ความคิดเปลี่ยนชีวิต #92 แต่งสวยดีกว่าแต่งซิ่ง
ในช่วงวัยรุ่นผมเคย ขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้างรับคนเข้าออกซอยเที่ยวละ 3 บาทหาเงินมาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในครอบครัวพร้อมทั้งเรียนหนังสือไปด้วย
ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองลำบากอะไรแถมสนุกด้วยที่ได้ออกมาขี่มอเตอร์ไซค์แล้วได้เจอเพื่อนที่มาจากหลากหลายชีพตั้งแต่ลูกเจ้าของที่ดิน คนทำงานมาหารายได้พิเศษ คนตกงาน ข้าราชการเกษียณไปจนถึงนักโทษที่เพิ่งออกจากคุก
ทุกคนมองว่าอาชีพนี้หาเงินง่ายเพราะไม่ต้องมีต้นทุนอะไรมากถ้าไม่มีรถก็มาเช่าขับวันละ 60 บาท + ค่าน้ำมันอีก 30 บาทต่อวันก็วิ่งได้เงินสามถึง 400 บาทแล้ว แต่ความจริงแล้วอาชีพนี้ก็มีความเสี่ยงอยู่มากเพราะรถมอเตอร์ไซต์เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
แต่ตอนนั้นไม่ค่อยได้คิดอะไรหรอครับแถมยังเอารถไปแข่งกันอยู่บ่อย ๆอึกด้วย
เรามักจะนัดกันไปเติมน้ำมันที่ปั๊มที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตรและแข่งกันครับมาที่วินตอนขากลับโดยพนันกันคนละ 5 บาทซึ่งถ้าใครชนะก็ถือว่ารอบนั้นไปเติมน้ำมันฟรี
ส่วนใหญ่รถผู้หญิงก็วิ่งได้ไม่เร็วมากหรอกครับอย่างมากก็ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเรานอนขี่กันมาเลยครับเพราะใกล้ถึงหน้าวินก็จะเห็นว่าเพื่อนกำลังเชียร์พวกเรากันอยู่ร้องเย้เย้
นักแข่งตัวจริงของวินเราชื่อดุ่ยกับชายใช้รถยามาฮ่าคอนคอร์ดซึ่งถือเป็นรถแรงในยุคนั้นวิ่งได้ความเร็ว 200 กว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมงมีเสื้อวินแบบพวกเราเหมือนกันแต่ไม่ได้มาครับเพื่อหาเงินหรอกครับแค่ขับเล่น พให้ได้เจอเพื่อนฝูงเท่านั้น
รถของดุียจะมีเอกลักษณ์ ที่ท่อไอเสียมีเสียงดังมาก เมื่อขับรถกลับบ้านเราจะได้ยินเสียงท่อไอเสียดังลั่นไปหมดจนกระทั่งเสียงเบานั่นแหละเราถึงรู้ว่าดุ่ยขับถึงบ้านแล้วหรือหัดขับไปเติมน้ำมันระยะทางสามกิโลเราก็จะได้ยินเสียงท่อไอเสียของด้วยไปตลอดทางนั่นหมายความว่าเสียงมันดังจริงๆครับ
เราจะได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆ ว่า ดุ่ย กับชายไปท้าวินมอเตอร์ไซค์อื่นแข่งอยู่เสมอและก็ชนะกลับมาอยู่บ่อยครั้งบางทีก็เห็นวิ่งผ่านมาที่หน้าวินของเรามันเร็วมากเสียจนมองแทบไม่ทันเลยครับ
แต่ละวันหนึ่งก็มีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนความคิดของผมไปเลยเมื่อเราได้ข่าวว่าดุ่ยเสียชีวิตแล้วที่ปากซอยสามัคคีย่านปากเกร็ด
ดุ่ยขับรถหนีตำรวจแล้วไปชนกับรถเก่งที่จอดอยู่ซึ่งเปิดประตูด้านขวาออกมาแล้วโดยหัวไปทิมกับกระจกจนคอขาดเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
เย็นวันนั้นพวกเราไปรถน้ำศพภาพที่เห็นคือหนุ่ยนอนอยู่ในโรงแล้วความคิดหนึ่งแว๊บขึ้นมาในหัวผมทันทีว่า โดยไม่น่าอายุสั้นขนาดนี้เลยยังไม่ได้ทำอะไรอีกตั้งเยอะเรียนก็ยังไม่จบงานก็ยังไม่ได้ทำครอบครัวก็ยังไม่มีและอีกหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้ก็ยังไม่ได้ทำ
ผมบอกกับตัวเองว่าจากนี้ไปจะไม่แข็งรถอีกแล้วรถที่มีแต่งสวยดีกว่าแต่งซิ่งเพราะแต่งซิ่งแล้วขับเร็วคนก็ไม่เห็นสู้แต่งสวยแล้วขับช้าช้าให้คนเห็นหน้าดีกว่า
หลังจากนั้นมาผมก็ยังใช้รถมอเตอร์ไซต์อยู่แต่ก็เพียงแต่งรถให้สวยขะบไปเรียน ไปทำงานเท่านั้นเองมาถึงทุกวันนี้ผมเปลี่ยนมาใช้รถยนต์แล้วเห็นคนขี่มอเตอร์ไซค์แล้วเกิดอุบัติเหตุผมก็คิดเสมอว่า
"ผมรอดมาได้ทุกวันนี้โชคดีมากแล้วครับ"