ความคิดเปลี่ยนชีวิต #59 สั่งตัวเองให้ทำงานได้
หัวหน้าแตกต่างจากลูกน้องตรงที่
"สามารถสั่งตัวเองและทีมงานให้ทำงานได้"
จะมีแผนการและเป้าหมายอยู่ในหัวตลอดเวลา
ว่า "แต่ละวันจะต้องทำอะไรให้สำเร็จ"
สิ่งเหล่านี้สามารถฝึกได้
และพวกเราก็ถูกฝึกมาแล้ว
ตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่
ความแตกต่างของคนเรียนเก่ง
กับคนเรียนในระดับธรรมดาก็คือ
คนเรียนเก่งจะอยากรู้เนื้อหา
ที่จำเป็นต้องเรียนก่อน
และอ่านหนังสือโดยไม่ต้องให้บอก
"อ่านหนังสือซิลูก..." ไม่ต้องบอกเลย
แต่คนเรียนในระดับธรรมดา
จะอ่านหนังสือเมื่อถึงเวลาใกล้สอบเท่านั้น
คือเมื่อสถานการณ์แวดล้อมมาบังคับแล้ว เพราะตามปกติ ใช้เวลาสนุกสนานไปวันๆ
มีเวลาเมื่อไหร่ก็หยิบโทรศัพท์มาเล่น LINE
Facebookกดไลท์กดแชร์
ดูนู่นนี่นั่นไปเรื่อยๆเผาเวลาของตัวเอง
ไปในแต่ละวันอย่างน่าเสียดาย
หากปล่อยทิ้งไว้ติดนิสัยมาจนถึงวัยทำงาน
ก็ยิ่งแย่ลงไปอีกเพราะจะไม่สามารถมีสมาธิสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้เลย ซึ่งการสร้างสรรค์นี้เป็นคุณสมบัติพิเศษที่มีอยู่ในมนุษย์เท่านั้น
ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์โลกชนิดอื่น
ที่สามารถสร้างและผลิตสิ่งต่างๆขึ้นมาความสะดวกได้มากมาย
อะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนสามารถสั่งตัวเองให้ทำงานได้ ?
มีประกอบหลักๆสองอย่างคือ
1. ความรับผิดชอบ
2. เป้าหมายในใจ
ความรับผิดชอบได้มาอย่างไร ?
ว่ากันว่าความรับผิดชอบนั้น
ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่การใช้ชีวิตในช่วงวัยเด็ก
เป็นสภาพแวดล้อมของการเรียนรู้
ชาวยุโรปชาวเมริกาจะเน้นในเรื่องนี้มาก
โดยจะพยายามให้เด็กสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตั้งแต่อายุยังน้อยซึ่งต่างจากครอบครัวทางเอเซียที่จะคอยดูแลลูกเหมือนไข่ในหินอยู่ตลอดเวลา
ร้ายไปกว่านั้นพ่อแม่บางคน
ยอมที่จะ "ทำแทน" ทั้งการบ้านหรืองานของลูก
ความเมตตา (มากเกินไป) ซึ่งเข้าข่าย
"พ่อแม่รังแกฉัน"
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
เช่นกลัวลูกจะได้คะแนนไม่ดี , กลัวลูกไม่มีเวลาทำหรือด้วยความรักลูก
สุดท้ายแล้วเด็กก็ขาดคุณสมบัติ
"การเป็นคนมีความรับผิดชอบ"
ติดนิสัยไปจนโต ก็ต้องไปทำงานที่มีคนสั่งถึงจะทำงานได้ ซึ่งน่าเสียดายเป็นอย่างมาก
เพื่อปลูกฝังความรับผิดชอบให้กับเด็กๆ
บางครั้งอาจต้องใจแข็งให้ลูกได้รับบทเรียน
จากการที่ตนเองไม่รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองบ้างเช่นถูกคุณครูลงโทษเมื่อสอบได้คะแนนน้อย หรือ สอบตก ฯลฯ. หรือว่ากันว่ายิ่งทำให้เด็กได้รับความล้มเหลวมากเท่าไหร่เร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้เกิดการเรียนรู้ แก้ปัญหา และปรับตัวได้เร็วขึ้นเท่านั้น
เป้าหมายในใจฝึกกันได้ไหม ?
เป็นเหมือนการฝึกให้มองย้อนจากผลลัพธ์กลับมาหาการกระทำ เหมือนวิสัยทัศน์ ที่เราสามารถเห็นภาพความสำเร็จ เหมือนเราถามตัวเองว่าอยากให้เรื่องนี้จบอย่างไร ? หรืออยากให้วันนี้งานของเรามีผลลัพธ์อย่างไร? สิ่งที่ตามมาคือ
สมองจะสั่งเองให้เราค้นหาวิธี
ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ?
ต้องไปถามใคร ? ต้องลงมือทำอะไร ?
เพื่อจะให้เป็นไป ตามผลลัพธ์ที่ต้องการ
คล้ายกับการฝันถึงสิ่งที่จะอยู่ในอนาคตอันใกล้
อีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ยิ่งเห็นภาพชัดเจนเท่าไหร่ก็จะยิ่งช่วยทำให้เราสามารถลงมือได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
การมีความรับผิดชอบและเป้าหมายในใจ
หนีไม่พ้นการเป็นพนักงานชั้นยอดขององค์กร
หรือสุดท้ายกลายไปเป็นเจ้าของกิจการในที่สุด