สูตรหวานจานรัก...ภาคินัย...เล่มนี้เสียหายจากการโดนปลวกกินจนต้องทิ้ง...พอไปเจอที่ร้านหนังสืออีกเลยอดไม่ได้ที่จะหยิบมา...คนเขียนเขาจะรู้มั้ยเนี่ย...ว่าเราอุดหนุนหนังสือเขาเรื่องนี้ตั้งสองเล่มแน่ะ
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม...หอมหวานเหมือนขนมเค้กที่อบออกจากเตาร้อนๆ
รสชาติอร่อยลิ้นเหมือนขนมชั้นสีสวย...
ขนมถ้วย...(ชื่อนางเอกน่ากินมากกกก)...สาวไฮโซนักเรียนนอก ต้องหนีออกจากบ้านมาอาศัยบ้านเรือนไทยของลูกตาลที่เกาะกร็ด...เพราะคุณป๊ะป๋าจะให้เธอแต่งงานกับลูกชายเพื่อนพ่อ...นัยว่าเพื่อสานต่อสัมพันธ์กันแบบเงินต่ิอเงินนั่นแหละ....
นับหนึ่ง...หนุ่มไฮโซนักเรียนนอก (เหมือนกัน)...ก็ออกจากบ้านมาใช้ชีวิตข้างนอกกับณัฐเพื่อนสนิท ที่มีอาชีพรับทำเบเกอรี่ส่งตามลูกค้าสั่ง...ด้วยเหตุผลเดียวกันกับคนข้างบน...พ่อบังคับให้แต่งงาน...
เมื่อสองหนุ่มสาวที่เคยอยู่อย่างสบาย ต้องมาใช้ชีวิตข้างนอก...มันก็ไม่สบายเหมือนอยู่บ้านแน่นอน...นับหนึ่งขายรถหรูเอาเงินไปลงทุนเปิดร้านเบเกอรี่กับณัฐที่เกาะเกร็ด เขาให้เหตุผลกับเพื่อนว่า...
"แกพอใจที่จะทำขนมขายแค่พอยาไส้ไปวันๆ แค่นั้นเหรอวะ ชีวิตของคนเราน่ะ ต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่ อนาคตที่ต้องแลกตัวเองสองล้านห้า ฉันว่ามันคุ้มกันว่ะ แม้ไม่รู้จะรุ่งหรือร่วง อย่างน้อยฉันก็ยังได้พยายามที่จะไขว่คว้ามัน ไม่ใช่นั่งๆนอนๆ แล้วรอมันมาหา"
ทางด้านขนมถ้วย...ก็คิดปรับปรุงร้านขนมไทยนมนวลของลูกตาลกับคุณยายนมนวลด้วยการเปิดขายหน้าร้านบ้าง...ร้านขนมไทยนมนวลกับร้านเบเกอรี่ Coffee tea or Me? ก็เป็นเพื่อนบ้านกันและคู่กัดคู่แค้้นกันมาตลอด...
ก็จะไม่ให้แค้นได้ไง...เปิดเรื่องมานับหนึ่งกับขนมถ้วยก็มาทะเลาะกันเรื่องรถซะแล้ว...พอไปส่งขนมก็ยังจะอุตส่าห์เจอกันอีก...ขนาดไปขายรถเพื่อจะหาทุนมาทำร้านขนมก็ยั้งงงงจะไปเจ๊อะกันเข้าอีก....แหม...โลกกลมมั่กมากกกกก
ตัวอย่าง...การปะทะคารมกันของขนมถ้วยกับนับหนึ่ง...
"เดี๋ยวสิครับ คุณลืมเงินทอน"
"ฉันทิปให้ เผื่อนายจะเอาเงินไปอมไว้ในปาก เวลาปากว่างจะได้ไม่ต้องเที่ยวไปไล่เห่าใส่คนอื่น"
"แหม...เกรงว่าสิบบาทจะน้อยไป ปากผมมันกว้าง คงต้องใช้เหรียญเยอะสักหน่อย คุณก็คายจากปากคุณมาให้ผมบ้างสิ ได้ข่าวว่าอมไว้เยอะ จนปากห้อยจนแทบจะลากพื้นอยู่แล้ว"
อีกสักตอน...
"เสียงใครถอนหายใจวะเนี่ย? เสียงเหมือนวัวถอนหายใจเลย"
"นี่นายว่าฉันเป็นวัวเหรอนายนับหนึ่ง!"
"อ้าว...นี่เสียงหายใจของคุณถ้วย...เอ๊ย คุณขนมถ้วยเองเหรอครับเนี่ย แหม...นี่ถ้าไม่บอกผมก็ไม่รู้หรอกนะครับ"
"เสียงถอนหายใจของฉันมันไปรบกวนการดำรงชีวิตของนายมากนักหรือไงนายนับหนึ่ง นายถึงได้ชอบมากวนประสาทฉันอยู่เรื่อย"
"มันก็ไม่ได้กวนการดำรงชีวิตของผมมากนักหรอกครับ ถ้าคุณไม่เป็นฝ่ายเริ่มหาเรื่องผมก่อน บังเอิญผมเป็นพวกบ้าจี้ซะด้วยน่ะสิ ที่เห็นใครมาหาเรื่องก็ชวนกวนประสาทกลับ มันสะใจแบบบอกไม่ถูก"
"ไอ้บ้า!"
"แหม...ถ้าผมบ้า คุณขนมถ้วยนั่นแหละ บ้ายิ่งกว่าที่มาทะเลาะกับคนบ้าอย่างผม!"
เอ่อ...พระเอกนางเอก ปากสุดยอดทั้งคู่...อ่านไปก็สงสัยไป มันจะรักกันเข้าไปได้ยังไง...ด่าเช้า ทะเลาะเย็น ค่ำๆก็มากวนประสาทอย่างนี้...แต่...อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นล่ะค่ะ...ณัฐกับลูกตาลพยายามหาทางให้นับหนึ่งกับขนมถ้วยได้ใกล้ชิดกัน ได้ทำงานร่วมกัน...ก็ทำไปทะเลาะกันไปนั่นแหละ...เรื่องจะรักกันง่ายๆ มันก็ไม่ง่ายนักหรอก...มีอุปสรรคเข้ามาสารพัดเหมือนกัน...สาวน้อยนิหน่า สาวมหาวิทยาลัยวัยใสที่เป็นที่ปลื้มปริ่มของตะโก้น้องชายของลูกตาล...(เรื่องนี้มีแต่ชื่อน่ากินแฮะ)...ก็ดันมาชอบนับหนึ่งซะนี่...แถมยายนี่ ไม่ได้ใสซื่อตามวัยเล้ยยยยย...เรื่องของคุณยายนมนวลที่ล้มป่วยจนต้องใช้เงินจำนวนมากมารักษา...แฟนเก่าของขนมถ้วยที่หวังปองร้ายอีก...แล้วไหนจะเรื่องที่่พ่อแม้ของทั้งคู่อยากให้แต่งงานกับลูกเพื่อนของตัวเองอีกล่ะ...งานนี้กว่านับหนึ่งกับขนมถ้วยจะรักกันได้...ก็คงสะบักสะบอมน่าดู...
อ่านจบ...พล็อตแบบละครดีค่ะ...คิดว่าถ้าเอาไปสร้างเป็นละครแนวคู่กัดล่ะก็ เรตติ้งคงกระจาย...อ่านแบบไม่ต้องคาดหวังอะไรกับเนื้อหา...แต่ก็พบว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในนั้น...ความรักความจริงใจของเพื่อนที่มีให้ต่อกัน...ขนมไทยโบราณหลากชนิด เบเกอรี่ชื่อเก๋ๆอีกเพียบ...คนเขียนสร้างลุคผู้ชายทำขนมให้กับณัฐ...ดูอบอุ่น น่ารักดีค่ะ...ชอบๆๆๆ ส่วนเพื่อนสนิทอย่างนับหนึ่งก็บ้าระห่ำ ปาก...ยังคิดว่าสองคนนี้เค้าคบกันได้เนอะ...
ส่วนด้านสาวๆก็ใช่ย่อย...ลูกตาลก็ออกแนวเรียบร้อยตามฉบับสาวไทยที่เติบโตมากับคุณยาย...ส่วนยายขนมถ้วยนี่ไม่ต้องพูดถึง...ปะ ฉะ ดะ...ขนาดนี้...สูสี พอฟัดพอเหวี่ยงกะนับหนึ่งเลย แต่ไม่ชอบใจเลยที่ไปแกล้งพระเอกแบบนั้น...คือถ้าแกล้งเป็นการส่วนตัวก็ยังพอทำเนา แต่นี่...ร้านขนมของพระเอกกับเพื่อนนะ...ถ้าเจ๊งขึ้นมา...รับผิดชอบไหวเหรอ...เพื่อนพระเอกที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีกล่ะ...จะทำไง...แต่เอาเหอะ เพราะการแกล้งครั้งนั้นทำให้ทั้งสองร้านเค้าต้องร่วมมือร่วมใจกัน...ก็หยวนๆไป...
ส่วนตัวร้าย...อย่างนิหน่า...น่าหมั่นไส้มากกก เรียกได้ว่าถ้าเป็นละครก็น่ามอบเปลือกทุเรียนให้เลยล่ะ...นางร้ายได้แบบไม่มีความน่ารักเอาซะเลย...คำพูดคำจาไม่มีตกฟากขนาดพูดกับคนที่อายุมากกว่านะ...แล้วมาบอกว่าตัวเองเป็นไฮโซ...เฮอะ
มีที่ติดๆอยู่นิดนึงก็ตรงที่...ทำไมนางเอกและพระเอกเรียกคุณยายของลูกตาลว่านมนวลเฉยๆซะงั้น...ทำไมไม่เรียกคุณยาย...เราเลยค่อนข้างแปลกใจค่ะ...
เอาเป็นว่า...อ่านได้ฮาๆ เพลินๆค่ะ...ประหนึ่งได้ลับฝีปากเลย...เพราะตัวละครเรื่องนี้ปากจัดกันทั้งนั้น...แม้จะไม่ได้ใช้คำหยาบคาย...แต่ออกแนวประชดประชัน กระทบกระเทียบกันซะมากกว่า...ถ้าใครชอบแนวคู่กัด คู่กันล่ะ่ก็...เรื่องนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย...สำหรับเราก็ถือว่าสนุกในระดับหนึ่งค่ะ...
ปล...ใจตรงกันกะน้องอุ้มสมซะงั้น