Agassi ปลุกเอทีพีตื่นเรื่องยาไอซ์
ดิ๊ก พาวด์ อดีตบอสใหญ่องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก ชี้ การที่ อังเดร อากัสซี่ ออกมาสารภาพว่าเคยใช้ยาเสพติด เมื่อปี 1997 น่าจะเป็นการเตือนให้ เอทีพี รู้ตัวว่าตอนนี้พวกเขาต้องลงมือทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะถูกทำให้อับอายขายหน้า เพราะเรื่องอื้อฉาว หลังจากมีส่วนในเรื่องนี้ไม่น้อย
ดิ๊ก พาวด์ อดีตประธานองค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (วาด้า) ออกโรงแสดงทรรศนะว่า กรณีที่ อังเดร อากัสซี่ ตำนานนักเทนนิสชาวอเมริกัน ยอมรับว่าเขาเคยใช้ยาไอซ์ ในช่วงตกต่ำ เมื่อปี 1997 น่าจะทำให้ เอทีพี อยู่เฉยไม่ได้ หลังจากมีส่วนทำให้เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา
พาวด์ กล่าวว่า "มันต้องมาถึงจุดที่องค์กรกีฬาเหล่านี้บังคับใช้กฏ หรือ ไม่ใครสักคนอย่างสภาคองเกรสก็ต้องพูดว่า "เราให้โอกาสคุณจัดการธุระของตัวเองอย่างเหมาะสมแล้ว และ ตอนนี้เราจะเอาคืน"
เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 8 รายการ ยอมรับในหนังชีวประวัติชื่อ Open ว่าเขาเคยใช้ยาไอซ์ และ โกหกเอทีพี เพื่อหลีกเลี่ยงโทษแบน และเมื่อทราบว่าผลการตรวจปัสสาวะของเขาเป็นบวกพบสารต้องห้าม อากัสซี่ ก็ได้เขียนจดหมายอ้างว่าเขาเสพยาเข้าไปโดยบังเอิญ และ ขอผ่อนผัน ซึ่งไม่มีการลงโทษทางระเบียบวินัยใดๆ ในที่สุด
อดีตขาใหญ่ต่อต้านการโด๊ปยา ที่เป็นสมาชิกอาวุโสชาวแคนาเดี้ยนในคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ด้วย กล่าวต่อว่า "ความจริงที่ 1 ในสตาร์ดังรู้ว่าการเอาชนะระบบเป็นเรื่องง่าย บอกคุณทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้ เขาโกหกเกี่ยวกับผลการตรวจ แต่ส่วนที่น่าสนใจที่สุดคือ เอทีพี และ ตรงที่ทำไมพวกเขาถึงไม่ทำอะไรเลย"
ขณะที่ แมรี่ โจ เฟอร์นานเดซ กัปตันทีมเฟด คัพ ของสหรัฐฯ ยอมรับว่า เธอช็อกที่ได้ยินว่า อากัสซี่ ไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้น "มันค่อนข้างช็อกมากกว่าอย่างอื่น คุณรู้ไหม ฉันผิดหวังที่ได้ยินเรื่องแบบนั้น แต่คุณรู้ไหมมันต้องใช้ความกล้าอย่างมากที่จะออกมาพูดสิ่งที่คุณรู้ว่า ไม่มีใครรู้เรื่องจริงๆ ฉันชื่นชม อังเดร มาตลอด และ เขาก็เป็นแรง
บันดาลใจคนสำคัญในรุ่นของฉัน คุณรู้อะไรไหม เขายอมเปิดใจแล้ว และ เขาก็เลือกแบบนั้น บางทีผู้คนอาจได้เรียนรู้จากเรื่องนี้"
ส่วน เอทีพี ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ระบุว่าคณะกรรมการอิสระ เป็นผู้ตัดสินเรื่องการละเมิดกฏโด๊ปยาขั้นสุดท้าย "เอทีพีมีนโยบายที่จะไม่แสดงความเห็นถึงผลการตรวจสารกระตุ้น เว้นแต่ และ จนกระทั่งมีการละเมิดกฏต่อต้านการโด๊ปยาเกิดขึ้น ภายใต้โปรแกรมต่อต้านการใช้สารกระตุ้นของเทนนิส คณะกรรมการอิสระเป็นผู้ตัดสินว่ามีการละเมิดกฏหรือไม่ และ เป็นอย่างนั้นมาตลอด เอทีพี ทำตามกฏนี้มาตลอด จึงไม่มีผู้บริหารคนใดของ เอทีพีที่มีอำนาจหรือความสามารถที่จะตัดสินผลลัพธ์ของเรื่องโด๊ปยาได้"
ข้อมูลจาก //www.siamsport.co.th