Journey Journal with NineNoname

 
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
15 กันยายน 2553
 

สะพายกล้องท่องเกาหลี (ตอน 1): Korea I



     กลับจากปักกิ่งได้ไม่นานก็มีโอกาสหนีอากาศร้อนมาก ๆ ที่กรุงเทพฯ ไปพึ่งเย็นที่เกาหลีมาครับ ทริปนี้จะนับว่ากี่วันดีหละ 4 วัน 3 คืนหละกัน ออกจากกรุงเทพฯ เกือบ ๆ เที่ยงคืนไปถึงเกาหลีก็ตอน 6 โมงกว่า ๆ ของอีกวัน ทริปนี้มีโอกาสได้เข้าไปสำรวจห้อง Royal First Lounge ที่สุวรรณภูมิ...หรูหราไฮโซน่าดู มีการแบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ ให้ด้วยเพื่อความเป็นส่วนตัว เข้าไปนั่งเล่นนอนเล่นซักพักก็ไปนอนต่อบนเครื่องหละกัน...อิอิ...




     กว่าจะได้ออกมาจากจากท่าอากาศยานนานาชาติอินชอนได้ก็เจ็ดโมงแล้วครับ สำหรับคนไทยไม่ต้องทำวีซ่าเนื่องจากความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเกาหลีที่ได้เคยช่วยเหลือกันไว้ แต่ปัจจุบันมีคนไทยหนีเข้าไปทำงานกันเยอะเหลือเกินอนาคตก็อาจจะมีมาตรการบางอย่างที่ต้องเปลี่ยนไป



     วันนี้ที่แรกที่เราจะไปก็คือ เกาะนามิ เป็นเกาะที่ถูกใช้ในการถ่ายทำละครเกาหลี WINTER LOVE SONG หรือ “เพลงรักในสายลมหนาว” ที่เคยโด่งดังในเมืองไทย รูปร่างของเกาะนามิจะดูเหมือนใบไม้ที่ลอยอยู่กลางสายน้ำ ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินไปถึงเกาะประมาณ 2 ชั่วโมง อากาศที่นี่หนาวมาก ๆ ประมาณ 2 องศา...แต่พอบวกกับลมเย็น ๆ บนเกาะริมน้ำเข้าไปอีก...บรึ๊ย...หนาวได้ใจจริง ๆ




     หลังจากเดินตากลมหนาวกันจนสั่นก็ได้เวลาอาหารกลางวันกัน สำหรับอาหารเกาหลีจานแรกที่ได้ชิมคือทักคาลบี้ หรือไก่ผัดกะทะร้อน ซึ่งเป็นอาหารประจำเมืองชุนชอน เป็นการเอาไก่ไปผัดในกระทะผสมกับกะหล่ำปลี มันหวาน แป้งข้าวเหนียว น้ำมันงาและซอสพริกแดงสด หลังจากผัดจนสุกซักพักก็จะเอาข้าวสวยลงไปผัดให้เข้ากัน เวลาทานก็จะทานคล้าย ๆ เมี่ยงบ้านเราคือใช้ผักห่อกับข้าว ไก่ และเครื่องเคียงต่าง ๆ




     หลังจากทานเสร็จก็เดินทางอีกกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อไปยังเขตอุทยานแห่งชาติโซรัคซาน หรือ สวิสเซอร์แลนด์เกาหลี ปัจจุบันการเดินทางสะดวกกว่าแต่ก่อนมาก เนื่องจากมีการเจาะอุโมงค์ทะลุภูเขาทำให้ใช้เวลาในการเดินทางน้อยลงเพราะไม่ต้องผ่านเส้นทางที่คดเคี้ยวบนภูเขาเหมือนแต่ก่อน ก่อนจะถึงที่พักเราแวะไปชม TEDDY BEAR FARM กันก่อน ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงหมีเท็ดดี้จากทั่วโลก มีตุ๊กตาหมีสารพัดชุด สารพัดท่าทาง น่าจะเป็นสวรรค์น้อยๆ ของผู้หลงรักตุ๊กตาหมีกันเลยทีเดียว




     หลังจากชมกันเสร็จก็เข้าที่พักเลยครับ ที่นี่มีสระว่ายน้ำ บ่อน้ำแร่ ให้เราได้ใช้บริการกันด้วย (ค่าบริการจ่ายกันเองนะครับ) แต่ส่วนใหญ่ก็จะเหนื่อยกับการนั่งรถมากัน เห็นมีแต่หาเสบียงมาทำทานกัน เพราะในห้องมีอุปกรณ์ทำครัวให้ครบครัน ในห้องพักแบ่งเป็นสองห้องนอน ห้องนึงเป็นเตียงปกติ อีกห้องเป็นฟูกปูนอนกับพื้น โดยที่ใต้พื้นจะมีท่อน้ำอุ่นไหลผ่านเพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ห้องนั่นเอง



     หลังจากเก็บข้าวของและพักผ่อนเล็กน้อยเราก็ออกไปทานอาหารเย็นกันโดยมื้อนี้เป็น ซีฟู้ดหม้อไฟ มีปลาหมึกและหอยต่าง ๆ ให้ทาน ส่วนตัวแล้วผมว่ารสชาดค่อนข้างแปลกและอร่อยสู้สุกี้บ้านเราไม่ได้...หลังจากทานเสร็จก็กลับที่พักกันเพื่อเตรียมลุยสำหรับวันต่อไป




Create Date : 15 กันยายน 2553
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2560 10:43:41 น. 2 comments
Counter : 1468 Pageviews.  
 
 
 
 
โปรแกรมเดินทางเหมือนกันเลยค่ะ แต่เราไป 6 วัน 4 คืนค่ะ
 
 

โดย: mamminnie วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:18:26:16 น.  

 
 
 
... สนุกไหมครับ
 
 

โดย: iamnoname วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:18:44:30 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

iamnoname
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]





[Add iamnoname's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com