หลังจากตักบาตรเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อไปยังพระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอร์ หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่าพระธาตุมุเตา ที่แปลว่า จมูกร้อน เหตุเพราะพระเจดีย์สูงมาก (สูงที่สุดในพม่า) จนเราต้องแหงนหน้ามองจนจมูกร้อนนั่นเอง เจดีย์แห่งนี้เป็นเจดีย์ใหญ่คู่บ้านคู่เมืองพะโค หรือ เมืองหงสาวดีในอดีต ที่แห่งนี้ถูกใช้ในงานพระราชพิธีตั้งแต่สมัยพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ หลังจากนั้นสมัยพระเจ้าบุเรนองก็ได้มีการบูรณะและสร้างฉัตรถวายเพิ่มเติมอีกหลายชั้น ว่ากันว่าก่อนที่พระองค์จะออกทำศึกก็จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุแห่งนี้ก่อนทุกครั้ง ... มาดูกันครับว่าจมูกเราจะร้อนแค่ไหน ...
กราบสักการะพระมหาเจดีย์พระธาตุชเวมอร์ดอร์หรือพระธาตุมุเตา
ที่เห็นสีแดง ๆ ด้านขวามือนั้นเป็นยอดพระธาตุที่หักลงมาตอนเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2473 แต่ยังคงสภาพอยู่ไม่แตกหักลงถึงพื้น ผู้คนจะเข้าไปกราบไหว้และนำก้านธูปสอดเข้าไปในด้านที่เอียงลงมาเหมือนเอาไปค้ำไว้แล้วเอาหน้าผากไปแตะกับยอดพระธาตุ จะทำให้ชีวิตคน ๆ นั้นถึงแม้จะอยู่ในช่วงตกต่ำก็จะไม่ตกต่ำถึงที่สุด เหมือนกับพระธาตุที่ตกไม่ถึงพื้นนั่นเอง
ไม่ไกลจากที่นี่มากนักคือพระราชวังบุเรงนอง เมื่อ 20 ปีที่แล้วสมเด็จพระเทพฯ ของเราเสด็จมายังเจดีย์ชเวมอดอร์และแนะนำให้ทางการพม่าลองขุดดู ซึ่งเมื่อขุดแล้วก็เจอโครงสร้างของพระราชวังจริง ๆ หลังจากนั้นก็ได้มีการสร้างพระราชวังจำลอง (เหมือนโรงถ่ายที่กาญจนบุรีของเรา) และบูรณปฏิสังขรณ์พื้นที่โดยรอบเรื่อยมา
บรรยากาศภายนอกและภายในพระราชวังบุเรงนอง
ไม่ไกลกันนักเราไปกราบสักการะ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของเมืองหงสาวดี องค์ใหญ่มาก...พระนอนที่พม่าตาโต บางองค์ถูกเรียกว่าตาหวานกันเลยทีเดียว หลักความเชื่อน่าจะคล้าย ๆ กับไทยเพียงแต่ก่อสร้างด้วยศิลปะที่แตกต่างกัน เช่นลักษณะการวางพระบาทที่เป็นแบบซ้อนกัน
กราบสักการะ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวกราบสักการะ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว
ถัดไปอีกนิดไปกราบนมัสการพระเจดีย์ไจ๊ปุ่น ที่นี่มีพระพุทธรูปปางประทับนั่งของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์นั่งอยู่ 4 ทิศด้วยกัน สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่ตั้งใจจะอุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาด้วยการสร้างพระพุทธรูปแทนตนขึ้นมา และสาบานตนว่าจะไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ แต่ที่สุดแล้วตำนานเล่าว่าน้องคนสุดท้องได้แต่งงานไป หลังจากนั้นพระพุทธรูปองค์ที่นางสร้างแทนตนได้เกิดแตกร้าวและได้รับการบูรณะใหม่ภายหลัง ซึ่งจะเห็นได้ว่าศิลปะการสร้างแตกต่างกับอีก 3 องค์ก่อนหน้า
พระพุทธเจ้าสี่พระองค์ที่เจดีย์ไจ๊ปุ่น
ขากลับเข้าย่างกุ้งเราแวะไปสักการะ พระหยกขาว กันก่อนครับ พระหยกขาวเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินอ่อนองค์ใหญ่ที่สุดในพม่า สูง 37 ฟุต กว้าง 24 ฟุต หนัก 600 ตัด ทรงประทับนั่ง และเนื่องจากมีสีขาว สะอาด ไม่มีตำหนินี่เองที่ทำให้คนไทยตั้งชื่อให้ท่านว่า พระหยกขาว ...
เหลืออีกครึ่งวันก่อนเดินทางกลับ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องไปกันเลยทีเดียว ไว้มาต่อนะครับเดี๋ยวจะยาวเกินไป การเดินทางหมื่นลี้ เริ่มต้นด้วยก้าวแรกเสมอ ขอให้มีความสุขและสนุกกับการเดินทางครับ...
ขออนุญาตนำไปแชร์ที่หน้าแฟนเพจบนเฟชบุคหน่อยนะคะ
ขอบพระคุณมากค่ะ