|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
มะเร็งปอดกับการเติมยาเคมีบำบัดรอบที่ 9
มะเร็งปอดกับการเติมยาเคมีบำบัดรอบที่ 9
วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฏาคม 2559 หลังจากผล x-ray เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2559 บ่งบอกว่าเซลล์มะเร็งได้ขยายเนื้อที่ออกไปอีก คุณหมอจึงนัดให้วันนี้มารับยาเคมีบำบัดเข็มแรก ด้วยตัวยาที่ชื่อ Taxol หลังจากเติมยาไปก็มีอาการปวดเนื้อปวดตัวแต่ยังพอทน นัดอีกครั้งวันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฏาคม 2559 น้ำหนักตัว 53 กิโลกรัม ต้องไปเติมยาเข็มที่ 2 ในวันศุกร์ที่ 22 กรกฏาคม 2559 เนื่องจากทีมเลขามะเร็งทำงานล่าช้ามาก ตรวจเสร็จตั้งแต่ 11 โมงกว่าจะได้หนังสือส่งตัวไปรับยาก็ปาเข้าไปเวลา 16.11 น. ไม่รู้ทำงานกันประสาอะไร การให้ยาคราวนี้คุณหมอบอกว่าจะให้ยา 3 พฤหัสติดกันแล้วเว้น 1 พฤหัส ดังนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฏาคม 2559 เราจึงต้องไปพบคุณหมอเพื่อเติมยาเคมีบำบัดเข็มที่ 3 ต่อไป
วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฏาคม 2559 ไปพบคุณหมอตามนัดเพื่อเติมยาเคมีบำบัดเข็มที่ 3 น้ำหนักตัววันนี้ 53 กิโลกรัม ผลเลือดออกมาดี ได้รับยาวันนี้เลย นัดอีกครั้งวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2559 สั่งเจาะเลือดและ x-ray อาการข้างเคียงหลังจากได้รับยาเข็มที่ 3 มาเล่นเอาย่ำแย่เหมือนกัน หายใจไม่ค่อยออก ไอ ท้องเสียเล็กน้อย คันตามผิวหนัง ผมร่วงจึงโกนผมเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2559 กลับเป็นยัยโล้นอีกรอบ
วันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2559 ทีมงานเลขาโทรมาเลื่อนนัดจากวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2559 เป็นให้มาตรวจวันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม 2559 แทนเนื่องจากอาจารย์หมอติดธุระ วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม 2559 ไปตรวจตามนัด ผล x-ray เป็นที่น่าพอใจมีบางส่วนฝ่อลง ผลเลือดดี จึงได้รับยาเคมีบำบัดอีกเข็มเป็นเข็มที่ 4 และนัดให้ตรวจอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2559 ช่วงเวลารอพบคุณหมอก็ยังมีไอ และคันตามผิวหนังเกาก็เป็นแผล คุณหมอบอกว่าที่เป็นแผลเพราะเนื้อของเราเปื่อยแล้วด้วยฤทธิ์ยาคีโม วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2559 น้ำหนักตัววันนี้ 53 กิโลกรัมผลเลือดตับไตดี ได้รับยาคีโมเข็มที่ 5 นัดอีกครั้งวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2559
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2559 พบคุณหมอตามนัด น้ำหนักตัววันนี้ 54 กิโลกรัมผลจากการหม่ำทุเรียนไปเกือบ 1 ลูก ค่าเลือด 4300 เติมยาเคมีบำบัดเข็มที่ 6 นัดอีกครั้งวันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน 2559 เจาะเลือดอย่างเดียว วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน 2559 น้ำหนักตัววันนี้ 54 กิโลกรัม ค่าเลือด 4200 ได้รับยาเคมีบำบัดเข็มที่ 7 นัดอีกครั้งวันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน 2559
วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน 2559 ไปพบคุณหมอตามนัด น้ำหนักตัววันนี้ 54 กิโลกรัม ผลเลือด 4200 ได้รับยาเคมีบำบัดเข็มที่ 8 นัดอีกครั้งวันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม 2559 สั่ง x-ray และเจาะเลือด วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม 2559 น้ำหนักตัววันนี้ 55 กิโลกรัม ค่าเลือด 5000 ได้รับยาเคมีบำบัดเข็มที่ 9 นัดอีกครั้งวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 แต่วันนั้นคุณหมอจะยุ่งมากเลยสั่งยาไว้หากผลเลือดผ่านก็ไปรับยาเคมีบำบัดได้เลย และนัดอีกรอบวันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม 2559 ทั้งสองสัปดาห์นั้นเจาะเลือดอย่างเดียว
วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 ไปตามนัดน้ำหนักวันนี้ 54.5 กิโลกรัม ผลเลือดดี เนื่องจากวันนี้ไม่ต้องรอพบคุณหมอ พอทีมงานเลขามาถึงห้องตรวจ เช็คผลเลือดของเราผ่าน จึงได้หนังสือส่งตัวมาเติมยาคีโมเข็มที่ 10 เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้นับเป็นวันแรกที่เราเติมยาคีโมเสร็จเร็วคือเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 12.45 น. ตอนเติมยาทำไมเรารู้สึกคันไปทั่วตัวก็ไม่รู้ นอนไม่หลับเลย คุณหมอนัดอีกครั้งวันที่ 20 ตุลาคม 2559
อนึ่ง วันนี้เป็นวันที่เราเศร้าใจที่สุด ที่ต้องสูญเสียพ่อของแผ่นดินไป องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลได้สวรรคตแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 ยังความเศร้าเสียใจมาสู่พสกนิกรทั่วไทย ขอพระองค์จงเสด็จสู่สรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์และปกปักษ์รักษาแผ่นดินไทยตลอดจนประชาชนชาวไทยให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขดั่งที่พระองค์ทรงมีพระชนม์อยู่ด้วยเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม 2559 พบคุณหมอตามนัด ผลเลือด 4100 ตับไตดี น้ำหนักตัว 55 กิโลกรัม ได้รับยาเคมีบำบัดเข็มที่ 11 คุณหมอบอกแข็งแรงดีรับยาอีก 3 เข็มนะ เราก็ตกลง นัดอีกครั้งพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2559 เจาะเลือดอย่างเดียว วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2559 พบคุณหมอตามนัดเช่นเคย ผลเลือด 4500 ตับไตดี น้ำหนักตัว 55.7 กิโลกรัม ได้รับยาเคมีบำบัดเข็มที่ 12 นัดอีกครั้งพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2559 เจาะเลือดอย่างเดียว
วันนี้ให้ข้าวตังอยู่บ้านคนเดียว เป็นห่วงที่สุดแต่ทำไงได้เราต้องไปเติมยาเพื่อรักษาตัว น้อตกลับมาถึงบ้านเย็นเปิดประตูเข้าไปแทบเป็นลม ข้าวตังทำไว้เลอะเทอะไปหมดทั้งแอ้ อาเจียน เขารู้ตัวว่าเขาทำผิดเดินหงอย ๆ มาหาน้อต น้อตบอกไม่ดุข้าวตังหรอกนะ ปล่อยไว้ตั้ง 10 ชั่วโมง เรากลับบ้านมาน้อตยังทำความสะอาดไม่เสร็จเลยและบอกว่าข้าวตังทำเลอะไปหมด อย่าไปดุเขานะ แม่ก็บอกไม่ดุหรอกเข้าใจ กลัวแม่ดุนะค่อย ๆ เดินมาหา
วันพฤหัสบดีที่10 พฤศจิกายน 2559 ไปพบคุณหมอผลเลือด 3800 น้ำหนักตัว 54.5 ได้รับยาเคมีบำบัดเข็มที่ 13 นัดอีกครั้งพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2559 เจาะเลือดอย่างเดียว วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2559 ไปพบคุณหมอตามนัด ผลเลือด 4100 น้ำหนักตัว 55.7 กิโลกรัม ได้รับยาเคมีบำบัดเข็มที่ 14 ซึ่งเป็นเข็มสุดท้ายตามที่ได้ตกลงกับคุณหมอไว้ นัดมาพบอีก 1 เดือนข้างหน้าคือวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2559 สั่งX-ray และเจาะเลือด วันนี้ลูกสาวลงทุนลาหยุดงาน 1 วันเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเจ้าข้าวตัง เกรงเขาจะทำเลอะเทอะอย่างคราวก่อน เลี้ยงสุนัขตัวนี้มาตั้งแต่เขายังเล็ก ๆ นำมาจากกรุงเทพฯ ตอนนี้อายุได้ 11 ปีแล้วตาบอด ฟันหลุด หูก็ไม่ค่อยดี เขาชราภาพมากแล้ว เราผูกพันกับเขามาก ๆ ไปไหนก็เป็นห่วงเหมือนเป็นภาระแต่มันก็ไม่ใช่ เขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา ก็ดูแลกันไปจนกว่าจะจากไม่รู้แม่หรือลูกนะที่จะจากไปก่อน ภาวนาขอให้เป็นเขาเถอะเราจะได้หมดห่วงเวลาที่เราต้องจากโลกนี้ไป ไม่อยากเกิดชาติหน้าเป็นสุนัข พระท่านสอนว่าจิตสุดท้ายที่เรานึกถึงคืออะไร เราก็จะไปเกิดเป็นสิ่งนั้น โอ..ถ้าข้าวตังยังอยู่ จิตสุดท้ายของเราจะต้องเป็นห่วงเจ้าข้าวตังแน่ ๆ ห่วงว่าเขาจะอยู่อย่างไร ใครจะดูแลเขา จะกินข้าวกินน้ำ ใครจะอาบน้ำให้ โอย..สารพัดความเป็นห่วง ขอเป็นลมแพล๊บ
วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2559 เริ่มมีไข้ หนาวสั่น ปวดตามเนื้อตัว กินยาแล้วนอนพัก วันอาทิตย์ก็ยังมีอาการแบบเดิม แต่ยังทนได้ คราวนี้เราเลยกินยาทีเดียว 2 เม็ด อืม..อาการไม่สบายเนื้อสบายตัวค่อยหายไป และดีขึ้นตามลำดับ วันจันทร์ยังหลงเหลืออาการอีกนิดหน่อย พอเช้าวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2559 อาการน่าจะปกติแล้วนะ เข็มที่ 14 นี่เล่นเอาย่ำแย่เหมือนกัน วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2559 ไปพบคุณหมอตามนัดผล x-ray ยังไม่ดีขึ้น เนื้อปอดมีสีขาวเข้มขึ้น ผลเลือดดี คุณหมอให้ดูไปอีกสักระยะและนัดให้มาพบในวันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2560 สั่งให้ x-ray และเจาะเลือด อาจจะต้องทำการรักษาโดยการเติมยาเคมีบำบัดอีกรอบ หลังจากพบคุณหมอตอนเย็นเราก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปพบญาติ ๆ และร่วมฉลองปีใหม่ที่ธารน้ำรีสอร์ท นครนายก มีการจับสลากแลกของขวัญกัน แต่พอถึงกรุงเทพฯเช้าวันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2559 มีอาการไม่สบาย หนาวและมีไข้ ตกเย็นหลานสาวพาไปหาคุณหมอฉีดยามา 1 เข็ม พร้อมให้ยามาทาน วันเสาร์อีก 1 เข็ม อาการไข้หายไป แต่ยังไอมากมาย เหนื่อย บางครั้งเหมือนหายใจไม่ทันใจจะขาด จนหลานสาวที่อยู่ด้วยร้องไห้พูดกับพี่สาวว่า น้าต้อยมาครั้งนี้ย่ำแย่มาก ดูไม่มีความสุขเลย อย่าร้องไห้ไปเลยนะ ปุ๊ น้าต้อยใจยังสู้อยู่จ้ะ สู้..ด้วยหัวใจที่ไม่ท้อ สัญญาจะดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างดีเพื่อที่จะมีชีวิตที่ยืนยาว สู้ สู้ สู้
Create Date : 15 มกราคม 2560 |
Last Update : 15 มกราคม 2560 9:09:52 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1010 Pageviews. |
|
|
|
โดย: kul IP: 171.97.101.222 วันที่: 11 กันยายน 2560 เวลา:22:11:57 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]
|
ชื่อเล่นว่าต้อย เป็นคนกรุงเทพฯ ย้ายตามสามีซึ่งรับราชการมาประจำที่จังหวัดเชียงใหม่ มีลูกสาวและลูกชายอย่างละ 1 หน่อ และมีหลานชายวัยกำลังซนผู้เป็นกำลังใจให้คุณย่าได้ต่อสู้กับโรคร้าย
อุปนิสัยส่วนตัวพูดไม่ค่อยเก่ง เขียนเล่าเรื่องราวไม่ค่อยจะิเป็น ถนัดแต่เรื่องเพลง ฉะนั้นบ้านนี้จึงมีเสียงเพลงเสียเป็นส่วนใหญ่
เรือนเพลงรัก KeRiDa ยินดีต้อนรับเพื่อน ทุกท่านด้วย ความเต็มใจค่ะ
"ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์"
บทกลอนตอนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6
|
|
|
|
|
|
|