Journey Journal with NineNoname

<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
26 พฤษภาคม 2555
 

สะพายกล้องท่องฟลอเรนซ์ ชมหอเอนที่ปิซา

     เป็นอย่างไรบ้างครับกับการเที่ยวกรุงโรมเมื่อตอนที่แล้ว อยากไปกันบ้างหรือยังครับ ถ้าใครที่อยากไปแล้ว หรือใครที่ยังไม่อยากไป (จะพูดทำไม) ผมมีอีกหนึ่งที่ที่น่าจะทำให้คนที่อยากไปอยู่แล้วอยากไปมากขึ้น และคนที่ยังไม่อยากไปเกิดอยากไปขึ้นมาบ้าง...555...ทริปนี้นอกจากจะอยู่ในกรุงโรมแล้วยังได้มีโอกาสได้ออกมานอกกรุงโรมหนึ่งวัน ประเด็นหลักคืออยากจะไปปิซาเพื่อไปดูหอเอน แต่ไหน ๆ ก็ไปแล้วจะไปที่เดียวก็ใช่ที่แวะที่นี่ด้วยแล้วกันฟลอเรนซ์

 

บรรยากาศบริเวณถนนช้อปปิ้งของเมือง

     หลายคนอาจจะเคยได้ยินหรือคุ้นกับชื่อเมืองนี้ ภาษาอังกฤษ อ่านว่า ฟลอเรนซ์ (Florence) แต่ถ้าเป็นภาษาอิตาลีจะอ่านว่า ฟีเรนเซ่ (Firenze) เมืองฟลอเรนซ์เองเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศอิตาลีเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1865 ถึง ค.ศ.1970 ในยุคกลางเมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้า การเงิน ศิลปะและสถาปัตยกรรม ปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของแคว้นทัสคานี

     การเดินทางจากโรมไปฟลอเรนซ์สามารถไปได้ทั้งทางรถยนต์และรถไฟเท่าที่ศึกษาดูใช้เวลาเดินทางเท่า ๆ กันคือประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ถ้ารถไฟก็สามารถไปขึ้นได้ที่สถานี Termini ในกรุงโรมมีรถไฟออกหลายเวลา ยังงัยก็ลองตรวจสอบเวลาได้ที่นี่ www.fsitaliane.it ส่วนคราวนี้ผมไปด้วยรถตู้ครับออกจากกรุงโรมประมาณ 9 โมงเช้าไปถึงฟลอเรนซ์ก็เที่ยงนิด ๆ แวะดูเครื่องหนัง (หนึ่งในสินค้าขึ้นชื่อของฟลอเรนซ์) แล้วหาอะไรทานกันซะหน่อย


บรรยากาศในร้านอาหาร...ไม่รู้ชื่อร้านแต่... อร่อยมาก

     หลังจากทานอาหารกันเสร็จก็ได้เวลาออกตะลุยเมืองฟลอเรนซ์กันต่อ...เมืองฟลอเรนซ์ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน บรรยากาศของเมืองที่มีแม่น้ำผ่านกลางนี่ช่างสวยงามและโรมแมนติกจริง ๆ ผมแนะนำว่าถ้าจะมาเที่ยวที่นี่ให้ออกจากโรมมาเช้าหน่อยหรือจะมาพักที่นี่สักคืนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เพราะตอนเรามาถึงนี่แดดแรงมาก ถึงแม้เมืองจะสวยแต่เราก็เพลียเกินกว่าที่จะอยากเดิน เราเลยนั่งรถมาลงบริเวณที่เป็นยังถนนช้อปปิ้งของเมืองซึ่งอยู่ตรงจุดที่น่าจะมาถ่ายรูปด้วยจุดหนึ่งนั่นก็คือบริเวณ สะพานปอนเต้ (Ponte Vecchio)

สะพานปอนเต้...สะพานที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง

     สะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง อย่างที่เห็นจุดเด่นของสะพานก็คือเป็นสะพานขนาดใหญ่ที่มีตึกแถวตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของสะพาน ปัจจุบันเป็นร้านขายสินค้าต่าง ๆ ที่เห็นแว็บ ๆ ก็จะเป็นพวกร้านทองและจิวเวลรี่ ใครสนใจก็มาเลือกชมเลือกซื้อได้ครับ แต่ผมขอผ่าน...555...นอกจากร้านขายเครื่องประดับแล้ว บริเวณนี้ยังเป็นถนนสายช้อปปิ้งของเมืองอีกด้วย มีสินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อหา เดินเข้ามาในเมืองนี้แล้วเหมือนย้อนยุคกลับไป ช้อปปิ้งอยู่ในสมัยเรอเนสซองส์กันเลยทีเดียว

บรรยากาศบริเวณสะพานปอนเต้

     นอกจากจะเป็นเมืองที่น่ารัก มีแหล่งช้อปปิ้งที่น่าซื้อแล้วเมืองฟลอเรนซ์ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะอีกด้วย อนุเสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์ของเมืองได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดกำเนิดของยุคฟื้นฟูศิลปะในอิตาลี ศิลปินชื่อก้องโลกหลายคนก็ถือกำเนิดที่เมืองนี้ อีกทั้งใจกลางเมืองเก่าของ ฟลอเรนซ์ยังได้รับเลือกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกอีกด้วย

บรรยากาศบริเวณจตุรัสซิญญอเรีย และและ วังเวคคิโอ

     จัตุรัสซิญญอเรีย (Piazza della Signoria) ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของฟลอเรนซ์ เคยเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและการปกครองของฟลอเรนซ์ บริเวณจัตุรัสแห่งนี้มีรูปแกะสลักตั้งแสดงอยู่มากมาย และที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ก็คือวังเวคคิโอ (Palazzo Vecchio) ในสมัยก่อนใช้เป็นศาลาว่าการ โดยมีระฆังขนาดใหญ่บนยอดหอเพื่อเรียกประชุมชาวเมืองเพื่อแจ้งข่าวสารหรือภัยร้ายต่างๆ บริเวณทางเข้าวังเคยเป็นที่ตั้งรูปแกะสลักเดวิดของไมเคิล แองเจลโล ปัจจุบันถูกย้ายไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ แต่ก็ได้ทำรูปจำลองตั้งไว้แทนที่

รูปปั้นเดวิส(จำลอง)รูปปั้นเดวิส(จำลอง)

     เท่าที่ทราบถ้าเราข้ามสะพานไปอีกฝั่งของแม่น้ำจะมีจตุรัสไมเคิลแองเจลโลอยู่ซึ่ง ณ. จุดนั้นสามารถเห็นทิวทัศน์ของเมืองได้ทั้งหมดเหมาะกับการถ่ายรูปมาก และช่วงบ่ายก็เป็นเวลาดีที่จะถ่ายรูปแต่เสียดายที่เวลาผมมีค่อนข้างน้อย (ไปเดินถือของ...เอ้ย...ดูของซะหมด) เลยไม่ได้ข้ามไป ว่าแล้วเราก็ออกเดินทางไปชมหอเอนปิซากันดีกว่า ก่อนที่จะค่ำมืดเกินไป

ภาพแรกที่เห็น...ยิ่งใหญ่อลังการมาก ๆ

     เราออกเดินทางจากฟลอเรนซ์ตอนเกือบจะ 6 โมงเย็น ใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ จุดมุ่งหมายหลักของเรา “หอเอนปิซา” นั่นเอง ดีที่หน้าร้อนกว่าฟ้าจะมืดก็เกือบ 3 ทุ่ม เราเลยยังพอมีเวลาในการเก็บภาพประทับใจของหอเอนปิซ่าได้อีกพอสมควร หอเอนปิซา ตั้งอยู่ในจตุรัสเปียซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) ในเมืองปิซา บริเวณจตุรัสแห่งนี้มีอาคารสำคัญ ๆ อยู่ 3 อาคารด้วยกันคือ มหาวิหาร (Duomo) หอศีลจุ่ม (Baptistery) และหอเอน (Torre)

บรรยากาศในจตุรัสเปียซา เดล ดูโอโม


ท่ามาตรฐานที่แทบทุกคนที่มาที่นี่ต้องทำ...555...

     หอเอนปิซา (La Torre di Pisa หรือ Leaning Tower of Pisa) เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นหอระฆังทรงกระบอก สูง 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1174 แต่เมื่อสร้างไปได้ 3 ชั้น ตัวหอเกิดทรุดลงไปด้านหนึ่งจึงต้องหยุดการสร้างเพื่อแก้ไขและสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จในปี ค.ศ.1350 โดยมีการปรับโครงสร้างด้านบนเพื่อรักษาสมดุลของตัวหอ ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 177 ปี เมื่อสร้างเสร็จมีความสูงทั้งหมด 183.3 ฟุต น้ำหนักโดยประมาณ 14,500 ตัน มีบันไดทั้งสิ้น 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉากถึง 14 ฟุตในปี ค.ศ. 1990-2001 ได้มีการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา

...ก็แค่นี้เอง...

     เมืองปิซาในความเห็นผม ถ้าไม่มีหอเอนก็คงจะเป็นแค่เมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจนัก เมืองฟลอเรนซ์ดูจะมีเสน่ห์ มีอะไรน่าสนใจกว่า น่าใช้เวลาด้วยมากกว่า (โดยเฉพาะสาว ๆที่นิยมการซื้อของ) ว่าแล้วก็พูดถึงเรื่องของฝาก ของที่ระลึกในการมาอิตาลีสักเล็กน้อยแล้วกัน มีให้เลือกซื้อเลือกหามากมาย ราคาก็แตกต่างกันตามสถานที่ที่ไป ที่ผมเจอถูกที่สุดก็คือบริเวณโคลอสเซี่ยม จะมีแขกเดินขายอยู่เราไม่ต้องถามว่าราคาเท่าไหร่ แต่เขาจะถามว่าให้ราคาเท่าไหร่แทน ... 555 ... ก็เลยลองเล่น ๆ ในเมืองขาย 5 ยูโร ลองแหย่ไปที่  1   ยูโร (ตอนพูดไปก็กลัวถูกเตะเหมือนกัน) ปรากฎว่าได้แฮะ ... ก็เลยต้องซื้อมาอีกเพื่อชดเชยกับของราคาแพงที่ได้ซื้อไปแล้ว...จะได้รู้สึกว่าซื้อได้ถูกลง (ปลอบใจตัวเอง)


ของฝากของที่ระลึกที่มีให้เลือกซื้อมากมาย

หน้ากากก็เป็นของฝากที่น่าสนใจเช่นกัน

     อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจก็คือเรื่องของการทำ VAT refund ในกรณีที่เราเป็นนักท่องเที่ยวและซื้อสินค้าที่มีมูลค่ามากกว่า 154.94 ยูโร (คิดเป็น 155 ยูโร แล้วกัน) สามารถทำเรื่องขอ VAT refund ได้ โดยให้ทางร้านจะออกแบบฟอร์มมาให้ นำแบบฟอร์มนั้นมาประทับตราตอนจะขึ้นเครื่องกลับพร้อมโชว์สินค้า และไปรับเงิน ที่ Gate H1 โดยเราสามารถเลือกรับเป็นเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีบัตรเครดิตก็ได้ครับ

 
     ประเด็นสำคัญที่อยากจะบอกก็คือ ควรจะรีบมาเช็คอินและเผื่อเวลาในการดำเนินการไว้เยอะ ๆ หน่อยเพราะว่าแถวยาวมาก ยิ่งถ้ามาในช่วงที่มีกรุ๊ปทัวร์เดินทางกลับด้วยแล้วเนี่ย...สุดยอด ควรหาข้อมูลมาหน่อยว่าต้องเตรียมอะไร ต้องทำอย่างไรบ้างก็จะดี จะได้สะดวกรวเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาและอารมณ์...การเดินทางหมื่นลี้เริ่มต้นด้วยก้าวแรกเสมอ ขอให้มีความสุขและสนุกกับการเดินทางครับ

 




Create Date : 26 พฤษภาคม 2555
Last Update : 26 พฤษภาคม 2555 10:10:36 น. 1 comments
Counter : 7137 Pageviews.  
 
 
 
 
อ่านตอนแรกที่กรุงโรม ได้ที่นี่ครับ ...

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ninenoname&month=08-2011&group=2&date=09&gblog=19

 
 

โดย: iamnoname วันที่: 28 พฤษภาคม 2555 เวลา:8:35:01 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

iamnoname
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]





[Add iamnoname's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com