"ภราดร"ร่ำไห้! ประกาศเลิกเล่นเทนนิสอย่างเป็นทางการแล้ว!
Photobucket


ศึกเทนนิส เอทีพี เวิลด์ทัวร์ ระดับ 250 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2010 ชิงเงินรางวัลรวม 608,500 เหรียญสหรัฐ (ราว 19 ล้านบาท) จัดการแข่งขันเป็นปีที่ 8 ดำเนินมาถึงวันสุดท้าย ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศมีงานอำลาสนามอย่างเป็นทางการของ ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตมือ 1 ของเอเชีย ซึ่งเคยเข้ารอบตัดเชือกรายการนี้ 4 ปีติดต่อกัน (2003-2006)


หลังประสบปัญหาอาการบาดเจ็บข้อมือขวาต้นปี 2007 ภราดรไม่ได้กลับมาลงสนามอีกเลย กระทั่งประกาศแขวนแร็กเกตไปแล้วเมื่อเดือน พ.ค.2010 ก่อนมีพิธีอำลาอย่างเป็นทางการในสนามเอทีพีทัวร์ โดยสามารถคว้าแชมป์ชายเดี่ยวได้ทั้งหมด 5 รายการที่ ลองไอส์แลนด์ ในปี 2002-2003, สต็อกโฮล์ม โอเพ่น และเชนไน โอเพ่น ในปี 2002 และน็อตติ้งแฮม ในปี 2004 รวมถึงก้าวขึ้นไปเป็นมือ 9 ของโลกในปี 2003 เป็นอันดับสูงสุดของคนเอเชีย แซงหน้า วีเจ อัมฤทธิ์ราช จากอินเดีย ทำไว้ที่อันดับ 16

โดยในงานอำลาสนามเหนือเซ็นเตอร์ คอร์ต อิมแพค อารีน่า ในเวลา 14.45 น. ได้รับเกียรติจาก นาย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นประธาน โดยมี นาตาลี เกลโบว่า ภรรยา พร้อมด้วย นายชนะชัย บิดา และนางอุบล ศรีชาพันธุ์ มารดา ร่วมให้กำลังใจเช่นเดียวกับ ดนัย อุดมโชค และพีระเกียรติ ศิริฤทัยวัฒนา รุ่นน้องในทีมชาติ

นายสุวัจน์ กล่าวสดุดีวีรกรรมของ ภราดร ในวัย 30 ปี ต่อหน้าแฟนเทนนิสว่า “ภราดรเป็นวีรบุรุษของชาติอย่างแท้จริง เป็นความภูมิใจตลอดกาลของคนไทย และคนเอเชียว่า ครั้งหนึ่งเขาขึ้นถึงมือ 9 ของโลกมาแล้วแบบไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน นอกจากนี้ ยังคว้าแชมป์เอทีพีถึง 5 รายการ และเป็นคนเอเชียคนแรกที่เข้ารอบ 4 แกรนด์สแลมได้ถึง 3 รายการ อีกทั้งยังนำวัฒนธรรมการไหว้ไปโชว์ให้ชาวโลกได้เห็นความเป็นไทย เป็นผู้เปิดตำนานให้ ไทยแลนด์ โอเพ่น เกิดขึ้นในปี 2003 นอกจากนี้ เรื่องของการรับใช้ชาติ ภราดร ยินดีเสมอ และลงสนามในนามทีมชาติไทยมาแล้วทุกสนามไม่ว่าจะเป็นซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และโอลิมปิก จนปัจจุบันเลิกเล่นแล้วยังทำหน้าที่โค้ชและกัปตันทีมเดวิส คัพ เป็นสมบัติล้ำค่าของชาติอย่างแท้จริง”


ด้าน ภราดร มีคิวออกมาแสดงความขอบคุณ แต่ยังไม่ทันจบประโยคแรกก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ต้องใช้เวลารวบรวมสมาธิกว่า 1 นาที ก่อนกล่าวว่า “ผมยังจำวันแรกในสนามแห่งนี้ได้ (ปี 2003) บรรยากาศมันยังชัดเจน ผมรักรายการนี้ และจากนี้ไปคงต้องฝากผู้ใหญ่ทุกคนช่วยกันดูแลไทยแลนด์ โอเพ่น ให้ยิ่งใหญ่ต่อไป สักวันหนึ่งจะต้องมีคนไทยลงไปสร้างเสียงเฮได้อีกครั้ง และผมขอบคุณคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายทั้งสองคน ถ้าไม่มีพ่อกับแม่จะไม่มีภราดรเช่นกัน”

พร้อมกันนี้ อดีตมือ 9 ของโลก ซึ่งเคยขึ้นปกนิตยสาร “ไทม์” มาแล้วในปี 2003 กล่าวถึงอนาคตตนเองว่า “ผมคงไม่ทิ้งวงการเทนนิสไปแน่นอน จะตั้งใจทำงานโค้ชเพื่อพัฒนาน้องๆ ใช้ประสบการณ์ที่มีมาถ่ายทอดให้กับเยาวชนที่รักเทนนิสจริงๆ เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาอาชีพที่มีคุณภาพและเป็นขวัญใจของคนไทยในอนาคต”

สำหรับ ภราดร ปัจจุบันมีธุรกิจต้องดูแลหลายด้านไม่ว่าจะเป็นกิจการร้านอาหาร โรงเรียนสอนเทนนิส รวมถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อผู้ชาย นอกจากนี้ยังร่วมลงแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ ซูเปอร์ไบค์ในไทย ส่วนวงการเทนนิสยังลงแข่งขันรายการพิเศษต่างๆ รวมถึงแชมเปี้ยนทัวร์ รายการของนักหวดรีไทร์ในอนาคตอันใกล้




ซึ้งจัง ชื่นชมพี่บอลนะคะ แต่ไม่เป็นไรมีโอกาสได้ดูแมชสำหรับคนรีไทม์อีก


ที่มาผู้จัดการออนไลน์



Create Date : 03 ตุลาคม 2553
Last Update : 3 ตุลาคม 2553 23:04:12 น.
Counter : 1165 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
ตุลาคม 2553

 
 
 
 
 
24
 
 
All Blog