Journey Journal with NineNoname

<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 มีนาคม 2554
 

สะพายกล้องท่องนิวซีแลนด์ : Christchurch – Fox Glacier



     ตอนที่แล้วเรามาถึงเมืองไคร์สเชิร์ชกันแล้วนะครับ ได้แนะนำและพาเที่ยวในตัวเมืองบ้างพอเป็นพิธี วันนี้เราจะออกไปเที่ยวรอบ ๆ เกาะกันครับ การเที่ยวในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ควรจะเช่ารถและขับไปเที่ยวตามเมืองต่าง ๆ รอบ ๆ เกาะ ถ้าดูจากในแผนที่เส้นทางท่องเที่ยวของเกาะนี้จะเหมือนกันวงกลม 2 วงซ้อนกันครับโดยมีวงใหญ่กับวงเล็ก โดยเส้นรอบวงด้านหนึ่งของวงกลมทั้ง 2 วงทับกันอยู่ ที่นี้จะขับแบบวนซ้ายหรือวนขวา จะเที่ยวรอบใหญ่หรือรอบเล็กก็แล้วแต่จะเลือกหละครับ โดยไม่ว่าจะไปทางซ้ายหรือทางขวาก่อนก็จะสามารถวนกลับมาที่เมืองไคร์สเชิร์ชได้ทั้งสองทางครับ


     เช้านี้เราจะใช้สูตรการเที่ยวเป็น 7-8-9 ครับ นั่นคือตื่นขึ้นตอน 7 โมงเช้าครับทานอาหาร 8โมงและออกจากที่พักตอน 9 โมง อากาศวันนี้เย็นมาก น่าจะเย็นกว่าเมื่อวานดีที่ไม่มีลมเท่าไหร่ไม่อย่างงั้นท่าจะหนาวแย่ วันนี้เราจะมุ่งหน้าไปยังส่วนที่เรียกว่า West Coast ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเกาะ โดยมุ่งหน้าไปตามเส้นทาง Highway สาย 73 ผ่าน Arthur’s Pass (ตั้งตามชื่อของผู้ที่บุกเบิกเส้นทางนี้เป็นคนแรกนั่นคือ Sir Arthur Dudley Dobson) เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ตัดผ่านช่องเขาที่งดงามมาก และได้ชื่อว่าเป็น Highway ที่สูงและสวยที่สุดในประเทศ เพราะเส้นทางนี้ได้ตัดผ่านอุทยานแห่งชาติ Arthur’s Pass (Arthur’s Pass National Park) ทำให้วิวทิวทัศน์โดยรอบเต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติทั้งภูเขา แม่น้ำ และทะเลสาบ


     การขับรถที่นี่ถ้าเป็นในเมืองก็จะจำกัดความเร็วไว้ไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เมื่อเริ่มออกนอกเมืองก็จะเริ่มเพิ่มความเร็วให้เป็น 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อพ้นจากตัวเมืองมาแล้วก็จะได้สูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ต้องขับกันโดยระวังเรื่องความเร็วกันนิดนึงเพราะถ้าโดนจับและถูกปรับเนี่ยท่าทางจะแพงน่าดูทีเดียว ใครลองแล้วรบกวนช่วยบอกด้วยครับว่าเท่าไหร่ ... 555 ... แต่ก็ไม่ต้องกังวลมากนักเพราะเขามีป้ายบอกเป็นระยะทั้งตอนเข้าใกล้และตอนออกจากเขตเมือง


     ขับออกมาจากเมืองไคร์สเชิร์ช (ด้วยความเร็ว 100 กม./ชม.พอดีเป๊ะ) จะผ่านเมืองต่าง ๆ อีกหลายเมืองครับ แต่เราแวะที่เมือง Spring Fields เพื่อเติมน้ำมันและเข้าห้องน้ำกันนิดหน่อย เมืองนี้เป็นเมืองเล็ก ๆ และเป็นเมืองสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่เส้นทาง Arthur’s Pass อาจจะเรียกว่าเป็นประตูสู่เทือกเขาแอลป์ก็ได้ โดยจะเห็นที่ปั๊มน้ำมันก็จะมีเขียนไว้ครับว่าปั๊มนี้เป็นปั๊มสุดท้ายจะเจอปั๊มอีกทีก็อีก 82 กม.ครับ พยายามเติมไว้ให้เต็มตลอดก็ดี เพราะระหว่างทางมีปั๊มน้อยมากและเราไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเจออะไรบ้าง เพื่อความปลอดภัยและสบายใจในการขับขี่ก็เติมไว้เถอะครับ



จุดชมวิวบริเวณ Castle Hill

     พอขับรถเข้าสู่ Arthur’s Pass ได้ซักพัก ก็จะพบจุดชมวิว Castle Hill จุดนี้เราสามารถมองเห็นทุ่งกว้างและมีก้อนหินปูนขนาดใหญ่ที่เหมาะและเป็นที่นิยมสำหรับนักไต่เขาเป็นอย่างมากครับ แต่ต้องเดินจากที่จอดรถเข้าไปอีก เราเลยไม่เข้าไปได้แต่ถ่ายรูปกันอยู่ด้านนอก พอขับเลยมาได้ซักพักอากาศชักจะแปลก ๆ เมฆเริ่มเยอะขึ้น พระอาทิตย์หายไปแล้วท่าทางจะมีฝนตกตามพยากรณ์อากาศที่ดูมาล่วงหน้าเลยครับ (www.metservice.co.nz) ซักพักฝนตกก็ปลอย ๆ และก็ตกตลอดทางเลยแถมมีตกหนักในบางช่วงซะด้วย ทำให้จุดเด่นจุดหนึ่งในเส้นทางนี้คือ เส้นทางลอยฟ้าหรือที่เรียกว่า Otira Viaduct ซึ่งเป็นสะพานที่ยกสูงจากพื้นมากและมีทางยาวเป็นพิเศษ อยู่ก่อนถึงหมู่บ้าน Otira ไม่สามารถลงไปถ่ายรูปได้เลย...แย่จัง…

     เราเข้าสู่เขตชายฝั่งตะวันตกของเกาะใต้ประมาณบ่ายโมงครับ เขตชายฝั่งตะวันตกของเกาะใต้นี่มีพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาสูง มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีทำให้เขตนี้เป็นเขตที่มีธารน้ำแข็งหรือที่เราเรียกว่ากลาเซียร์ (Glacier) นอกจากนี้บริเวณริมฝั่งทะเลยังมีหาดทรายกว้างและทะเลก็มีคลื่นแรงพอที่จะเล่นกระดานโต้คลื่นได้อีกด้วย เขตนี้ยังเป็นเขตที่มีปริมาณฝนมากกว่าเขตอื่น ๆ อีกต่างหาก จากแยก Kumara  ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะมุ่งหน้าไปยังเมือง Franz Josef ที่มีธารน้ำแข็ง Franz Josef (Franz Josef Glacier) แต่ถ้าเลี้ยวขวาก็จะเจอเมือง Greymouth ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางทางการค้าของเขตนี้ เราวางแผนที่จะมาพักที่เมือง Greymouth กัน เนื่องจากมีสถานที่ที่น่าสนใจนั่นคือ Shanty town และ Pancake Rock


     จากแยก Kumara เราเลี้ยวขวาเข้าสู่ Highway สาย 6 โดยก่อนจะถึงเมืองเราจะเจอสะพานข้ามแม่น้ำ สะพานในประเทศนี้ค่อนข้างจะแปลก จะเรียกว่าสะพานเอื้ออาทร หรือ สะพานวัดใจดีหละครับ คือ จากเดิมที่ถนน Highway มีเพียง 2 เลนก็ว่าแปลกแล้ว  แต่สำหรับสะพานที่นี่แล้วมีเลนเดียวเลยครับ โดยจะมีเขียนไว้ที่ถนนก่อนถึงสะพานว่า One lane Bridge ครับ คือ บนสะพานจะมีแค่เลนเดียว เราต้องมองอีกฝั่งหนึ่งว่าเค้ามาก่อนหรือเปล่า ถ้าเค้ามาก่อนก็ควรให้เค้าขับข้ามมาก่อน คือ ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกันครับ แต่สะพานก่อนเข้าเมือง Greymouth นี่สิครับ นอกจากรถที่ต้องใช้ร่วมกันแล้วเนี่ย ยังมีรถไฟมาร่วมเอื้ออาทรด้วยในเลนเดียวกัน…ช่างใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่าจริง ๆ ลองดูจากรูปเองหละกันครับ



 

สะพานเอื้ออาทร

     เมื่อเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติพาพาโรว์(Paparoa National Park)ตาม Highway 6 เหมือนเดิม ระยะทางจากเมือง Greymouth ก็ประมาณ 47 กม. โดยจุดหมายของเราคือไปชม Pancake Rocks และ Blowholes ตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า Punakaiki ซึ่งเป็นใจกลางของอุทยานแห่งนี้ โดย Pancake Rocks เป็นก้อนหินรูปร่างแปลกคล้ายแพนเค้กที่วางซ้อนกัน เกิดจากชั้นหินปูนที่สลับทับซ้อนกันกับชั้นหินโคลน และสึกกร่อนตามระยะเวลาโดยฝน ลม และน้ำทะเล โดยด้านล่างจะมีลักษณะเป็นโพรงและถ้ำที่น้ำทะเลสามารถเข้ามาได้ ทำให้ในช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูง และคลื่นลมแรง จะมีน้ำพุ่งขึ้นมาตามโพรงเหมือนปลาวาฬพ่นน้ำ ซึ่งก็คงเป็นที่มาของคำว่า Blowholes ครับ (น่าจะเป็นช่วงเช้าครับเพราะตอนผมไปไม่เห็นมีเลย)


Pancake Rocks & Blowholes

     จากจุดจอดรถเราต้องเดินเข้าไปด้านในอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงจุดชมวิว ที่นี่ไม่ต้องเสียค่าเข้าชมครับ เมื่อถึงจุดชมวิวเราก็ได้พบกับ Pancake Rock ที่มีรูปร่างต่าง ๆ แล้วแต่จะจินตนาการกัน โดยบางจุดมีภาพเปรียบเทียบและชี้ให้เห็นว่าหินก้อนนี้หน้าตาคล้ายกับอะไร ก็เป็นความแปลกที่ธรรมชาติได้สร้างไว้ให้เราครับ บริเวณจุดจอดรถของที่นี่มีทั้งร้านอาหาร ห้องน้ำ โทรศัพท์ ร้านขายของที่ระลึก และ i-site (สามารถหา information ได้ที่นี่) เนื่องจากถ่ายรูปไม่ได้เพราะฟ้าฝนไม่เป็นใจ ก็เลยได้ postcard กลับมาเป็นที่ระลึกแทน ขากลับแวะเติมเสบียงที่ Supermarket อีกเช่นเคยครับเพื่อทำอาหารเย็นทานกัน มื้อนี้มีทั้งปลาแซลมอน เนื้อแกะ เนื้อวัว ฯลฯ ...รวมระยะทางที่เราขับรถกันวันนี้ก็ประมาณ 350 กิโลเมตรครับ


เห็นเหมือนที่เขาจินตนาการกันไหมเอ่ย

     วันรุ่งขึ้นตื่นมาเตรียมตัวออกเดินทางกันตั้งแต่ 6 โมงครึ่งอากาศเย็นสบาย ทานอาหารเช้ากันง่าย ๆ แค่พออิ่มแล้วก็ออกเดินทางต่อ วันนี้เราจะเดินทางไปยัง Franz Josef Glacier และ Fox Glacier โดยเริ่มออกเดินทางกันตอน 9 โมงพอดี ตาม Highway 6 เหมือนเดิมครับย้อนกลับลงมายังแยก Kumara โดยเราตัดสินใจจะไม่ไป Shanty Town เนื่องจากสมาชิกหลายคนไม่สนใจ (ที่สำคัญเสียค่าเข้าด้วย) การไปเมือง Shanty town ต้องขับรถลงไปทางใต้อีกประมาณ 11 กม. เป็นเมืองที่จำลองให้เป็นเหมืองขุดทองสมัยก่อน เสียค่าเข้าชม 14.50 เหรียญ แต่ถ้าต้องการจะลองล่อนทองด้วยก็ 18 เหรียญพอดิบพอดีครับ


     วันนี้อากาศดีมีแดดออกด้วยผิดกับเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง หลังจากตัด Shanty Town ออกจากแผนเราก็มุ่งตรงสู่เมือง Franz Josef เลย ระหว่างทางจะผ่านเมือง Hokitika เมืองนี้มีขนาดเล็กกว่า Greymouth มีหอนาฬิกาตั้งเด่นอยู่กลางใจเมือง เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อด้านงานศิลปะและงานฝีมือคุณภาพสูง โดยเฉพาะงานหยก ถ้าใครสนใจจะซื้อเป็นของฝากก็สามารถหาซื้อได้ที่นี่ครับ มีโรงงานหยกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงใจกลางเมืองกันเลยทีเดียว แวะถ่ายรูปและซื้อของที่ระลึกกันสักพักก็ออกเดินทางกันต่อครับ อากาศตอนออกเดินทางเนี่ยฟ้าเริ่มปิดอีกแล้ว เมฆมาก แสงแดดที่เห็นเมื่อตอนออกเดินทางหายไปซะแล้ว



หอนาฬิกาใจกลางเมือง Hokitika

 

     จากเมือง Hokitika เรายังต้องขับรถกันอีก 133 กิโลเมตรโดยประมาณกว่าจะถึงเมือง Franz Josef น่าจะใช้เวลาอีกเกือบ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว ระหว่างทางฝนตกตลอดทางเลยครับ แถมตกหนักกว่าเมื่อวานอีกต่างหาก เรามาถึง Franz Josef ตอนเกือบบ่ายโมง ฝนก็ยังคงตามเป็นเพื่อนเรามาตลอดทาง เมือง Franz Josef เป็นเมืองเล็กมาก มี Highways ตัดผ่านกลางเมืองขับรถยังไม่ทันไรก็สุดเขตเมืองแล้ว ถึงเมืองจะเล็กแต่ก็มีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน วนดูรอบเมืองสักพักจึงตัดสินใจจะเดินทางต่อไปยังเมือง Fox เลยโดยไม่ได้ลงไปเพราะฝนตกหนักมาก ลงไปก็คงไปดู Franz Josef Glacier ไม่ไหวแน่ แย่จังอดเห็นอีกแล้ว…ท่าทางทริปนี้จะลืมพกดวงมา พกมาแต่ฝน

     คืนนี้เราเลยจะไปนอนกันที่เมือง Fox โดยขับเลยจากเมือง Franz Josef ไปอีกประมาณ 24 กม. เมือง Fox เป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบเมทีสัน (Lake Matheson) ซึ่งถ้าเป็นวันที่อากาศดีจะสามารถมองเห็นเงาสะท้อนของยอดเขา Mount cooks และ Mount Tasman ซึ่งเป็นภาพยอดฮิตในโปสการ์ดของเมือง โดยช่วงที่เหมาะสมที่จะพบวิวเช่นนี้คือช่วงเช้าครับ เพราะเป็นช่วงที่ไม่มีลมทำให้น้ำในทะเลสาบนิ่ง สำหรับการไปทะเลสาบเมทีสัน เราต้องขับรถออกจากเมืองมาอีกประมาณ 6 กม. และเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 15 นาทีจึงจะถึงจุดชมวิวแรก โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งสำหรับการเดินรอบทะเลสาป


ทางเดินไปชม Lake Matheson

     เวลาวันนี้เราเหลือค่อนข้างเยอะเพราะไม่ได้แวะที่เมือง Franz Josef เมื่อได้ที่พักและเก็บข้าวของพร้อมทานอาหารกลางวันกันเรียบร้อย ก็เลยออกเดินทางไปยังทะเลสาบเมทีสันกัน ไปลองสำรวจพื้นที่กันก่อน อากาศยังคงไม่เป็นใจครับ ถึงฝนจะตกน้อยลงแต่ก็ยังมีเมฆเยอะอยู่ดี เดินมาจนถึงจุดชมวิวแรกก็เป็นอย่างที่คิดกันแหละครับ ไม่เห็นอะไรเลย นอกจากเมฆจะเยอะจนบังยอดเขาแล้ว ลมยังแรงอีกต่างหากทำให้น้ำในทะเลสาปไม่นิ่งพอที่จะสะท้อนอะไรได้ แต่ก็ยังคงถ่ายรูปกันทั้งอย่างนั้นนะแหละครับ (ไหน ๆ ก็มาแล้ว เดี๋ยวไม่มีหลักฐาน)



     ถ่ายรูปกันซักพักก็ตัดสินใจเดินต่อไปยังจุดชมวิวที่ไกลที่สุด (Reflection Island) ซึ่งจากจุดนั้นถ้าอากาศดี ๆ ก็จะเห็นยอดเขาทั้งสอง แต่วันนี้มีแต่เมฆกับฝนครับ นอกจากไม่เห็นอะไรแล้วยังเปียกปอนกันอีกต่างหาก เลยไม่มีภาพมาฝากเลยงานนี้ กว่าจะกลับมาถึงที่จอดรถเล่นเอาหมดแรงเหมือนกันเพราะเจอทั้งลมทั้งฝน แถมแบกความผิดหวังกลับมาอีกต่างหาก แต่ก็อย่างว่าหละครับ จะเอาอะไรกับธรรมชาติที่เราไม่สามารถกำหนดหรือควบคุมได้ กลับที่พักกันดีกว่าวันนี้ ก่อนเข้าที่พักก็แวะซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเตรียมเสบียงสำหรับคืนนี้และพรุ่งนี้เช้า พร้อมทั้งไปจองทริปครึ่งวันที่จะปีนขึ้นไปย่ำ Fox Glacier ในวันพรุ่งนี้ด้วย สำหรับสนนราคาในการย่ำ Glacier ก็ 65 เหรียญครับ เค้านัดกันตอน 9 โมงครึ่ง ก็เลยวางแผนกันว่าพรุ่งนี้เช้าถ้าฝนไม่ตกเราจะไปแก้มือกันที่ทะเลสาบเมทีสันอีกซักรอบ…สำหรับวันนี้เราขับรถกันประมาณ 213 กม.ครับ การเดินทางหมื่นลี้ เริ่มต้นด้วยก้าวแรกเสมอ ขอให้สนุกกับการเดินทางนะครับ




Create Date : 09 มีนาคม 2554
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2560 11:30:41 น. 2 comments
Counter : 2507 Pageviews.  
 
 
 
 
รูปสวยมากค่ะ จากเลนส์อะไรคะ น่าสนใจค่ะ

มุมมองเยี่ยม

แนะนำเจ๊หลีบ้างนะคะ
 
 

โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:17:11:54 น.  

 
 
 
ฮืม...รูปในทริปนี้เป็นกล้องฟิลม์ของ Nikon เลนส์ตอนนั้นก็มีแค่เลนส์ kits กับ 70-300 ครับ...ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ
 
 

โดย: iamnoname วันที่: 15 มีนาคม 2554 เวลา:12:32:31 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

iamnoname
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]





[Add iamnoname's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com