สะพายกล้องท่องนครคนบาป (Las Vegas)
หลังจากไปทำบุญทำกุศลกันที่พุทธคยา คราวนี้ผมจะพาไปชมนครคนบาป (SIN City) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อเมืองลาสเวกัสกัน การบินไทยไม่มีบินตรงไปยังลาสเวกัสนะครับ บินไปได้แค่นครลอสแองเจลิสเท่านั้น หลังจากนั้นก็ต้องต่อเครื่องภายในประเทศไปลงยังลาสเวกัสอีกที ซึ่งจะเลือกสายการบินไหนก็ต้องลองเลือกดูครับ ยิ่งถ้ารู้วันเวลาล่วงหน้า ลองจองผ่านเว็บไซด์ของสายการบินนั้น ๆ ดูก็จะได้ราคาที่ถูกพอสมควรทีเดียว ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิประมาณทุ่มครึ่งด้วยเที่ยวบินที่ TG795 วันที่ 30 ธันวาคม 2554 ไปถึงสนามบินลอสแองเจลิสตอนทุ่มยี่สิบของวันเดียวกัน ... ใช้เวลาเดินทางติดลบ 10 นาที ... 555 ...ไม่ใช่หละ ... ทริปนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14 ชั่วโมง โดยเวลาที่ลอสแองเจลิสและลาสเวกัสช้ากว่าเวลาที่กรุงเทพ 15 ชั่วโมง
ถึงแม้เราจะเช็คอินไปจนถึงลาสเวกัสเลย แต่พอถึงสนามบินลอสแองเจลิสก็ต้องไปรับกระเป๋าและผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรก่อน พอผ่านมาแล้วจึงเอากระเป๋าไปวางบนสายพานเพื่อเอาขึ้นเครื่องต่อไปโดยไม่ต้องไปเช็คอินใหม่ สนามบินลอสแเองเจลิสมีลักษณะเป็นตัว U โดยสายการบินระหว่างประเทศจะอยู่ตรงส่วนโค้งของตัว U ด้านซ้ายและขวาก็จะเป็น Terminal สำหรับสายการบินต่าง ๆ ภายในประเทศ คราวนี้ผมต่อเครื่องด้วยสายการบิน United ซึ่งอยู่ที่ Terminal 7 เป็น Terminal สุดท้ายด้านขวามือสามารถเดินไปได้ครับ หรือถ้าใครไม่อยากเดินก็มีรถบัสให้บริการฟรี แต่ต้องดูดีดีเพราะบางคันอาจจะไม่จอด Terminal ที่เราจะลงและอาจจะทำให้เราหลงทางได้ เครื่องเราจะออกตอนเกือบ 5 ทุ่มและไปถึงลาสเวกัสตอนเที่ยงคืน นี่เพิ่งจะ 2 ทุ่มกว่าเลยเข้าไปหาอะไรทานเล่นแถว ๆ ประตูขึ้นเครื่องหละกัน ... แล้วแจ็คพ๊อตก็แตกตั้งแต่ยังไม่ถึงลาสเวกัส ... ไฟล์ทที่เราจะบินยกเลิกครับ ... ประกาศเอาตอน 4 ทุ่ม สาเหตุบอกว่าเครื่องที่จะใช้บินไม่มาเนื่องจากอากาศไม่ดี ไม่มีไฟล์ทให้ ไฟล์ทต่อไปที่ว่างพอจะไปได้คืออีก 2 วัน ... แล้วฉันจะบินมาทำไมเนี่ย ... สุดท้ายเลยต้องช่างมันแล้วเช่ารถจากลอสแองเจลิสไปยังลาสเวกัสแทนใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงถึงเวกัสเกือบ 6 โมงเช้า ... เฮ้อ ... เกือบมาไม่ถึงซะแล้ว บรรยากาศบริเวณหน้าโรงแรม ลาสเวกัสตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของนครลอสแองเจลิส อยู่กลางทะเลทรายในรัฐเนวาด้า เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่สุดของรัฐ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,028 ฟุต โดยในปี ค.ศ. 1935 ได้เริ่มมีการก่อสร้างเขื่อนฮูเวอร์ (Hoover Dam) ขึ้นเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าและเป็นเขตแดนกั้นระหว่างรัฐเนวาด้าและรัฐอริโซน่า มีคนงานเดินทางมาทำงานจำนวนมาก เลยมีนายทุนเข้ามาสร้างโรงแรมกับคาสิโนขึ้นที่นี่ เมื่อกิจการไปด้วยดีนายทุนอีกหลายคนเลยเข้ามาลงทุน และพัฒนาจนสามารถพลิกฟื้นทะเลทรายที่ไร้ค่าให้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลก ทริปนี้เราพักกันที่โรงแรม MGM Grand Hotel and Casino ครับ เป็นโรงแรมที่ใหญ่โตทีเดียว ... หลังจากผจญภัยมาเมื่อคืน กว่าผมจะตื่นก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง ตื่นแล้วก็ต้องโทรไปสายการบิน United ที่สนามบินอีกว่ากระเป๋าที่เราโหลดไปเมื่อคืนมาถึงหรือยัง ... นอกจากกระเป๋ากล้องแล้วก็ไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ... เมื่อกระเป๋ามาถึงแล้วก็ต้องนั่งแท็กซี่กลับไปเอากระเป๋าที่สนามบินอีกที... เฮ้อ ...เป็นการเริ่มทริปที่เหนื่อยเอาการ
ถึงแม้จะดูเหนื่อยตั้งแต่เริ่มทริป แต่ก็ต้องถือว่าเป็นทริปที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ถึงแม้เราจะนอนดึกแต่กว่าเราจะตื่นก็สาย ๆ เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันก็ใช้ไปกับการเดินเข้าโรงแรมนู้นออกโรงแรมนี้ เดินช้อปเดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยเปื่อย บรรยากาศกำลังสบาย ๆ ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไปมีอาหารหลากหลายให้เลือกทาน...สุขอย่าบอกใคร...ทริปนี้ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เอาภาพบรรยากาศแบบรวม ๆ มาให้ชมกันแล้วกันนะครับ โรงแรม Wynn โรงแรมVenetian บรรยากาศบนถนน Las Vegas Boulevard เดิมลาสเวกัสอาจจะดึงดูดผู้คนด้วยการพนัน แต่ปัจจุบันลาสเวกัสได้พัฒนาความเจริญในด้านต่าง ๆ ขึ้นมามากมายทั้งเรื่องโรงแรม ห้องพัก การแสดง บุฟเฟ่ต์อาหารต่าง ๆ สีสันยามค่ำคืน ฯลฯ ไม่จำเป็นอีกแล้วที่คนไปลาสเวกัสจะไปเพื่อเล่นการพนัน ยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างให้บรรดานักท่องเที่ยวได้เลือกตามความต้องการของตนเอง
บรรยากาศในโรงแรม Caesars Palace น้ำพุเต้นระบำที่โรงแรมเบลาจิโอ้ (Belagio Hotel) ก็เป็นอีกหนึ่งการแสดงกลางแจ้งที่ทางโรงแรมจัดขึ้น จัดแสดงทุกวัน โดยวันจันทร์-วันศุกร์ เริ่มตั้งแต่บ่ายสามโมงถึงเที่ยงคืน วันเสาร์-อาทิตย์เริ่มตั้งแต่เที่ยงวันถึงเที่ยวคืน จะทำการแสดงทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง แต่หลังจากสองทุ่มจะแสดงทุก ๆ 15 นาที ... อลังการงานสร้างมาก
การแสดงน้ำพุเต้นระบำหน้าโรงแรมเบลาจิโอ้ นอกจากการแสดงกลางแจ้งที่จัดให้ชมกันฟรี ๆ แล้ว โรงแรมแต่ละแห่งจะมีโชว์ที่จัดแสดงเป็นประจำด้วย เช่น ที่โรงแรมเบลาจิโอ้ก็จะมีโชว์ O ของคณะ Cirque Du Soieil โชว์ของ Celine Dion ที่โรงแรม Caesars Palace โชว์ Viva Elvis ที่โรงแรม ARIA ฯลฯ ทริปนี้ผมมีโอกาสได้ดู 2 โชว์คือ Viva Elvis และโชว์ของ David Copperfield ซึ่งมาจัดที่ MGM ตอนผมไปพักพอดี ราคาบัตรขั้นต่ำก็ประมาณ 100 เหรียญ ก็ถือว่าแพงใช้ได้อยู่ แต่เมื่อได้เข้าไปดูก็ต้องให้เขาหละครับ เพราะแสง สี เสียงที่จัดแสดงนี่เรียกได้ว่าจัดมาเต็ม ๆ อลังการงานสร้างมาก ๆ ใครชอบดูโชว์ห้ามพลาดครับ บรรยากาศก่อนพระอาทิตย์ตกที่หน้าโรงแรมเบลาจิโอ้โรงแรมเบลาจิโอ้ พูดถึงแสง สี แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะออกมาชื่นชมความสวยงามก็คือแสง สี ยามค่ำคืนของลาสเวกัสนั่นเอง กลางวันและกลางคืนของที่นี่ค่อนข้างจะแตกต่างกันมาก กลางวันคนจะตื่นสายและหลบอยู่ตามแหล่งช้อปปิ้งต่าง ๆ (ซึ่งแต่ละที่แต่ละแห่งก็ใหญ่โตเดินกันไม่หมด) พอแดดร่มลมตกผู้คนมากมายก็ออกมาเดินกันบนถนน ตึกต่าง ๆ ก็เปิดไฟให้ความสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ
อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้แน่ ๆ ก็คือ คาสิโน นั่นเองไม่ว่าจะหันไปทางไหน เข้าไปตึกไหนเป็นได้เห็น (แม้กระทั่งที่สนามบิน) อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีเจ้าตู้สล็อตนี่แหละ มีหลายระดับราคาให้เลือกเล่นตั้งแต่ครั้งละ 1 เซนต์ไปจนถึงร้อยดอลล่าร์ (อันนี้อยู่ในโซนพิเศษ) นอกจากตู้สล็อตแล้วก็ยังมีโต๊ะเล่นไพ่หลากหลายชนิดไว้ให้เลือกเล่น ทั้งเล่นกับคนจริง ๆ และเล่นกับตู้เสมือนจริง ... เจ้าตู้นี้จะมีเก้าอี้ให้นั่งแต่คนแจกไพ่เป็นภาพกราฟฟิก บางตู้ก็ถ่ายเป็นภาพคนจริง ๆ มายืนทำท่าแจกไพ่ ... เก๋ไปอีกแบบ ... การแสดง "O" ของคณะ Cirque Du Soieilของคณะ Cirque Du Soieil
นอกจากชีวิตในเมืองแล้วถ้าใครมีเวลาก็สามารถซื้อทัวร์ไปเที่ยวนอกเมืองได้ด้วย ที่ที่น่าสนใจก็คือ แกรนด์แคน-ยอนและเขื่อนฮูเวอร์นั่นเอง มีทัวร์ให้เลือกหลายหลายแบบทั้งนั่งรถ นั่งเฮลิคอปเตอร์ ฯลฯ สนนราคาก็แตกต่างกันไปตามพาหนะที่ใช้ แต่คราวนี้ผมเจอโชว์เข้าไปสองคืน ถ้าจะไปก็กลัวกลับมาไม่ทันโชว์ เลยไม่ได้ไป ... แต่เอาเข้าจริงแค่อยู่ในเมืองนี่ยังรู้สึกว่าไปไม่ทั่วเลย ... กลับซะแล้ว ... หลังจากแจ็กพ๊อตแตกเมื่อตอนขามา (ไม่รู้ว่าจะได้เงินคืนหรือเปล่า) ขากลับก็ยังเจออีกครับ แต่คราวนี้แค่เบาะ ๆ ดีเลย์เฉย ๆ ยังไม่ถึงขั้นยกเลิก ดีที่เผื่อเวลาต่อเครื่องไว้ค่อนข้างเยอะไม่อย่างนั้นมีสิทธิ์ตกเครื่องของการบินไทยอีกรอบ... 555 ... ใครจะต้องต่อไฟล์ทภายในประเทศก็เผื่อเวลาต่อเครื่องไว้หน่อยก็ดี เพราะมีอะไรแปลก ๆ ให้ลุ้นได้ตลอด ... หลายคนคงอยากรู้ว่าไปถึงลาสเวกัสทั้งที เล่น หรือเปล่า
นั่นสิครับ ไปถึงทั้งทีจะไม่ เล่น ได้อย่างไร ... และก็คงมีหลายคนอยากรู้ว่า เล่น แล้วเป็นยังไง ... ได้ หรือ เสีย ... ไม่อยากจะบอกเลยครับว่าปีนี้ผมคงจะดวงดีไปตลอดทั้งปี ... เพราะทั้ง ฟาดเคราะห์ และ สะเดาะเคราะห์ ไปเรียบร้อยแล้ว ... 555 ... การเดินทางหมื่นลี้เริ่มต้นด้วยก้าวแรกเสมอ ... ขอให้มีความสุขและสนุกกับการเดินทางครับ ...
Create Date : 27 พฤษภาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2555 9:56:43 น. |
Counter : 2454 Pageviews. |
|
|
|