Andropause รับมือผู้ชายวัยทอง
| | | |
เมื่อพูดถึงคำว่า วัยทอง คนทั่วไปอาจจะเข้าใจว่าหมายถึง ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน แต่ผู้ชายก็ต้องก้าวสู่วัยทองเช่นเดียวกัน เมื่อฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเทอโรนลดลง ซึ่งในทางการแพทย์เรียกผู้ชายวัยทองว่า แอนโดรพอส (Andropause)
สัญญาณเตือนภัยผู้ชายวัยทอง
ตามปกติชายวัย 40 ปีขึ้นไปจะมีระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนลดลงประมาณปีละ 1 % โดยจะลดลงไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีการหยุดทำงาน ซึ่งแตกต่างจากวัยทองในเพศหญิงที่รังไข่จะหยุดผลิตฮอร์โมนเพศหญิงโดยสิ้นเชิง ดังนั้นอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดในชายวัยทองจึงไม่ชัดเจนและรุนแรงเหมือนกับสตรีวัยทอง และหากว่ามีการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ แม้จะย่างเข้าสู่วัย 80 ผู้ชายก็อาจจะยังมีฮอร์โมนเพศและมีสุขภาพที่ดีอยู่ได้
อย่างไรก็ดี สำหรับคุณผู้ชายที่ย่างเข้าสู่วัยทองซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอาย 40-52 ปี ก็อาจจะมีสัญญาณเตือนภัยให้สังเกตกันดังต่อไปนี้ ด้านร่างกาย เช่น อ่อนเพลียง่าย ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาเช้าและตอนกลางคืน กล้ามเนื้อที่เคยฟิตเริ่มลดขนาดลง อ้วนลงพุง และ ภาวะกระดูกพรุน
ด้านสติปัญญาและอารมณ์ เช่น มีอาการกระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย เฉื่อยชา ซึมเศร้า สมาธิลดลง ความจำระยะสั้นถดถอย ด้านระบบไหลเวียนโลหิต อาจจะมีอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกมาก ชีพจรเต้นเร็ว
ด้านจิตใจและเพศสัมพันธ์ เช่น มีอาการนอนไม่หลับ ความสนใจทางเพศลดลง อวัยวะเพศไม่แข็งตัว และการหลั่งน้ำอสุจิลดลง ทั้งปริมาณและความถี่
ตัวเร่งและตัวช่วยผู้ชายวัยทอง
นอกจากอายุ ซึ่งเป็นปัจจัยธรรมชาติที่ทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลงแล้ว ยังมีสภาวะบางอย่างที่เป็นตัวเร่งให้ผู้ชายเข้าสู่วัยทองเร็วกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหนัก การพักผ่อนน้อย ความเครียด ความวิตกกังวล การดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการสูบบุหรี่ และโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ
แต่ในอีกด้านหนึ่ง การใช้ชีวิตที่ถูกต้องและการดูแลร่างกายที่ดีก็จะมีส่วนช่วยชะลอเวลาหรือชะลอปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากภาวะผู้ชายวัยทองได้ ฉะนั้นจึงควรดำเนินชีวิตอย่างสมดุล ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6 - 8 ชั่วโมง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ถูกต้องตามหลักโภชนาการ โดยควรลดอาหารประเภทไขมัน และควรรับประทานพืชผักและผลไม้มากขึ้น โดยเฉพาะมะเขือเทศ เนื่องจากมีสารไลโคปิน ซึ่งสามารถต้านโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ที่สามารถเกิดขึ้นกับผู้ชายวัยทองโดยทั่วไปได้ นอกจากนี้ ยังควรมองโลกในแง่ดี ลดความเครียด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ต้องเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล รวมถึงงดสูบบุหรี่และดื่มเหล้า
การรักษาผู้ชายวัยทอง
ในทางการแพทย์ การรักษาอาการที่เกิดกับผู้ชายวัยทองบางรายอาจจะเริ่มต้นที่การรักษาทางจิตใจ ในลักษณะของการพูดคุยให้คำปรึกษา แต่ในบางรายก็อาจจะต้องใช้ยาหรือฮอร์โมนเสริมร่วมด้วย ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ รวมทั้งต้องมีการติดตามผลเป็นระยะ เพราะหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง อาจมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ ซึ่งปัจจุบันฮอร์โมนเพศชายที่ใช้ในการรักษาภาวะวัยทองมีอยู่หลายรูปแบบ ทั้งชนิดรับประทาน ชนิดฉีด ชนิดทาผิวหนัง ชนิดแปะที่อัณฑะ ชนิดแปะผิวหนัง และชนิดฝังใต้ผิวหนัง
ข้อแนะนำสำหรับผู้ชายวัยทอง
หากสังเกตว่าตัวเองมีอาการผิดปกติทั้งทางร่างกายและจิตใจดังกล่าวเกิดขึ้น ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายดูว่ามีโรคที่อาจจะส่งผลให้เกิดอาการที่ใกล้เคียงกันหรือไม่ หากไม่มีโรคใดๆ จึงพบแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา ไม่ว่าจะเป็น สูตินรีแพทย์ ผู้ให้คำปรึกษาเรื่องครอบครัว แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะให้คำปรึกษาและดูแลเรื่องการใช้ยา หรือวิธีรักษาร่วมอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม การรักษาย่อมไม่ดีไปกว่าการป้องกันหรือการยืดเวลาแห่งความเป็นหนุ่มออกไปให้นานที่สุด ด้วยหลักการทางธรรมชาติ ดังนี้
- ดำเนินชีวิตอย่างมีวินัย ด้วยการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ควรนอนแต่หัวค่ำ เพราะฮอร์โมนเพศชายจะถูกสร้างในเวลากลางคืน - งดบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลต่อร่างกายในทุก ๆ ระบบ - กินอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมัน - ออกกำลังกายเป็นประจำ และลดความเครียด
เพื่อความเป็นหนุ่มจะได้อยู่คู่กับคุณได้ยาวนาน
กรอบสวยๆ จากคุณ thattron ข้อมูลจาก//www.healthtodaythailand.com/
| | | | |
Create Date : 22 ธันวาคม 2554 |
|
1 comments |
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 6:47:24 น. |
Counter : 790 Pageviews. |
|
|
|
ขึ้นชื่อว่าศิลปวิทยา ไม่ว่าอย่างไหน ๆ ให้ประโยชน์ได้ทั้งนั้น
เลือกแต่สิ่งที่ดีและมีประโยชน์ในการดำเนินชีวิต ตลอดไป...นะคะ