ทุกชีวิตล้วนคุ้นชินต่อการเผชิญหน้าต่อความรู้สึกในความรู้สึกที่ซื่อตรงต่อตนเองหรือไม่..เธอกระพริบตาในความรู้สึกตื่นเต้นต่อโลกที่เบื้องหน้าใครเคยกล่าวไว้ว่าการใช้ชีวิตห่างไกลจากทุกสิ่งทุกอย่างในสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมสนองตอบความต้องการขึ้นพื้นฐานของมนุษย์ผู้หนึ่งเป็นความรู้สึกอิ่มเอมหัวใจดังนั้นมนุษย์ชาติจึงพยายามแสวงหาความสุขบนพื้นที่อันเป็นบ่อเกิดความสุขเพื่อให้เลือดแดงในหัวใจได้สูบฉีดอย่างเต็มที่เท่านั้นเองหรือ...
หลายเดือนก่อน...
เธอก้าวเท้าเดินบนถนนเดอะบันด์ในดินแดนปารีสตะวันออกท่ามกลางผู้คนแปลกหน้าในความรู้สึกอันลึกล้ำเธอสูดกลิ่นไอมนุษย์แปลกหน้าเช่นเธออย่างเต็มปอดเพื่อสนองตอบความเป็นมนุษย์ของเธออย่างแท้จริง..
เธออมยิ้ม
ห่อปาก
สีชมพูสดชื่น
มอง
สถาปัตยกรรม
รอบตัว
ด้วยหัวใจเบิกบาน...
ห้วงเวลาแห่งความสุขในสายลมตะวันออกอันอ่อนไหวที่พัดผ่านใบหน้าเธอเบาๆด้วยบรรยากาศอันผสมผสานที่ลงตัวของวัฒนธรรมใหม่และเก่าในดินแดน..กลายเป็นความงดงามบนโลกสีฟ้าของเธอ..
ภายใต้ความรู้สึกที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อนเธอเดินเก็บภาพเช่นเดียวกับทุกคนเธอคิดว่าเธอเก็บภาพไว้ได้มากพอสมควรแล้วเธอสมควรเดินย้อนกลับไปในเส้นทางเดิม..
ทันใดนั้นรถชอปเปอร์สองคันก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่ริมฟุตบาธที่เบื้องหน้าเธอชายหนุ่มใส่ชุดสูทสีดำทั้งสองคนกระโดดพรวดลงจากรถและเดินตรงเข้ามาหาเธอพร้อมกันในทันทีเธอตื่นตระหนกเงยหน้ามองชายทั้งสองคนเธอสังเกตว่าชายหนุ่มที่ยืนนำหน้าเป็นคนเอเชียผิวขาวร่างสูงเขาพูดกับเธอด้วยภาษาของเธอ..
ในช่วงเวลาที่ชายหนุ่มร่างสูงกำลังพูดคุยกับเธอชายผิวดำอีกคนที่มาด้วยกันก็ใช้สายตาจ้องมองสำรวจร่างกายของเธออย่างไม่น่าไว้ใจ..
"ผมต้องขอโทษคุณด้วยนะที่บุกมาหาคุณเช่นนี้แต่มันจำเป็นจริงๆชายหนุ่มร่างสูงกล่าวด้วยสำเนียงชัดเจน
"คุณเป็นล่ามใช่ไหม"
เธอขมวดคิ้วตั้งท่ากำมือทั้งสองข้างกล่าวตอบชายหนุ่มร่างสูงด้วยเสียงห้วนหนักแน่น"ใช่!""พวกนายมีธุระอะไรกับฉัน"
"หน่วยงานของผมอยู่ไม่ไกลจากที่นี่""มีเรื่องเร่งด่วนต้องการให้คุณช่วยเหลือคุณช่วยไปกับพวกเราในตอนนี้ได้ไหม"
เงาของวัตถุบางอย่างฉาบสะท้อนบนใบหน้าของเธอในขณะที่ชายหนุ่มร่างสูงกล่าวประโยคจบในน้ำเสียงจริงจังยิ่งเธอถอนหายใจอยากสูดเอาอากาศรอบบริเวณเข้าภายในลึกๆเมื่อเธอรู้สึกลังเลตัดสินใจไม่ได้หรือนี่จะเป็นความกลัว..ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในก็เป็นได้...
เธอรู้สึกในความรู้สึกที่ลอดผ่านความคิดขึ้นมาบนท้องฟ้าด้วยความเย็นเยือกในหัวใจที่พัดสะบัดมาพร้อมแรงกระชากขณะรถชอปเปอร์ออกตัววิ่งผ่านทางโค้งจนเธอเผลอกอดเอวชายหนุ่มแปลกหน้าด้วยความกังวล..เธอหลับตารู้สึกอยากกรีดร้องดังๆไปให้ถึงใครสักคนฮืออออ....
ความสุขก็คือความสุขมีจริงหรือไม่มีจริงดวงตะวันก็ยังคงส่องแสงทอผ่านท้องฟ้าในดินแดนตะวันออกแห่งนี้เช่นทุกวันดังนั้นไม่ควรคาดหวังสิ่งใดจากฉันเพียงได้เดินทางได้ใช้ชีวิตอยู่เท่านี้ก็พอแล้ว...
ภาพประกอบสวนมากๆเลย
ดีใจที่กลับมาเขียนบล็อกนะจ๊ะ