ความคิดเปลี่ยนชีวิต #98 ชิงลงมือก่อน
ช่วงเรียนมัธยมผมอยู่ บ้านคุณยายที่ เป็นชุมชนย่านบางโพ ผมใช้ชีวิตแบบเด็กวัยรุ่นทั่วไปคือไปโรงเรียนเตะฟุตบอล เล่นน้ำคลอง กินของวัด
(พี่ชายผมเป็นเด็กวัด) มีเพื่อนรุ่นเดียวกันหลายคนแต่มีพี่ชายคนหนึ่งเป็นขวัญใจของพวกเราชื่อ
"พี่ป๊อก" บ้านอยู่หน้าปากซอย
พี่ป๊อก ชอบมาคุยเรื่องวีรกรรมที่โรงเรียนเสมอโดยแกเป็นคนในแนวบู๊ เรียนมัธยมอยู่อำนวยศิลป์ซึ่งสมัยนั้นทุกคนจะรู้จักชื่อเสียงดี
เวลาแกมีเรื่องกับใครต่อยกันจนเสื้อเปื้อนเลือดเมื่อกับมาถึงบ้านก็จะพ่อแม่ว่า
"เดินผ่านเจอแล้วเจ๊กมันสับหมู
เลือดกระเด็นมาโดนเสื้อ"
เพื่อกลบเกลื่อนเรื่องตื่นเต้น ของการตีกันระหว่างโรงเรียนที่ประสบมาในวันนั้น
เพราะความเป็นเด็ก วัยรุ่น เมื่อฟังเรื่องราวแบบนี้รู้สึกสนุกและศรัทธาพี่ป๊อกคนนี้มากว่าเป็นนักบู๊ที่เก่งจริงๆแล้วยกให้เป็นหัวหน้าแก๊งค์ของพวกเราเลยทีเดียว
ยิ่งพอเวลาไปเตะ football กับพวกเราบ้างในบางครั้งลีลาในการเล่น football และความมุทะลุดุดันในสนามทำให้เรายิ่งเชื่อเค้าไปอีกว่าพี่เพราะเป็นคนที่เจ๋งจริงๆ
แกมักบอกพวกเราเสมอว่าถ้ามีเรื่องกับใคร
แล้วถึงขั้นที่จะต้องต่อยกันอย่ารีรอที่จะลงมือก่อนเพราะถือว่า"ใส่ก่อนได้เปรียบ"
(ลงมือต๋อยก่อนได้เปรียบ)
พวกเรารับปากหลังจากนั้นด้วยความเป็นวัยรุ่นเวลาผมมีเรื่องกับใครก็ทำตามแบบนี้แหละก็รู้สึกว่าได้ผลทุกครั้งคู่ต่อสู้จะรู้สึกตกใจมากว่าทำไมเราถึงลงมือได้อย่างรวดเร็วและรุนแรงขนาดนี้
ผมต่อยคนร่วงหลายครั้งและสามารถสร้างความหวาดกลัวได้เสมอเวลาเรามีเรื่องกัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาเล่นบอลหรือช่วงเวลาปกติที่มีเรื่องกับเด็กวัยเดีนวกันในช่วงนั้นมันเป็นฮอร์โมนของเด็กวัยรุ่นที่ตัดสินเรื่องราวปัญหาโดยการใช้กำลัง
จนกระทั่งมาวันหนึ่ง ผมมีเรื่องกับนักเลงรุ่นพี่คนหนึ่ง ชื่อแป๊วซึ่งผมก็รู้ดีเรื่องเค้าเพิ่งพ้นจากการเป็นนักโทษ เราแย่งผู้โดยสารที่วินมอเตอร์ไซด์แต่ความขัดแย้งนั้นมันมีเรื่องของอีโก้ เข้ามาผสมด้วย แล้วจะมีปัญหากับคนอื่นเสมอผมก็ดูอยู่ห่างห่างแล้วหมั่นไส้อยู่ในใจมานานแล้ว และผมคิดว่าผมอยู่วินมีมานานกว่าถือว่าเป็นรุ่นพี่ และผมก็เริ่มใช้วิธีเดิม คือชิงลงมือก่อน
วันนั้น ผมต่อยนักเลงรุ่นพี่ได้แค่สามหมัด
หลังจากนั้นผมโดนต่อยแบบเห็นดาวเลย
"มันมวยคนละชั้นจริงๆ" (ผมคิด)
วันนั้นผมแพ้อย่างหลับครับเห็นดาวเลยครับทั้งเจ็บทั้งเสียหน้าและจำมาถึงวันนี้เลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าพี่ข้างบ้านที่ชอบพอกันมาแก้แค้นให้
พอทำให้ไอ้แป๊ว นักเลงรุ่นพี่ หานซ่าไปพักหนึ่งแต่ประสบการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้ผมได้บทเรียนมาถึงทุกวันนี้ ว่าเหนือฟ้าย่อมมีฟ้าจริงๆ
แต่ด้วย mindset นี้มันทำให้เกิดนิสัยที่ดีอย่างหนึ่งคืออุปนิสัยที่เริ่มต้นทำสิ่งต่างๆก่อน (Proactive) เช่น เริ่มต้นที่จะทักทายคนอื่นก่อนเริ่มต้นที่มีไอเดียริเริ่มทำสิ่งต่างๆก่อน เราต้องทำตามอย่างเผยจะแก้สถานการณ์ที่เราไม่พึงประสงค์เป็นต้น
หลายคนอาจจะแย้งว่าผมตีความคำว่า proactive เพี้ยนไปบ้างแต่หากมาเจอกันจริงๆ ก็จะทราบว่าผมมีอุปนิสัยแบบนั้นจริง สามารถควบคุมสถานการณ์ ทั้งในเวลาที่วิกฤตหรือเวลาที่ทั่วไปไม่สามารถจะยกตัวอย่างเช่นช่วงเวลาน้ำท่วมที่ผ่านมาผมก็พาคนจำนวนมากรอดจากวิกฤตอันนี้มาได้
ผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์ที่เรามาข้างต้นมีผลอย่างมากกับอุปนิสัยนี้
ถ้าเราเพียงแต่ถ้าวันไหนว่างเราต้องชิงลงมือก่อนเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือเราไม่อยากให้เกิดก็จะไม่เกิดขึ้นเปลี่ยนกลับไปเป็นดีขึ้นได้เสมอ
เราจะไวต่อข่าวสารข้อมูลและรู้จักปรับตัว เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลง
เราจะไม่ขอให้ใครมาสั่งเราว่าต้องทำนู่นทำนี่เพราะเราจะสามารถสั่งตัวเองได้ตลอดเวลา
เราจะควบคุมชีวิตตนเองได้
เพราะเรารู้ดีว่าเราต้องการอะไร
"Proactive" เป็นอุปนิสัยที่สำคัญของผู้นำ
และผมก็เชื่อว่าภาวะผู้นำนั้นฝึกกันได้
ชิงลงมือก่อนเพราะเราคิดว่าเราทำได้
แล้วเราก็จะทำได้จริงๆ
อย่างที่ใครเคยบอกไว้
ถ้าคิดว่าเราทำได้ก็สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้วครับ