+-+ OncE UPoN'-'a MaN +-+ รักนะ.. คนอ่าน เข้ามาดู.. โดนใจ ออกไป.. อย่าลืมกัน
Summary for Best of the Year 2012 ..Please CLICK!!
“บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน(พ่อสอนไว้)” ... อารมณ์ดี เพราะมีความสุข และอิ่มใจนิดๆ เพราะดูหนังเรื่องนี้

ขณะนี้ OncE UPoN'-'a MaN มี "Facebook" แล้วนะครับ ..ขอชักชวนมาเป็น 'แฟน' กัน โดยคลิกมาที่... //www.facebook.com/pages/OncE-UPoN-a-MaN/362974106204

นี่คือ อีกทางที่จะติดตาม และติดต่อกับผมได้ นอกจากในบล็อกนี้(ที่บางทีอาจหายหน้าไปเลย) และใน Twitter (ที่หมั่นเข้าไปบอกกล่าวอะไรๆแทบทุกวัน)









ได้ชื่อว่าเป็นหนังจากค่าย GTH มักจะถูกผู้คนเย้ยหยัน ว่าขยันมีคนออกมาร้องฮี้ๆ ทำเสียงม้า กันมากเป็นเรื่องปกติ เสมอๆ ..และก็ไม่ต้องไปยกเว้นถึงหนังเรื่องล่าสุดของค่าย Feel Good แห่งนี้ด้วย ที่ถึงอย่างไงก็ต้องโดน แม้ว่าตัวหนังของค่ายนี้ มักจะออกมาเป็นงานที่มีคุณภาพ แต่ไหนแต่ไรก็เถอะ

“บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน(พ่อสอนไว้)” (หรือในชื่อเดิมที่ดูเข้าท่าเข้าทางกว่าอย่าง “บ้านฉัน ตะลึ่งตึ่งโป๊ะ”) ถูกสร้างต่อยอดมาจาก หนังสั้นเรื่องหนึ่ง โดยฝีมือของหนึ่งในผู้กำกับ “แฟนฉัน” ...เมื่อครั้งสมัยที่เขายังเป็นนักศึกษา “บอล วิทยา ทองอยู่ยง” ได้แรงบันดาลใจขึ้นมา จากความชอบในตลกคาเฟ่ เป็นพิเศษ

จนเมื่อหนังสั้นเรื่องนั้นมาเข้าตา หนึ่งในทีมงาน GTH คนสำคัญ ..มันก็ให้โอกาสต่อยอดกลายมาเป็นผลงานชิ้นที่สามของ คุณบอล ซึ่งตามหลังการยกพลแจ้งเกิดกับ แฟนฉัน และการบินเดี่ยวๆกับ หนังตลก ที่มาพร้อมมุขย้อนเวลา “เก๋า..เก๋า”

บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน(พ่อสอนไว้) อาจจะเคยวางตัวเฉพาะ คนที่เป็นต้นเรื่องสร้างราวตัวจริง ในแรกเริ่ม.. แต่หากเมื่อคิดว่า มันคือ(หนังที่ว่า)เรื่องของตลกคาเฟ่ เมื่อมีคนชง ก็ต้องมีคนตบ ..สุดท้าย ผู้กำกับก็เลยมีมากกว่าหนึ่ง และ อีกหนึ่งที่เข้ามาเพิ่มเติมแต่ง ก็คือ หนึ่งในผู้กำกับเลือดใหม่(ที่เคยเชี่ยวกับการทำหนังสั้นมาพอตัว) ที่ยังไม่มีชั่วโมงบินกับการทำหนังยาวมาก่อน อย่าง “เมษ ธราธร”

งานนี้ จึงถือเป็นหลักกิโลสำคัญทั้งสำหรับ ผู้กำกับหน้าเก่า อย่าง บอล ที่เคยแป้กไปกับ เก๋า..เก๋า ให้ต้องกอบกู้ ..และหน้าใหม่ อย่าง เมษ ที่กะต้องเกิดกับเรื่องแรกของเขาให้ได้ ถึงจะได้ฤกษ์มีงานโชว์เดี่ยวไหลตามมา






บ้านฉันฯ ว่าด้วยเรื่องราวของ บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมีบรรดาศักดิ์เป็นคณะตลกที่ดังที่สุดแห่งเมืองลิง (ลพบุรี) ..คนพ่อ คือ หัวหน้าคณะที่พยายามนำพาเรื่องราวทุกอย่างในชีวิต ให้เกิดเป็นความตลกได้ และด้วยความที่เกิดมาตลก(ในครอบครัวตลกแต่สมัยรุ่นทวด) เขาเลยคาดหวังจะได้เห็นทายาทของเขาเกิดมาตลก สืบทอดเชื้อสายต่อไปเช่นเดียวกัน

แต่ถ้าให้ ลูกของเขา เกิดมาตลกกันไปเลยแต่ต้น ..แล้วอย่างงี้ เราจะรู้สึกอยากเอาใจช่วยได้อย่างไรกันล่ะ

ซึ่งนั่นก็คือ โจทย์ที่ บ้านฉันฯ ตั้งขึ้นมาแบบทีเล่นทีจริง ..หากบังเอิญว่า ลูกตลก ตกไกลต้น ซะอย่างนี้ แล้วคนเป็นพ่อ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

แต่เมื่อมันต้องทำเป็นหนัง ที่เล่าเรื่องออกมาด้วยท่าทีจริงจัง ผสมอารมณ์ซีเรียส ขึ้นมาแล้ว .. คำถามสำคัญ จึงไม่ได้อยู่ที่ คนเป็นพ่อ จะต้องอับอายหรือไม่? แต่เราคงอยากรู้มากกว่าว่า เจ้าตัวลูกที่ไม่ตลกผู้นี้ จะทำอย่างไรเพื่อให้พ่อยอมรับในตัวเขาให้ได้ เมื่อเรื่องเดินมาถึงตอนจบ




บ้านฉันฯ อาจจะไม่ได้แตกต่างกับหนัง GTH เรื่องอื่นๆ หรอก หากว่ากันตรงมุมมองคิดดี ทำดี แล้วต้องได้ดี มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นในชีวิต ..เราเคยดูหนัง Feel Good เช่นนี้ จากค่ายนี้ มาแล้วหลายสิบ ที่เรื่องราว ณ ตอนจบ ตัวละคร ได้พบความสุขใจ และชีวิตของเขาก็ยังดำเนินต่อไปได้โดยราบรื่น

ซึ่งผมก็พูดเชิงสปอยล์ ตรงนี้ ได้เลยว่า... บ้านฉันฯ ก็จบแบบเดียวกันนั้น ได้ไม่แตกต่างกัน

เพียงแต่เมื่อเรามามองถึงการเดินทางของหนังเรื่องนี้ แต่ต้นไปหาตอนจบแล้ว ..เรื่องราวของ บ้านฉันฯ กลับยังมีจุดต่าง ไปจาก GTH เรื่องก่อนๆหน้า และเป็นจุดที่ต้องยอมรับว่า งานนี้ GTH มีหนังดี ที่น่าชมเชยออกมานำเสนออีกแล้ว

แม้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่กล้า บ้าบิ่น และดูแปลกใหม่ จนน่าให้เชียร์ต้องไปดู แบบ “เฉือน” เมื่อปีที่แล้ว.. แต่กับ บ้านฉันฯ เรื่องนี้ ก็ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่จะลองกล้า ของ GTH อีกคราหนึ่ง กับการนำเสนอเรื่องราวที่ถือเป็นมุมมืด มุมหนึ่ง ของสังคมไทย

ซึ่งถึงในหนังเรื่องนี้ จะมีให้เห็นเป็นมุมเล็กๆ ตามที่หนังเห็นว่ามันเป็นพลอตรอง และการแสดงออกของมัน ก็ไม่ได้ก้าวข้ามสู่โซนอันตราย (ก็ยังคงมีทีท่า Play Safe เช่นเคยๆ).. แต่เมื่อมองว่า นี่เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นจากค่ายนี้แล้ว ก็นับว่าดูน่าตื่นเต้นในระดับหนึ่งได้อยู่

ในแง่ความกล้า ยังไปไม่สุดทาง... แต่ก็ถือว่า การใส่ประเด็นนี้ เข้ามาใน บ้านฉันฯ ดูจะมีประโยชน์เอื้อกับโครงเรื่องหลักได้ไม่น้อยเลย






ณ จุดนี้ ผมจะไม่ขอพูดถึง บทสรุป ของ บ้านฉันฯ ...เพราะเชื่อว่า หลายคนคงอยากจะไปรับรู้เรื่องราวของมันด้วยตัวเอง

แต่ถ้าให้พูดถึง สิ่งดีๆ ที่หนังเรื่องนี้มีแล้ว ...ผมขอสาธยายไปเลยว่า มันสามารถรวมร่างกันกลายเป็นหนัง GTH ที่แตกต่าง แต่ไม่แตกแยก

ในแง่ความตลก ที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสำคัญที่ใครหลายคนหวังไว้ กับการเป็นหนังตลก ..คงต้องบอกว่า อาจไม่เชิงเต็มที่นัก สำหรับหนังเรื่องนี้ ...ซึ่งหากคุณชอบอะไรที่มันดูคาเฟ่จริงๆ ก็คงต้องไปดูหนังของ “ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร” จะมีให้ได้ซะมากกว่า

ส่วนตัวผม บ้านฉันฯ ก็อาจตลกอยู่บ้าง ในฉากบางฉาก เช่น การท้าทายเล่นมุข ของ ตัวละครพ่อ และน้า(นอกบ้าน) ..การคุยโทรศัพท์ของแม่ ..การร่ายมุขคล้องจองยาวๆ ของคุณยาย (แม่ “ขวัญจิต ศรีประจันต์” ที่หลายคนรู้จักว่าคือ เจ้าแม่ลำตัด เคียงคู่พ่อ “หวังเต๊ะ”) ..หรือการขี้นเวทีของน้องสาว ที่แอบมาพร้อมมุขเกินความคาดหมาย




แต่ที่ผมว่า มันเกินความคาดหมายของผมซะมากกว่า ที่จะดูเอาเฉพาะความขำแล้ว ..ก็คือ แง่มุมในอารมณ์หนังครอบครัว ที่เต็มไปด้วยฉากน่ารักๆ ชวนอมยิ้ม หลายๆฉาก ..และบางฉาก ก็มีให้เล่นท่าซึ้ง จนไม่วายต้องหลั่งน้ำตาอย่างเต็มใจ

มันมาอย่างเกินคาด จนผมกล้าพูดได้เลยว่า นี่คือ หนังไทยที่ว่าด้วยเรื่องของครอบครัว ที่ดี ที่หาเจอได้น้อย ในช่วงเวลานี้

บ้านฉันฯ ได้บอกอะไรบางอย่างที่เราเคยค้างคา มาแต่เมื่อครั้งดู แฟนฉัน แล้วรู้สึกผูกพันกับครอบครัวของ เจี๊ยบ และน้อยหน่า ..ผมเพิ่งได้รู้ว่า อารมณ์รักครอบครัวแบบนี้ มีได้คนเดียวในแก๊งแฟนฉันเท่านั้นที่ทำได้ และเขาคนนั้นก็คือ ผู้กำกับ บอล แห่ง บ้านฉันฯ คนนี้

เพราะในขณะที่หนังเรื่องอื่นๆก็อาจมีนำเสนอเรื่องราวของครอบครัว อยู่บ้างเหมือนกัน ..แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกผูกพันกับครอบครัวตัวเอก ในหนัง(บินเดี่ยว)ของแก๊งแฟนฉัน ครอบครัวไหนเป็นพิเศษ ได้เท่าที่รู้สึกกับ ครอบครัว บ้านฉันฯ บ้านนี้เลย

ครอบครัวนี้ ช่างดูอบอุ่น และเต็มไปด้วยความรักที่แสนละมุนละไม ..แม้มันจะมีความไม่เข้าใจกัน ปรากฏอยู่ในเรื่องราว แต่สุดท้าย ทุกคนก็ยอมลงให้กัน และยอมรับในสิ่งที่ต้องเป็นไปที่หนังเรื่องนี้ได้กำหนดไว้

มันอาจจะดูว่า บท นำพา ..แต่เมื่อมาคิดถึงในชีวิตจริงแล้ว นี่คือ สิ่งที่เป็นไปได้ และควรจะเป็นสำหรับครอบครัวในสังคมไทยของเราจริงๆ






ที่ทำให้อินได้ขนาดนี้ ต้องยกย่องเลยว่า นักแสดงที่เป็นคนในบ้านฉันฯ บ้านเดียวกัน โดยเฉพาะกับพ่อ “จตุรงค์ ม๊กจ๊ก” แม่ “อรอนงค์ ปัญญาวงศ์” และลูกๆ “น้องเฟม” & “น้องจีน่า” ..รวมกัน เล่นดี ยกครัว เล่นตลก ยกโล่ห์ และเล่นซึ้ง ชวนให้อยากยกใจไปให้ทั้งดวง

โดยเฉพาะกับ ชอตที่ ลูก ต้องกราบพ่อ ในงานวันสำคัญ และพ่อตีตัวเอง ..ผมขอยกให้เป็น 2 ฉากไฮไลท์ ต้องจำ ของหนังเรื่องนี้ไปเลย

เรียกได้ว่า งานนี้ นอกจากจะแจ้งเกิด ดาราเด็กหน้าใหม่สองคน ให้ส่องสว่างสุกสกาว (โดยเฉพาะ คนน้อง ..ผมมั่นใจว่า งานจะไหลมาหาเธออย่างไม่ขาดสาย เช่นเดียวกับ ฝ่ายชายที่งานชุกสุดๆตอนนี้อย่าง น้อง “ริชาร์ด เกียนี่”) ...มันยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ว่า คนที่เป็นตลกดัง จะเก่งได้จริงๆ ต้องเป็นคนที่เล่นดรามาได้เป็น และต้องเข้าถึงในบทอีกด้วย

เท่าที่ผมเคยดูผลงานของผู้ชายที่ชื่อ จตุรงค์ ..ผมถือว่า บ้านฉันฯ คือ ผลงานที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งในชีวิตของเขา

ส่วนคนที่อยู่นอกบ้าน และถูกยกให้สำคัญ(เมื่อโปรโมตหนัง) ในฐานะผู้หญิงที่มีรอยยิ้มพิมพ์ใจชายไทยให้ละลายไปทั่ว ..ในครั้งนี้ กับการเล่นหนังอีกครั้งหนึ่ง ก็ได้พิสูจน์ว่า “พอลล่า เทเลอร์” ยังมีอะไร มากไปกว่า การยิ้มสวย ...และถึงจะพูดไทยไม่ค่ายชาดดด แต่เรื่องการสื่ออารมณ์ของเธอผ่านสีหน้า คือ อาวุธหลักที่ทำให้เธอชนะใจคนดูหนังเรื่องนี้อย่างง่ายดาย ..เพิ่งจะเห็น พรหล้า เจ็บได้ ร้องไห้เป็น ก็เรื่องนี้นี่แหละ






บ้านฉันฯ อาจจะถือเป็นหนังดี เรื่องหนึ่งที่น่าจำของ GTH หากว่าด้วยสาระความจริง ที่ลงตัวกับความน่ารักในแนวทางของหนัง ..แต่ถึงกระนั้น ผมก็ไม่อาจจะพูดได้ว่านี่คือ หนัง GTH ที่ดีที่สุด อีกเรื่องหนึ่ง

เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ก็ยังนึกเสียดายในส่วนของพลอตรอง ที่แม้จะดูว่าแรง แต่ มันก็ได้ใช้เป็นเพียงพื้นเพื่อรองรับเหตุผลของพลอตหลักซะมากกว่า ..คือ พูดกันตรงๆไปเลย ก็อยากเห็นความสำคัญของมันมากไปกว่านั้น

มันไม่สุดทางอย่างที่ว่าไปแล้ว ก็หนึ่ง ..แล้วก็เสียดายที่หนังชง และตบประเด็นนี้อย่างเข้าท่า แต่ดันไม่เข้าทาง เมื่อไม่มีการขยี้ ...เป็นจุดหนึ่งที่ถือว่า พลาด หากมองในแง่โครงสร้างที่เอื้อกับการเป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องของตลกคาเฟ่

ซึ่งตัวหนังก็แนะไว้ ถ้าอยากจะเล่นให้ได้ผล (ในที่นี่คือ ตลก) ก็ย่อมต้องมี การชง การตบ และที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด ก็คือ การขยี้

ย่อมแน่นอน ที่ถ้าเกิด หนังเล่นบทขยี้แล้ว ..ความแรงโดยทางของมัน อาจย่อมจะกระทบผู้ชมตัวน้อยๆจนเกินตัว ให้กลายเป็นหนังครอบครัว ที่ผู้ใหญ่อาจต้องกระทำการปิดหูปิดตาเด็กไปเสีย

แต่ผมกลับมองว่า ถ้าหนังขยี้ตรงนี้ได้จริงๆ... สิ่งที่หนังต้องการพูด เชื่อเลยว่า มันจะกระทบจิตใจคนไทยในสังคม รักแท้ แพ้ถุง ได้อย่างรุนแรง แล้วทำให้ต้องคิดตรึกตรองดีเสีย เช่นที่เราอาจเคยสัมผัสจากการดูโฆษณาประกันชีวิตแห่งหนึ่ง ที่เล่าเรื่องด้วยระยะเวลาสั้นๆ แต่ทรงประสิทธิภาพ

มันขาดไปแค่นั้นๆจริง ที่หนังน่าจะเติมเข้ามา ..และถ้ามีได้ ผมเชื่อว่ามันน่าจะทำให้ความชอบของผมที่มีต่อหนังเรื่องนี้ จัดว่า เต็ม ...ถึงต่อให้ตอนจบจะยังคงตอบโจทย์ความ Feel Good ในตัวของมันเองก็ตามเถอะ






แต่อย่างไรก็ตาม.. หากคิดว่า นี่คือหนังไทย Feel Good เรื่องหนึ่งแล้ว “บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน(พ่อสอนไว้)” คือ หนังดี มีคุณภาพ ที่น่าชวนไปชม น่าเชียร์ให้ไปอุดหนุน น่าให้กำลังใจจริงๆ ในภาวะที่บ้านเมืองกำลังขาดแคลนความสุข ที่ดูจะรุนแรงยิ่งกว่า การขาดแคลนน้ำ ในหน้าร้อนแล้งเช่นนี้ เสียอย่างงั้น

เครียดกับเรื่องการเมืองแล้ว ก็อย่าลืมหาเรื่องผ่อนคลาย ด้วยการดูหนังจรรโลงใจสักเรื่อง ..ที่ผมขอแนะนำว่า เรื่องนี้ ดูแล้ว อารมณ์ดี เพราะมีความสุข!

ซึ่งสุดท้าย จะอิ่มใจหรือไม่ ก็แล้วแต่ปากท้องของประชาชนคนรักหนังจะนำพา!




ขอแนะนำ...ครับ

เกรด A- ... {}







ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ


ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน
ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ



Create Date : 19 มีนาคม 2553
Last Update : 19 มีนาคม 2553 12:07:27 น. 7 comments
Counter : 3048 Pageviews.

 
อยากดูมากๆๆคะ ทำdvd ออกมาขายเร็วๆนะคะจะรอ

น้อย


โดย: Lanna Holiday Home In Scotland IP: 82.31.27.68 วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:2:54:07 น.  

 
อยากดูเหมือนกันค่ะ ท่าทางจะน่ารักดีเชียว


โดย: lookmoodeaw วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:8:38:05 น.  

 
อยากบอกว่าดูหนังเรื่องนี้แล้ว....ร้องไห้
ครึ่งเรื่องแรกมันเศร้า

แต่ภาพรวม สนุกค่ะ
และทำออกมาได้ดี

ชอบ "ต๊อก" น่ารัก และไม่มาก ไม่น้อย
ดูเป็นเด็กแสดงเก่ง
แสดงเหมือนไม่ได้แสดง

น้องสาว "ม่อน" ก็น่ารัก
น่ารักแบบล้น ๆ

ชอบจาตุรงค์จากเรื่องนี้มาก ๆ


(แม่ของพอลล่าในเรื่อง ใช่กวีซีไรท์ไหมคะ??)


โดย: โสดในซอย วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:15:04:43 น.  

 
ตอบคุณ โสดในซอย

ใช่แล้วครับ ..คุณป้า "จีรนันท์ พิตรปรีชา" กวีซีไรท์ หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ เหตุการณ์ 14 ตุลา นั่นแหละ

ดูตอนแรก ก็ไม่รู้หรอก จนเห็นรายชื่อที่ไตเติ้ลท้ายบอกไว้


โดย: OncE UPoN'-'a MaN วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:16:35:35 น.  

 
เป็นหนังครอบครัวที่ ดูแล้วอิ่มที่สุด เลยครับ


โดย: pope IP: 58.64.62.143 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:25:28 น.  

 
ไก่เน่าตลกจริง


โดย: ลม หมด ตูด IP: 180.183.127.17 วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:22:42:10 น.  

 
ดูครั้งเเรกชอบเเอบปลื้มนางเอกพูดไป555+ หนังเรื่องนี้ชอบตลกดีอยากเป็นพระเอกอีกล้ะพูดไป


โดย: Fon IP: 49.230.210.23 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:16:24:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

OncE UPoN'-'a MaN
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์

คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี
พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ
พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา
พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!)

ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว

ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก

ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ

once_upon.a.man@hotmail.com


My @ http://twitter.com/once_upon_a_man

ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่าน

ผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย

ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน

ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ

OncE UPoN'-'a MaN on Facebook
Blog ใหม่ล่าสด..สด
"VieTrio & Friends" ... เพื่อนร้อง พี่น้องเล่น เป็นเพลงเพราะเสนาะหู
"Lady Antebellum : Need You Now" ... ลูกทุ่งแบบมะกัน แต่สีสันระดับโลก
"The Social Network" ... วันนี้ คุณรู้จัก Facebook ดีพอแล้วหรือยัง?
"Harry Potter and the Deathly Hallows : Part I" ... ฉันต้องเปิด เพื่อจะปิด!
"Scrubb : Kid" ... คำตอบของเพลงอินดี้ที่ฟังง่าย อยู่ในอัลบั้มนี้แล้ว
"Due Date" ... รวมกันเราต้องอยู่ (กรุณา)อย่าทิ้งตูเป็นอันขาด!!?
"B.o.B. Presents: The Adventures of Bobby Ray" ... อาจเป็นฮิปฮอปหน้าใหม่ แต่ไม่ขอยึดติดความฮิป
"RED" ... โตอย่างสมวัย แก่อย่างมีคุณภาพ และจงระห่ำอย่างไม่เหลืออะไรจะเสีย!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... (หนังสั้น)แบบตัวเต็ม ที่ไม่มีอะไรมากมาย แต่ก็ยังมีความจริงใจ!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... กับตัวอย่างน้ำจิ้ม ของหนังสั้นที่คงจะมีอะไรๆอยู่ในนั้น
"อินทรีแดง" ... สมศักดิ์ศรีที่ได้กลับมา ..วีรบุรุษที่หนังไทยต้องการ!
"ชั่วฟ้าดินสลาย" ... เมื่อคำ “รัก” มีค่าเท่าคำว่า “ร้าย” คงทำลายคนทั้งหลายให้วายวอด
"Resident Evil : Afterlife" ... สงครามยังไม่จบ ยังต้องนับศพซอมบี้จนเบื่อกันไปข้าง!!
"Lula : Twist" ... เพลงฟังชวนเพลิน จากคนเพลินๆ ที่ชื่อ 'ลุลา'
"Piranha 3D" ... กัดกระจุย เลือดกระจาย สามมิติกระเจิง!!!
"CHARICE" ... เพชรน้ำงามเม็ดเล็กแห่ง ‘เอเชีย’ ที่คู่ควรกับการเจียระไนโดย ‘อเมริกา’
"กวน มึน โฮ" ... ความรัก อาจแพ้บ้างอะไรบ้าง แต่ ความ ‘เห็นแก่ตัว’ เอาชนะได้ทุกสิ่ง!
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add OncE UPoN'-'a MaN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.