"พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น09" รอบตัดเชือกมีพลิก
ศึกเทนนิส "พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2009" รอบตัดเชือกมีพลิก "แชมป์เก่า" โจ วิลเฟรด ซองก้า มือ 7 ของโลกชาวฝรั่งเศส ต้องเล่น 3 เซต เป็นวันที่สาม แผ่วปลายถูกหนุ่มเซิร์บ วิกเตอร์ ทรอยสกี้ มือ 32 ของโลกสอยร่วงตกรอบไปแบบพลิกความคาดหมาย 1-2 เซต โดยหนุ่มเซิร์บ ลิ่วชิงดำกับ ชีลส์ ซิมง นักหวดเมืองน้ำหอม ที่กำชัยเหนือ เจอร์เกน เมลเซอร์ จากออสเตรีย สบาย 2 เซตรวด

การแข่งขันเทนนิสอาชีพชาย รายการ "พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2009" ชิงเงินรางวัลรวม 608,500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 21 ล้านบาท ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยาากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีแฟนเทนนิสไทยและชาวต่างชาติแห่เข้ามาชมการแข่งขันมากกว่าทุกวัน คาดว่ามีกองเชียร์กว่า 6 พันคนเลยทีเดียว

สำหรับคู่ไฮไลต์ "แชมป์เก่า" โจ วิลเฟรด ซองก้า นักหวดมือ 7 ของโลก มือวาง 1 ของรายการจากฝรั่งเศส ที่ผ่านการเล่นแบบหืดขึ้นคอต้องออกแรงหวดถึง 3 เซตมาแล้ว 2 วันติด ต้องลงสนามตัดเชือกกับ วิกเตอร์ ทรอยสกี้ นักวดเซอร์เบีย มือ 4 ของรายการมือ 32 ของโลก

โดยเซตแรก ซองก้า เปิดฉากยิงสโตรกท้ายคอร์ตที่หนักหน่วงกดดันคู่ต่อสู้ตลอด บางจังหวะยังมีการเปลี่ยนขึ้นมาเก็บแต้มหน้าเนตได้ดี ซึ่งทำให้หนุ่มเซิร์บจับทางบอลไม่ได้จึงถูกซองก้าเบรกเสิร์ฟตลอด ส่งผลให้ ซองก้า ชนะขาด 6-1

เซตสอง หนุ่มเซิร์บกลับลงสนามด้วยฟอร์มหวดที่ดุดันขึ้น พร้อมกับการพยายามหาจังหวะยิงสโตรก โยกให้ซองก้าเคลื่อนที่มากกว่าเดิมเพื่อตัดกำลังแชมป์ซึ่งก็ได้ผลดี บวกกับลูกเสิร์ฟที่เฉียบขาดทำให้ทรอยสกี้สามารถเบรกเสิร์ฟ ซองก้าได้ในเกม 4 และ เกม 8 ปิดเซตด้วยการชนะ 6-2 ทำให้เสมอ 1-1 ต้องมาตัดสินในเซตสาม

สำหรับเซตตัดสิน ซองก้า มีอาการเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันก็ยังมีทีท่าเหนื่อยหอบและขาไม่ค่อยจะมีแรงขยับวิ่ง ต่างจากหนุ่มเซิร์บที่ยังคงเล่นได้อย่างเฉียบขาดทั้งลูกเสิร์ฟ การยิงสโตรกท้ายคอร์ตที่หนักหน่วง บวกกับการขึ้นมาหยอดหน้าเนตได้อย่างเยี่ยมยอดเก็บแต้มสำคัญได้หลายครั้ง และเป็นฝ่ายเบรกเสิร์ฟซองก้าตั้งแต่เกมสอง

แม้จะถูกเบรกคืนในเกมสาม แต่ทรอยสกี้ก็ยังอาศัยเกมหวดที่ดุดันอัดเข้าใส่ซองก้าไม่ยั้งเบรกเสิร์ฟแชมป์เก่าได้อีกในเกม 4 นำ 3-1 เกมถัดมา หนุ่มเซิร์บเริ่มต้นไม่ดีเสิร์ฟดับเบิลฟอลต์ก่อนที่ซองก้าจะอาศัยช่วงจังหวะยิงฉีกเปลี่ยนจังหวะได้ดีมีโอกาสได้แต้มนำ 40-30 ได้เบรกพอยนต์ทันที แต่ก็ปิดไม่ได้ เมื่อทรอยสกี้อาศัยลูกเสิร์ฟที่ดีและการยิงโฟร์แฮนด์ที่เฉียบขาดไล่มาดิวซ์และพลิกลับมารักษาเสิร์ฟได้สำเร็จสกอร์ขยับนำ 4-1 ซองก้ารักษาเสิร์ฟได้บ้างไล่ตาม 2-4

ทรอยสกี้ ที่ยังคงเล่นได้เหนียวแน่นและเฉียบขาด ต่างจากซองก้าที่ขาแทบไม่ขยับแถมยังคงแสดงออกถึงความเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ทรอยสกี้รักษาเกมเสิร์ฟได้ง่าย สกอร์ขึ้นแท่นนำ 5-2 เกมถัดมา ซองก้าเสิร์ฟเอซ 3 ลูกติด แต่ด้วยความล้าทำให้ ทรอยสกี้ไล่เก็บแต้มตามมาดิวซ์ แต่ซองก้าก็เอาตัวรอดมาได้แบบหืดขึ้นคอสกอร์ไล่ตาม 3-5

เกมถัดมา ทรอยสกี้ออกมาเสิร์ฟเพื่อแมตช์และไม่พลาดหนุ่มเซิร์บอาศัยการยิงโฟร์แฮนด์วินเนอร์ที่แม่นยำกำชัยชนะได้สำเร็จ 6-3 พร้อมกับส่งให้ทรอยสกี้พลิกโค่น "แชมป์เก่า" โจ วิลเฟรด ซองก้า มือ 7 ของโลก มือวาง 1 ของรายการทันที 2-1 เซต ทรอยสกี้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

ขณะที่ ชีลส์ ซิมง นักหวดเมืองน้ำหอม มือ 10 ของโลกมือวาง 2 ของรายการ ที่ในรอบรองฯ สามารถหวดชนะ เจอร์เกน เมลเซอร์ มือ 44 ของโลก จากออสเตรียไป 2 เซตรวด หลังจากในเซตแรก ซิมงเป็นฝ่ายเบรกเสิร์ฟคู่ต่อสู้ได้ 2 เกมก่อนชนะ 6-4

เซต 2 แม้เกมจะสูสี และเป็นซิมงที่ต้องเผชิญหน้ากับการโหมบุกยิงสโตรกอย่างหนักของเมลเซอร์ แต่ด้วยลูกยิงที่เฉียบขาดทำให้ยังเอาตัวรอดรักษาเสิร์ฟได้ตลอด ทำให้เซตนี้ต้องมีการดวลไทเบรกตัดสิน ซึ่งซิงมงยังคงเป็นฝ่ายยิงสโตรกได้อย่างดุดันและแม่นยำกว่าทำให้คว้าชัย 7-6 ไทเบรก 7-3

สำหรับคู่ชิงชนะเลิศประเภทชายเดี่ยวศึกเทนนิส "พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2009" จะเป็นการลงดวลแร็กเกตกันระหว่าง ชีลส์ ซิมง นักหวดมือ 10 ของโลกจากฝรั่งเศส กับ วิกเตอร์ ทรอยสกี้ นักวดเซอร์เบีย มือ 32 ของโลก ซึ่งสถิติการพบกันระหว่างคู่นี้ เมื่อปี 2007 เคยลงดวลแร็กเกตกันมาแล้ว 2 ครั้งในการแข่งขันบนสนามดินที่โปแลนด์ และสวีเดน ซึ่งเป็นซิมงที่สามารถคว้าชัยชนะแบบ 2 เซตรวดทั้ง 2 รายการ

ขณะที่รอบรองฯ ชายคู่ มิชา ซเวเรฟ จากเยอรมัน จับคู่กับ กุยเลอร์โม่ กราเซีย-โลเปซ จากสเปน ชนะ ฟาบริซ ซ็องโตโร่ กับ โจ วิลเฟรด ซองก้า (ฝรั่งเศส) 6-3 และ 6-2 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับ ราจีฟ แรม กับ อิริค บูโทแร็ค (สหรัฐฯ) ต่อไป

หลังการแข่งขัน ซองก้า กล่าวถึงความปราชัยให้กับทรอยสกี้ในครั้งนี้ว่า ยอมรับว่าตนมีอาการล้าและหมดแรงเอามากๆ กับการแข่งขันแมตช์นี้ ซึ่งมาเห็นได้ชัดก็หลังจากจบเซตแรกตนก็หมดแรงไปเลย ซึ่งก็เป็นผลมาจากการทุ่มให้กับการแข่งขันเทนนิส เดวิสคัพ เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนจะมาที่เมืองไทย และตลอดการแข่งขันที่นี่ทั้งรอบสอง กับ รอบ 8 คนตนต้องเล่น 3 เซตมาตลอด มานัดตัดเชือกก็ต้องเล่น 3 เซตอีกจึงทำให้เหนื่อยมาก

อย่างไรก็ตาม ซองก้า ยังได้กล่าวว่า แม้ปีนี้ตนจะไม่สามารถป้องกันแชมป์เทนนิสที่เมืองไทยได้ แต่ตนยืนยันและสัญญาว่าปีหน้าจะกลับมาเล่นเทนนิสที่นี่ เพื่อให้แฟนเทนนิสไทยได้ชมเกมการแข่งขันของตนอีกแน่นอน

ด้าน ชีลส์ ซิมง นักหวดเมืองน้ำหอมมือ 10 ของโลก กล่าวว่า การทำผลงานได้ดีในเทนนิสรายการนี้นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีซึ่งแสดงให้เหนว่าอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าขวาของตนนั้นไม่มีอะไรให้ต้องห่วงอีกแล้ว ซึ่งตนก็รู้ตัวเองดีว่าในการลงแข่งขันถ้าร่างกายไม่พร้อมตนก็จะไม่ฝืนเล่น แต่สำหรับรายการนี้ตนมั่นใจในความพร้อมและศักยภาพของตนเองอย่างมาก และตนจะเล่นเต็มร้อยทุกครั้งที่ลงสนามแข่งขัน

พร้อมกันนี้ ซิมงกล่าวถึง ทรอยสกี้คู่ชิงชนะเลิศที่จะลงหวดกันในวันที่ 4 ต.ค. นี้ว่า ตนไม่ได้สนใจว่าจะเจอกับใคร และทรอยสกี้จะชนะใครมา ซึ่งตนก็จะต้องเล่นเต็มที่ใส่เต็มร้อยทุกแมตช์อยู่แล้ว

นอกจากนี้ ซิมง ยังได้เผยความรู้สึกในการมาเล่นเทนนิสที่เมืองไทยว่า ประทับใจมาก ก่อนหน้านี้ตนจะเป็นคนที่เล่นเทนนิสซ้ำๆ รายการกันตลอด ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้มีโอกาสเปลี่ยนมาลองแข่งขันที่เมืองไทยบ้าง ก็ไม่ผิดหวังที่เลือกมารายการนี้ ตนชอบเมืองไทยมากอยากมาแข่งเทนนิสที่นี่ทุกปี และที่ชอบเป็นพิเศษก็คือการได้ลองนั่งรถตุ๊กๆ ซึ่งได้นั่งแล้วรู้สึกเย็นและโล่งสบายดี

ส่วน วิกเตอร์ ทรอยสกี้ นักเทนนิสมือ 32 ของโลกจากเซอร์เบียกล่าวว่า เป็นครั้งที่ 3 ที่ตนมาแข่งรายการนี้ปีแรกตนตกรอบคัดเลือก ส่วนปีที่แล้วก็เข้ารอบสอง ปีนี้ถือว่าฝีมือและประสบการณ์ของตนพัฒนาดีขึ้นมากสามารถเข้าถึงรอบชิงได้ก็ทำให้รู้สึกดีใจอย่างมาก

ซึ่งในการเจอกับ ซิมง นักเทนนิสมือ 10 ของโลก ตนไม่รู้สึกหวั่นกลัวอะไร ยิ่งมาชนะซองก้าได้ก็ยิ่งทำให้ตนรู้สึกมั่นใจขึ้นมาก ซึ่งตนเองก็หวังที่จะคว้าแชมป์อาชีพรายการแรกที่เมืองไทย หลังจากก่อนหน้านี้เคยเข้าชิงที่วอชิงตัน ดีซี ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อปีที่ผ่านมา แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะไปแพ้ให้กับ ฮวน มาร์ติน เดล โปโตร จากอาร์เจนตินาไปเสียก่อน

สำหรับการแข่งขันเทนนิส "พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2009" วันที่ 4 ต.ค. นี้เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดยเริ่มในเวลา 13.00 น. เป็นคู่ชิงชายคู่ จากนั้นในเวลา 15.00 น. เป็นการชิงชนะเลิศประเภทเดี่ยว ซึ่งมีรายงานว่าในพิธีปิดการแข่งขัน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานมอบรางวัลแก่นักกีฬาด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นัดตัดเชือกมีแฟนเทนนิสไทยเข้ามาชมการแข่งขันในสนามกันมากกว่า 6 พันคนทำให้ฝ่ายจัดการแข่งขันได้มีการเพิ่มที่นั่งในนัดชิงชนะเลิศขึ้นอีกกว่า 800 ที่นั่ง ซึ่ง มร.สจ๊วต แมคดอลแนล ผู้จัดการการแข่งขันกล่าวว่า แม้กระแสการแข่งขันในช่วงแรกหลังจากที่ ราฟาเอล นาดาล ถอนตัวออกจากการแข่งขันจะไม่แรงนักทำให้มีแฟนเทนนิสเข้ามาชมการแข่งขันในสนามรอบแรกๆ ค่อนข้างบางตา

แต่ก็น่าพอใจอย่างมากที่ตั้งแต่รอบ 8 คนสุดท้ายเป็นต้นมาแฟนเทนนิสให้ความสนใจเข้ามาชมกันเยอะขึ้น โดยเฉพาะแมตช์ในรอบค่ำ และทำให้ในปีนี้ยอดขายบัตรเข้าชมการแข่งขันก็เก็บได้เยอะกว่าทุกปีถึง 70-80 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งในนัดชิงก็ยังมีผู้ต้องการเข้ามาชมการแข่งขันอีกมากจากยอดที่มีการจองตั๋วไว้ล่วงหน้า ทำให้ฝ่ายจัดการแข่งขันจะมีการเสริมที่นั่งในสนามเพิ่มขึ้นอีกกว่า 800 ที่นั่งเพื่อรองรับกับจำนวนผู้ที่จะเข้าชมการแข่งขันที่คาดว่าจะมากกว่ารอบรองชนะเลิศ








ข้อมูลจากwww.siamsport.co.th



Create Date : 04 ตุลาคม 2552
Last Update : 4 ตุลาคม 2552 1:08:24 น.
Counter : 778 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
ตุลาคม 2552

 
 
 
 
1
2
3
5
6
8
10
13
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31
 
All Blog