มีนาคม 2556

 
 
 
 
 
1
4
8
9
12
13
15
16
18
19
20
22
23
26
28
30
 
 
All Blog
49-50>>>Trip to Paradise...ทริปหัวใจกับความรัก>>>รัก...กึ่งสำเร็จรูป...เพนกวิน


Trip to Paradise...ทริปหัวใจกับความรัก...เพนกวิน...สภาพหนังสืออาจจะดูสมบุกสมบันไปหน่อย เพราะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมา...เลยอยากลอง แต่...หาได้แค่หนังสือมือสองเท่านั้น...ไม่เป็นไรๆ จะมือสอง มือสาม หรือสี่ห้า...ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว...ขอแค่ได้อ่านก็พอ Smiley

คอลัมนิสต์สาวที่ตกงาน ไหนจะร้านหนังสือที่ไม่ค่อยจะได้กำไรอีก...พิมพ์นาราเลยพยายามหางานใหม่ จนวันหนึ่งโชค(ร้าย)เข้าข้าง...เพราะอิฏฐา พระเอกหนุ่มชื่อดัง เจ้าของบริษัททัวร์...จัดทริปทูพาราไดซ์แบบสองต่อสองกับแฟนคลับ...โดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องส่งบทความไปให้คัดเลือก ผู้ชนะจะได้ไปเที่ยวกับพระเอกหนุ่มแล้วยังได้เป็นคอลัมนิสต์สำหรับนิตยสารที่จะเปิดใหม่ด้วย...นางเอกของเราเลยเขียนบทความส่งไปจนชนะเลิศทั้งๆที่...แทบจะไม่รู้จักพระเอกคนนี้เลยด้วยซ้ำ...
แถมพระเอกก็ยังเป็นประเภทเย็นชา หยิ่ง เข้าถึงยากอีกต่างหาก...จนนางเอกอยากจะเปลี่ยนชื่อทริปทูพาราไดซ์เป็นทริปเซลฟ์เซอร์วิส กินเอง คุยเอง เที่ยวเอง บริการตัวเองตลอดการเดินทาง

จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวครั้งนี้คือ จังหวัดเชียงใหม่...แต่อย่าคาดหวังว่าจะได้เห็นการบรรยายสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่นะคะ...เพราะคุณพระเอกเล่นเป็นไกด์ที่เอาแต่ใจตัวเองได้ดีมาก...เพราะแทบจะไม่พานางเอกออกไปไหนเลย นอกจากดอยอินทนนท์...Smiley
"ห้องคุณอยู่ข้างบน"
"แล้วห้องคุณล่ะ"
"ห้อง-ผม-ก็-อยู่-ข้าง-บน"......"ห้องคุณอยู่ทางขวา ของผมทางซ้าย"......."อย่ามั่วนิ่มแกล้งเข้าห้องผิดล่ะ".......พระเอกเรื่องนี้นอกจากจะหล่อแล้วยังปากเสียด้วยค่ะ....

แต่ความใกล้ชิดก็ทำให้พระเอกผู้เย็นชา ค่อยๆละลายน้ำแข็งในหัวใจทีละนิดๆ เริ่มมีฉากหวานๆ...เอ่อ...ถ้าจะเรียกให้ถูกเป็นฉากการกลั่นแกล้งซะมากกว่า...แต่คนอ่านก็เขินแทนนางเอกไปหลายฉากSmiley
"ทำอะไรน่ะ จับกบอยู่หรือไง"......นี่คืออาการแสดงความเป็นห่วงใช่มั้ย???
"คอนแทคฉันน่ะสิ..."
"ช่างมันเถอะ หาเจอก็ใส่กลับไม่ได้แล้ว ฝุ่นเขรอะขนาดนั้น"........"คุณมองไม่เห็นแล้วนี่ ต้องจับมือกันให้แน่นๆ เดี๋ยวจะพลัดหลง"
"ฉันแค่สายตาสั้นนะคะ ไม่ได้ตาบอด"
"ยิ่งแย่ใหญ่ คนตาบอดยังมีไม้เท้านำทาง แต่คนตาสั้นตัวสั้นอย่างคุณถ้าไม่มีคนช่วยจูง มีหวังได้ล้มหน้าคะมำแน่".....สาบานได้ว่า...นี่พระเอกพูดนะเนี่ย

จริงๆเรื่องนี้...แอบมีดราม่าเล็กๆ ไม่ว่าจะปมเรื่องครอบครัวของพระเอก จนทำให้เขาต้องกลายเป็นคนเย็นชา...นางเอกที่ปิดบังจุดประสงค์บางอย่างที่มาเข้าร่วมทริปนี้ จนทำให้พระเอกโกรธมาก...นางเอกสาวที่หวังจะพิชิตใจพระเอกหนุ่มคนดัง ดันมีปมชีวิตที่ อืมมม...


อ่านจบ...ชอบค่ะ ไม่ผิดหวังเลยเรื่องนี้...แม้ว่าทริปหัวใจครั้งนี้จะไม่ได้ไปเที่ยวหลายที่นัก...ก็ไกด์ขี้เกียจแถมยังเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ...ปมของพระเอกผูกไว้ดีค่ะ ดูลึกซึ้งดี และก็ดีที่พอคลายปมลงไปแล้วพระเอกไม่ได้รู้สึกดื้อด้านมากนัก...อย่างตอนที่รู้ว่าเข้าใจนางเอกผิดก็พยายามตามไปง้อ และพยายามพิสูจน์ตัวเองกับพ่อนางเอกอีก...แต่ก็ขัดใจนิดหน่อยตอนที่ไม่สนใจฟังนางเอกอธิบายเล้ยยย...สรุปแล้วชอบพระเอกเรื่องนี้นะคะ...หล่อ รวย เย็นชาแต่พอจะหวานล่ะก็...เจ้าเล่ห์มาก...ส่วนนางเอก...สาวแก้มยุ้ยที่มีอะไรแสดงออกทางแววตาหมด...ดีค่ะ ทำให้เรื่องไม่ยากดี...แต่ขัดใจนิดหน่อยเหมือนกัน...ตรงที่ง้อง่ายไปหน่อย...แต่นะ...ก็รักพระเอกไปแล้วนี่ขืนง้อยากแล้วเค้าไม่ง้อก็แย่สิ...Smiley

...ความรักนี่ก็แปลกนะ ขึ้นชื่อว่าความรักแท้ๆ แต่รักอย่างเดียวกลับไม่พอ...


ปล.เรื่องนี้เจอศัพท์แปลกสะดุดตาอยู่คำหนึ่ง...อาเวค...พอไปเปิดดูความหมายถึงรู้ว่าหมายถึงอารมณ์ ความรู้สึก...อืม แปลกดีค่ะที่ใช้คำนี้...




รัก...กึ่งสำเร็จรูป...เพนกวิน
...เรื่องนี้เป็นเรื่องของปาลทัต เพื่อนสนิทและหุ้นส่วนบริษัททัวร์ของอิฏฐา(พระเอกจากเรื่องข้างบน)...ที่มีเสียงแซวกันว่าทั้งสองเรื่องคนเขียนเขียนห่างกันหลายปี...แต่ไม่เป็นไร...อ่านวันเดียวกัน...ถือซะว่าเรื่องนี้ห่างกันแค่ปีกว่าๆตามท้องเรื่องแล้วกัน Smiley

ปาลทัต...พระเอกผิวเข้ม ผู้ที่หายใจเข้ามีแต่ผลประโยชน์ หายใจออกก็เงิน...แต่นะถ้าไม่ได้ปาลทัตพระเอกตัวดำคนนี้ เรื่องข้างบนคงไม่เกิด...ต้องให้เครดิตเขาหน่อย...เมื่อคุณตาบอกว่าจะมอบมรดกมูลค่ากว่าสามสิบล้านบาทให้หากหลานชายคนเดียวอย่างเขาแต่งงาน...มีหรือคนที่งก และเค็ม อย่างปาลทัตจะไม่สนใจ...แต่ติดตรงที่ว่า...เขาไม่มีแฟน...ว่าแล้วก็หาแฟนด้วยวิธีง่ายๆโดยการโพสต์ลงเน็ต...พอมีเหยื่อ...เอ๊ย...คนสนใจ...ก็พูดคุยและทำความเข้าใจกัน...ปรากฏว่า...ดันมีคนบ้าเข้าร่วมแผนการนี้ด้วย...อ๊ะ อ๊ะ แต่ว่าที่เจ้าสาวคนนี้ไม่ใช่นางเอกนะคะ...เพราะเป็นคนประเภทเดียวกันกับพระเอกเด๊ะๆ
"ผมขอพูดอีกครั้งนะทราย และจะไม่พูดซ้ำอีก ผู้ชายอย่างผม...ถ้าไม่มีผลประโยชน์ร่วมด้วยล่ะก็ มันจะไม่มีความรักเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สบายใจได้เลย"

เมื่อวางแผนว่าจะแต่งงาน...หาเจ้าสาวได้แล้ว...ที่เหลือก็คือไปหาเว็ดดิ้งสตูดิโอ เพื่อจัดการงานแต่ง...แต่ความเค็ม และงก ของพระเอก ยังได้ใจไปอีก...
"เสียดาย...ฤกษ์ไม่ค่อยดี ดันเจอเจ้าบ่าวนิสัยพิลึกแถมเค็มสุดๆ ชนิดมหาสมุทรยังต้องเรียกพี่"......."ตอนแรกน่ะท่าดีเชียว บอกว่าอยากจัดงานแต่งงานแบบเล็กๆ .....ฯลฯ...นอกจากจะสนใจแพ็กเกจถูกสุดของเรา พ่อเจ้าประคุณยังขอตัดค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองออกอีก เค็มไหมล่ะ"
....ยัง ยังมีอีก...
"แต่งงานทั้งทีก็ต้องใช้เงินเยอะ ถ้าเป็นไปได้ ใครๆก็คงอยากใช้จ่ายอย่างประหยัดกันทั้งนั้น"
"โถๆ ไอ้เรื่องประหยัดน่ะพี่เข้าใจ แต่ประหยัดถึงขนาดจะขอตัดเค้กกับซุ้มนี่พี่ไม่ไหวจะเคลียร์นะ"......."เ้ค้กไม่เอา ซุ้มดอกไม้ไม่สน ของตกแต่งภายในงานก็ขอบาย เขาบอกว่าใช้ครั้งเดียวในชีวิตมันไม่คุ้ม ช่างภาพกับรูปแต่งงานก็ด้วย เพราะถ่ายไปชาตินี้ทั้งชาติหรือแม้แต่ชาติหน้าก็คงไม่ได้ดู โอ๊ย ปวดตับ แล้วมันจะเหลืออะไรบ้างวะเนี่ย"....Smiley


พระเอกคนนี้...เค็มได้โล่ห์จริงๆค่ะ...แถมความกวนนี่...ไม่น้อยหน้าความเค็มด้วย...
"แต่ฉันเกรงว่าจะอยู่ดูแลคุณไม่ได้"
"โอ๊ย อย่ายุ่งยากเลย ผมโตแล้วไม่ใช่เด็กสองขวบ แล้วผู้ใหญ่อย่างผมก็กินง่ายอยู่ง่าย แถมถ่ายก็คล่อง"...เอ่อ ประโยคหลังไม่ต้องบอกก็ได้มั้ง?

เรื่องคงจะง่าย...เพราะเจ้าสาวก็หาได้แล้ว เว็ดดิ้งสตูดิโอก็หาแล้ว...ถ้า...เขาจะไม่ชอบไปตอแยเจ้าของเว็ดดิ้งสตูดิโอที่จะจัดงานแต่งงานของเขานี่สิ...
"เมื่อกี้คุณบอกว่าจะกลับร้าน งั้นเดี๋ยวผมขับไปส่งให้ ไม่ต้องเสียเงินเรียกแท็กซี่หรอก"...ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมได้ไม่เปลี่ยน....
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยอมเสียเงินดีกว่าเสียสุขภาพจิต"...ฮา...


อ่านจบ...เรื่องนี้ก็ชอบค่ะ...ฮาได้อีก...กับความเค็มของพระเอกผิวดำมาดกวน...ที่ฉายแววความงกให้เห็นตั้งแต่เรื่องข้างบนโน่น...เรื่องนี้ตัวเชื่อมระหว่างพระเอกนางเอกเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานแต่งงานตลอดเลย...ไม่ว่าจะงานแต่งงานของเพื่อนที่ทำให้พระเอกเจอกับนางเอกครั้งแรก...และทำให้เรื่องราวมันมีอะไรมากขึ้น...หรือการที่พระเอกจะแต่งงานเพราะหวังมรดกเอง...นางเอกก็สวย หวาน บุคลิกดี...อืม...เป็นนางเอ๊กนางเอกค่ะ...บทเด่นเลยไปตกที่พระเอก แล้วยังติดใจเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของนางเอกอีกคน...ที่ชีิวิตนี้คงยังชีพด้วยความอิจฉาริษยาแทนอาหาร...อ่านแล้วทั้งสมเพช ทั้งสงสาร...ส่วนเจ้าสาวที่เกือบจะได้เป็นเจ้าสาว...ดูมีมิติดีค่ะ เหมือนดูพระเอกแปลงเพศเลย...เห็นแก่ผลประโยชน์มาก่อน...จนขนาดวันแต่งงานก็ยังทำเอาคนอ่านใจหายใจคว่ำ...Smiley


...คนเรามีส่วนดีส่วนเสียกันทุกคน มีสิ่งที่คนอื่นไม่มีเหมือนๆกัน ขืนไม่ปล่อยวาง อิจฉาไปเสียทุกอย่างที่เห็น หวั่นไหวไปกับทุกสิ่งที่เจอ การใช้ชีวิตบนโลกใบนี้จะมีความสุขได้ยังไง...






Create Date : 24 มีนาคม 2556
Last Update : 1 มกราคม 2557 19:58:01 น.
Counter : 1097 Pageviews.

7 comments
  
ปกติเคยเจอแต่นางเอกเค็มค่ะ พระเอกเค็มเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก แถมทั้งดำทั้งเค็ม !! น่าสงสารนางเอกเรื่องหลังจริงๆ
โดย: Sab Zab' วันที่: 24 มีนาคม 2556 เวลา:23:00:26 น.
  
ตามมากรี๊ดอีกรอบค่ะ .......งานของผู้เขียน ติดใจตั้งแต่เล่มแรก....ชอบความฮา ขนาดเขียนห่างกัน 7 ปี ยังกลับมาฮาได้อีก เล่มหลังเสียดายนิดหนึ่งอย่างที่เคยรีวิวไว้
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:8:56:41 น.
  
คุณSab Zab'...ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ...

คุณพุดน้ำบุศย์...นั่นสิคะ ขนาดเขียนห่างกันเจ็ดปี พระเอกเรื่องหลังยังไม่หลุดคอนเซ็ปต์เลยค่ะ
โดย: Aneem วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:19:43:16 น.
  
แอบกรีดร้องด้วยความดีใจตอนที่เห็นรีวิวหนังสือของตัวเองถึงสองเรื่องพร้อมกัน >_<

ขอบคุณคุณ Aneem มากๆ จริงๆ นะคะ แล้วก็ปลื้มมากๆ ด้วยที่ชอบทั้งสองเรื่องค่ะ เรื่องแรกเขียนไว้นานซะจนตอนอ่านรีวีวต้องทวนความจำกันนิดหน่อย ฮา ดีใจแทนนายก้อนอิฐและปาลทัต โดยเฉพาะนายปาลทัตที่ขนาดเค็มอย่างนี้ยังทำให้คนอ่านมีความสุขได้ ^^ ยังไงขอฝากผลงานเรื่องต่อๆ ไปด้วยนะคะ อิอิ

ป.ล. ขอแซวคอมเม้นต์แรกของคุณ Sab Zab' นิดนึง เขียนบรรยายนายปาลทัตซะเห็นภาพเลยค่ะ ทั้งดำทั้งเค็ม นึกว่ากำลังพูดถึงหมูแดดเดียว ไม่ได้พูดถึงพระเอก 555+
โดย: เบบูญ่า วันที่: 26 มีนาคม 2556 เวลา:21:30:17 น.
  
ลืมบอกไป...ขออนุญาตนำลิงค์ไปแปะที่แฟนเพจนะคะ ^^
โดย: เบบูญ่า วันที่: 26 มีนาคม 2556 เวลา:21:37:25 น.
  
จดไว้ก่อนค่ะ แปะโป้ง ๆ ๆ
หวานเย็นยังสอบไม่เสร็จเลย
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 26 มีนาคม 2556 เวลา:23:42:36 น.
  
คุณเบบูญ่า...ได้เลยค่ะ...เป็นกำลังใจให้ในงานชิ้นต่อๆไปนะคะ

คุณหวานเย็นฯ...สู้ๆ ค่ะ สอบเสร็จเมื่อไหร่ ค่อยลุยอ่านต่อค่ะ
โดย: Aneem วันที่: 27 มีนาคม 2556 เวลา:19:50:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aneem
Location :
สระบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



ปีนี้+++ตั้งเป้าไว้ว่าจะพยายามซื้อหนังสือให้น้อยลง...แต่จะอ่านของเก่าที่ดองอยู่ให้มากขึ้น...จำทำได้มั้ยนะ!!!