"ซิมง" ซิวแชมป์ "พีทีที ไทยแลนท์โอเพ่น"
ชีลส์ ซิมง นักหวดมือ 10 ของโลก จากแดนน้ำหอม ยิงสโตรกถล่ม วิกเตอร์ ทรอยสกี้ มือ 32 ของโลกชาวเซิร์บ ขาดลอย 2 เซตรวด กระชากแชมป์ชายเดี่ยว "พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2009" ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมฟันเงินรางวัลไปกว่า 3.5 ล้านกว่าบาท ขณะที่ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนยันรัฐบาลพร้อมหนุนเทนนิสอาชีพรายการนี้เต็มที่ ฝั่ง ราฟาเอล นาดาล ส่งสัญญาณปีหน้าอยากมาหวดเทนนิสในเมืองไทย หลังรู้สึกผิดที่ถอนตัวไปแล้ว 2 ครัง
การแข่งขันเทนนิสเอทีพี ทัวร์ รายการ "พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2009" ชิงเงินรางวัลรวม 608,500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 21 ล้านบาท ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันสุดท้าย โดยได้รับความสนใจจากแฟนเทนนิสไทยและชาวต่างชาติเข้ามาชมเกือบเต็มความจุของสนามกว่า 8,000 คน
โดยในเวลา 15.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านั้นเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดแล้ว ยังได้กลับมาชมการแข่งขันในประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ชีลส์ ซิมง นักหวดฝรั่งเศส มือ 10 ของโลก กับ วิกเตอร์ ทรอยสกี้ นักเทนนิสเซอร์เบีย มือ 32 ของโลก พร้อมอยู่ร่วมมอบรางวัลชนะเลิศชายเดี่ยวด้วยเช่นกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้พาลูกสาว น้องปราง เวชชาชีวะ มาร่วมชมการแข่งขัน นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกทม.
สำหรับรอบชิงชายเดี่ยว ชีลส์ ซิมง นักหวดฝรั่งเศสมือ 10 ของโลก มือวาง 2 ของรายการ ที่คว้าแชมป์เอทีพี ทัวร์ มาแล้ว 5 รายการ ต้องลงหวดล่าแชมป์ที่ 6 และแชมป์แรกของปีกับ วิกเตอร์ ทรอยสกี้ นักเทนนิสเซอร์เบีย มือ 32 ของโลก ที่ลงล่าแชมป์แรกในการเล่นเทนนิสอาชีพให้ตัวเอง ทำให้แมตช์นี้มีความหมายและควมสำคัญสำหรับทั้งคู่อย่างมาก
ทันทีที่เปิดฉากหวดเซตแรก ต่างฝ่ายต่างสาดลูกยิงสโตรกท้ายคอร์ตที่หนักหน่วงออกมาสู้กันอย่างสุดมันส์ผลัดกันรักษาเสิร์ฟได้ตลอดจบเกม 8 สกอร์เสมอ 4-4 เกมถัดมา ซิมง เสิร์ฟแต่ต้องมาเจอกับลูกยิงสโตรกท้ายคอร์ตที่หนักหน่วงของ ทรอยสกี้ ที่กดดันหนักจน ซิมง พลาดตีเสียเองทำให้ถูกเบรกเสิร์ฟไป ทรอยสกี้ พลิกขึ้นนำ 5-4
เกมถัดมาหนุ่มเซิร์บออกมาเสิร์ฟเพื่อปิดเซต แต่ต้องอกอักเมื่อเจอกับการยิงสโตรกที่เหนียวแน่นของ ซิมง บวกกับ ทรอยสกี้ ยิงเสียแต้มเองหลายครั้งเปิดโอกาสให้ ซิมง เบรกคืนกลับสกอร์เสมอ 5-5 เกมถัดมา ซิมง อาศัยลูกเสิร์ฟที่ดีรักษาเกมนี้ได้แต้มขึ้นนำ 6-5 เกม 12 ทรอยสกี้ มาพลาดตีเสียเองหลายครั้ง ทำให้ต้องเผชิญหน้ากับ 2 เซตพอยนต์ ก่อนจะมาหวดโฟร์แฮนด์รีเทิร์นออกไป ซิมง เบรกเสิร์ฟได้และปิดเซตแรกด้วยการชนะ 7-5
เซตสองซิมง ที่ยังคงยิงสโตรกท้ายคอร์ตได้อย่างเหนียวแน่น และ แม่นยำทำให้ ทรอยสกี้ ต้องตกมาเป็นฝ่ายตั้งรับ ในเกม 6 ทรอยสกี้ เสิร์ฟแต่มาเสียจังหวะ ขณะที่เปลี่ยนมาใช้การหยอดหน้าเนตแต่ ซิมง อาศัยความไววิ่งขึ้นมารับได้ ทรอยสกี้ ตวัดขึ้นมาหวดไปท้ายคอร์ต ซิมง วิ่งกลับไปรับได้ทันอีกครั้ง บอลมาตกหน้าเนต ทรอยสกี้ ขึ้นมาจะตบบอล แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้พลาดตบบอลออกนอกคอร์ตไปทำให้ถูกเบรกเสิร์ฟ ซิมง ขยับนำ 4-2
เกมถัดมา ซิมง รักษาเสิร์ฟขึ้นนำ 5-2 ทรอยสกี้ รักษาเสิร์ฟไล่ตาม 3-5 จากนั้นซิมงออกมาเสิร์ฟเพื่อแมตช์ และด้วยลูกเสิร์ฟที่ดีกดดันจน ทรอยสกี้ หวดพลาดตีเสียเองตลอด ก่อนที่จะมาหวดโฟร์แฮนด์รีเทิร์นออกไปทำให้ ซิมง ปิดแมตช์ได้สำเร็จด้วยการชนะเซตนี้ 6-3 ส่งผลให้ ซิมง ชนะทันที 2 เซตรวด 7-5 และ 6-3 หลังใช้เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที
ทำให้ ซิมง คว้าแชมป์ "พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2009" เป็นสมัยแรก แต่เป็นคนที่ 6 ที่คว้าแชมป์รายการนี้ ยังถือเป็นการคว้าแชมป์เอทีพี ทัวร์ เป็นรายการแรกของปีนี้ให้ตัวเองอีกด้วย โดยเงินรางวัลที่ ซิมง คว้าได้มีจำนวน 100,100 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,503,500 บาท ขณะที่ ทรอยสกี้ รองแชมป์รับเงินรางวัลไปทั้งสิ้น 52,700 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,844,500 บาท
หลังการแข่งขัน ซิมง กล่าวว่า ถือเป็นสัปดาห์ที่ดีของตนที่สามารถทำผลงานได้ดี และคว้าแชมป์แรกของปีได้ที่เมืองไทย บอกตามตรงว่าทันทีที่เดินทางมาถึงเมืองไทย ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มาที่นี่ ได้รับการต้อนรับที่ดีจากคนไทย ทุกคนคอยให้กำลังใจตนมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ทำให้ตนต้องบอกกับตนเองว่า จะคว้าแชมป์ที่นี่ให้ได้ และความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน
ตนประทับใจกับการมาเมืองไทยอย่างมาก แต่ไม่อยากจะสัญญาว่าปีหน้าจะกลับมาเล่นที่นี่อีกหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เคยไปสัญญาไว้กับที่อื่น แต่พอถึงเวลาแล้วก็ทำไม่ได้ แต่ตนยืนยันว่าเมื่อมีโอกาสเมื่อไหร่จะพยายามมาเมืองไทยให้ได้อีกครั้ง
"ผมรู้สึกดีมากที่มาได้แชมป์ที่เมืองไทย เพราะมีไม่กี่รายการที่ผมได้เป็นมือวางแล้วมาได้แชมป์เพราะนักเทนนิสทุกคน ก็คาดหวังว่าจะชนะ และทุกคนก็เอาชนะได้ยากเพาะทุกคนกเล่นได้ดี แต่ผมก็ดีใจที่ทำได้ ผมชอบเมืองไทย แต่ก็ไม่อยากสัญญาว่าจะกลับมาได้หรือไม่ เพราะกลัวทำไม่ได้แต่ก็จะพยายาม" ซิมง กล่าว
ขณะที่ ทรอยสกี้ เผยความรู้สึกหลังพลาดคว้าแชมป์แรกให้ตัวเองว่า ตนโชคไม่ดีที่มีโอกาสได้เซตพ้อยท์แล้ว แต่ทำไม่ได้ ต้องยอมรับว่า ซิมง เล่นได้ดีมาก สภาพจิตใจยังแข็งแกร่งกว่าตนเยอะ แต่ตนได้สู้อย่างเต็มที่แล้วและพยายามทำให้แต่ต้องผิดหวังที่ไม่สามารถทำโอกาสที่มีให้เป็นชัยชนะได้
"ผมรู้สึกผิดหวัง กับผลการแข่งขันที่ออกมามาก ผมมีโอกาสแล้วแต่ทำไม่ได้เอง แต่รู้ตัวดีว่ามันไม่ง่ายกับการมาเจอกับมือท็อปเทนในรอบชิงชนะเลิศ แต่ยอมรับว่าการมาแข่งเทนนิสที่เมืองไทยสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์ที่ดี แม้จะไม่ได้แชมป์แรกให้ตัวเอง แต่ยังมีโอกาสในการคว้าแชมป์ในรายการต่อๆไป" ทรอยสกี้ กล่าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแข่งขันรายการนี้ว่า หลังจากได้มาดูการแข่งขันและสัมผัสกับการแข่งขันรายการนี้ ถือว่าเป็นรายการแข่งขันเทนนิสที่มีแฟนเทนนิสไทย ให้ความสนใจมากดังนั้นรัฐบาล จึงพร้อมและยินดีที่จะให้การสนับสนุนการแข่งขันรายการนี้อย่างเต็มที่
ยิ่งได้รู้มาว่า ขณะนี้มีประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย พยายามที่จะจัดการแข่งขันเทนนิสให้ยิ่งใหญ่ ดังนั้นในฐานะที่ประเทศไทย เป็นชาติแรกในภูมิภาคนี้ ที่จัดการแข่งขันเทนนิสอาชีพ จึงต้องพยายามที่จะให้การแข่งขันยังคงอยู่ และจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมต่อไป
ขณะที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นับเป็นอีกปีที่การแข่งขันเทนนิสรายการนี้ได้รับความสำเร็จอย่างมาก อย่างในนัดชิงฯ มีแฟนเทนนิสไทยให้ความสนใจเข้ามาชมกันแน่นสนาม ในปีหน้าตนจะวางแผนร่วมกับบีอีซีฯ ในการดึงตัวผู้เล่นฝีมือดี และมีชื่อเสียงมาแข่งขันในเมืองไทยให้มากที่สุด
และเป็นเรื่องน่ายินดีที่ ขณะนี้เอเยนซี่ของ ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือ 2 ของสเปนที่ได้ติดต่อมาว่าในปีหน้า นาดาล อยากจะมาแข่งเทนนิสในเมืองไทย ขณะนี้ มาเลเซียเองได้ติดต่อ นาดาล ไปแล้วแต่ นาดาล อยากมาเมืองไทยมากกว่าเพราะเขาเองรู้สึกผิด ที่ถอนตัวออกจาการแข่งขันที่เมืองไทยมา 2 ครั้งแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก ส่วนนักเทนนิสคนอื่นๆ นั้นยังไม่อยากพูดในขณะนี้ เพราะมันยังเร็วไป ยังเหลือเวลาอีกปี แต่ตนยืนยันว่าปีหน้าจะมีมือดีๆ มากันเยอะกว่าปีนี้ แน่นอน
ส่วน มร.สจ๊วร์ต แมคดอลแนล ผู้จัดการการแข่งขัน "พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น" กล่าวว่า การที่มาเลเซียมาให้ความสำคัญจัดการแข่งขันเทนนิสอาชีพชายในช่วงเดียวที่มีพีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น ทำให้นักเทนนิสฝีมือดีหลายคนต้องเลือกที่จะมาแข่งขัน ต้องมีการแข่งขันกันบ้างในการดึงตัวผู้เล่น แต่ถ้าพีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรวมถึงภาคเอกชน ที่จะเข้ามาร่วมมากขึ้นตนเชื่อว่าเราจะมีกำลังพอที่จะดึงตัวผู้เล่นฝีมือดีมากันมากกว่านี้
สำหรับอนาคตการแข่งขันเทนิส เอทีพี ทัวร์ ในเมืองไทยนั้น มร.สจ๊วร์ต กล่าวว่า หลังจากจบปี 2011 เป็นช่วงครบกำหนดสัญญาที่เราได้ทำไว้กับ เอทีพี ถ้าหมดสัญญาต้องมาคุยกับเอทีพีในเรื่องที่จะต่อสัญญากันต่อ ดูจากแนวโน้มแล้วทั้งลอนเทนนิสสมาคมฯ และ ปตท. เองสนใจที่จะขอต่อสัญญาไม่น่าจะมีปัญหา
ด้านประเภทชายคู่ รอบชิงชนะเลิศ เอริก บูโตแร็ก กับ ราจีฟ แรม จากสหรัฐอเมริกา ชนะ กิเยร์โม การ์เซีย-โลเปซ จากเยอรมัน กับ มิสชา ซเวเรฟ จากสเปน 7-6(4) และ 6-3 คว้าแชมป์ไปครองพร้อมรับเงินรางวัลรวม 32,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,120,000 บาท
ข้อมูลจากwww.siamsport.co.th
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
