน่อย ไอ้คริปโตไนท์เขียวๆนั่นก็ไม่มีอยู่จริง แล้วกระทั่งคนเรา ก็ไม่มีความสามารถเหนือคน ให้อ่านจิตใจคนอื่น งอกกงเล็บจากง่ามนิ้ว หรือควบคุมดินฟ้าอากาศ ทำอะไรบ้าๆอย่างนี้ แมร่งไม่เป็นสักอย่างหรอก

แต่ถ้าคุณเคยเป็นเด็ก คุณต้องเข้าใจสิเว้ย ว่า โลกนี้ มันคือ โลกในอุดมคติ ...มันเป็นโลกที่ใครๆก็อยากให้มี อยากให้เป็น หรือว่าคุณสนุกดีอยู่แล้ว กับการเห็นโลกมีแต่เรื่องวินาศ เต็มไปด้วยอาชญากรรม หันมองไปทางไหนก็ไว้ใจอะไรแมร่งไม่ได้สักอย่าง

คิดอย่างนี้ได้แล้ว ก็เซ็งเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ?

นั่นแหละ มันจึงทำให้ผมเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมากับตัวเอง ..แม้ใครบนโลกคนอื่นจะมองว่าแมร่งพิเรนทร์ เป็นโรคจิตๆมั้ง อีตานี่ แต่ผมไม่แคร์หรอกเว้ย ...ผมนี่แหละ จะรับบทบาทเป็น ซูเปอร์ฮีโร่ ผู้ผดุงความยุติธรรมให้ใครๆบนโลกใบนี้ ได้มีความสุขด้วยตัวของผมเอง

แต่ก่อนที่ผมจะทำอะไรอย่างนั้นได้ ผมก็น่าจะมองหาแรงบันดาลใจอะไรแมร่งสักอย่างที่ทำให้ผมต้องยึดมันเป็นไอดอล ..ซึ่งพอคิดฉลาดๆได้อย่างนี้ แมร่งก็ได้จังหวะพอดีที่มีหนังที่ว่าด้วยเรื่องซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่เข้าฉาย แล้วชื่อแมร่งก็โคตรเจ๋งเลย สั้นๆง่ายๆ ให้แปลตรงตัวเป็นภาษาไทย ก็คือ เตะตูด






“Kick-Ass” เนี่ยแหละคือ หนังที่ผมอ่านแค่ชื่อก็มั่นใจแล้วว่า ..แมร่งมันต้องเป็นหนังที่เกิดมาเพื่อผมแน่นอนเลยเว้ย

ให้พูดเรื่องย่อก็ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนไรหรอก ..มันเป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่ง ที่ดันมีชื่อเดียวกันกับผมว่า “เดฟ” (อย่างนี้สิ มันถึงจะเกิดมาเพื่อกรู ..ให้เกียรติกรูเป็นพระเอกเลยเว้ย) มันคิดเหมือนผมเลยว่ะ ในแง่ที่โลกนี้ แมร่งไม่มีซูเปอร์ฮีโร่สักตัว มันก็น่าน้อยใจไงวะ เอางี้ละกัน ไม่มีใครกล้าจะเปลี่ยนโลกนี้ ก็มีแต่กรูนี่แหละที่กล้ามากพอจะเป็นคนจัดให้ ..ด้วยประการฉะนี้แมร่งก็เลยอุปโลกน์ตัวเองขึ้นมาเป็น ซูเปอร์ฮีโร่ ซะเลย

ทั้งที่ไอ้เหรี้ยเดฟนี่แมร่งก็ไม่มีพลังพิเศษ ทักษะการต่อสู้ก็กากเดนเต่าถุย แถมดีกรีความฉลาดแมร่งก็ไม่มีสักกระผีกอีก ..แต่สิ่งที่มันมี หากคนอื่นไม่มีห่าเหวอะไรเลย ก็คือ ความบ้าเหรี้ยๆ นี่แหละ ที่นำความเจริญมาให้กับมัน

แล้วพอมันเจริญ โด่งดัง เป็นที่รู้จัก กลายเป็นไอดอลของใครต่อใครนั่นแหละ ..แมร่งถึงได้มีคนกล้าแสดงตัวขอเป็น ซูเปอร์ฮีโร่ มาเข้าพวกเพิ่มอีก 2 แล้วก็ดันเป็นพ่อลูกด้วยกันอีกวุ้ย

แต่ที่พ่อลูกคู่นี้ มันมาเข้าพวก กับคนที่ไม่น่าเข้าพวกอย่างนี้ ...มันมีเหตุผลว่ะ แต่เป็นเรื่องที่ใครอยากรู้ ก็ไปดูเอาเองละกัน ..ไม่ต้องมาค้อนเลยเฟ้ย ก็บอกแต่แรกแล้ว ว่ามันเป็นเรื่องย่อ นี่หว่า






แต่จะไปสนใจเรื่องย่อทำไมละวะ ถ้าริเป็นเกรียนดูหนังพันธุ์แท้แล้ว ..เอาแค่ได้รู้ว่า Kick-Ass มันเป็นผลงานกำกับเรื่องใหม่ของ “แมทธิว วอห์น” คนเดียวกับที่เคยกำกับ ไอ้หน้าแก่ 007 “แดเนียล เครก” เมื่อสมัยฝึกหัดเกรียน ใน “Layer Cake” แล้วยังจะมาอุตริทำหนังแฟนตาซีรักเลอะเทอะของคนกะดวงดาวอย่าง “Stardust” ด้วยอีก ..ให้รู้ว่าสองเรื่องนี้ มันเคยมีดีอะไร ก็พอแล้วเว้ย ที่จะทำให้อยากสนใจหนังฮีโร่เตะตูดของพี่ท่านได้

แม้หนังหน้าของ Kick-Ass จะดูเป็นหนังแอ๊คชั่น แบบที่ซูเปอร์ฮีโร่ชาวบ้านชาวช่องเขาเป็นกันมาหมดแล้ว หนำซ้ำยังพิเรนทร์ทำออกมาในเชิงล้อเลียนเอาขำแบบที่เคยดูจากใน Superhero Movie ..แต่ ไอ้เตะตูด ไม่ได้โชว์กากแบบไอ้แมงปอ เว้ยเฮ้ย ...หนังมันยังมีสาระกับเขาด้วยว่ะ เชื่อมะล่ะ!!?

ก็ดูได้จาก ผลงานก่อนๆของผู้กำกับนามสกุลชวนเรียกตรีนผู้นี้ (ก็ วอห์น นี่หว่า)ไปสิวะ ..แต่ละเรื่องเนี่ย แมร่งเล่าแบบพิเรนทร์ๆกันทั้งนั้น แต่มิวายสร้างสาระในความพิเรนทร์ได้ โดยเฉพาะ ฉากหนึ่งใน Stardust ..แมร่งดูตอนต้นๆก็ตลกชิหายว่ะ นางเอกมันพูดกับหนูเว้ย แต่เชื่อมะ จู่ๆก็มีทำซึ้ง ให้นางเอกดันบอกรักหนู(ที่ความเป็นจริง ก็พระเอกโดนสาปเปลี่ยนร่างนี่ล่ะ) ทำเสียโรแมนติกเกิ้นนนนไม่ว่า ..ดันทำให้เราแมร่งรู้สึกโชคดีที่เกิดมาเป็นคนเฉยเลย

แค่ผู้กำกับว่า สุดตรีน ไม่พอ คนคิดเรื่อง แมร่งก็อย่างเมพเลยนะเฟ้ย ..ถ้าคุณเคยดู “Wanted” ก็คงเห็นหรอกว่า มันเป็นหนังบู๊ที่โคตรบ้าฉิหายเลย เพราะกะอีแค่สู้ด้วยปืนสั้นกากๆแต่ไหนแต่ไร เมื่อมันมาอยู่ในหนังเรื่องนี้ แมร่งน่ากลัวเว่อร์ๆเลยว่ะ

ถ้าอยากดูอะไรที่บ้าๆแบบ Wanted เนี้ย ..ขอบอกเลยเว้ย หนังเรื่องนี้ จัดให้มาหนักๆ






ซึ่งตัวผมเอง หลังจาก Wanted เป็นต้นมา แมร่งก็นานพอดูเลยนะเว้ย ที่ไม่ได้ดูหนังแอ๊คชั่นที่พาอารมณ์สนุกไปได้ไกลถึงจุดสูงสุด ..ไม่สุดได้ไงละว้า ก็คิดดูสิ มันมีหนังแนวนี้ออกมาสักกี่เรื่องเชียว ที่ทำให้เหมือนว่าเรากำลังดูการแข่งขันชกมวยที่ถูกคู่

ดูไปแมร่งก็อินไป ยิ่งสนุกก็ยิ่งอยากเชียร์ ..เป็นคนดูนั่งนิ่งๆเรื่อยเปื่อยก็ทำได้ว่ะ แต่หนังเรื่องนี้มันทำให้เราต้องขยับแบบไม่ทันเกร็งเหรี้ยอะไรเลย ...เผลอๆ เดี๋ยวมีตบเข่า ในใจสบถ “Yes, Mom” แปบๆ ก็ดันออกท่าออกทางสู้แทน คิดว่าตัวเองอยู่ในหนังว่ะ แล้วจู่ๆ ก็ร้องเสียงหลงออกมาด้วยความสะใจ เมื่อได้เห็นอะไรที่อยากเห็นในหนังเว้ย

เรียกได้ว่า หนังเรื่องนี้ แมร่งสุดตรีน เลยจริงๆ ..ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นหนังเรื่องนี้ แมร่งล้วนแต่ เกรียนโคตร อย่างที่ชื่อหนังภาษาไทยตั้งเอาไว้สะใจโจ๋จริงๆสิฟะ

แล้วที่เด็ดๆอีกเหนือกว่านั้นก็มีนะเว้ย มันไม่ได้ดูเอามันส์กันลูกเดียวซะที่ไหน.. เพราะเรื่องราวของมันก็แอบทำดรามาว่ะ ยังมีอะไรๆให้ดูเอาซึ้ง ถึงกับมีบางฉากทำให้น้ำตาของไอ้เกรียนคนนี้ที่มันไม่ไหลให้ใครง่ายๆ (ถ้าไม่โดนเหยียบตรีนว่ะ 555+) ต้องเสียไปให้กับหนังเกรียนๆเรื่องนี้ ..แมร่งอดทนมาได้นาน ดูหนังไม่เคยเสียใจ แต่ต้องยอมมาเสียเส้นความเป็นลูกผู้ชายอกสามศอก เพราะคิดถึง ‘พ่อ’ นี่แหละหนา ..รู้ถึงไหน อายถึงนั่นเลยว่ะ กรู!






โอ้ย! แต่นั่นยังไม่ใช่ที่สุดของ Kick-Ass หรอกว่ะ ...เพราะช่วงที่ต้องยกให้เป็นฉากโคตรประทับใจนายเกรียนของจริง ก็คือ ตอนไคลแม็กซ์ เว้ย

ไม่ใช่แค่จะบู๊กันสนั่น ฆ่ากันไม่ยั้งมือ แบบหนังแอ๊คชั่นบ้านๆเขาเป็นกันหรอก ..แต่ที่มากไปกว่านั้น ก็คือ ความสนุกมันสุดขอบ เกินล้ำเส้นที่เคยก้ำกึ่งระหว่าง ความสมจริงสมจัง ล่วงไปสู่ความบ้าระห่ำหลุดโลก ไปแล้วเรียบร้อยว่ะ

การที่ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เป็นสิ่งที่น่ากลัวชิหายในโลกความจริง... แต่ถ้าควบคุมไม่ได้ เพราะดูหนังเรื่องหนึ่งแล้วรู้สึกบ้าไปกับมัน ก็คงต้องถามตัวเองก่อนว่า “นี่ เรากำลังดูหนังบ้าอะไรวะเนี่ย??”

แล้วก็คงจะบ้าตอบกับตัวเองกลับมาว่า “นี่ มันไม่ใช่หนังเฟ้ย แต่มันคือ ยาบ้า ดีๆนี่เอง”

เฮ้ย! ขอบอกก่อนว่า ผมไม่ใช่เด็กเสพยา นะเว้ย ผมก็รักชีวิตเป็นเหมือนกัน ...แต่ที่ Kick-Ass แมร่ง ต้องถูกเปรียบว่าเป็น ยาบ้า เนี่ย ก็เพราะขณะที่ผมกำลังเสพหนังเรื่องนี้อย่างเอาเป็นเอาตายมาร่วมชั่วโมง ถึงจุดนั้น มันก็ได้ออกฤทธิ์ กระตุ้นประสาท ทำให้ร่างกายผมต้องตื่นตัว หัวใจเต้นรัวๆ ระส่ำๆ ด้วยความที่ต้องลุ้นไปกับเรื่องราวที่ปลุกเร้าอย่างเต็มที่ในตอนจบนี่แหละว้า

ตอนที่ผมกำลังบ้าได้ที่นี่แหละวะ ..ตอนนั้น คงมีหลายคนในโรงหนังเดียวกันกับผม แมร่งคงตกอกตกใจ ที่ได้ยินเสียงของใครคนใดคนหนึ่งในที่มืดแห่งนี้ มันได้ร้องแรกแหกกระเจิงออกมาจากปาก กับเสียงที่ตะโกนฟังเป็นศัพท์เกรียนๆว่า “โว้วววววววว!!!” “เยสสสสสสส!!!” “ยาฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮู้!!!” ที่ทำให้โรงอันเงียบสงัดอย่างป่าช้า ได้ครึกครื้นรื่นเริงดังมีปาร์ตี้ฉลองป่าช้าแตกเกิดขึ้นในฉับพลันว่ะ ...แมร่งบ้าไปแล้ว!!!




พูดแต่หนัง ที่แมร่งสนุกโคตรๆแล้ว ก็คงลืมไม่ได้ที่จะต้องป่าวประกาศความเกริกเกรียนของคนแสดงเป็นตัวละครฮีโร่ในเรื่องด้วยล่ะว่ะ ...ก็จะไม่ให้พูดถึงได้อย่างไรเล่า ในเมื่อแต่ละคน แมร่งเล่นอย่างสมจริงสมจังน่าชวนให้ตบเกรียนแตกขนาดนั้น

Kick-Ass ..เมิงอาจจะยังไม่โดดเด่นโดนใจกรรมการนัก ...แต่ถ้าวัดเชิงกันด้วยความกล้า บ้าบิ่น หมิ่นส้นทีน ขอมอบโล่ห์ประกาศเกรียนติคุณไปเลยจริงๆว่ะ (ไม่ได้เอาไปโชว์บนหิ้งนะ ..แต่เอาไว้คุ้มกะลาหัวอันแสนยุ่งเหยิง และบอบบางของเมิงนั่นแหละ 555+)



Hit-Girl ..ขอเป็นกรรมการอีกคนที่โอ๋เด็ก(จนลืมเงาหัวพระเอกเฟ้ย) ..หนู "โคลอี้ มอเรตซ์" ชีเกิด เจิดๆ แรงๆ เล่นซ่าส์ แสบ แบบแก่แดดได้เนียนตาเป็นที่ยิ่ง ...คือ เกรียนรุ่นเยาว์ ผู้ทรงคุณค่าโคตรๆ แห่งปีนี้ที่ต้องจำจด



Big Daddy ..ป๋าหัวเถิกที่เราเคารพ(เลยชอบเอามาล้อ 555+) "นิโคลาส เคจ" สะสมพลังแค้นได้น่าหวั่นเกรียนเป็นที่ยิ่ง ...จนทำให้คิวบู๊ของป๋าท่าน ออกมาคล้ายกับ แบทแมน ชิหายเลยว่ะ (นี่ถ้าแกแมร่งหนุ่มกว่านี้สักหน่อย ..เอาไปเล่นแทน คริสเตียน เบล ได้เลยนะเฟ้ย ..อย่าทำเป็นเล่นไป) แต่ว่างั้นงี้ เล่นแบบนี้ ก็เท่ห์โคตรๆ เลยว่ะป๋า



Red-Mist ..ดูแรก ออกจะเจี๋ยมเจี้ยม แต่ตัวจริงหลังอัพเกรด เล่นได้กวนส้นกรูชะมัดเลยว่ะ ...ใครจำอีตานี่ ที่เล่นเป็นไอ้แว่นแสบใน “Superbad” ได้ รับประกันเลยว่ะ แมร่งยังเกรียนได้อีก!

ถ้าปีที่แล้ว มีทีมฮีโร่ยอดเยี่ยม เป็นของแก๊ง “Watchmen” ไป ..ปีนี้ ก็คงต้องยกรางวัลเดียวกันนี้ให้กับทีมนี้นี่แหละว่ะ เพราะคงแมร่งไม่มีทีมไหนอีกแล้วที่เหมาะสม กับการทำให้ตัวเองมีเอกลักษณ์ แบบที่ไม่อาจมีฮีโร่ในโลกนี้คนไหน บังอาจจะเหมือนได้เท่า

โดยเฉพาะ เรื่องของความเกรียน ..เป็นลิขสิทธิ์ส่วนตัวจริงๆเลยว่ะ อย่าลอกเลียนแบบนะเฟ้ย!






สุดท้ายนี้ ที่เขาเคยบอกกันว่า ดูหนังจบแล้วให้เมิงย้อนกลับมาตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองด้วย.. แมร่งเป็นนิยามที่โคตรจริงเลยว่ะ เพราะหลังจากดู Kick-Ass จบ ผมก็ได้พบว่าตัวเองมีชีวิตที่โคตรทุเรศ อยู่มาได้ทุกวันนี้ ก็เพราะความที่มันไม่เป็นตัวของตัวเอง ..ชิหายจริงๆ ที่หลายปีดีดักมานี้ กรูไปเป็นเหรี้ยอะไรอย่างอื่นที่ไม่ได้ทำอะไรให้ตัวเองมีคุณค่าเอาเสียเลย

ฟังดูเหมือนจะดรามา แต่ก็ต้องดรามาละวะ ..เพราะไอ้ความคิดที่ดูเข้าท่า มั่นใจว่าตัวเองเกิดมาเป็นเด็กเกรียนๆเนี้ย ที่แท้มาคิดดูดีๆ กรูก็แค่หนีความซ้ำซากจำเจของชีวิตตัวเอง เพื่อไปเป็นอะไรที่มีคนอื่นๆอีกแสนอีกล้านคน เขาแมร่งก็เป็นกันอย่างซ้ำซากจำเจอีกเหมือนกัน

สิ่งที่เขาฮิตๆกันเป็น เป็นแล้วจะเท่ห์ เป็นแล้วจะสุโค่ย ..ที่แท้แล้ว แมร่งก็แค่ ความคิดแบบเด็กๆ ที่หลงไปกับความอยากเป็นคนสำคัญในสายตาของคนอื่นไปวันๆ ...โดยที่ไม่ทันได้มองดูตัวเองเลยว่า สิ่งที่เราทำอยู่เนี้ย แมร่งใช่สิ่งที่เป็นตัวเราจริงๆเรอะ?

ความคิดที่อยากเป็นฮีโร่ ก็เช่นเดียวกันล่ะว่ะ... เราก็แค่หลงไปกับกระแสนิยมที่คนหลายหลากในสังคมโสมมวันนี้ พยายามจะออกนอกกรอบ แหกกฎ กล้าจะบ้า จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น เพียงเพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียง มีคนสนใจ ได้ลงข่าวลงคลิป ไว้ฉายประจานความอยากเด่นอยากดัง ...ถึงแม้ไอ้ที่ทำมันจะดูน่ายกย่อง แต่เมื่อมองดูตัวเองหลังจากสิ้นเสียงปรบมือ แล้วทุกคนเดินจากไปทางใครทางมัน สุดท้ายคนที่เจ็บตัวที่สุด ก็ กรู นี่ไง ..สะบักสะบอม เลือดกระอัก ร่างกายคล้ายจะเป็นอัมพาต ดีไม่ดี หากพระเจ้ายังเห็นใจ จัดให้แค่ขาแขนขาด ยังไงกรูก็คงจบชีวิตลงบนรถเข็น กลายเป็นใครสักคนที่ทำอะไรไปเท่าไหร่ ก็ล้มเหลว จวนเจียนให้อยากตายอยู่ดี






ที่พูดอย่างนี้ ไม่ได้หมายความว่า การคิดจะเป็นฮีโร่ เป็นสิ่งที่ผิดนะเฟ้ย ..แต่จากที่ได้ดู Kick-Ass นี่แหละ หนังมันบอกอะไรกับผมบางอย่าง อย่างอ้อมๆ ..ให้ผมได้ลองย้อนกลับมาคิดถึงตัวเองดูอีกสักหน ว่าไอ้การเป็นคนเกรียนๆเนี้ย มันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรอ?

หลายคนอ่านถึงตรงนี้อาจจะไม่เข้าใจผมนักหรอกว่ะ ..แต่ขอให้รู้ไว้เถอะว่า คนเราแมร่งเลือกเกิดไม่ได้เว้ย แต่เลือกจะเป็นอะไรที่มีคุณค่ากับสังคมได้ทั้งนั้น เพียงแต่แมร่งต้องเข้าใจว่าตัวเอง มีความสามารถระดับไหน มีปัญญามั้ย และมีจิตใจหนักแน่นพอจะยอมรับผลกระทบของมันได้หรือเปล่า?

อย่างที่ ซูเปอร์ฮีโร่ ในโลกจินตนาการเขาเป็นกัน ..แบทแมน ก็ฝึกฝนตัวเองให้เก่งการต่อสู้ มีมันสมองพร้อมทุนทรัพย์อันมหาศาลเสริมส่งตัวเองให้เป็นฮีโร่ได้ไม่เหนือบ่ากว่าแรง แล้วที่สำคัญที่สุด เมื่อเขาต้องพบสถานการณ์ที่คนทั้งก็อทแธม รังเกียจ เขาก็ยังหนักแน่นพอที่จะเลือกมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อจะเป็น The Dark Knight ที่ใครๆมองไม่อาจเห็นความดีที่แท้จริง ...แต่เขาก็มั่นใจว่า ที่เขาทำ มันถูกต้องแล้ว

ผมว่าผมโชคดีแล้วล่ะว่ะ ที่เกิดมาเป็นเจ้าของชีวิตที่ไม่มีปมแค้น ไม่ได้โดนอาชญากรเหรี้ยๆที่ไหนเล่นงาน แล้วก็ได้ใช้เวลาแห่งความเป็นวัยรุ่นได้คุ้มกว่า คนที่เลือกจะมีภาระอย่างซูเปอร์ฮีโร่ เขาเป็นกัน

ในเมื่อทุกวันนี้ ชีวิตอยู่ดีมีสุข การประพฤติตัวอยู่ในกรอบ ก็ทำให้เลี่ยงจะไปพบเจอเรื่องเหรี้ยๆให้เดือดเนื้อร้อนใจเล่นๆ มาได้ตลอด ..แล้วกรูจะต้องการอะไรอีกละวะ

“With no power comes no responsibility” ..ในเมื่อเราไม่มีพลังพิเศษ เราก็ไม่ต้องมีความรับผิดชอบใดๆสิวะ จริงมั้ย? ไอ้เดฟ

หมดเวลา เกรียน แล้ว.. ได้เวลาให้ เกียรติ ตัวเอง ด้วยการเป็นตัวของตัวเอง อย่างที่เคยเป็นต่อไป ...ซึ่งถึงบางครั้ง คนอื่นจะบังคับขู่เข็ญให้เราต้องเป็นอย่างงั้นอย่างงี้กันบ้าง แต่เขาก็คงมองออกว่าที่อยากให้ทำ ก็เพราะมันเป็นประโยชน์ต่อเรานี่แหละเว้ย!

แล้วก็จงเข้าใจเสียที ว่า เกรียน ไม่ใช่การทำอะไรที่เอาแต่ใจตัวเอง ให้มีเราเป็นศูนย์กลางจักรวาล ..แต่แท้ที่จริง มันก็คือทรงผมของวัยรุ่น ที่สุภาพ แสดงออกถึงความมีสัมมาคารวะ นอบน้อม และเชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่ด้วยใจที่บริสุทธิ์

จะเกิดเป็นเกรียนทั้งที ขอให้เป็นอย่างหลัง จะดีกว่ามั้ย? วัยรุ่น!

ด้วยความฝักใผ่ และกราบตรีนท่านผู้ใหญ่ จากใจ...
นายเดฟ ‘เด็กเคยเกรียน’








“Kick-Ass” ... นี่แหละ ความบันเทิงที่คุ้มค่าตั๋วโดยแท้จริง ..หนังซูเปอร์ฮีโร่หัวขบถที่สนุกอย่างถึงที่สุด จนไม่อาจหยุดตัวเองให้นิ่งขึงกับเก้าอี้ในโรงหนังไว้ได้อยู่

ผมขอเชียร์ให้ไปดูยิ่งๆ สำหรับใครก็ตามที่ยังรู้สึกว่าตอนนี้ ชีวิตกำลังขาดความบันเทิงไปเป็นอย่างมาก

ให้หยุดตัวเองจากการเสพข่าวคราวบ้านเมืองสักแปบ แล้วแวบเข้าโรงหนังมาเสพยาบ้า ชนิดที่ไม่ทำลายประสาท แต่ระเบิดความเครียดกระจุยกระจาย ชิหายวายป่วงได้จริง ..ของเขา แร๊งงงงงง ขอคอนเฟิร์ม!




ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง...ครับ

เกรด A ... {}




หมายเหตุ : บทความรีวิวของ Kick-Ass ไม่ได้จบลงแต่เพียงเท่านี้เสียทีเดียวครับ ..เตรียมพบกับเวอร์ชั่นเรต ท ที่เบาลงด้วยภาษา และไร้ซึ่งเนื้อหาความรุนแรง พร้อมด้วยมุมมองของหนังเรื่องนี้ จากใจ ‘เด็กเนิร์ด’

อีกไม่ช้านาน พบ(อีกภาคหนึ่ง)กันได้ที่ “ห้องเฉลิมไทย ณ พันทิพ” ครับผม







ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ


ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน
ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ




Create Date : 04 พฤษภาคม 2553
Last Update : 4 พฤษภาคม 2553 1:25:59 น. 9 comments
Counter : 3153 Pageviews.

 
ก๊ากๆๆ ลีลาเขียนเกรียนได้ใจมากครับทั่น

ผมว่าหนังเรื่องนี้โคตรโดนแล้วนะ เจอรีวิวเกรียนๆ แบบนี้ยิ่งโดนเข้าไปอีก คิดได้ไงครับเนี่ย ไอ้มุกรีวิวเกรียนเทพแอบเห่ยแบบนี้ ขำก๊ากๆๆ เลย

ผมว่าเอาลงเว็บทั้งสองเวอร์ชั่นเถอะ ถ้าจะลงแค่เวอร์ชั่นเรทเบาๆ มันเหมือนเข้าไม่ถึงหนังแบบในรีวิวนี้เลยครับ

หนังเรื่องนี้มีปัญหาเดียวคือ คนส่วนใหญ่มักตัดสินจากหน้าหนังจนไม่ได้ไปดู เลยจบเห่เอวังในบ็อกออฟิสจริงๆ ไม่งั้นเราอาจจะได้หนังซูเปอร์ฮีโร่แนวใหม่มาเก็บแบบไตรภาคแท้ๆ เสียดายจริงๆ

ปล. ตอนนี้หนังออกจากโรงส่วนใหญ่ไปแล้วนะครับ ลงในเว็บก็คงหาคนไปดูได้ยาก


โดย: Cookiefish IP: 202.57.179.195 วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:4:34:29 น.  

 
แวะมาอ่านผ่านๆนะคะ เพราะรู้ว่าต้องรีบหามาดูให้ได้แน่ๆ (มีชีวิตอยู่กับ ดีวีดี ไม่ใช่โรงหนัง)

ฟังกันมาหนาหูแล้ว ว่าเจ๋งนักหนา

ยิ่งมาอ่านบล็อคนี้ มั่นใจได้ว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปแน่ๆเลย

ปอลอ ฝากความระลึกถึง ถึงเฮียกัมพ์ด้วยนะคะ


โดย: Shallow Grave วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:32:19 น.  

 
กุดมอร์นิ่ง ทักทายตอนสายๆ จ้า :)^^


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:00:12 น.  

 
ทำไมต้องใช้ภาษาแบบนี้ด้วยวะแสดดดด คิดว่าเป็นเกรียนแล้วต้องใช้ภาษาหยาบคายเพื่อความเท่รึไงแสดดดดด อ่านแล้วมันขัดหูขัดตาชิบหายเลยแสดดดดด 555


ว่าแต่จขบ. เข้าใจผิดไปนิดนึงรึเปล่าครับ? ตรงที่ว่า

“With no power comes no responsibility” ..ในเมื่อเราไม่มีพลังพิเศษ เราก็ไม่ต้องมีความรับผิดชอบใดๆสิวะ จริงมั้ย? ไอ้เดฟ

...ลืมที่ไอ้เดฟมันพูดต่อท้ายว่า....except, that's not true (เพราะการไม่มีพลังอำนาจ ก็หมายความว่าไม่ต้องรับผิดชอบ...ซะที่ไหนล่ะ)

ต่อให้นายเกรียนเทพ หรือบ้านไม่มีปัญหา หรือมีปัญหาอะไร นายก็ยังต้องรับผิดชอบสิ่งที่นายเป็นอยู่ดีว่ะแสดดดดดดด


โดย: กลุ่มคนเสื้อสีแสดดดด (CARAGIO ) วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:16:03 น.  

 


โดย: Scorchio วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:14:27 น.  

 
กำลังจะไปดูเหมือนกันครับ ขอไม่อ่านนะ


แต่เห็นหายไปนานเลยมาถามเรื่อง DVD หนังที่ผมได้รางวัลน่ะครับ



ไม่ได้ทวงนะครับ

แต่มาแจ้งให้ทราบว่าผมยังไม่ได้รับ เผื่อว่าส่งมาแล้วมันหายสาบสูญ


โดย: navagan วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:56:58 น.  

 
CARAGIO ->

ตอบแบบคนปกติ : เฮ้ย! ลืมไปอ่ะ ขอบคุณที่บอกกล่าวครับ

ตอบแบบเกรียน : อะไรกาน! ตั้งใจไม่ให้มีอยู่แล้วเหอะ ..ไม่งั้นมันก็ไม่ได้ใจความ อย่างที่อยากให้สื่อออกมาดิ ไม่ใจเลย!

คุณจะเชื่อคำตอบอันไหนครับ


โดย: OncE UPoN'-'a MaN วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:02:11 น.  

 
ชอบแนวนี้มากกกก ต้องหามาดูละค่ะ เพราะกะว่าจะไปดูหนังโรงแต่คงไม่ทันละอาทิตย์นี้










โดย: puy_naka63 วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:32:20 น.  

 
ตื่นเต้นสุดๆ กับเรื่องนี้ ชอบตรงที่พระเอกเป็นคนธรรมดาอย่างไง ก็ยังเป็นคนธรรมดาอยู่วันยันค่ำ ไม่อาจจะเก่งได้เพียงไม่กี่วันเหมือนหนังจีนทั่วๆไปอ่ะ


โดย: thip IP: 61.90.116.100 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:56:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

OncE UPoN'-'a MaN
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์

คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี
พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ
พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา
พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!)

ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว

ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก

ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ

once_upon.a.man@hotmail.com


My @ http://twitter.com/once_upon_a_man

ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่าน

ผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย

ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน

ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ

OncE UPoN'-'a MaN on Facebook
Blog ใหม่ล่าสด..สด
"VieTrio & Friends" ... เพื่อนร้อง พี่น้องเล่น เป็นเพลงเพราะเสนาะหู
"Lady Antebellum : Need You Now" ... ลูกทุ่งแบบมะกัน แต่สีสันระดับโลก
"The Social Network" ... วันนี้ คุณรู้จัก Facebook ดีพอแล้วหรือยัง?
"Harry Potter and the Deathly Hallows : Part I" ... ฉันต้องเปิด เพื่อจะปิด!
"Scrubb : Kid" ... คำตอบของเพลงอินดี้ที่ฟังง่าย อยู่ในอัลบั้มนี้แล้ว
"Due Date" ... รวมกันเราต้องอยู่ (กรุณา)อย่าทิ้งตูเป็นอันขาด!!?
"B.o.B. Presents: The Adventures of Bobby Ray" ... อาจเป็นฮิปฮอปหน้าใหม่ แต่ไม่ขอยึดติดความฮิป
"RED" ... โตอย่างสมวัย แก่อย่างมีคุณภาพ และจงระห่ำอย่างไม่เหลืออะไรจะเสีย!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... (หนังสั้น)แบบตัวเต็ม ที่ไม่มีอะไรมากมาย แต่ก็ยังมีความจริงใจ!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... กับตัวอย่างน้ำจิ้ม ของหนังสั้นที่คงจะมีอะไรๆอยู่ในนั้น
"อินทรีแดง" ... สมศักดิ์ศรีที่ได้กลับมา ..วีรบุรุษที่หนังไทยต้องการ!
"ชั่วฟ้าดินสลาย" ... เมื่อคำ “รัก” มีค่าเท่าคำว่า “ร้าย” คงทำลายคนทั้งหลายให้วายวอด
"Resident Evil : Afterlife" ... สงครามยังไม่จบ ยังต้องนับศพซอมบี้จนเบื่อกันไปข้าง!!
"Lula : Twist" ... เพลงฟังชวนเพลิน จากคนเพลินๆ ที่ชื่อ 'ลุลา'
"Piranha 3D" ... กัดกระจุย เลือดกระจาย สามมิติกระเจิง!!!
"CHARICE" ... เพชรน้ำงามเม็ดเล็กแห่ง ‘เอเชีย’ ที่คู่ควรกับการเจียระไนโดย ‘อเมริกา’
"กวน มึน โฮ" ... ความรัก อาจแพ้บ้างอะไรบ้าง แต่ ความ ‘เห็นแก่ตัว’ เอาชนะได้ทุกสิ่ง!
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add OncE UPoN'-'a MaN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.