+-+ OncE UPoN'-'a MaN +-+ รักนะ.. คนอ่าน เข้ามาดู.. โดนใจ ออกไป.. อย่าลืมกัน
Summary for Best of the Year 2012 ..Please CLICK!!
"อีติ๋มตายแน่" ... เมื่อ 'นมอุโด๊ส' ฟิวชั่น 'ยุทธเลิศ' ..ให้บังเกิดความจริงใจ และหนังดี



ดูท่าว่าน่าจะเป็นหนังตลกเอาฮาก็อาจได้ ..ถ้ามอง "อีติ๋มตายแน่" เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่มีเจ้าพ่อเดี่ยวไมโครโฟน "โน้ส-อุดม" รับบทเป็นพระเอกชูโรง ...และการปล่อยตัวอย่างเรียกน้ำย่อยออกมาเป็นหนังล้อหนัง (ที่พี่โน้สแกโดนทุเรียนซัดแหนมตุ้มจิ๋ว ..รวดร้าวเสียยิ่งกว่าสายลับรหัสตัวเลข คนที่แบบอย่างซะอีก!!!) ซึ่งในมวลรวมของหนังไทยทั้งหมด ยังไม่มีใครกล้าทำจริงทำจังสักราย ..แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความคาดหวังจากแควนๆพี่ท่าน

แล้วเมื่อได้บวกกับการผิดแผนที่แต่เดิมคิดจะทำหนังล้อหนัง เป็นอันต้องล้มเลิก เนื่องด้วยทุนสร้างไม่เอื้ออำนวยด้วยละก็ ..คงจะเรียกว่า เป็นความผิดหวังครั้งหนึ่งของแวดวงหนังไทยก็อาจได้ ที่อดเห็น "Scary Movie" ในแบบของเรา (ขออย่าเอาไปคิดถึงตระกูล "Epic Movie" ของคนละทีมผู้สร้าง..ที่แอบอ้างเครดิตถึงกันเป็นพอ)

แต่ผมก็ไม่ได้ยี่หระใดๆกับกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างนี้ (แม้ก็อดเสียดายไม่ได้ ที่ความคิดครั้งนู้น ก็นับว่าเข้าท่าเข้าทีอยู่) ..มิหนำซ้ำ ด้วยทุนสร้างสิบกว่าล้าน และการลดความใหญ่ของเนื้องาน ให้กลายมาเป็น หนังรักตลกปนอารมณ์ส่วนตัวในสไตล์แบบดมๆ ก็ช่างดูจะปราณีปราศรัย เอื้อประโยชน์ให้กับตัวผู้กำกับบันเทิงแนวอย่าง "ยุทธเลิศ สิปปภาค" ด้วยอีกต่างหาก



จากที่แต่ก่อนแรกเริ่ม จะคิดทะเยอทะยานมุ่งสู่การทำหนังตีหัวเข้าบ้าน(ในระยะหลังๆ นับตั้งแต่ "บุปผาราตรี 2") ..พี่ต้อม ยุทธเลิศ ก็เคยได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงสูง ผู้เป็นเจ้าของผลงานหนังที่นอกจากจะจ๊าบ เจ๋ง มีแนวทางของตัวเอง ไม่เหมือนใคร ก็ยังเป็นได้ทั้งความสนุก และน่าจดจำ ไปพร้อมๆกัน อย่างที่พิสูจน์ได้จาก "มือปืน โลก/พระ/จัน" หรือ "บุปผาราตรี"

ขณะที่เรื่องแรกได้น้ำพักน้ำแรงคณะตลกซูเปอร์สตาร์ (และประโยคที่ฮิตติดปากไปทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง "This is a Book") มาช่วยผลักดันไปถึง 100 ล้าน (ถ้าคิดว่า นี่คือผลงานเรื่องแรกแล้ว ..ก็เป็นก้าวแรกที่เดินได้ไกลมากๆสำหรับผู้กำกับหนังไทยสักคน) ..ส่วนเรื่องหลัง ก็มาจากเครดิตของตัวเองส่วนหนึ่่ง บวกกับปากต่อปากที่เล่าลือว่า สยองปนฮา ได้อย่างมีชั้นเชิง และใช้หัวคิดเยอะ เท่าที่หนังผีตลกของบ้านเราเคยทำกันมา

แม้ในความเป็นจริง ผู้คนส่วนใหญ่อาจจะยกย่องให้ มือปืน และบุปผา เป็นที่สุดของงานยุทธเลิศ ที่อยู่ในขั้นมาสเตอร์พีซ..ที่ผมก็ยอมรับว่ามันคือความจริงเช่นเดียวกัน ...หากแต่ถ้าให้ถามถึงความชอบส่วนตัวที่มีต่อหนังของพี่ต้อมสักเรื่องอย่างมากที่สุดแล้ว ผมกลับคิดถึง "สายล่อฟ้า" มากกว่าเรื่องอื่นใดซะงั้น

ถึงใครๆจะบอกว่า มันลอกเลียนสไตล์ของหนัง 'กาย ริชชี่' ที่สร้างเรื่องโอละพ่อให้มาเกิดเป็นกงกรรมกงเกวียนหมูนเวียนกันไป ..หรือว่าใครๆจะบอกว่า มันมัวเน้นแต่ขายความตลกโปกฮา ผสมโรงกับความหยาบคาย (กระทั่งชื่อตัวละคร ก็ล้วนแต่ เป็น 'สัตว์' ทั้งนั้น) ...แต่ผมกลับรู้สึกจับต้องได้ด้วยเสน่ห์ของความง่าย แต่คิดเยอะ อันอยู่บนพื้นฐานที่เป็นตัวของพี่ต้อม ซึ่งไม่ว่าจะใน มือปืน หรือ บุปผา ต่างก็เคยมีเหมือนกัน ..หากแต่มันยังไม่ได้มาพร้อมความจริงใจ เท่าท้องเรื่องของหนุ่มนักเล่นพระ ที่ไปตกหลุมรักกะกิ๊กเจ้าพ่อใหญ่ ที่ก่อนหน้าจะมาถึงจุดจบอันแฮปปี้ ก็พานพบแต่บทพิสูจน์ความรักที่แสนทุลักทุเล ..และแม้ทั้งๆที่รู้ว่าบางอย่างมันจะดูติ๊งต๊อง เพ้อเจ้อ แต่ผมก็มองว่ามันเป็นลูกบ้า ในแบบฉบับของยุทธเลิศ ที่อาจลอกงานคนอื่นเขามา แต่พอทำจริงๆ ก็ให้รู้สึกว่ามันไม่เหมือนใครไปซะงั้น

ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะด้วยความที่ผมคิดถึง สายล่อฟ้า (และมีบ้างที่แบ่งปันไปยัง มือปืน บุปผา และ 'กุมภาพันธ์') ..คิดถึงหนังของพี่ต้อม ที่ชอบทำเหมือนๆคนอื่น แต่เปลี่ยนแปลงรายละเอียดให้เป็นความคิดของตัวเองไปเสีย ..อีกทั้งยังคิดถึงฝีมือคุณภาพ ที่ทำได้ทั้งหนังสนุกบนความบันเทิง ปนๆกับส่วนของสาระที่เข้มข้น แต่ก็ไม่เครียดจนเกินเลย ...จึงทำให้หนังเรื่องต่อๆมานับจากนั้น กลายเป็นเรื่องที่ไม่ผิดประเด็นใดประเด็นหนึ่งในที่นี้ ก็ต้องเป็นความผิดมหันต์กับการทำงานประเภทตีหัวเข้าบ้าน (ตามใจนายทุน) ที่สุดท้ายก็ล้วนแต่กลายเป็นหนังที่เลอะและเละ จนไม่เป็นเรื่องอันน่าจำแต่อย่างใด



แม้กระทั่งกับงานล่าสุดที่พี่ต้อมบอกหนักบอกหนาว่า "รัก|สาม|เศร้า" เป็นหนังที่เขาอยากทำมันด้วยหัวใจมากที่สุด ..แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ไม่อาจเอื้อมจะอินกับสิ่งที่เขาต้องการนำเสนอได้เต็มที่ ซึ่งต่อให้แม้ว่าตัวเปลือกจะซึ้งอย่างที่เจตนา แต่เอาลึกๆถึงหัวใจ ก็ยังรู้สึกว่า ความเป็นยุทธเลิศตัวจริงเสียงจริง คืนมาได้ไม่ครบถ้วนอยู่ดี

ฉะนั้นแล้ว ถ้าผมจะต้องยอมขอเสี่ยงฝากความหวังเอาไว้ให้กับหนังของยุทธเลิศอีกสักเรื่องกันจริงๆแล้วละก็ ...สิ่งสำคัญที่ถือเป็นสิ่งเดียวที่ผมต้องการจากผู้กำกับคนนี้ ก็คือ การกลับมาเหยียบแท่นผู้กำกับที่มีคุณภาพได้อย่างเต็มตัวอีกครั้ง กับหนังเรื่องนั้น ที่จะพิสูจน์ว่าเขาพร้อมแล้วที่จะกลับมาเป็น ยุทธเลิศ สิปปภาค คนเดิมที่เราเคยรู้จักเมื่อสมัยที่ก่อร่างสร้างความดัง เพียรสะสมจนเปี่ยมล้นไปด้วยความไว้ใจ

และแล้วในที่สุด การผิดแผนของ อีติ๋ม ที่จำใจต้องเปลี่ยนแปลงอย่างจำเป็น ก็ยังผลให้สิ่งที่ผมเฝ้ารอ ได้เกิดให้เห็นเป็นสิ่งที่ประจักษ์ตาสักทีว่า ...พี่ต้อม ที่ผมรัก เขากลับมาแล้ว!!!



"อีติ๋มตายแน่" ..เล่าเรื่องของผู้ชายธรรมด๊า ธรรมดา คนหนึ่งนาม "ตึ๋ง" ซึ่งเป็นคนที่ดูแต่ภายนอกแล้ว หากจะหาว่าเพี้ยนก็ใช่ จะด่าว่าบ้าก็ไม่เชิง ..หากแต่ภาพลักษณ์เบื้องหน้าที่มันทำตัวไม่น่าคบค้าสมาคมให้ขัดตา แต่ความจริงในหัวใจดวงน้อยๆของมันกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกหงอย เหงา เศร้า เซ็ง ที่ชีวิตไอ้หนุ่มนักโชว์(กะเช้า..เป็นไกรทอง ตกมืด..เป็นมวยไทย) ไม่ได้มีความสุขอยู่บนกองเงินกองทอง เหมือนกับนักท่องเที่ยวที่มุ่งตรงมาหาความสุขสันต์ให้กับชีวิตที่ 'พัทยา' แห่งนี้

แต่กระนั้น เรื่องของปัญหาความจน บนสภาพอับโชค ก็ยังไม่อาจจะเทียบเท่าได้กับ อีกหนึ่งเรื่องของหัวใจดวงน้อยๆ ที่กำลังเรียกร้องหาความรักจากผู้หญิงสักคน.. ที่ถึงต่อให้ก่อนหน้าจะคิดรักใคร ก็มีแต่ไอ้ตึ๋งจะพยายามทำตัวเสแสร้ง ไปชิงบอกเลิกกับใครต่อใคร ทั้งๆที่ยังไม่เริ่มสายสัมพันธ์ใดๆให้ใจได้เริงร่าก็ตาม หากแต่ลึกๆแล้ว มันก็แค่ต้องการเอาชนะความกลัวที่ตัวเองจะเจ็บปวด ก่อนจะได้ลองรักกับใครสักคนที่เฝ้ารอ เพียงเท่านั้น

จนแล้วเมื่อ ไอ้ติ๋ง ได้เพิ่งจะลองประสบรักแรกพบเข้าจังเบอร์กับหญิงสาวชาวยุ่น "อิเตมิ" ที่หลงใหลในมวยไทย และ(อยากมีแฟนเป็น)นักมวย ..เรื่องของความกลัว ก็หมดความหมาย พร้อมงัดไม้ตาย ด้านได้อายอด เอามาเสริมพลังกล้า ซัดหมัดฮุคที่ปลายคาง และยัดเยียด อีติ๋มผู้นี้ ให้กลายมาเป็นของรักของตัวเองได้เพียงในเวลาไม่นานวัน

แต่แล้ว ในเวลาอีกไม่นานวันหลังจากเริ่มรักกัน ..ก็บังเอิญให้ อีติ๋ม ได้มาทำความรู้จักกับ "ฟ้าสะท้าน" นักมวยอีกคน ที่มีศักดิ์และศรี ดูดี และดูใหญ่กว่าใครในพัทยา ทั้งยังจะมีดีกรี เป็นไอดอลตัวจริงเสียงแท้ของนักมวยระดับต๊อกต๋อยเช่น ไอ้ตึ๋ง อย่างถอนตัวไม่ขึ้นด้วยอย่างนี้แล้ว ..ก็พาให้บังเกิด ศึกรักสามเศร้า ขึ้นมาด้วยความตั้งใจ (ที่ฝ่ายหนึ่ง.. ต้องการเย้ยหยัน... และอีกฝ่าย ..ต้องการทวงของรักคืน)



จากพล็อตเรื่องในเบื้องต้น เท่าที่คิดค้นขึ้นมาได้ด้วยหัวสมองของอีกหนึ่งอัจฉริยะทางด้านการสร้างเสียงหัวเราะของประเทศไทย ในภาวะที่หนังต้องเดินเครื่องเร่ง เตรียมเปิดกล้องให้เร็วที่สุด (เมื่อวัดจากช่วงสิ้นสุด 'เดี่ยว 7' ในเดือนมีนา ยันมาถึงเดือนตุลา เวลานี้ก็นับได้เพียง 6 เดือน) ..สิ่งที่เป็นไปใน อีติ๋ม ก็คงไม่ต่างจากพล็อตหนังชิงรักหักสวาท ด้วยเชิงกีฬา อีกนับหลายเรื่อง ที่รวมๆกันกับอารมณ์หนังตลกร้าย ที่สร้างมลภาวะของเรื่องราวให้ดูขบขันบนความเจ็บปนแสบ ตามแบบฉบับที่พี่โน้ส ควรจะถนัดนักกับเรื่องแนวๆนี้

แต่ถ้ามองอย่างละเอียด ว่านี่คือ งานเขียนบทชิ้นแรกที่พี่เขาได้ฝากเอาไว้ในแวดวงหนังแล้วละก็ ..ย่อมถือว่ามันเป็นครั้งแรกที่ทำออกมาได้ดีอย่างน่าจดจำ ...และถึงจะยังสะดุดเอาให้กับปัญหาบางอย่างที่ถือเป็นข้อจำกัดในเรื่องการสร้างความประทับใจ (ก็คงจะด้วยการที่ติดความขึ้เล่นของตัวเองมากไปหน่อย)

แต่มันก็พอจะอภัยกันได้ เมื่อเรื่องของความล้ำลึก แฝงนัยเสียดสีสังคม ทำออกมาได้สมกับคนชื่อ โน้ส ยันไปถึงปมประเด็นที่เขาผูกเอาไว้ แล้วสุดท้ายก็กลับมาขมวดให้จบลงได้ซึ้ง พอจะเค้นๆน้ำตาให้ไหลออกมาได้อยู่ ..และที่สำคัญ ความรู้สึกทุกอย่างจากตรงนี้ มันมาพร้อมกับความจริงใจ

ซึ่งถึงแม้ว่า งานนี้ จะไม่มีชื่อของ ยุทธเลิศ ยืนพื้นในฐานะของคนเขียนเรื่องอย่างที่เคยเป็นมาแต่ไหนแต่ไร ..หากส่วนของอารมณ์ และความรู้สึกอันถ่ายทอดจากบทหนังอีกต่อหนึ่ง ยังแทบจะล้วนแต่มีความเป็นยุทธเลิศ ปกคลุมอยู่ในนั้น เสมือนว่า พี่ต้อมเข้าสิงพี่โน้สให้คิด ให้เขียนออกมาแทนกันได้เลย ..และนี่แหละก็คือหนังบันเทิงฉบับพี่ต้อมของจริงที่ผมต้องการ

ฉะนั้นแล้ว อานิสงส์ความน่าจำของตัวบท ก็คงต้องขอบคุณไปถึงงานกำกับจากพี่ต้อมอีกด้วย.. ที่คราวนี้ทั้งดูไม่ฝืน ปลดปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินและเล่าของมันเอง ให้เป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ และไหลลื่น ...ทั้งยังทำให้เรารู้สึกและสัมผัสได้ถึงตัวตนของคนในหนังเสมือนว่าเขาเป็นเพื่อนที่เรารู้จักคุ้นเคยกัน



เมื่อหากเทียบกับ รัก|สาม|เศร้า ที่ก็มีพื้นฐานเหตุการณ์ที่เป็นความจริงเช่นกันแล้ว ..ได้ทำให้เห็นความต่างอย่างชัดเจน ในส่วนที่เป็นความละเมียดละไม ..ซึ่งหนังเรื่องที่ว่านั้น ยังไม่สามารถจับใจให้เราเชื่อได้อย่างที่ควรจะเป็น (แม้ถึงต่อให้เรื่องราวของความรักในครานั้น จะใกล้ตัวผมมากกว่า ..ก็ยังชวนรู้สึกว่า บางครั้งบางเหตุ มันก็ดูเฟคๆชอบกล)

บทบาทการแสดงหนังของพี่โน้สผู้นี้ อาจจะไม่ได้ดูโดดเด่น น่าจับตามอง มาแต่ไหนแต่ไร รวมไปถึงการเป็นใครที่ไม่ได้มีชื่อว่า โน้ส ครั้งล่าสุด กับคาแรกเตอร์ "ไอ้ติ๋ง" ก็ยังคงจะติดความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเด่นชัดมากกว่าภาพใดๆอยู่เสมอ.. แต่เมื่อบทที่พี่ท่านเขียนขึ้นมากับตัวเอง ก็ไม่ได้มีความต้องการจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาเป็นอยู่แล้วด้วยต่างหาก จึงทำให้เราเกิดความรู้สึกรู้เชื่อในการเป็น ไอ้ติ๋ง ได้มากกว่าบทสามีที่ไม่รู้ค่าเมียใน "โคตรรักเอ็งเลย" หรือกระเป๋ารถเมล์จอมเสี้ยมใน "เมล์นรก หมวยยกล้อ"

และความเป็นตัวของตัวเองก็คือ อาวุธที่ทำให้เราได้หัวเราะกับมุขขำๆสไตล์ของอุดมอย่างเต็มที่ ในขณะเมื่อเป็นฉากดรามาที่่หวังผลจะแย๊บๆหัวใจคนดู ก็ทำออกมาได้พอดี ไม่ฟูมฟายเกินไป และพอเพียงจะทำให้เราเข้าใจ เห็นใจ ในตัวไอ้ตึ๋ง ที่มีต่อตัวอีติ๋ม ณ เวลานั้น ในฉากนั้นเพียงฉากเดียว (คนที่ดูแล้วคงรู้ว่าผมหมายถึงฉากไหน?)

ซึ่งสำหรับใครที่คาดหวังว่า นอกจากจะได้สนุกกับความขำๆแบบพี่โน้ส ทั้งจะได้ควบคู่ไปกับความอิ่มเอมปลาบปลื้มในตัวสาวยุ่น "อาซีกะ" ด้วยละก็ ขอบอกว่าอาจผิดหวัง ..แต่สำหรับผมแล้ว อีติ๋มผู้นี้ถือว่า มีบทบาทอยู่ในหนังมากเพียงพอที่จะสร้าง ความรู้สึกอันน่าผิดหวัง(เรื่องอะไร? ..ต้องไปดูเอา) ในช่วงท้ายได้อย่างสมควรแล้ว

และอีกเรื่องที่ต้องบอกกันตามตรง ณ จุดนี้ ก็คือ หนังเรื่องนี้ ชื่อ อีติ๋มตายแน่ ...แต่ไม่ได้หมายความว่านางเอกของหนัง(ตัวจริง)จะต้องเป็น อีติ๋ม เสมอไป??? (หากทั้งหมดที่เป็นการโฆษณาสรรพคุณ ก็แค่การตลาดหวังผลระยะมากเท่านั้นเอง)



สรุปถึงจุดนี้ก็คงจะรู้แล้วว่า "คริส หอวัง" (นางเอกที่ทำการโปรโมทเหมือนเป็นนางรอง) ..ไม่ได้สำคัญแค่การออกมาพูกม่ายชัก เป็นตัวโจ๊กฆ่าเวลาเพียงอย่างเดียว ...หากแต่เธอมีผลต่อการเดินเรื่องในช่วงท้ายแทบจะทั้งหมดทั้งสิ้น ..และบทบาทการเป็นใครคนอื่นครั้งแรกของเธอในที่นี้ ก็ถือว่า สอบผ่านด้วยคะแนนในเกณฑ์ที่ดีอีกด้วย

"อีติ๋มตายแน่" ...อาจจะไม่ใช่หนังขายขำพันธุ์แท้ แบบที่ชาวบ้านร้านตลาดจะถูกอกถูกใจโดยทั่วกัน หากมันได้ผสมเรื่องรักและตลกเล็กๆ มากลมกลืนกับดรามาเสียดสีสังคมเอาไว้ให้ยากยุ่งอีกน้อยๆ ..แต่สำหรับผมแล้ว นี่ถือเป็นหนังขายบันเทิงพันธุ์แท้ ที่ได้ทั้งการดูเอาสนุก และเพลินๆกับความเป็นธรรมชาติ ที่พร้อมจะจบลงด้วยการส่้งเราออกจากโรงด้วยความรู้สึกดีๆ เรียกได้ว่า ถ้าไม่คิดมากมายแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียดายอย่างชัดเจน เหมือนเช่นหนังยุทธเลิศ ใน 3-4 เรื่องให้หลังมานี้

ทั้งนี้ที่แสนจะแน่ใจยิ่งกว่า.. นี่คือหนังที่ควรแก่การจะเรียกเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มจากคอหนัง มากกว่าว่าที่ร้อยล้าน อย่าง "หลวงพี่เท่ง 2" ได้อย่างแน่นอน ...ผมขอ 'คอนเฟิร์ม!'


ขอแนะนำ...ครับ

เกรด A- ... {}

"สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนังได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน"




ส่วนที่เป็นฟอนท์สี เขียว-แดง เพิ่มเข้ามา... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี(เขียว)-ดูด้อย(แดง) ของหนังแต่ละเรื่องครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมทำไฮไลท์ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกัน

ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ


ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน
ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ



Create Date : 14 ตุลาคม 2551
Last Update : 14 ตุลาคม 2551 3:43:49 น. 7 comments
Counter : 2906 Pageviews.

 
ท่านต้อม ยุทธเลิศ ไม่รู้ติดใจอะไรกับพัทยาเน๊อ!
หนังเรื่องก่อนที่ชื่อ สายล่อแฟนของพี่บอล (ภารดร)
หรือเรียกอีกชื่อว่า "สายล่อฟ้า"
ก็เลือกพัทยาเป็นสถานที่ดำเนินเรื่อง


เรื่องอีติ๋มนี่ นี่มุกตลกเสียดสีท่านผู้ทรงเกรียติค่อนข้างจะถูกใจผมมาก ยิ่งมุกนักพากษ์มวย (ตอนจบ) นี่ผมฮาคนเดียวเลย
เพราะว่าโรงหนังที่พัทยานั้น ไม่มีใคร get ที่ไม่ get ก็เพราะส่วนใหญ่จะเป็น ฝรั่งกะเมียฝรั่งน่ะ


โดย: merf1970 IP: 115.67.206.195 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:6:41:38 น.  

 
เดี๋ยวไปดูแล้วจะกลับมาอ่านอีกทีนะคะ ^^


โดย: iSIs_OsiRis วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:12:34:47 น.  

 
อยากดูๆๆๆ

OoO

กล้ามาก!!!

ฉากที่เล่นกับจระเข้ น่าจัว~


โดย: เด็กน้อยขี้แย วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:18:32:38 น.  

 
เข้ามาบล็อกนี้ด้วยความรู้สึกหลายอย่าง
1 ชอบแนวเขียนของ จขบ.
2 อยากจะรู้เรื่อง "อีติ๋มฯ"
3 ชอบโน้ส
4 หาความมั่นใจก่อนเสียตังค์

แต่พอเข้ามาจริง ๆ ...ไม่ค่อยกล้าอ่านค่ะ
กลัวรู้เรื่องก่อน แล้วจะไม่สนุก
เอาเป็นว่า อ่านไปแล้วบางส่วน
แต่ที่เหลือจะเข้ามาอ่านอีกรอบ
หลังจากไปจ่ายค่าตั๋วเรื่องนี้แล้วนะคะ


^ ^


โดย: โสดในซอย วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:19:10:55 น.  

 
+ แหะๆ ของพี่ มีอคติกับคุณโน้สเป็นส่วนตัว ก็เลยกะว่าคงจะบายหนังเรื่องนี้อ่ะครับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:19:14:12 น.  

 
ขออนุญาตเห็นด้วยกับคำที่ว่า

"พี่ต้อมที่ฉันรัก กลับมาแล้ว" ค่ะ


ตอนนี้ อีติ๋มตายแน่ กลายเป็นหนังเรื่องแรกที่จะนึกถึง เมื่อพูดถึงยุทธเลิศค่ะ ^^





โดย: ยิ่งยง นั่งยองยอง วันที่: 19 ตุลาคม 2551 เวลา:2:12:36 น.  

 
อยากรู้ว่าเรื่องนี้ออกโรงวันไหนหรอ


โดย: คนเก่ง IP: 125.25.13.27 วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:21:52:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

OncE UPoN'-'a MaN
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์

คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี
พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ
พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา
พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!)

ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว

ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก

ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ

once_upon.a.man@hotmail.com


My @ http://twitter.com/once_upon_a_man

ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่าน

ผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย

ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน

ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ

OncE UPoN'-'a MaN on Facebook
Blog ใหม่ล่าสด..สด
"VieTrio & Friends" ... เพื่อนร้อง พี่น้องเล่น เป็นเพลงเพราะเสนาะหู
"Lady Antebellum : Need You Now" ... ลูกทุ่งแบบมะกัน แต่สีสันระดับโลก
"The Social Network" ... วันนี้ คุณรู้จัก Facebook ดีพอแล้วหรือยัง?
"Harry Potter and the Deathly Hallows : Part I" ... ฉันต้องเปิด เพื่อจะปิด!
"Scrubb : Kid" ... คำตอบของเพลงอินดี้ที่ฟังง่าย อยู่ในอัลบั้มนี้แล้ว
"Due Date" ... รวมกันเราต้องอยู่ (กรุณา)อย่าทิ้งตูเป็นอันขาด!!?
"B.o.B. Presents: The Adventures of Bobby Ray" ... อาจเป็นฮิปฮอปหน้าใหม่ แต่ไม่ขอยึดติดความฮิป
"RED" ... โตอย่างสมวัย แก่อย่างมีคุณภาพ และจงระห่ำอย่างไม่เหลืออะไรจะเสีย!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... (หนังสั้น)แบบตัวเต็ม ที่ไม่มีอะไรมากมาย แต่ก็ยังมีความจริงใจ!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... กับตัวอย่างน้ำจิ้ม ของหนังสั้นที่คงจะมีอะไรๆอยู่ในนั้น
"อินทรีแดง" ... สมศักดิ์ศรีที่ได้กลับมา ..วีรบุรุษที่หนังไทยต้องการ!
"ชั่วฟ้าดินสลาย" ... เมื่อคำ “รัก” มีค่าเท่าคำว่า “ร้าย” คงทำลายคนทั้งหลายให้วายวอด
"Resident Evil : Afterlife" ... สงครามยังไม่จบ ยังต้องนับศพซอมบี้จนเบื่อกันไปข้าง!!
"Lula : Twist" ... เพลงฟังชวนเพลิน จากคนเพลินๆ ที่ชื่อ 'ลุลา'
"Piranha 3D" ... กัดกระจุย เลือดกระจาย สามมิติกระเจิง!!!
"CHARICE" ... เพชรน้ำงามเม็ดเล็กแห่ง ‘เอเชีย’ ที่คู่ควรกับการเจียระไนโดย ‘อเมริกา’
"กวน มึน โฮ" ... ความรัก อาจแพ้บ้างอะไรบ้าง แต่ ความ ‘เห็นแก่ตัว’ เอาชนะได้ทุกสิ่ง!
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
14 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add OncE UPoN'-'a MaN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.