~ ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ สองวันติดกัน ~
...............เหนื่อยเลยครับงานนี้ เมื่อวานก็ลาหยุดพักร้อน แต่ไม่ได้ไปดูหนังหรือพักผ่อนอะไรส่วนตัวหรอกครับ คุณแม่มูวี่เขาขอร้องให้ไปรับญาติ ก็คือพี่สาวคุณแม่มูวี่น่ะเอง ซึ่งก็ไม่ได้เจอกันมาหลายปีดีดักแล้ว ด้วยความที่ไม่เคยเดินทางจากบ้านไปสุวรรณภูมิ ก็เลยเสียค่าโง่ด้วยการขับรถอ้อมเมืองไปขึ้นทางด่วนเส้นธรรมศาสตร์ - แจ้งวัฒนะ - บางนา - ชลบุรี นอกจากจะเสียเวลาไปมากโขแล้ว ยังเปลืองตังมากขึ้นอีกสองเท่า เป็น 105 บาท จากการผ่านด่านสามด่านทั้งหมด ซึ่งถ้าไปทางเส้นวงแหวนรอบนอกจะเร็วกว่าและเสียค่าผ่านทางแค่ 60 บาท ก็เรียกว่าเป็นการซื้อประสบการณ์ไปซะ ! การเลือกเส้นทางอ้อมจะเสียเวลามากกว่ากันนิดหน่อย แต่วิวสวยกว่ากันหน่อยนึงเพราะอยู่บนทางยกระดับ แต่ถ้ามาวงแหวนรอบนอกจะเร็วกว่า แต่วิวไม่ค่อยสวย ขาไปก็แวะตลาดไทด้วยทีแรก เจนนี่เขาจะซื้อช่อดอกไม้ไปฝากแฟนพี่สาวด้วย แต่เจอราคาช่อดอกไม้เข้าไปก็เลยเปลี่ยนใจ
...............ออกเดินทางเที่ยงเศษๆ ไปถึงก็บ่ายโมงกว่าๆ เครื่องลุฟทันซ่าจากเยอรมันมาถึงเมืองไทยราวๆบ่ายสอง ก็ไปยืนรอรับผู้โดยสารตรงทางออก ซึ่งก็ค่อนข้างคับแคบและจอแจนิดหน่อยรออยู่สักเกือบๆชั่วโมง คุณพี่กบ พี่สาวของเจนนี่ก็โผล่ออกมาพร้อมกับคุณมาร์โค่ แฟนอิตาเลียนของแก ซึ่งก็หล่อกว่าที่คิด ! งานนี้ก็เก็บภาพประทับใจมาได้นิดหน่อยที่สนามบิน ก็ติดตามชมนะครับ เด๋วจะเอามาโพสท์ไว้ด้านล่างๆ ทีแรกเจนนี่เขาตั้งใจว่าจะเรียกแท๊กซี่อีกคันเพราะคิดว่าของจะเยอะ แต่เห็นของแล้วมีแค่กระเป๋าใบเดียว ก็เลยยัดมาหลังรถผม แล้วก็เดินทางกลับบ้านกัน เสียดายว่าที่บ้านยังไม่ได้ติดแอร์อีกห้อง ถ้าจะให้แขกหรือญาติมานอนพัก ก็คงจะไม่สะดวกสบายเท่าไหร่ ก็เลยให้ไปนอนโรงแรมแมนฮัตตันใกล้ๆบ้านจะดีกว่า ! ก่อนไปเช็คอินโรงแรมก็แวะไปเยี่ยมชมบ้านกันก่อน ก็ขลุกขลักนิดหน่อย ไปนั่งคุยกัน ทานของว่างเล็กๆน้อยก่อนจะพากันไปที่โรงแรม ขึ้นไปดูห้องที่โรงแรมแมนฮัตตัน 1000 บาทเห็นเค้าว่าอัพเกรดเป็นห้อง Deluxe ให้ แต่ผมว่าไม่ค่อยสมราคาเท่าไหร่เลย .. แต่วิวห้องก็โอเคอยู่ครับ
................หลังจากตรวจรับห้องกันเรียบร้อยแล้ว ก็แยกย้ายกลับมาบ้านให้พี่สาวเจนนี่กับแฟนเขาทำกิจกรรมกัน เอ ไม่รู้กิจกรรมอะไรกันบ้าง แล้วเราก็กลับมาอาบน้ำอาบท่า จัดการอาหารให้ย่าแล้วก็ออกไปรับที่โรงแรม ช่วงนั้นก็ขลุกขลักอีก เพราะพี่กบแกนัดคุณเบญจ เพื่อนที่โน่นที่มากับแฟนและมาเที่ยวเมืองไทยพอดีเหมือนกัน มาเจอกัน ปรากฏผมสลับซิมกับเจนนี่แล้วมือถือลืมไว้ในรถอีก ก็เลยติดต่อกันไม่ได้ เขาตามมารอที่โรงแรมอยู่นานช่วงที่ทางเราพักผ่อนกันอยู่ที่บ้าน จนเค้าเดินทางกลับไปแล้วก็ยังโทรมาอีกรอบ เลยได้คุยกันแล้วขอให้เขาย้อนกลับมาหาที่โรงแรมอีกครั้ง ในที่สุดก็เลยได้เจอกัน คุณเบญจก็มากับแฟนชื่อซิโมเน่ เอ๊ะ หนุ่มอิตาเลียนนี่มีแต่หน้าตาดีแฮะ ! คู่นี้เค้าสวีทกันน่าดูเชียว ก็คุยกันบนห้องพักแล้วก็ชวนกันลงมาทานข้าวที่ร้านไก่ย่างโคราช แถวๆโรงแรมนั่นแหละครับ ... ร้านไก่ย่างโคราชเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ ได้ยินกิตติศัพท์มานานแล้วว่าอร่อยแต่ยังไม่เคยมานั่งสักที สรุปเมื่อวานก็เลยสั่งอาหารกันเต็มที่ ทานกันอิ่มแปร้เลย แถมเคล้าเบียร์อีกสิบกว่าขวดแล้วก็ไอ้แท่งยาวๆอีกแท่งนึง ผมไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร เกิดมาไม่เคยกินเหมือนกัน ทีแรกนึกว่าจะเยอะที่ใหนได้ เพิ่งรู้ว่าตรงกลางมันเป็นไส้กลวง !! จริงๆแล้วเบียร์มันใส่มาก็ไม่ได้เยอะอย่างที่คิด
.................แต่ละท่านก็คุยกันเก่งๆทั้งนั้นเลยครับ งานนี้ผมเลยไปฟังๆซะเป็นส่วนมาก ตามประสาคนคุยไม่เก่ง เจนนี่เขาเฮฮาตามสไตล์ โชคดีที่มูวี่หลับตลอดงานเลยไม่ค่อยกวน ก็เลยทานกันได้สบาย คนอื่นๆเค้าทานกันไม่ค่อยเยอะเลย ผมก็เลยกินนิ่มๆเลยครับงานนี้ ปลาดุกฟูเขาก็อร่อย , ปลานึ่งมะนาวก็อร่อย , คอหมูย่างก็หวานมันส์ , ไก่ย่างเขาก็ทำรสชาติดีครับ มีเมนูแนะนำหลายอย่างเชียวร้านนี้ เสียดายไม่มีเบียร์ช้าง มีแต่เบียร์สิงห์ กินเท่าไหร่ก็ไม่เมาสักที ทั้งๆที่กินเข้าไปเยอะมากๆๆ เสียดายที่ภาษาอิตาเลียนผมเข้าหม้อไปเกือบหมดแล้ว เค้าจะชวนคุยอิตาเลียนผมเลยไม่รู้จะคุยอะไร ศัพท์ง่ายๆยังนึกไม่ค่อยออกเลย ฟังเขาคุยกันทีฟังไม่ค่อยออกเลย เค้าจะพูดกันเร๊วเร็ว ! แล้วพวกเค้าจะไม่ค่อยคุยอังกฤษกันนะ ดูเหมือนว่าภาษาอังกฤษเขาจะพูดกันได้น้อยมากเลยล่ะ .. งานนี้นึกแล้วก็น่าอายนะ อุตส่าห์ไปเรียนมาตั้งปีนึง ไม่ได้เรื่องได้ราวเลย บทสนทนาง่ายๆน่าจะนึกออกบ้าง .. ที่ร้านไก่ย่างโคราชเค้ามีนักร้อง ส่วนใหญ่เสียงก็ใช้ได้ครับ บรรยากาศโดยรวมๆลมพัดเย็นสบายครับ คนก็ไม่ค่อยหนาตาเท่าไหร่ คงเป็นเพราะเป็นวันธรรมดากลางเดือน นั่งทานกันยาวจนสี่ทุ่มกว่าๆแหละครับถึงจะเดินทางกลับกัน
.................เดินมาส่งกันถึงรถ ทีแรกกะว่าจะไปส่งคุณเบญจกับซิโมเน่ขึ้นแท๊กซี่กลับโรงแรมแถวนานา แต่ปรากฏว่าเกิดแอคซีเดนท์ เซนทรัลล๊อกรถไม่ค่อยดี เจนนี่เขาไปติดเครื่องรอ กะเปิดแอร์ให้เย็น แล้วออกมารอนอกรถ แต่รถมันดันล๊อกหมด ของอะไรก็เอาใส่เข้าในรถหมดแล้ว ทำไงดีล่ะงานนี้ เลยต้องตามช่างโรงแรมมา เขาก็ไม่มีช่างอยู่ มีแต่พนักงาน ก็มาช่วยกันหาทางงัดรถ ทีแรกมาร์โค่กับซิโมเน่ เขากะทุบกระจกรถแล้ว ยังนึกอยู่เลยว่าถ้าไม่มีทางไขจริงๆก็คงต้องทุบกระจกรถ ซึ่งก็คงเป็นงานใหญ่แน่ เพราะไม่รู้จะได้ไปซ่อมรถเมื่อไหร่ ! ถ้าใครผ่านไปหน้าโรงแรมคืนนั้นคงต้องประหลาดใจกับฝรั่งสองคนและคนไทยอีกหลายคน ช่วยกันหาทางงัดรถเพื่อเข้ารถตัวเอง สุดท้ายหลังจากได้อุปกรณ์ตัวช่วยมาจากพนักงานโรงแรมแมนฮัตตัน พวกเราก็เปิดรถสำเร็จ ซิโมเน่เค้ารีบทิปให้พนักงานไปอย่างรวดเร็วจนเราไม่ทันให้เลย งานนี้พอล่ำลากันเสร็จผมเลยต้องตอบแทนน้ำใจด้วยการไปส่งเขาที่นานากัน ก็ขับเข้าเมืองแล้วกลับมา โชคดีที่ดึกแล้วรถไม่ติดเท่าไหร่ก็เลยเหยียบ 140 เข้าไปนานา ส่งเสร็จก็กลับ แถวนานา มีผู้หญิงหากิน และกระเทยสาวสวยจับแขกเยอะมากกก ยังกะมีเทศกาลอะไรทีเดียว เปิดไปถามทางนึกว่าเป็นสาวหากิน แต่ตอบมาเป็นเสียงผู้ชายเลย เล่นเอาเหวอไปเหมือนกัน ขนาดเบญ เขายังงงเลยว่าผิดซอยหรือเปล่ามาตอนกลางวัน กับกลางคืนเป็นคนละอย่างกันเลย
ป.ล. เมื่อคืนกว่าจะได้นอนตีสอง เช้านี้เลยแทบลุกไม่ขึ้นกัน โทรไปสอบถามทางสายการบิน ปรากฏว่าแทบจะไม่มีเที่ยวบินไปเชียงราย ก็เลยต้องมาขึ้นที่สุวรรณภูมิ สอบถามราคาตั๋วทางโทร ราคานึง มาเจอราคาหน้าเคาเตอร์ อีกราคา ไทยแอร์เอเซีย 3700 การบินไทย 4xxx บาท เล่นเอาแทบช็อค เพราะจำได้ว่าปกติเสียแค่พันกว่าๆ ยิ่งถ้าจองในเน็ทช่วงโปรโมชั่นเสียตังไม่กี่ร้อยเอง .. แบบนี้มันเล่นขูดเลือดขูดเนื้อกันเลยนี่หว่า คงเห็นคนเดินทางไม่มีทางเลือก มีเที่ยวบินน้อย ก็ออกจากบ้านเก้าครึ่งวันนี้มาเส้นรอบนอก เข้ามอเตอร์เวย์ ถึงสนามบินสิบโมงหน่อยๆ รถติดเล็กน้อย สุดท้ายเลยได้แอร์เอเซีย ไฟล์ทเที่ยงครึ่ง ส่งญาติเสร็จก็กลับมาทำงาน ส่งเจนนี่กลับบ้านรถตู้ ที่นี้ก็รอเขาเดินทางกลับมา เห็นว่าจะให้พาเที่ยววันเดย์ทริป อยุธยาอีก ไม่รู้จะลางานวันใหนไปได้ รอเค้าคอนเฟิร์มมาอีกที
//www.pandagroup.pantown.com/
เมื่อไหร่จะมาซะทีฟะ .....
Create Date : 19 สิงหาคม 2551 |
|
9 comments |
Last Update : 20 สิงหาคม 2551 21:26:35 น. |
Counter : 1243 Pageviews. |
|
|
|
ราคาเที่ยวบินขึ้นทีเยอะจังเลยแฮะ...
ยังคิดว่าพันต้น ๆ อยู่เลยค่า...