นางร้าย...ที่รัก...ดวงมาลย์...เล่มนี้ซื้อไว้นานเืกือบปี เพิ่งจะนึกหยิบขึ้นมาอ่าน ก่อนที่จะสังเกตุว่ามีนิยายที่เขียนให้นางร้ายในละคร เป็นนางเอกในนิยายหลายๆเรื่องเลย...
พิมพ์ชนก...นางร้ายไฮโซ ขาวีน เอาแต่ใจ...แต่เบื้องหลังเธอคือเด็กกำพร้า ที่คุณแม่บุุญธรรมเศรษฐีนีรับไปเลี้ยงดู จนกลายเป็นคุณหนูน้อยๆที่เอาแต่ใจไปในที่สุด
นที...ผู้กองรูปหล่อหน้าหยก (ว่าไปนั่น...ก็คนเขียนเขาว่าไว้) ผู้ไม่เคยสนใจแวดวงบันเทิง...แต่วันนึง ถึงกับตกตะลึง...แค่เพียงเห็นนางร้ายอย่างพิมพ์ชนกในจอทีวี...
วงจรชีวิตของทั้งคู่ไม่น่าจะมาเจอกันได้เลย...ถ้าวันหนึ่งนางร้ายอย่างพิมพ์ชนกจะฝันเห็นน้องสาวที่เคยอยู่ด้วยกันที่บ้านเด็กกำพร้า แ่ต่ก็ต้องแยกย้ายจากกันไป...จนสุดท้ายก็มาอ่านข่าวเจอว่าน้องสาวคนนั้นเสียชีวิตไปแล้ว...พิมพ์ชนกไปร่วมงานศพ และได้เจอกับพิพัฒน์แฟนหนุ่มของผู้ตาย และเนตรกมลนางเอกสาวที่กำลังจะมีละครร่วมกันพี่สาวของพิพัฒน์...พิพัฒน์บอกว่าเขาสงสัยว่าการตายของสายธารเป็นการฆาตกรรม...และคนที่น่าสงสัยก็คือสองพี่น้องผู้มีอำนาจในวงการบันเทิงที่เจ้าชู้หาตัวจับยากทั้งคู่
พิมพ์ชนกต้องการสืบเรื่องน้องสาวเลยเอาตัวเข้าไปพัวพันกับสองพี่น้องนั่น...ทำให้ภรรยาของคนพี่ไม่พอใจอย่างมากถึงขนาดมีบุกตบกลางกองถ่าย...ไ่ม่แค่นั้น ยังไม่ถูกกับนางร้ายด้วยกันอีกตะหาก...จดหมายขู่ฆ่า การโดนทำร้ายร่างกาย ทำให้ชาร์ลีผู้จัดการส่วนตัวต้องไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ เลยได้นทีมาเป็นบอดี้การ์ด...
ตามสูตรเลยค่ะ พอเจอหน้ากันปุ๊บ นางเอกเธอก็เหวี่ยงวีน ไม่อยากมีบอดี้การ์ด แต่พอโดนผู้จัดการส่วนตัวยกเหตุผลร้อยแปดสุดท้ายก็ยอม...แต่แบบจำใจ...
"ฉันไม่หิว"
"แต่ผมหิว"
"นายหิวก็ลงไปกินเองสิ จะมาวุ่นวายกับฉันทำไมล่ะ"
"ผมจะลงไปก็ต่อเมื่อมีคุณไปด้วย ผมจะไม่ปล่อยให้คุณคลาดสายตาเด็ดขาด"
"ปัดโธ่ นี่นายไม่ต้องมาทำเป็นโอเวอร์ขนาดนี้ก็ได้ ฉันไม่เอาเรื่องนี้ไปฟ้องเจ้านายของนายหรอก ไปสิ...ชิ้ว"
"จะลงไปด้วยกันดีๆไหม ไม่อยากนั้นผมจะลากคุณไปเอง"
"ลาก?"
"ใช่...ลาก คุณฟังไม่ผิดหรอก เพราะผมคงไม่อุ้มคุณลงไปข้างล่างเหมือนพวกพระเอกนิยายแน่ อย่างนั้นมันสบายเกินไป ผู้หญิงอย่างคุณมันต้องโดนลากถึงจะเหมาะ"...เอ่อ...ออกแนวโหดนิดๆ
เมื่อผู้ถูกดูแลเป็นคนเอาแต่ใจ...แถมผู้ดูแลยังไม่เคยตามใจอีกต่างหาก...เวลาคุยกันเลยไม่เคยมีคำพูดไพเราะเสนาะหูกันสักเท่าไหร่...นางเอกก็พยายามเข้าไปใกล้ชิดผู้ต้องสงสัยมากขึ้น...และพระเอกก็ดันมีเสน่ห์เข้าตานางเอกละครอย่างเนตรกมลขึ้นมา ไหนจะคุณน้องอรลูกสาวหัวหน้าอีก...นางเอกก็นึกฉุนๆ (แบบยังไม่รู้ใจตัวเอง) แต่ตอนนั้นพระเอกน่ะเริ่มจะรู้ใจตัวเองแล้ว...
"ถ้าฉันเป็นอะไรขึ้นมา นายจะรับผิดชอบไหวไหม ร่างกายของฉันมันมีค่ามากกว่าเงินเดือนทั้งชีิวิตของนายอีกนะ จะบอกให้"
"ถ้าเกิดคุณแข้งขาหักหรือพิการขึ้นมา ผมคงไม่มีปัญญาไปหาเงินมาชดใช้ให้ใครแ่ต่สิ่งที่ผมทำได้ก็คือ จะอยู่ดูแลจนกว่าคุณจะหาย ถ้าไม่หาย ผมก็จะดูแลคุณไปตลอดชีวิต หรือไม่ก็จนกว่าคุณจะไล่ผม แต่มันคงไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการหรอก ผมรู้"
"นายอย่าทำมาเป็นพูดดีหน่อยเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆแล้วนายจะต้องเสียใจ"
"ใช่...ผมคงเสียใจที่เห็นคุณเจ็บตัว แต่ไม่เคยคิดจะเสียใจที่ต้องอยู่ดูแลคุณ"
เรื่องราวก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ...มีผู้ต้องสงสัยในใจคนอ่านหลายคน...ไม่ว่าจะเป็นสองพี่น้องหรือภรรยาของคนพี่ซึ่งคนเขียนปูพื้นให้สงสัยไปเต็มๆ...หรือจะเป็นพิพัฒน์แฟนของน้องสาวนางเอก ที่อ่านไปอ่านมา...เหมือนจะโรคจิตนิดๆเลย...อืมมมม แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ...พอเฉลยออกมา ไม่ตกใจเท่าไหร่ เพราะแอบสงสัยอยู่เหมือนกัน แต่ที่ตกใจคือเรื่องพ่อแม่ที่แท้จริงของนางเอกนี่สิ มันหักมุมจนคนอ่านไ่ม่คาดคิด...
อ่านจบ...พล็อตเรื่องแบบละค้อนละครเลยค่ะ...คือถ้าเอาไปทำเป็นละครก็คงจะสนุกและน่าติดตามในระดับนึง เพราะนางเอกเธอก็เหวี่ยงๆวีนๆ แต่เนื้อแท้จิตใจดี ส่วนพระเอกก็มาดเข้ม สวมบทโหดไม่ยอมตามใจ และที่สร้างสีสันก็น่าจะเป็นพี่ชาร์ลีูผู้จัดการส่วนตัวของนางเอก
อ่อ...แอบรำคาญความมีเสน่ห์ของพระเอกนิดนึงจนพาลไม่ชอบน้องอรไปด้วย เพราะเธอเยอะค่ะ แบบนิสัยลูกคุณหนูเลย...แต่ตอนท้ายเรื่องนี่ทำคะแนนดีขึ้นเยอะเลยค่ะ
แล้วก็แอบสนใจพี่เสือ...นายตำรวจลูกพี่ลูกน้องของพระเอกเล็กน้อยถึงปานกลาง...ไม่แน่ใจว่าผู้เขียนชอบเขียนนิยายแบบเรื่องต่อหรือเปล่า ถ้าเขียนแบบนั้น...ก็ขอเชียร์พี่เสือเป็นพระเอกสักเรื่องแล้วกันค่ะ
สรุปแล้วเรื่องนี้ก็อ่านได้เพลินๆระดับนึงค่ะ ยังไ่ม่ถึงขั้นติดใจมากมาย...
อารมณ์เดียวกันเลย