อ๋อ..เคยเจอแบบเดียวกันเลยค่ะ ไม่ไปก็

แห่มาตื๊อทุกอาทิตย์ บอกจะเอารถมารับ

ไปฟัง จนต้องตัดบทไปว่า ไม่ศรัทธา..

เท่านั้นแหละ มีแช่งค่ะ..เซ็งมากคนพวกนี้

ลิตช์นับถือพระพุทธเจ้าค่ะ คนพวกนี้พูด

จาเหน็บแนมศาสนาอื่น บอกตรง ๆ ไม่ชอบค่ะ...

แวะมาขอบคุณสำหรับคำอวยพรในวันเกิดค่ะ

เจนนี่ก็เคยเจอน่ะคะ คนที่ว่านับถือศาสนาพุทธ แต่ไม่ยักกะเคยทำดีหรือเข้าวัดเข้าวาเลย เหมือนที่ศาสนาเคยสอนสิ่งดีดีเลย ศาสนาพุทธก็ยังมีเลยเนาะ ที่พูดจาดูถูก หรือว่าร้าย หรือเหน็บแนมศาสนาอื่นเหมือนๆกันทั้งนั้นแหละคะ

การที่คนเราจะนับถือหรือศรัทธาศาสนาอะไรก็ตามแต่ มันขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆค่ะ เพราะเจนนี่ถือว่า ทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีค่ะ จะดีหรือชั่วก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วย

เพราะฉนั้น จะศาสนาอะไรก็ตามแต่ คนดีดี เขาก็ไม่พูดเหน็บแนมศาสนาอื่นๆที่ตัวเองไม่นับถือหรอกน่ะคะ ว่ามั๊ย

ขอบคุณที่มาเยี่ยมจ้า
เพลงเศร้าจัง

เฮลโลพี่จ็อบ

ขอโทษทีที่หายไปนาน ช่วงที่ผ่านมาหม่ามี๊ไม่สบาย ชีวิตเลยวุ่นวายมากๆ ได้รับโปสการ์ดแล้วค่ะ ขอบคุณที่คิดถึงกัน :)

พอดีหนูอยู่บ้านอีกหลังนึงแต่ใกล้ๆกัน นานๆถึงกลับไปบ้านนั้น เลยเพิ่งได้

วันนีว่างเลยมานั่งอ่านบล็อกของพี่จ็อบ ยังปากร้ายเหมือนเดิมนะ ฮา ฮา แต่ชอบบล็อกที่เกี่ยวกับหมา อ่านแล้วได้รู้จักพี่จ็อบในอีกมุมนึง รู้สึกว่ามันไม่โหดเท่าบล็อกอื่นๆ :P

ลูกสาวพี่น่ารักมาก สมควรแล้วที่ชื่อน้องmovie ก็พ่อดูหนังเยอะซะขนาดนั้น อ่ะนะ

liue.diaryis.com

สวัสดีจ้าเราเป็นนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับ
พยานพระยะโฮวานะคะขอร่วมออกความคิดเห็น
ด้วยคนนะคะหอประชุมทุกที่ทั่วโลก
ของพยานพระยะโฮวาทุกจะมีพื้นฐานทางด้าน
จิตใจเหมือนกันหมดคือความถ่อมใจการที่เรา
ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสที่ได้มาร่วมประชุมนมัสการ
พระยะโฮวเราทำด้วยหัวใจไม่ใช่การเสแสร้ง
ทุกที่ทุกหอประชุมผู้คนของพยานพระยะโฮวา
จะมีบุคลิคเช่นนี้หมดเพราะพวกเรารักความสงบ
และต้องการเลียนแบบบุคลิกแบบพระเยซูให้ได้มาก
ที่สุดถึงแม้เราจะเป็นมนุษย์ที่ผิดบาปแต่ความรักที่
เรามีต่อพระยะโฮวากระตุ้นเราให้เราต้องรักผู้อื่นด้วย
เช่นกันการที่พวกมิชชันนารีต่างชาติที่เข้ามาประกาศ
ในประเทศไทยนั้นเป็นอะไรที่เค้าต้องเสียสละตัวเอง
เป็นอย่างมากเพราะการที่เราประกาศเรื่องราชอาณาจักรของ
พระเจ้านั้นเราใช้เงินของตัวเองทั้งหมดในการประกาศ
ที่เสียค่าใช้จ่ายในการเิดินทางพวกเค้าทุ่มทั้ง
แรงกายและแรงใจในการช่วยเหลือคนให้รอดมาก
ที่สุดที่จะเข้าไปอยู่ในโลกใหม่แผ่นดินอุทยานที่
พระยะโฮวาจะประทานให้เพื่อคนชอบธรรมได้อาศัยอยู่
ถ้ามีผู้ใดตอบรับเราเราจะมีความยินดีและมีความสุข
มากแต่ถ้าไม่สนใจเราก็จะจากลาด้วยใจสุภาพไม่มี
การแช่งด่าแต่อย่างใดพยานพระยะโฮวาจะไม่ทำ
เช่นนั้นเด็ดขาดเพราะเราถือว่าเราไม่มีสิทธิ์ตัดสิน
โทษแก่ผู้อื่นผู้ใดแต่สิทธิ์นั้นเราต้องยกให้พระยะโฮวา
เท่านั้นที่จะสามารถตัดสินได้ที่ชาวเกาหลี ญี่ปุ่นเข้ามา
ประกาศในไทยมากเพราะพวกเค้ามีใจแรงกล้าจริง ๆ
ที่จะช่วยผู้คนเพราะที่ญี่ปุ่นจะมีพยาน 2 แสนกว่าคน
ทีเดียวแต่ในไทยมีพยานแค่ 2 พันกว่าคนซึ่งน้อยมาก
ดังนั้นจึงมีมิชชันนารีต่างชาติมาช่วยคนไทยเยอะ
อยากให้มองดูสภาพการณ์ของโลกตอนนี้ดีกว่านะคะ
ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างพระยะโฮวาพระองค์จะไม่สำแดง
ฤทธิ์เดชให้ผู้อื่นผู้ใดเห็นแล้วต้องมาเชื่อพระองค์เพราะ
พระองค์ต้องการผู้คนที่ถ่อมใจและรักพระองค์ที่หัวใจ
ไม่ใช่ด้วยฤทธิ์อำนาจอะคะ ลองดูเหตุการณ์ทั่วโลกดู
นะคะว่ามีเหตุการณ์ที่เลวร้ายมาก ทั้งภัยพิบัติ อาชญากรรม
ความโหดร้ายของคน โรคระบาด นี่เป็นสิ่งที่พยานพระยะโฮวา
กำลังเร่งปฏิบัติการบอกประกาศให้ผู้คนทั่วโลกได้รับรู้
ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เราอยู่หอประชุมพยานพระยะโฮวาที่
จังหวัดเชียงรายนะคะ อยากให้ลองสัมผัสพวกเราดูหลาย ๆ
ครั้งนะคะอย่าพึ่งตัดสินพวกเราเลย อิอิ พวกเราไม่ได้ถูก
ล้างสมองนะคะ ^ ^ แต่พวกเราถูกล้างหัวใจต่างหาก
ล้างให้สะอาดได้มากที่สุดเท่าที่แต่ละคนจะทำได้ เพราะ
ไม่มีมนุษย์คนไหนสมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์
ดังนั้นเราต้องเลียนแบบคุณลักษณะของพระยะโฮวา
ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทุกคนจะทำได้ในเรื่อง "ความรัก"
ถ้าเรารักพระเจ้าแล้วแต่ไม่รักคนอื่นมันก็ไม่ถือว่า
เรารักพระเจ้าหรอกคะเพราะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเราไม่รัก
แล้วเราจะรักใครได้อีกจริงไหมคะ ^^

จะว่าไปแล้วเราก็ถูกล้างสมองก็ถูกนะคะ
เพราะเราล้างเอาความคิดที่สกปรกออกไป
ใส่สิ่งดี ๆ ไปใหม่เพื่อที่เราจะเป็นคนที่
พระยะโฮวาพอพระทัย

คุณ หนู ค่ะ ช่วยให้ คำแนะนำเพิ่มเติมที่ anchumanee @yahoo.com ด้วย นะค่ะ

ตอนนี้เราทรมานมากกะพยานฯคนนึง
เรามีแฟนที่เปงพยานฯ
คุนแน่ใจหรอว่าพวกคุนมีลักษณะอย่างที่พวกคุณว่ามาจิง
แล้วที่บอกว่าแต่งงานได้เฉพาะคนในองค์กรล่ะ
มันไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับคน2คนที่รักกัันแต่พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะอยู่ด้วยกันเพียงเพราะศรัทธาต่างกันหรอ
เรา2คนคงไม่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันจิงๆนะที่รัก
แต่เทอจะอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดไป ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เราต่างกันที่ความศรัทธา เรายอมรับเทอทุกอย่าง
แต่เราไม่ยอมรับที่ทำให้เรา2คนต้องจากกัน
เพียงแค่ข้อบังคับที่เทอบอกเรา
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราจะจดจำมันไว้
ปัจจุบันที่โลกเราเป็นอย่างนี้
ไม่ใช่ใครทำหรอก ก็เป็นฝีมือมนุษเราทั้งนั้นแหละ
ทุกอย่างที่เกิดมันมีสาเหตุมีผลของการกระทำของมัน

ไม่่เห็นมีใครพูดถึงบทลงโทษล่ะ

แฟนเราเคยเล่าให้ฟังนะ

ว่าถ้ามีใครทำผิดกฎจะถูกลงโทษ

ทั้งจากคนในองค์กรและในครอบครัว

และจะต้องถูกขับออกจากองค์กร

ถ้าอยากกลับเข้ามาอยู่ ต้องทำการพิสูจน์ตัวเอง

แล้วคุณจะทนได้รึป่าวหากทำผิดกฎขององค์กร

ไม่มีใครพูดกับคุณ คุณต้องอยู่กับคนอื่นแต่ไม่มีใครพูดกับคุณ

ไม่นานแฟนเราก็คงจะเปงงั้น

อ่าหวัดดีจ้า คุณคนที่ทรมานจาก...
คุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงคะ ^ ^
แฟนคุณเคยชวนคุณศึกษาไบเบิลกับเค้าไหมเอ่ย ทำไมคุณไม่ลองศึกษาไบเบิลกับพยานดูละคะจะได้เข้าใจเหตุและผลต่าง ๆ และข้อเรียกร้องที่พระยะโฮวาให้เราปฏิบัติ แค่ลองศึกษาดูคุณจะรู้เหตุผลต่าง ๆ ของโลกนี้เราไม่ได้ชวนให้ศึกษาแล้วเปลี่ยนความเชื่อนะคะแค่ให้ลองตรวจสอบและหาเหตุผลด้วยกันเฉย ๆ ถ้าบทลงโทษที่คุณพูดถึงนั้นพยานพระยะโฮวาเรียกกันว่า การตัดสัมพันธ์ คะ บทลงโทษนี้จะลงโทษกับคนที่ทำความผิดร้ายแรงมาก ๆ เช่น การทำผิดประเวณี การเล่นชู้ การฆ่าคน เพราะกฏหมายของพระยะโฮวาพระองค์อยากให้เราเป็นคนที่สะอาดทางด้านศิลธรรม เพราะปัจจุบันโลกเรานี้ความสะอาดทางด้านศิลธรรมนั้นต่ำมาก คนไม่ดีจะอยู่ร่วมกับคนดีไม่ได้ดังนั้นถ้าผู้ใดที่ทำผิดร้ายแรงอย่างตัวอย่างข้างต้นเค้าจะถูก ตัดสัมพันธ์ทันทีแต่ใช่ว่าตัดสัมพันธ์แล้วจะกลับตัวไม่ได้นะคะถ้าเค้าอยากกลับมามีสัมพันธภาพที่ดีกับพระยะโฮวาอีกเค้าต้องแสดงการกลับใจคือกลับเค้าร่วมหอประชุมทุกครั้ง ถูกอย่างที่คุณพูดคะ คือทุกคนในหอประชุมจะไม่พูดคุยหรือทักทายกับเค้าเพราะนี่คือการตีสอนให้เค้าสำนึกในความผิด ถ้าเค้าอยากกลับมามีสัมพันธภาพที่ดีกับพระเจ้าจริง ๆ เค้าก็ต้องทนให้ได้คะ ถ้าเค้าสำนึกได้จริง ๆ ว่าได้ทำผิดพลาดไปพระยะโฮวาก็พร้อมที่จะให้อภัยเสมอ แล้วก็จะรับกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ^ ^

สวัสดีจ๊ะเราศึกษาคำภีร์ไบเบิลมา 1 ปีแล้ว เราได้รู้ความจริงอะไรหลายๆอย่าง เราสามารถตอบคำถามที่เราไม่เคยรู้... พระยะโฮวาทำให้เรามีเป้าหมายในชีวิตหลายอย่างนะจ๊ะ...เมื่อก่อนเราไม่เคยมีเป้าหมายในชีวิต เราไม่มีศาสนาเรานับถือพุทธ เราไหว้พระเราคิดอยู่เสมอเลยว่าทำไมทุกคนถึงยกมือไหว้สิ่งที่พูดไม่ได้กับไม่ได้ เห็นไม่ได้ เราคิดแต่เราก็ไม่ได้เอ๊ะ...ใจอะไรเรานับถือกับพ่อแม่ครอบครัว เรานับถือพุทธเราไปวัดเดือนละไม่กี่ครั้งเองเพราะเราไม่รู้ว่าเราทำเพราะอะไรเพื่อสิ่งใด...เราไม่มีศาสนาเราไม่มีขอบเขต เราทำทุกอย่างตามใจตัวเอง แต่ในวันหนึ่งมีคนมาหาเราแล้วแนะนำให้เราศึกษาพระคัมภีร์ เราไม่อยากศึกษาเราพยายามหนีตลอด เราขืนใจศึกษาเราไม่มีความเชื่อเลยแม้แต่นิดเดียว แต่พอเราศึกษาเราได้คำตอบหลายอย่างที่เราตอบตัวเองไม่ได้..และเราก็ไปประชุม...เราได้พบที่ๆเราควรอยู่ เรามีนิสัยที่เปลียนไปจนพ่อแม่ สังเกตได้ และเรามีเป้าหมายในชีวิต...

คนที่ทรมานจาก
คุณรักแฟนคุณจริงรึเปล่า ถ้ารักจริงทำไมไม่ลองฟังความคิดเค้าบ้าง หรือว่าคุณกำลังรู้สึกน้อยใจที่แฟนสนใจสิ่งอื่นมากกว่าตัวคุณ ผมว่าเขาสนใจธรรม ก็ดีกว่าไปสนใจอย่างอื่นที่ไร้สาระนะครับ หายากนะครับที่คนเดี๋ยวนี้จะสนใจอยากรู้ความจริง ผมว่าลึกๆเขาก็รักคุณมากแหละ แต่บางทีเราต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ต้องทิ้งทิฐิบ้าง สมัยนี้หาคนที่ประพฤติตัวตามศิลธรรมยากมาก ดังนั้นน่าจะดีใจที่แฟนคุณมาใฝ่ทางนี้นะครับ

อีกคนที่กำลังทุกข์ มากมาย

มีแฟนที่ไม่ได้เป็นพยานฯค่ะ
ไม่ยอมศึกษา ไม่ยอมเปลี่ยนอะไรทั้งนั้น
แรกๆบอกว่าขอบวชก่อน(แต่ยังไม่บวชสักที)
อีกแปบ บอกอย่าบังคับ
นานเข้า ไปรับราชการเป็นทหารแระ
บอกว่ารับได้ ถ้าเราไปประชุม ไปประกาศ ไม่มีวันว่าง
แต่เราไม่มั่นใจเลยว่า จะรับได้จิง
แล้วยิ่งเป็นทหารแล้ว อย่าหวังให้เปลี่ยน เพราะเป็นอาชีพของเค้า
พอเรา กบฏ ไม่ไปประชุม ไม่ไปประกาศ ทะเลาะกับคนที่บ้าน ก็ไม่เห็นด้วย
โอ้ย เอาไงแน่
ทั้งที่รู้ว่ามันไม่คุ้ม ที่จะแลกระหว่างความสัมพันธ์ที่มีกับพระเจ้า และแฟน แต่ก็รั้น เรานี่แย่จิงๆ
จนคิดได้ว่าคุ้มไหม ที่จะแลก
คงไม่คุ้มน่ะ ว่าไหม?

เฮ้อข้อพระคัมภีร์ 2 โครินทร์ 6:14 บอกไว้ว่า อย่าเข้าเทียมแอก กับคนที่ไม่เชื่อ. เพราะความชอบธรรมจะเป็นพวกเดียวกับความชั่วได้อย่างไร? ความสว่างจะรวมกับความมืดได้อย่างไร?
เป็นจริงอย่างมากเลยว่ามันไปด้วยกันไม่ได้จริง ๆ เราก็เป็นคนหนึ่งที่มีคนรักพอเรามาเรียนรู้ความจริงในภายหลังแล้วตอนนี้ก็เป็นพยานฯแล้วแล้วอยากให้เค้าเรียนความจริงบ้างแต่เค้าก็ไม่สนใจ เพราะเค้าบอกว่าสิ่งที่เค้านับถือนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว เศร้าเหมือนกัน T T

ฉันไม่อายที่จะบอกข่าวสารถึงเรื่องต่างๆๆบางคนอาจบอกว่าเราบ้า
คุนหลายคนอาจจะคิดการที่คุนทะเราะกันคนที่บ้านอาจเป็นเรื่องที่คุนตัดสินใจอายนะ
แต่การที่คุนรักษาสายสำพันกับพระยะโฮวาที่สุดแล้วค่ะชันเป็นพยานอยู่ที่นครราชสีมานะขอให้คุนรักษาสายสัมพันกับพระบิดาองค์สูงสุดนะค่ะ
แล้วจะบอกว่าพระเยซูไม่ใช่พระเจ้า
แต่เป็นพระบุตรของพระยะโฮวาพระเจ้าองค์ที่เปียมไปด้วยรักขอให้ทุกคนมาศึกาพระคัมภีแล้วคุนจะรู้ว่าเราเป็นแบบไหนนะ

เราอาจมีหลายอยางนะ

ที่อาจจะมองดูว่าเราเป็นคนแบบไหน
พวกเราทุกคนรักคนอืนมากกว่าที่จะรักตัวเองพวกเราเลียนแบบพระเยซูเช่นที่เห็นได้ชัดก้อคือการออกประกาศและการสอนต่ามพระคัมภีร์ไปเบิล
และเชื่อฟังพระยะโฮวาพวกเรามีควาหวังกับชีวิตนิรัดและค่อยถ้าที่จะพบกะผู้ที่เป็นที่รักที่ตายไปแล้วในโลกใหม่
คุนทุกลองคิดดุสิว่าท้าโลกใหม่ที่จะมา
เป็นอุทยานเหล่าสัตว์เป็นเพิ้ลกกับเรา
อาหารที่เราปลุกเราก้อจะได้กินบ้านที่เราสร้างก้อได้อยู่และเราก้อจะหนุ่มสาวแบบนี้ตลอดไป

สวัสดีครับ ตอนนี้ผมกำลังศึกษาได้ 4 เดือนกว่าละ อยู่ในขั้นเป็น นักเรียน แต่จะทำความก้าวหน้าต่อๆไป เป็นผู้รับใช้ ตอนแรกนึกว่าหาคนที่เป็นพยานในเวปไม่ได้เสียแล้ว -.-" แต่เมื่อเจอพี่น้องที่เป็นพยานพระยะโฮวาแล้ว ก็มีกำลังใจมาเหมือนกัน ขอให้พี่น้องที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ทำงานกันต่อไปนะครับ และสุดท้าย ขอให้ผู้ที่ยังสงสัยลองไปคุยกับพยานพระยะโฮวาได้นะครับ ตอนแรกผมก็มีหลายคำถามที่สงสัยเหมือนกัน แต่ตอนนี้ ก็หาคำถามไม่ค่อยได้ละ จะมีก็ถามข้อคัมภีร์นั่นละ ไปละครับ บะบาย ว่างๆ เดี๋ยวจะมาใหม่

เป็นพยานพระยะโฮวามา5ปีแล้วตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ไม่เคยมีวันใหนที่ทำให้เหงาเพราะเราได้พบเพื่อนแท้ชึ่งไม่เคยทิ้งก้นคุณจะไม่พบร้กที่แท้จริงถ้าคุณไม่รู้จักพระยะโฮวา

ครั้งแรกไม่ได้คิดจริงจังอะไรที่จะมาเป็นพยานพระยะโฮวาก็แค่เหงาอยากมีใครสักคนที่เราไว้ใจได้ร้บฟังความรู้สึกของเราไม่ทิ้งเรายามที่เราไม่มีใครวันนี้เราพบแล้วว่าความรักที่แท้จริงของคนเราอยู่ที่ใหนความรักแท้คือการให้ชึ่งการให้ที่แท้จริงเราไม่สามารถค้นพบได้จากคนที่บอกว่ารักเราแต่เราพบรักแท้ได้ถ้าเราเรียนรู้ที่จะร้กพระเจ้าผู้ที่ทรงรักเราเสมอผู้ที่ไม่เคยทอดทิ้งเราไม่ว่าจะเป็นวลาใ หนsr

เป็นพยานๆ อยู่แพร่ครับ
ยินดีรู้จักพี่น้องทุกคนครับ
ชีวิตดีขึ้นมากหลักจากได้รับการตีสอนจากพระยะโฮวา ถึงได้รู้ว่าอะไรคือความจริงของโลกใบนี้ ตอนนี้หลุดพ้นจากการนมัสการเท็จแล้ว และได้สัมผัสแล้วว่าอำนวจของพระองค์เหนือสิ่งอื่นใดจริงๆ สามารถติดต่อมาพูดคุยกันได้นะครับ

สวัดดีค่ะทุกคน
ฉันก็กำลังศึกษาพระคัมภีร์อยู่ค่ะ
ดีมากเลยทุกคนเจอการตอต้านบ้างไหมค่ะแต่ฉันก็เชื่อในพระยะโฮวาว่าพระองค์จะดูแลเราและพระองค์จะชี้น้ำทางออกให้เราใช่ไหมคะ

ความจริงของโลกใบนี๊สอนอะไรคุณบ้างแล้วคุณคิดว่าความรักและความจริงของโลกใบนี้คุณจะเก็บรักษาได้นานแค่ไหนจนกว่าอามาเกนดอนจะมาถึงหรือเปล่า

ขอให้คุณมีความเชื่อในพระยะโฮวาเท่านั้นการต่อต้านใดฯก็จะไม่อาจทําลายความสัมพ้นของคุณกับพระเจ้าใดจงทําความก้าวหน้าต่อไปที่จะเรียนรู้ถีงความร้กแท้การต่อต้านจากครอบครัวจากคนรอบข้างจากเพื่อนจะเป็นแรงพลักดันให้เราเข้มแข็งถ้าเราเชื่อมั่นให้พระยะโฮวาชี้นําทางของเราจะเป็นกําลังใจให้นะ

ขอบคุณที่ชี้แจงให้คนที่สงสัยเข้าใจครับหวังว่าเขาคงถ่อมใจที่จะลองตรวจสอบความจริงเพื่อตัวเขาจะได้เข้าใจความรักของพระยะโฮวาที่มีต่อเราทั้งหลาย

ผมเป็นพยานพระยะโฮวาครับ
ถ้าอยากรู้จักพวกเรา
เข้าดูได้ที่ //www.watchtower.org
แล้วเลือกภาษา ไทยครับ

ถามเรื่อง ความแตกต่างที่มีมากมาย คงจะมากความและไม่จบสิ้น
และพลาดไปจากจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุด
นั่นคือเรื่อง ราชอาณาจักรของพระเจ้า...ที่พระเยซูประกาศบนแผ่นดินโลกตลอด 3ปีครึ่ง
และมอบหมายงานสำคัญนี้ไว้กับสาวกรุ่นแรก
และยังบอกล่วงหน้าด้วยว่างานประกาศนี้จะถูกฟื้นฟู ในขอบเขตที่กว้างกว่ามาก
นั่นคือจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก ว่าจะเป็นสัญญาณ
หนึ่งเดียวที่เป็นสัญญาณที่ดีเยี่ยมเพื่อระบุว่าเป็น สมัยสุดท้าย(นอกเหนือจากภัยพิบัติต่างๆ)
ใครกันในทุกวันนี้ที่ได้ติดตามแบบอย่างของพระเยซูอย่างใกล้ชิด
โดยการประกาศราชอาณาจักรของพระเจ้า ไปตลอดทั่วโลก
ผมมั่นใจว่า พยานพระยะโฮวาในท้องถิ่น ยินดีจะช่วยคุณ ให้รู้ว่า...
ราชอาณาจักรของพระเจ้าคืออะไร และจะทำอะไรเพื่อมนุษยชาติ...และ...



จำไว้ว่า... อย่าเชื่อสิ่งที่พยานพระยะโฮวาสอน...
...แต่ขอให้ค้นดูจากพระคัมภีร์ของคุณว่า
คัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ

สุดท้าย...พระเยซูตรัสว่า ท่านจะรู้จักว่าไหนเป็นคริสเตียนแท้ หรือคริสเตียนแต่ในนาม ดูได้จาก ผลของพวกเขา
ผล คือผลิตผล หรือผู้คนในศาสนานั้นเป็นอย่างไรจริงๆ
สำหรับผลของพวกเรา สัมผัสด้วยตัวเองได้ที่ หอประชุมราชอาณาจักรทุกแห่งทั่วโลก

ปล.ตราบที่ยังไม่มีคำสั่งจากองค์การให้หยุดประกาศ เรายินดีช่วยคุณเสมอ ยังไงก็ตาม...

เวลาเหลือน้อยแล้ว

darknovember.

เราเคยเป็นพยานพระยะโฮวามาประมาณ10ปีถ้าเอ่ยชื่อใครบางคนทุกคนคงรู้จักฉันแน่ๆแม้ว่าไม่เคยเจอหน้าฉันหรืออาจจะเคยเห็นหน้าฉันแต่ตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นพยานฯแล้ว เพราะฉันทำผิดศีลธรรมมันร้ายแรงมากฉันคิดถึงหอประชุมมากที่นั่นฉันสนิทกับทุกๆคนแต่ฉันไม่ดีเองฉันออกจากบ้านฉันมากับแฟนอยู่นครราชสีมาหอบเอาหนังสือต่างๆมาหมดฉันไม่เคยทิ้งฉันคิดว่าวันนึงถ้าฉันพร้อมฉันต้องกลับไปมันรู้ว่ามันจะสายไปไหมอาร์มาเก็ดดอนอาจมาแล้วก็ได้ฉันอาจต้องพินาจ ฉันรู้สึกเสียใจและร้องไห้บ่อยๆชีวิตนี้การเป็นพยานยิ่งใหญ่มาก สะอาดในสายพระเนตรพระเจ้า ฉันคิดถึงพี่น้อง พี่ชายและพ่อ ฉันจะจดจำภาพดีๆที่เคยได้รับในช่วงที่ผ่านมาสำหรับฉันไม่มีอะไรที่สุดแล้วนอกจากพระยะโฮวาและไม่มีอะไรเป็นความจริงอีกแล้วนอกจากพยานพระยะโฮวาที่มีพระคำขแงพระเจ้าฉายแสงสว่างในโลกที่มืดมนนี้ ไม่รู้ว่ามีใครอธิษฐานเผื่อฉันบ้างไหมให้ฉันมีแรงกลับไปได้ ฉันไม่รู้จะพูดอะไรแล้วมันอยู่ในใจมันพูดไม่ออก รักพยานพระยะโฮวาทุกๆคนตั้งใจต่อไปนะคะวิ่งให้ถึงเส้นชัยอุทยานรอพวกคุณอยู่

อ่านข้อความของคุณฟ้าแล้วน้ำตาซึมเลยคะฉันคิดว่าพระยะโฮวาคงรู้สึกเช่นเดียวกับฉันคืออยากให้คุณกลับมาคุณรับใช้พระองค์มาตั้ง 10 ปีพระองค์ไม่ลืมการงานของคุณแน่ ๆ คุณบอกว่าอยู่ครราชสีมาใช่ไหมคะ แม่ของฉันก็อยู่ที่นั่นไม่ทราบว่าคุณรู้จัก ซร.บุปผาไหมคะ ฉันจะอธิฐานเผื่อคุณนะคะ ตอนนี้องค์การก็เตือนมาบ่อย ๆ แล้วว่า เวลาเหลือน้อย ชีวิตมีค่ามากนะคะ อยากให้คุณกลับมา อีกนิดเดียวก็จะถึงเส้นชัยแล้วมาวิ่งให้ถึงด้วยกันนะคะ พี่น้องทุกคนที่เคยรับใช้ด้วยกันกับคุณก็คงรอคุณอยู่เหมือนกัน และที่สำคัญฉันคิดว่าพระยะโฮวาพระองค์ก็คงต้องรอคุณด้วยเช่นกัน สู้ ๆ นะคะ

รู้สึกว่าตัวเองจะทำผิดกฏของพยานฯ อ่าผิดไปแล้วไม่ได้ตั้งใจ T T

อ่านข้อความคุณแล้วกลับมานะค่ะไม่มีอะไรสายเกินไปสําหร้บพระยะโฮวาพระองค์รักเรามากให้อภ้ยข้อผิดพลาดของเราเสมอถ้าเรารักพระองค์เราก็ต้องแก็ใขข้อผิดพลาดของเรากับพระองค์พี่น้องทุกคนรักคุณมาก

คุณหนูอยู่ประชาคมไหนเหรอคะ รู้สึกว่าอ่านข้อความของคุณแล้วหนุนใจดีค่ะอยากรู้จัก อายุเท่าไหร่แล้วคะ ตอนนี้ฉันเป็นนักเรียนอยู่

เป็นน้กเรียนแล้วก็จะเป็นผู้ประกาศยินดีด้วยนะค่ะจงทำความหน้าก้บพระยะโฮวาต่อๆไปนะค่ะแล้วเราจะไปประกาศพระคำของพระเจ้าด้วยกัน

คุณเจโอ อยู่ประชาคมไหนเหรอคะ เผื่อมีโอกาสได้เจอกันที่ประชุมภาคนี้

จะบอกดีใหมค่ะว่าอยู่ประชาคมใหนเอาเป็นว่าอยู่ในประชาคมเล็กๆทางภาคเหนือและเข้าร่วมประชุมภาคที่ลำปางนะค่ะจะเจอกันได้รึเปล่ายินดีมากถ้าพบกันทำความหน้าต่อๆไปนะค่ะไม่มีความรักใดๆในโลกนี้เทียบเท่าความร้กในส้งคมของพยานพระยะโฮวาถ้าเราเรีนรู้ที่จะรักและเข้าไปไกล้พระองค์

อยู่ภาคเหนือประชุมภาคที่ลำปางเหมือนกันจ้า ^ ^

ของเราประชุมที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดงอ่ะ
เมื่อคืนวันที่ 9/9/09 เราเพิ่งขึ้นเป็นนักเรียนครั้งแรก ตื่นเต้นมากๆ เลย แต่ก้อผ่านไปด้วยดี ขอบคุณพระยะโฮวาจริงๆ

หลังจากได้ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลแล้วก็มีกำลังใจ จากพยานคนหนึ่งเขาเป็นคนอ่อนโยนมากค่ะ แต่ทำให้พี่น้องหรายคนเข้าใจผิด เพราะเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ ตอนนี้ก็กำลังรู้สึกไม่ดีค่ะ เพราะทำให้เขาต้องถูกลงโทษ รู้สึกเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่เราทั้งสองคนก็เป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ รู้สึกไมสบายใจมากๆ และบอกไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตที่จมอยู่กับความเส๊ยใจ บางครั้งก็คิดทำในสิ่งที่บ้า

อยากรู้จักคุณหนุนะค่ะ16-19ตุลาคมนี้เราจะทำความรู้จักกันได้ใหมค่ะ

ผมเป็นนักศึกษาครับ...เมื่อแรกผมรู้ว่าเขาคงมาสอนพี่ของผมอย่างธรรมดาแต่เมื่อครั้งหนึ่งเค้าชวนผมมาเรียนด้วย ! ! ผมก็คิดว่าน่าเบื่อแต่เขาก็ตั้งใจสอน ให้เข้าใจในเรื่องต่างๆ และ อามาเกตดอล ทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตรนี้ ผมโชคดีมั่กมาก ผมรักพญานพระยะโฮวามากครับ เขาเป็นคนดีครับ ถ้าหากบางคนอาจเป็นศาสนาคริสต์เตรียนโบสถ์ ถ้าหากคุณเคยได้ยินว่า พยานพระยะโฮวาไม่ดี แล้ว คุณเคยคุยกับเขาหรือไม่ กลุ่มพยานพระยะโฮวาเป็นคนดีครับ หากคุณเปิดใจลองรับฟังเขา

ผมเป็นนักศึกษาชื่อ พชร (ภูมิ) ผมเรียนกับ ป้านา+พี่ยอเอิน ครับ เป็นคนเกาหลีสอนผมและครอบครัวผมครับ อยู่ที่เชียงใหม่ครับ ผมอยากให้ผู้คนรับฟังและเมื่อเจอพยานพระยะโฮวาให้เปิดใจรับฟังแล้ว คุณจะรู้ว่า เค้า ได้เป็นคนให้คุณได้มีโอกาสรู้เรื่องราวความจริงของโลก และ การทำลายโลก ในสามัยสุดท้าย (สมัยนี้) ถ้าหากคุณเจอพวกเขา ให้เร่งรีบศึกษา เพราะว่า เววลาเหลือไม่มากครับ

ผมเป็นพยานพระยะโฮวาที่ธัญบุรีผมดีใจกับทุกคนที่ศึกษากับพระยาน ผมว่าทุกคนเข้าใจดีและอยากช่วยคนอื่นผมคิดว่าเราทุกคนต้องพยามต่อไป เพราะพระเยซูบอกให้เราทำตามที่ มัดทาย 28:19,20 นั้นคือหน้าที่ของเราทุกคน พระยะโฮวาไม่ลืมการงานของเราแน่ครับ และผมคิดว่าทุกคนเชื่อในพระเจ้าแต่สำหรับบางคนคุณต้องให้การกับพระเจ้าเองในสิ่งที่คุณพูดออกมาหรือกระทำ

สำหรับผู้มาเยือน ผมดีใจครับที่คุณมาที่หอประชุม และรับฟังขาวสารของพระเจ้า ชวงแรกเป็นคำบรรญายสาธารณะครับ ต่อจากนั้นเป็นการศึกศาหอสังเกตการครับ เป็นการถามตอบครับเนื้อหาส่วนใหญมาจาคำภีร์ไบเบิลครับ พยายามคิดตามแล้วคุณจะไม่เบื่อครับเราทุกคนดีใจเมื่อเห็นคนใหม่ๆมาครับ มาอีกนะครับผู้มาเยือน

เป็นนักศึกษามา 4 ปี(โข่ง)อยู่มาเก๊าค่ะเป็นนักศึกษาคนแรกที่มาเก๊าโดนต่อต้านบางครั้งก็ท้อใจ แต่พระยะโฮวาจะช่วยเสริมกำลังให้ตลอดตอนนี้มีนักศึกษาด้วยกันอยู่5คน ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากค่ะที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเราจะได้หนุนกำลังใจกันเพื่อจะได้ยืนหยัดอยู่จนถึงวันสุดท้ายของระบบเก่านี้

ไม่แน่ใจว่าพี่น้องบางประชุมภาคไปยังค่ะดิชันประชุมภาคไปแล้วที่ข่อนแก่น
สนุกมากเลยค่ะ แต่ดิฉันอยู่ประชาคมนครราชสีมา(ใต้)ค่ะโครราชสร้างหอประชุมใหม่แบ่งออกเป็นสองประชาคมแล้วค่ะคุณฟ้าค่ะดิฉันว่าคุณน่าจะกลับมานะค่ะอยุ่ในองค้การของเรานะค่ะพระยะโฮวาให้อภัยคุณแน่นอนนะค่ะนครราชสีมาก๊มีหอประชุมนะค่ะ
ขอความของพี่น้องหนุนใจดิฉันมาเลยค่ะพี่น้องสามารถติดต่อฉันได้new-year-happy@hotmail.comนะค่ะมีอะไรมีแรกเปี่ลยนกันนะค่ะ

คุณมาครั้งแรกคงไม่เข้าใจพวกพยาน
แต่สิ่งที่พวกเข้าทำนั้นออกมาจากใจทุกอย่างไม่มีอะไรแอบแฝง
การทำอย่างนั้นทำให้เข้าใจคัมภีร์ไบเบิลมากขึ้น

ผมเกิดมามีแม่และญาติพี่น้องทางแม่ที่เป้นพยาน ผมเองรับบัติสมาแล้ว และผมลาออกจากการเป็นพยาน ทุกวันนี้น้องชายเป็นผู้ปกครอง แม่พยานที่ดีมากพร้อมกับญาติ พี่ น้อง ถึงแม้ผมจะรู้สึกผิด แต่ผมก็ทำไปด้วยความจำเป็นทางครอบครัว ผมต้องมาทำงานทางการเมือง และลงสมัคร ส.ส.ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ผมคิดว่าสักว้นหนึ่งคงจะประสบความสำเร็จ ตอนนี้ผมเองเป็นข้าราชการเมือง ทำงานประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง ผมเองเหมือนจะมีทุกอย่างที่สมบูรณ์ มีความสุข มีรายได้ที่ดี มีคนที่คอยเอาใจเพราะยังอยู่ในตำแหน่งทางการเมือง แต่ ทุกอย่างเปรียบเทียบไม่ได้เลยกับตอนที่เป็นพยานพระยะโฮวา การเป็นพยานคือที่สุดของชีวิต แม่บอกว่ามีลูกเป็นพยานดีก่ามีลูกเป็นนักการเมือง สักวันหนึ่งถ้ามีโอกาส พระเจ้าให้อภัยผม ผมจะเป็นพยานที่ดี วันนี้ผมอยู่ในระหว่างการเลือก 1.การกลับไปหาพระเจ้าแล้วใช้ชีวิตที่เรียบง่าย พร้อมกับครอบครัวที่อิสานหรือภาคเหนือ 2.การลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้าในนามพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งที่กำลังจะตกลงกันเร็วๆ นี้
พี่น้องครับ ผมจะตัดสินใจอย่างไรระหว่าง พระเจ้า หรือ เงิน ตำแหน่งทางการเมือง หน้าที่การงาน

ถึงคุณ แกะที่หลงทาง ในเมื่อคุณเคยเป็นพยานฯมาแล้วคุณได้ศึกษาเรียนรู้หมดทุกอย่างแล้วนี่คะว่าอนาคตของโลกนี้เป็นอย่างไรสิ่งฝ่ายวิญญาณที่นำไปสู่ทางของชีวิตกับสิ่งฝ่ายวัตถุที่นำไปสู้ความตาย อันไหนสำคัญกว่ากัน สติรู้สึกผิดชอบที่ถูกฝึกมาตอนเป็นพยานฯคุณลองใช้ดูสิคะว่าคุณจะเลือกแบบไหน แล้วสิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้คุณย่อมรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าเป็นสิ่งที่พระยะโฮวาพอพระทัยหรือเปล่า วันเวลาเหลือน้อยเต็มที รีบ ๆ ตัดสินใจแล้วกันนะคะว่าจะเป็นแกะที่หลงทางต่อไปหรือว่าเป็นแกะที่ผู้เลี้ยงหาเจอแล้วแล้วกลับเข้าคอกเหมือนเดิม

คุณบอกว่าการเป็นพยานเป็นที่สุดของชีวิตแต่ทำใมคุณถีงตัดสินใจเลือกไม่ได้หรือว่าคุณไม่อยากเลือกกันแน่เป็นกำลังใจให้กับการตัดสินใจในสิ่งที่ดีทื่สุดนะคะ

สวัสดีค่ะ ชื่อโบวี่ค่ะ กำลังศึกษาอยู่ค่ะ
ไปหอประชุมที่ สุขุมวิททุกอาทิตย์เลยค่ะ
ดีใจมากๆที่ได้เจอพยานพระยะโฮวาที่นี่
อยากเข้าใกล้พระเจ้าอีกนิด อยากเป็นคนดีเหมือนทุกคนที่กำลังเดินตามรอยพระเยซู

อยากจะบอกว่าเป็นประชาคมที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆ มีความสุขที่ได้รับความรักจากทุกคนและจะพยายามจนได้เป็นคริสเตียนที่ดีเต็มตัวและจะไปประกาศ เพราะอยากทำให้ผู้อื่นได้รู้ความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าและจะได้มีความสุขเหมือนที่พยานพระยะโฮวาทุกคนมี

ความรักที่จริงใจที่สุด

สวัสดีค่ะ...ชื่อภานะคะ

เพิ่งบัพตสมาเมื่อประชุมภาคในเดือนตุลาคม ปี2009ค่ะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีดิฉันอยู่ที่ประชาคมหาดใหญ่
มีผู้ที่บัพติสมาที่อยู่ในประชาคมเดียวกับฉัน มีจำนวนทั้งหมด 8 คน เป็นซร.6และบร.2ซึี่งล่วนใหญ่เป็นเยาวชน

รู้สึกยินดีมากเมื่อเข้ามาอ่านความรู้สึกมากมายของพี่น้องยินดีกับพี่น้องใหม่ที่หาดใหญ่ด้วยและเป็นกำลังใจให้กับโบวีที่มีความตั่งใจที่ดีมากไม่ว่าเราจะเป็นนักศึกษาหรือรับบัพมาแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดเราต้องร้กษาความเชื่อของเราไว้กับพระยะโฮวาพระเจ้าของเราเสมอ

...

ตอบคุณฟ้าครับ ...ผมคิดว่าตอนนี้คุณกับผมน่าจะ อยู่ในสถานะเดียวกัน....คือถูกตัดสัมพันธ์เหมือนกันแต่ตอนนี้ผมเริ่มกลับเข้าหาพระเจ้ากลับเข้าหาหอประชุมชึ่งผมก็ถูกตัดในกรณีเดียวกันกับคุณคือผิดศีลธรรมแต่เดี๋ยวนี้แฟนผมเค้าได้เข้ามาเป็นนักศึกษาแล้วและก็กำลังก้าวหน้าผมอยากให้คุณอธิฐานต่อๆไปแล้วพระยะโฮวาจะทรงฟังคุณนะครับพี่น้องทุกคนก็รอคุณกลับไปยังการประชุมอยู่นะครับ.....มีพระคัมภีร์ข้อหนึ่งครับแต่ผมจำไม่ได้ว่าข้อไหนจำได้แต่ว่าที่นั่นบอกว่าแม้บาปของเจ้าจะแดงเหมือนเลือดแต่เราจะชำระให้ขาวสะอาดดุจขนแกะคุณยังจำอุธาหรณ์เรื่องบุตรสุรุ่ยสุร่ายได้ไหมที่ออกไปเที่ยวเตร่จนเงินหมดแต่สุท้ายก็ต้องกลับมาบ้านแต่แล้วเป็นไง......พ่อก็ยังต้อนรับอย่างดีไม่ได้ต่อว่าลูกสักคำนั่นแหล่ะครับแสดงถึงว่าพระยะโฮวาก็พร้อมรอคุณกลับเข้าหาพระอวค์อยู่นะครับ อธิฐานถึงพระองค์บ่อยๆคุยกับพระองค์บ่อยๆครับแล้วคุณจะได้รับการชี้นำจากพระองค์ครับ

ยะซายา 1:18

สวัสดีครับ ตอนนี้อยู่เกียวโต ญี่ปุ่นกำลังเริ่มศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับคู่สามีภรรยาชาวญี่ปุ่น และลองไปร่วมไปประชุมาครั้งหนึ่ง ยังไม่ได้ตัดสินใจในตอนนี้ แต่คนสอนก็ใจดีและไม่เคยเร่งเร้าเลยจะลองศึกษาต่อไป
แต่อยากรู้ว่าศูนย์ที่เชียงใหม่มีใหมครับ อยู่แถวใหน ใครอยู่ศูนย์เชียงใหม่บ้างครับ

โอ้โฮ มีพยาน มีผู้ศรัทธาในพระยะโฮวา เข้ามาคุยกันเยอะแยะเลย พอดีทางบล็อคเพิ่งมีระบบเตือนคอมเมนท์ใหม่ เลยได้ทราบว่ามีคนเข้ามาพูดคุยกัน

ขอสวัสดีทุกท่านนะครับ

หนูอย่ประชาคมหาดใหญ่ค่ะ

หนูอย่ประชาคมหาดใหญ่ค่ะ และหนูก็ดีใจที่ได้มาร้จักพระยะโฮวา

ตอบคุณวัตประชาคมเชียงใหม่มีหลายที่อยากเข้าร่วมประชาคมใหนก็ได้ค่ะมีเขียงหม่ใต้-ประชาคมหนองประทีปยินดีต้อนร้บนะค่ะ-แต่คุณอยู่เกียวโตไม่ใช่หรือจงทำความก้าวหน้ากับพระยะโฮวาต่อไปแล้วคุณจะพบว่าความสุขที่แท้จริงของคนเราคืออะไร

วันอนุสรณ์ปีนี้ตรงกับวันที่เท่าไหร่ช่วยบอกด้วย

ตอบคุณแกะที่หลงทาง ชีวิตของคุณต้องการอะไรคุณรู้ตัวเองรึยังคะ คุณต้องการหาเงินเพื่อมาเลี้ยงดูครอบครัวนั่นก็ดีคุณมีความรับผิดชอบ คุณต้องการชื่อเสียงเงินทองคุณพอรึยัง ถ้ายังไม่พอคุณไม่สามารถกลับมาได้หรอกค่ะ ฉันยังเชื่อคุณมีหัวใจที่ดีไม่งั้นคุณคงไม่เข้ามาบล็อกนี้หรอก คัมภีไบเบิลบอกว่าอีกไม่นานระบบเก่าของโลกนี้ต้องพังพินาศรวมถึงการปกครองของมนุษย์ทั่วโลกด้วยคุณน่าจะรู้ว่าการเมืองมนุษย์มีอะไรแอบแฝงเพื่อผลประโยชน์ อำนาจ ชื่อเสียงเงินทองหลายคนต้องทนทุกข์เช่นกันเค้าไม่ได้มีความสุขหรอกค่ะคงไม่ต้องให้ฉันยกตัวอย่างนะคะว่าใคร จะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณจะเป็นส.ส ชื่อเสียงสำหรับมนุษย์ไม่นานเขาก็ลืม แต่การสร้างชื่อเสียงกับพระยะโฮวาพระองค์ไม่ลืมคุณมีทุกอย่างแล้ว และคุณก็มีโอกาสที่จะเลือกในตอนนี้ ขอคุณอย่าเสียดายสิ่งเหล่านี้นะคะเทียบไม่ได้กับสิ่งที่พระยะโฮวาให้คุณ ความรู้ที่คุณมี ทรัพย์สินที่คุณมีสามารถช่วยให้องค์การก้าวหน้าต่อไปได้ ขอแค่คุณเลือก ฉันอายุแค่20ยังเด็ก แต่ฉันก็เป็นห่วงคุณที่เป็นผู้ใหญ่มาก จริงๆแล้วฉันอยากพูดมากกว่านี้เผื่อช่วยคุณได้แต่มันก็...นะ ดูแลตัวเองมากๆนะคะ

อนุสรณ์ปี 2010 นี้ตรงกับวันที่ 30 มีนาคมจ้า

เป็นคนเดียวในครอบครัวที่เป็นพยานค่ะบางครั้งท้อมากต้องเจอกับแรงกดดันหลายอย่างทั้งครอบครัวสังคมรอบข้างเพื่อนบ่อยครั้งที่ร้องให้-แต่ไม่เคยคิดจะเลิกเป็นพยาน-เพราะว่ารักองค์การของพระยะโฮวาถ้าว้นนั้นไม่พบพระองค์ที่ผ่านทางผู้นำการศืกษาที่มีความอดทนสูงมาก-มาก-วันนี้เราคงจะไม่รู้ว่าความรักแท้และความสุขที่แท้จริงของคนเราคืออะไร-ถีงแม้ทุกว้นนี้จะไม่สามารถพูดเรือ่งของพระองค์กับครอบครัวได้แต่จะประกาศพระคำของพระองค์ต่อๆไปเพราะรู้ว่าพระองค์ทรงรักเรามาก

ตอนนี้ผมกำลังจะกลับเข้าหาองค์การอยากให้มีใครช่วยแนะนำช่วยให้กำลังใจหน่อยครับว่าต้องทำไงถึงจะกลับเข้าหาพระองค์และพูดคุยกับพี่น้องได้เหมือนเดิม

สวัสดีค่ะตอนนี้เรากำลังรู้สึกเจ็บปวดเมื่อคนที่เรารักได้ถูกตัดสสัมพันธ์แค่นั้นยังไม่พอเค้ายังนอกใจเราไปมีผู้ญิงคนอื่นอีกแล้วก็มาโทษเราว่าเราทำไมไม่เชื่อพระยะโฮวาทำไมไม่พาลูกไปประชุมแต่ไม่โทษตัวเองพอเรื่องเกิดก็โยนความผิดไม่เคยอยากรับผิดเราแต่งงานจดทะเบียนมา6ปีมีลูกด้วยกันแต่เค้าก็ยังทำผิดกับเราเค้าเคยเป็นพยานเราไว้ใจเค้าแต่เค้ากับทรยศเราแต่ตอนนี้เราไม่เสียใจแล้วล่ะเพราะมนุษย์ทุกคนไม่สมบูรณ์เราไม่โทษเค้าหรอกเราต้องโทษตัวเองมาถึงตอนนี้เราก็ได้แต่ไว้วางใจในพระยะโฮวาว่าจะช่วยครอบครัวเรายังไงแต่ในเมื่อพระยะโฮวาทรงเห็นค่าในตัวเค้าเราก็พร้อมที่จะให้อภัยเค้าใช้ไหมสำหรับทุกคนที่ไม่เคยโดนแบบเราก็ระวังไว้นะค่ะเพราะเราคิดว่าคนที่เป็นพยานจะไม่ทำผิดกฎของพระยะโฮวาแต่เค้าก็ทำแต่เราอย่าไปตัดสินเค้าเลยเพราะเมื่อวันนั้นมากถึงพระองค์จะพิพากษาพวกเค้าเอง

อยากกลับมาพบหน้าพี่น้องในประชาคมมากเหลือเกิน เหินห่างไปนานมากเป็นพยานมาหลายปี ต้องเดินทางไปหลายแห่งทั่วโลก ได้พบพี่น้องในที่ต่างๆแม้มีหลายชนชาติต่างภาษา ทันทีที่เขารู้ว่าเป็นพี่น้องทุกคนเขาก็รักให้ความเอ็นดู ผมไม่เคยพบความรักในองค์การแบบนี้จากที่อื่นเลย รักคิดถึงพี่น้องทุกคนนะ

รัก พระเจ้าครับ

คนหัวเกรียน

บอก ตามตรงนะครับ จากประสบการณ์

ผมเองก็ เป็นเหมือน คนที่ศึกษา พระคำภีร์มาอยู่สักพักหนึ่ง ผมศึกษา มาตลอดเวลา 5ปีครับ ตั้งแต่เรียนมัธยม จนตอนนี้อยู่มหาลัย ทั้งบ้านผมนั้นถือพุทธหมดครับ
ในปีแรกๆนั้น ผมเองก็รู้จักเขา ได้ไม่เท่าไหร่ และก็มาเยี่ยมบ้านทุกวัน ให้เปิดคำภีร์ผมก็เปิด อันนี้ด้วยความเกรงใจหรือเปล่าก็ไม่รุนะ บอกตามตรงว่าในทีแรกนั้น ไม่สนใจเท่าไหร่ แบบเบื่อเหมือนกัน มาทำไมทุกอาทิตย์นิ
แต่อยู่มาวันหนึ่ง เขาบอกให้ผมลองมองไปรอบๆ และสังเกตให้ดีว่ารอบๆตัวเรานี้มันมีที่มา ได้ยังไง?? มนุษย์เกิดจากวิวัฒนาการจากลิงหรอ? ผมเองเป็นคนที่ชอบคิดอะไรแบบนี้เป็นทุนครับในตอนนั้น เลยลองศึกษาดูดีๆ ตอนนั้นผมคิดว่า ผมไมได้ศรัทธาอะไรหรอก แต่คิดว่ามันน่าสนใจ ที่จะรู้ว่าใครเป็นคนสร้างโลกแบบนี้ขึ้นมา เพราะผมคิดมาตลอดว่า ทำไมถึงต้องเป็นมนุษย์ละ ที่เป็นสัตว์ที่มีสติปัญญา ทำไมหมามันไม่ลุกมาเดินสองขา สร้างตึก สร้างรถ สร้างเครื่องบิน หรือ ยานอวกาศบ้างละ??
แม้ตอนนี้ ผมไม่ได้เชี่ยวชาญนักหรอก ผมอ้างอิงอะไรไม่ได้ แต่ผมคิดว่า การศึกษาเรื่องพระเจ้าทำให้ผมรู้ถึงสิ่งที่ผมไม่รู้ เพราะผมไม่รู้ว่าที่มาของโลกนี้เป็นยังไง และคิดว่าการศึกษาเรื่องพระเจ้า อาจจะเป็นแนวทางในการสนองความอยากรู้ของผมก็ได้ ในตอนนั้น
แต่เมื่อผมยิ่งเรียน ก็ยิ่งรู้ว่า คำภีร์ไบเบิลนั้น ได้บอกอะไรไว้บ้าง สิ่งที่มีเค้าความจริง ว่าคนตายไปไหน ผีมันคืออะไร นรกมีอยู่จริงไหม ? แม้คำตอบจะไม่ชัด แต่ผมเชื่อว่าผมได้เข้าใกล้กะอะไรบางอย่างครับ ผมเองก็ไมได้เกิดมาในแวดล้อมที่ดีนัก ก็ได้เห็นธาตุแท้ เห็นความเลวร้ายของโลกนี้ทุกวัน ถึงผมไม่เชื่อว่า จะมี พระเจ้าเป็นเหมือน เซวิเอร์ ผู้กอบกู้ลงมาช่วยเหลือไรแบบนั้น
แต่ผมก็เชื่อว่า มันต้องมีจุดที่ทนไมได้ มันต้องมีจุดที่แตกดับ หักแน่ๆ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ มันสอดคล้องไปสู่ความจริงครับ มีค่าแก่การค้นหาสำหรับผม..ต้องขออภัยนะครับ ที่อาจจะไปขัดความคิดคนหลายคน ต้องขออภัยด้วยนะครับ แต่ผมศึกษามา ของพุทธศาสนา อิสราม คาทอลิค ล้วนพูดเป้นนัยๆถึงวันที่โลกมีจุดที่สิ้นสุดเหมือนกันหมดครับ
แถมชื่อของพระเจ้าในแต่ละศาสนา ถ้าลองศึกษาถึงแก่นภาษาดีๆ จะรู้ว่ามันออกเเสยงเพี๊ยนกันมาครับ และก็...พระพุทธเจ้า ไม่เคยปฏิเสธเรื่องการมีตัวตนของพระเจ้านะครับ (อาจาร์ยบอกมา)
ยังไง ก็ขึ้นอยู่กับความคิดคนเรานั้นละครับ แต่ถ้าใครถือศาสนาอะไรและสนใจศาสนานั้นจริงๆ ก็มาแลกเปลี่ยนกับผมได้

สวัสดีคับ ผมดีใจมากที่ได้เห็นหอประชุมที่สวยงามคับ ผมเคยไปประชุมที่นั้นนะคับ ผมอยากให้นหอประชุมมีคนมาร่วมประชุมกันเยอะๆๆนะคับ
คิดถึงมากคับ จากเชียงใหม่ แม่ริม

พี่น้องเรามีความรักใครกันนะค้ะ
แต่เข้าใจว่าเราเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์
อาจมีผิดพลาดบ้าง เราก้อให้อภัยกันค้ะ

อยู่ลำพูนยินดีที่ได้รู้จักพยานทุกท่านค่ะ

หวัดดีพยานลำพูนทุกคนจ้า

...............เมื่อวานนี้มีโอกาสไปฟังเขาเรียกอะไรอ่ะ ประชุม มิสซา หรือสัมนาเรื่องเกี่ยวกับศาสนาคริสต่มาครับ ที่หอประชุมราชอาณาจักรแห่งพยานพระยะโฮวา ย่านธัญบุรี แถวรังสิตครับ ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่ จริงๆผมไม่ค่อยสนใจหรอกเรื่องพวกนี้ ความรู้สึกของผมต่อพวกบรรดาผู้เผยแพร่ศาสนา ก็น่ารังเกียจไม่ต่างจากพวกที่ชวนผมไปฟังเรื่องขายตรง MLM คือคนมันไม่ศรัทธา ทำยังไงก็ไม่ศรัทธาหรอกครับ แต่เนื่องด้วยคุณนายแม่มูวี่เขาอยากฟัง ก่อนหน้านี้สักอาทิตย์เห็นว่าไปโทรตอบรับพวกนี้มาคุยที่บ้าน เขาก็แห่กันมาที่บ้านห้าหกท่าน มีสาวๆญี่ปุ่นหลายคนมาด้วย ก็ไม่ทราบว่าไปไงมาไง บรรดาสาวๆญี่ปุ่นหลายๆคนถึงได้ทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนมาเผยแพร่ศาสนาถึงบ้านเรา .. คือจริงๆเขาอาจจะมาทำงานหรือเรียนกันในเมืองไทยอยู่แล้ว และก็ศรัทธา ก็เลยเอาเวลามาใช้ให้เป็นประโยชน์ก้อได้นะครับ อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ

...............เอาเป็นว่าสรุปเมื่อวานเราไปถึงหอประชุมที่ว่าเนี่ย ราวๆ 9.45 น. สายกว่าเวลานัดนิดหน่อย แต่ก็ยังทันเริ่มพิธีครับ เขาเริ่มพิธีกันประมาณ 10 โมงครับ บรรยากาศที่หอประชุมนี้ค่อนข้างเป็นกันเองมากครับ ทุกคนก็เดินทางมาจากทั่วสารทิศ ( จริงๆก็คงแถวรังสิตน่ะแหละครับ ) ส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีอายุแล้ว แต่ก็ยังพอเห็นคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมอยู่บ้าง รวมถึงมีบางครอบครัวที่พาลูกๆมาด้วย ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ให้การต้อนรับอย่างดี แม้แต่ผู้ใหญ่คนแก่ๆหลายคนที่เห็นหน้าเรา ก็ยกมือไหว้สวัสดีต้อนรับเรา จนผมตกใจรับไหว้ไม่ทัน เพราะไม่บ่อยนักที่จะมีผู้ใหญ่มาไหว้เราก่อน บรรยากาศก็เหมือนเราตกไปอยู่ในหนังพวก invasion of body snatcher หรือ Stepford wives ไรประมาณนั้นอ่ะที่เราตกลงไปอยู่ในกลุ่มฝูงคนที่เหมือนโดนล้างสมองมา ?? ผมไม่ได้หมายความว่ามันเป็นบรรยากาศที่เลวร้ายอะไรแบบนั้นนะครับ เพียงแต่ผมรู้สึกว่ามันแปลกประหลาด และแอบคิดไม่ได้ว่ามันมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า มันเป็นนิสัยของชาวคริสต์กลุ่มนี้จริงๆ หรือเขาแสร้งทำเพื่อผลอะไรบางอย่างหรือเปล่า ?

................สิบโมงการเทศน์ ก็เริ่มต้นขึ้น มีผู้ชายในชุดสูทตัวเล็กๆ หน้าคล้ายๆคุณนันทขว้างแต่ตัวเตี้ยกว่าขึ้นมาพูดปราศรัย เนื้อหาเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล และหลักศาสนาคริสต์ โดยพูดได้พอฟังเพลินๆ ไม่น่าเบื่อเกินไปนัก เนื้อหาหลักมีอ่านในหนังสือที่เขาให้ถืออยู่ด้วย บางช่วงก็เปิดโอกาสให้คนฟังได้มีส่วนร่วม เท่าที่พอจับความได้ก็มีเรื่องของ โลกนี้ โลกหน้า บ้านเก่า บ้านใหม่ และประเด็นบางอย่างที่คล้ายๆกับหนังเรื่อง Matrix อย่างบอกไม่ถูก บางช่วงผมก็ชอบในคำชี้นำของเขานะ แต่อีกใจลึกๆผมก็รู้สึกต่อต้านอยู่พอสมควรว่าทำไมผมจะต้องเชื่อฟังพระยะโฮวา ( พระยะโฮวาไม่ใช่พ่อ 55555 ) ทำไมผมจะต้องอยากไปอยู่บ้านใหม่ที่แสนสงบสุขของพระยะโฮวา ?? แล้ววันสิ้นโลกมันจะใกล้เข้ามาจริงเหรอ ? เมื่อไหร่อ่ะ ? ดูเหมือนปัญหาใหญ่สำหรับผมที่จะทำให้ผมเชื่อศาสนานี้ก็คือเรื่องศรัทธา !! ผมไม่มีศรัทธาหรอกครับ !! งงเหมือนกันว่าทำไมคนอื่นที่เขานับถือศาสนานี้เขาเอาศรัทธามาจากใหนกัน ? ถ้าไม่มีปาฏิหาริย์ให้เห็นกันโต้งๆผมก็ไม่มีวันศรัทธาได้หรอกครับ สมมุตินะครับว่าถ้าผมอธิษฐานวันนี้ว่า ขอให้ไอ้พวกทำลายชาติ ไอ้พวกพันธมารทั้งหลาย ล้มหายตายจากไปวันพรุ่งนี้ ถ้าพระยะโฮวาทำให้ผมดูได้ ผมจะไปเปลี่ยนศาสนาทันทีเลยครับ !!

................11 โมง เขาก็เปลี่ยนคนเทศน์ เป็นบราเธอร์อีกคน นักพูดเหล่านี้เขาเรียกบราเธอร์ แต่ไม่ได้มาในชุดนักบวชนะครับ ใส่สูท แต่งสากลธรรมดาครับ คนที่สองนี้ไม่ได้พูดนอกบท คุยตามตำราเป๊ะๆ อ้อ ก่อนพูดเขามีให้ร้องเพลงด้วยนะครับ คล้ายๆมิสซามั้ง ก็เปิดหนังสือเพลงแล้วก็ร้องสรรเสริญพระเจ้าด้วยกัน ..เอเมน ..รายที่สองนี้เขามีมาพูดกันสองคน น่าเบื่อหน่อย แต่ก็มีให้คนฟังโต้ตอบด้วย เหมือนอ่านบทเรียนแล้วก็ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดน่ะแหละครับ เขาจะเรียกคนเข้าฟังว่า บราเธอร์ และซิสเตอร์ครับ ถ้าเป็นชายก็เรียกบราเธอร์ เป็นสาวก็เรียกซิสเตอร์ คงเหมือนเป็นพี่น้องกันหมดน่ะครับ ( แต่ไม่มีบิ๊กบราเธอร์นะ ) โชคดีช่วงท้ายๆมูวี่กวนหน่อย แม่เขาเลยให้ผมพาออกไปข้างนอก ก็เลยพาย่าออกไปเดินข้างนอกด้วย ขอบคุณมูวี่ที่กวน ก็เลยทำให้ได้ออกไปสูดอากาศข้างนอกหอประชุมขืนต้องฟังจนจบคงสลบแน่ๆ เพราะน่าเบื่อสุดๆ เสียดายอีกอย่างไม่ได้ถ่ายภาพการประชุมมาให้ชมกันครับ ใจก็อยากถ่าย อีกใจก็กลัวจะเสียมารยาท อ้อ ได้เห็นสาวๆญี่ปุ่นหลายคน รวมถึงสาวเกาหลี ที่มาร่วมฟังสัมนาด้วย หลายๆคนเขาพูดภาษาไทยกันได้ค่อนข้างคล่องนะ ถ้าอ่านคัมภีร์พวกนี้ หรือตำราพวกนี้ที่เป็นภาษาไทยพอได้ ก็แสดงว่าเขาต้องเก่งภาษากันพอควรเลยทีเดียว ตกลงว่าพวกเราได้กลับกันตอนประมาณ 11โมง 45 ครับ ในพิธีคนส่วนใหญ่เขาก็อยู่ทำอะไรกันต่อก็ไม่รู้ แต่เรากลับกันก่อนน่ะครับ เรียกว่ามาสัมผัสบรรยากาศกันเฉยๆ เด๋ววันศุกร์ ก็จะมีสาวๆญี่ปุ่นรวมถึงพี่ที่แพร่ศาสนาเขาจะแวะมาเยี่ยมบ้านกันอีกรอบ ก็คงมาท่องคัมภีร์ให้ฟังแก้กลุ้มมั้งครับ ( ผมไม่อยู่ ) แล้วประสบการณ์การเข้าห้องหอประชุมของผมก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ .... ช่วงบ่ายแวะไปเยี่ยมบ้านพี่คาวีครับ เป็นพี่ในเวปบ้านหมี จากนั้นก็ชวนกันไปเที่ยวน้ำตกวังตะไคร้ครับ สนุกสนานมากเลย ตามไปชมภาพต่อได้ในเวปแพนด้านะครับ

ทุกคนที่เป็นมนุษย์ต้องการสิ่งนมัสการแล้วคุณจะนมัสการอะไรรูปเคารพที่ทำขึ้นจากมนุษย์หรือพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้เป็นผู้สร้าง

สวัสดีพี่น้องที่เป็นพยานพระโฮวาวันนี้ครอบครัวของเราต้องแตกแยกกันเพราะความไม่ซื่อสัตย์ของสามีเราเค้าได้รับกลับเค้าประชาคมได้ไม่เกิน2สัปดาห์เค้าก็ได้มาขอหย่าขาดกับเราตอนนั้นเราก็ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันยังทำใจไม่ได้แต่เราก็ตัดสินใจหย่าให้เค้าไปพอหย่ากันเสร็จตอนเย็นสามีเราก็ขึ้นรถกลับไปหาแฟนเก่าที่อยุธยาโดยที่เราไม่รู้เลยว่าเค้าติดต่อกันมาตลอด1ปีคิดว่าเค้าจะกลับใจเข้าหาพระโฮวาจริงๆแต่นั้นไม่ใช้..เค้าได้หลอกพ่อแม่หลอกภรรยาลูกและที่สำคัญได้หลอกพระเจ้าแล้วกับไปหากันอีก..ตอนนี้เราก็ได้เป็นนักเรียนก้าวหน้ามากเพื่อจะช่วยสามีแต่สามีกลับพาผู้หญิงคนนี้มาหลับนอนกันอีกที่บ้านเค้าเคยทำอย่างนี้มาแล้วครั้งนึงแต่เราก็ให้อภัยเพื่อรักษาสายสมรสไว้แต่เค้าทรยศเราทรยศพระเจ้าทำมาเป็นคนกลับใจออกประกาศได้2วันก็ทำให้ทุกคนเชื่อว่าเลิกติดต่อกับผู้หญิงแล้ว..จากบทเรียนทั้งหมดนี้เห็นได้ชัดว่าคนเราทุกคนจะหลอกมนุษย์ได้แต่ไม่มีใครหลอกพระเจ้าได้..เราได้หย่ามา5วันแล้วช่วงนี้เราออนแอมากเพราะรักเค้ามากหวังทุกสิ่งเชื่อทุกสิ่ง..แต่ในเมื่อเค้าไม่รักดีเราก็ต้องทำใจฝากทุกคนที่กำลังศึกษาใหม่ด้วยนะค่ะไว้วางใจในพระยะโอวาๆจะช่วยเราให้เราตักสินใจที่ถูกต้อง..อยากขอคำแนะนำดีๆเพื่อช่วยเรามากกว่านี้

อยากบอกจริงๆว่า เราเองก้เคยเป็นพยานพระยะโฮวามาก่อน และสิ่งที่เรียกว่าดีที่สุดในชีวิตเรา ได้หลุดหายไปจากตัวเราตั้งแต่วันที่ถูกตัดสัมพันธ์ไป เราไม่ได้คิดโกรธหรือโทษองการเลย แต่สิ่งที่เราคิดมาตลอดตั้งแต่ตอนนั้นคือ เรามันแย่เอง เราผิดเอง ทุกวันนี้เรายังรักพระยะโฮวา และยังคิดถึงพี่น้องทุกคนที่ดีกับเราเสมอมา ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนกับจะขาดใจตายไปเลยทีเดียว

จากที่อ่านคอมเม้นท์คุณ ฟ้า เราว่าเราก้คิดคล้ายๆกัน เรายังรักพระยะโฮวาและพี่น้องทุกคน แต่ในวันนี้ที่เราไม่ได้กลับไป เป็นเพราะความรู้สึกของเรา ที่ไม่ยอมให้อภัยตัวเอง

เรารู้มาตลอดว่า พระยะโฮวาอยากให้เรากลับใจและกลับไปหาพระองศ์แน่ๆ แต่ว่า เรารู้สึกเกลียดตัวเองและละอายใจต่อพี่น้องที่รักเราเหลือเกิน เรารู้สึกมาตลอดตั้งแต่ที่เราไปสารภาพว่าเราทำผิดกับผู้ปกครอง เราไม่คิดอยากจะปกปิดความผิดไว้ เราทำไปด้วยความโง่เลาของเราเอง

ทุกวันนี้เรายังพยายามที่จะคงความเคยเป็นพยานมาก่อน เพียงแต่เราไม่กล้าที่จะไปหอประชุมเลย อยากบอกว่าคิดถึงมาก มากจริงๆ เสียใจที่ตอนนี้มันทำอะไรไม่ได้เลย ทุกๆคืนของเราได้แต่ฝันถึงตอนที่ยังเป็นพยานอยู่ บางครั้งเราถามตัวเองในความฝันเสมอว่า เราได้พูดคุยกับพี่น้องเราหรอ พวกเค้าพูดกับเราแล้วใช่มั้ย เราฝันแบบนี้แทบทุกคืน

การเป็นพยานมันเหมือนกับเป็นชีวิตของเรา แต่เพราะความชั่วของเราทำให้ชีวิตที่มีค่าของเรานั้นหลุดลอยไป

เราเข้ามาเป็นพยานคนเดียวใรครอบครัว ตอนนั้นที่เราถูกตัดสัมพันธ์ไป พี่ๆของเราได้เอาหนังสือทุกอย่างของเรา คืนให้กับพี่น้องคนนึง เราเสียใจมาก เราอยากเก็บมันไว้ แต่พี่เราก้พยายามจะให้เราลบความเป็นพยานไป แต่ทุกวันนี้เราไม่สามารถเปลี่ยนได้ เราหวังเสมอมาว่า ถ้าทุกอย่างพร้อม และถ้าเราพร้อมที่จะให้อภัยตัวเองแล้ว เราจะกลับไป ถึงแม้จะไม่มีใครคุยกับเราก้อตาม อย่างน้อยพวกเค้าก้อเป็นสิ่งมีค่า ที่พระยะโฮวาได้มอบให้กับเรา คือชีวิตที่ไม่สามารถหาได้อีกแล้วในโลกนี้

การเข้ามาเป็นพยานพระยะโฮวาเป็นสิ่งที่ดีนะคะทำให้เรากลับตัวกลับใจทำให้เราเป็นคนดี ทำแต่สิ่งดีๆไม่คิดร้ายไม่โกหกและทำให้เรารู้จักให้อภัยด้วยนะคะ

ไม่ทราบว่าบล็อกนี้ใครทำขึ้นมา แล้วคอมเม้นไม่สามารถลบได้ ซึ่งบางคอมเม้นก็ไม่ใช่พยานฯด้วย เป็นการแสดงความคิดเห็นไม่ผิดหรอกนะ แต่ไม่เหมาะสม เราไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ พยานฯสามารถพูดคุยระบายหรือให้กำลังใจเป็นการส่วนตัวกันได้ ไม่อยากให้เข้ามาคอมเม้นในนี้เพราะในนี้มีการวิพากย์วิจารณ์เกี่ยวกับพระยะโฮวา เยาะเย้ยด้วย เราคงไม่สนับสนุนเว็บนี้จริงไหมเมื่อคนอื่นมาอ่านจะรู้สึกไม่ดี คงไม่อยากทำให้พระยะโฮวาเสียชื่อเสียงใช่ไหม พยานฯคงเข้าใจในสิ่งที่เราอธิบายและคนที่เคยเป็นพยานฯคงเข้าใจด้วยเช่นกัน ก็มีแต่คนที่ไม่รู้อะไรเข้ามาคอมเม้นตามใจชอบก็ต้องปล่อยเขาไปและต้องขอโทษผู้ที่เคยเป็นพยานฯด้วยเราไม่ได้อยากปิดกั้นความรู้สึกคุณแต่อยากให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับบล็อกนี้ และสำหรับพยานฯช่องทางการติดต่อกันมีมากมาย ขอร้องนะจากใจจริง จะได้หยุดอยู่แค่นี้และถ้าเป็นไปได้อยากปิดที่นี่ไปเลยจะดีที่สุด

เราเกิดมาในครอบครัวพยาน ตั้งแต่รุ่นคุณย่าเลย ตั้งแต่เบเธลยังไม่ได้สร้างเลยด้วยซ้ำ ซึ่งคุณย่าเองก็เคยเป็นส่วนหนึ่งในทีมอาสาสมัคร สร้างอาคารเบเธลด้วย เหลือเพียงขั้นสุดท้ายคือการรับบัพติสมา แค่เราเลือกที่จะไม่รับ เพราะรู้ตัวเองดีว่า ไม่เหมาะที่จะอยู่ในกฏระเบียบที่ค่อนข้างเข้มงวด สำหรับเราเราชินกับผู้คนในสังคมนี้มาตั้งแต่เกิด ชินกับสิ่งดีๆ ความจริงใจที่มีต่อกัน และความรักระหว่างพี่น้องพยาน
ซึ่งพอเรามาอยู่ในสังคมภายนอกจะรู้ได้ด้วยตัวเองเลยว่าแตกต่าง แม้แต่เพื่อนซึ่งรู้จักกันมานานนับสิบปีก็ยังหักหลังกันได้ นับประสาอะไรกับคนไม่รู้จักกัน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าในทุกวันนี้ เพียงแค่เดินตามท้องถนน ขึ้นรถประจำทาง ถ้าเจอใครมีท่าทางแปลกๆ หรือมีใครเข้ามาคุยด้วย เราก็คงต้องคิดไปในแง่ลบอยู่เสมอในทำนองว่า มันจะมาไม้ไหน กูไม่มีทองให้พวกมึงโป๊ะยานะ จะพูดไป ในทุกๆสังคม ย่อมมีคนที่เราถูกใจ และไม่ถูกใจ คนที่เราคิดว่าดี และคนที่เราคิดว่าไม่ดี เหมือนๆกันในทุกๆที่ เพียงแต่ว่า ในสังคมอื่นเราก็จะเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ทั่วๆไป ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ถ้ามีในสังคมพยานซึ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ รอยด่างในผืนผ้าสีขาวมันย่อมเห็นได้เด่นชัด ยิ่งการสอนในสิ่งที่ขัดแย้งกับ องค์กรใหญ่ๆ อย่างคาทอลิก ยิ่งถูกดึงดูดให้เป็นเป้าในการโจมตีใส่ร้ายได้เอาง่ายๆ นั่นย่อมอธิบายได้ว่าทำไมเปิดอินเตอร์เนทแล้วจะเห็นบทความโจมตี กลุ่มพยานพระยะโฮวา อยู่บ่อยๆ สิ่งที่พวกเค้าสอน ล้วนมีเหตุผล อ้างอิงจากพระคัมภีร์ไบเบิล ทุกสิ่งทุกอย่างจะมีข้อพระคัมภีร์กำกับอยู่ตลอด
หลายๆอย่าง มีเหตุผลรองรับ มีการอ้างอิงชัดเจน มีการตีความศึกษาอย่างจริงจัง ซึ่งไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
ถูกใจเรื่องหนึ่งคือ เรื่องที่ว่า บอกว่า โลกนั้นเป็นทรงกลม และ ห้อยอยู่โดยไม่ได้ติดกับอะไร ข้อพระคัมภีร์ข้อไหนจำไม่ได้แล้ว พี่น้องพยานทุกคนก็คงเคยผ่านหูผ่านตามาบ้าง เป็นไปไม่ได้เลยที่เทคโนโลยีมนุษย์สมัยนั้นจะ ได้เห็นภาพโลกไบสีน้ำเงิน จากนอกอวกาศได้
เราขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ยังมุ่งมั่นให้คำพยาน และศึกษาพระคัมภีร์ไบเบิล อยู่เสมอมา คิดถึงเพื่อนในสมัยเด็กทุกๆคน

เรามีแฟนเป็นคนนอกองค์การ ตลอดเวลาที่เราคบกับแฟนมาในใจเราอยากให้เขามาเป็นพยานเหมือนเรา เราอยู่ด้วยกานมาเกือบ 3 ปีโดยที่ไม่ได้เเต่งงากัน แต่เราก็รักกันมาก พอเราเรียนจบเรากับแฟนก็กลับมาอยู๋บ้านเราที่ลำพูนมีพี่น้องพยานเราคนนึงได้เข้ามาศึกษากับเราที่บ้านตอนเเรกแฟนก็ศึกษาต่อมาแฟนก็ไม่เคยขัดขวางตอนนี้แฟนเราก่อนเข้านอนเข้าลุกขึ้นมาอธิฐานกับเราด้วย เราดีใจมากที่แฟนเรายอมทำแบบนี้ถึงแม้ว่าพื้นฐานเขาเป็นคนนอกองค์การถึงเขาจะยังไม่มาเต็มร้อย แต่ฉันเชื่อว่าสักวันพระยะโฮวาคงให้โอกาสเขาและให้โอกาสครอบครัวเราได้มีโฮกาสได้เข้าไปรับใช้พระยะโฮวาในอุทยานโลกใหม่ จะดีสักเพียงไรถ้าเราอยู๋อุทยานที่ไม่มีความตายมาพลัดพรากเราเเละมีอาหารอุดมสมบูรณ์และที่สำคัญได้อยู๋กับคนที่เรารัก

พระยะโฮวาเพียงผู้เดียว ที่เป็นศิลาอันมั่นคง พระองค์เป็นคนเดียวที่มีความภักดีที่ไม่มีใครเสมอเหมือน พระองค์ทรงเป็นพระผู้เมตตา พระองค์จะไม่ระลึกถึงบาปที่เราเคยทำ และเมื่อเรามีความทุกข์พระองค์ผู้เดียวจะเป็นที่พึ่ง
ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นนักศึกษาพยานพระยะโฮวาคนหนึ่ง อยากบอกว่าชีวิตมีความสุขมากขึ้น ไม่มีของวิเศษหรือคาถาอะไรให้เราเชื่อ แค่ทุกคนลองอ่านศึกษาคัมภีร์ไบเบิลแล้วลองนำเอาไปใช้กับชีวิต แล้วจะรู้ว่าพระยะโฮวาสุดประเสริฐมากเพียงใด ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยเชื่อ แต่ตอนนี้รักพระองค์จนสุดหัวใจไปแล้ว

สวัสดีคับ ผมเป็นพยานพระยะโฮวาคับ อยู่ที่เชียงใหม่ อำเภอแม่ริมคับ อายุ 18 ถ้าพี่น้องมีโฮกาสได้ไปเเชียงใหม่อย่าลือมแวะไปเยี่ยมประชาคุมแม่ริมนะคับ มีพี่น้องไม่เยอะคับผมหวังว่าจะได้เจอกานนะคับ บานๆๆๆคับ

จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูดูใหญ่ และทางกว้างซึ่งนำไปถึงความพินาศและคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก เพราะว่าประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบผู้ที่หาพบก็มีน้อย ( มัทธิว 7:13 14 )

ผมอยากบอกว่า ไม่จำเป็นต้องเชื่อในลัทธิไหนหรอกครับ ( ผมไม่ได้ว่าใครนะครับ ถ้าทางไหนคือทางที่ถูก นั่นก็คือความจริงที่ปฎิเสธไม่ได้ครับ แต่อยากจะให้แง่คิดไว้ว่า คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่คุณอยู่ สิ่งที่คุณเป็น นั่นคือทางที่ถูกต้อง ? )

แค่คุณเชื่อในพระเจ้า เชื่อในพระเยซู เชื่อในไบเบิล แค่นี้คุณก็จะได้ทางที่ถูกต้องแล้วล่ะครับ อย่าหวั่นไหวกับสิ่งต่างๆ ที่มาบิดเบือนความจริง นะครับ

ฝากไว้นิดนะครับ

อาณาจักรแห่งพระเจ้านั้นอยู่ในตัวท่านและรอบๆ ตัวท่าน... ไม่ได้อยู่ในสิ่งก่อสร้างที่ทำจากไม้และหิน. แยกไม้ออกจากกันเราจะอยู่ที่นั่น. ยกก้อนหินขึ้นแล้วท่านจะพบเรา.

สวัสดีครับ

ผมพึ่งย้ายมาจากอุดรธานีมาอยู่ที่กทม
อยากจะรู้ว่าหอประชุมพยานพระยะโฮวาที่กทมนี้อยู้ที่ไหนบ้างครับ ช่วยส่งมาที่เมล์นี้ด้วยนะครับ
man789-@hotmail.com ขอให้พระองค์คุ้มครอง อาเมน

ดาวเคยศึกษามานานพอสมควรนะ แต่ที่เลิกเพราะเหตุผลบางประการ ถ้าบอกใครก็คงไม่เข้าใจหรอก ถามว่าอยากศึกษาไหม อยากนะแต่ยังไม่เจอผู้ศึกษาที่เข้าใจเราจริงๆ ใครอยากคุยแอตเข้ามาได้นะจ้ะskcar74_@hotmail.comอ้ออยากรู้ว่าประชุมภาคที่ไหนอ่ะ

เรามาจากประชาคมแพร่นะพี่น้องมีคนต่อต้านพวกเราเยะเลยแต่พวกเราไม่ท้อใจพวกเราจะอธิฐานของความรักกับพระเจ้าและได้รับการหนุนใจจากพี่น้องของเราพวกเราอยู่กันแบบพี่น้องช่วยเหลือกันตลอดพวกเราจะมาประชุมพร้อมกันทุกเย็นวันพฤหัสบดี และตอนเช้าวันอาทิตย์ม้จะมีคนเยาะเย้ยพวกเราเวลาเราไปประกาศเราจะขอกำลังจากพระเจ้าเสมอ ถ้าอยากมาเยี่ประชาคมของพวกเราก็มาได้นะ จากพี่น้องประชาคมแพร่

ดีใจนะที่คนแพร่น่ารักแบบนี้ ก็อยากรู้ว่าประชุมภาคที่ไหน เมื่อไรช่วยบอกทีได้ปล่ะ.skcar74_@hotmail.com

เราเป็นพยานพระยะโฮวาก็มีคนที่ต่อต้านพวกเราเหมือนสมัยพระเยซูพระเจ้าบอกว่าซาตานเกลียดคนที่ศึกษาเกี่ยวกับราชอาณาจักพระเจ้ามันรู้ว่าเวลาของมันมีน้อยเพราะพระเจ้าจะมากำจัดพวกมันทิ้งคนชอบธรรมจะได้ราชอาณาจักรของพระเจ้าพวกคุณศึกษามากพอแล้วหรือถึงได้พูดว่าหน้าเบื่อถ้าพวกคุณไม่เชื่อในพระเจ้าก็ไม่ต้องมาต่อว่าพวกเรา

พวกเราจากประชาคมแพร่พวกเราประชุมภาคที่ลำปางค่ะ

เรารักพยานพระยะโฮวามากตอนที่ศึกษากับพยานครั้งแรกเราก็คิดว่าหน้าเบื่อมากไม่รู้เรื่องเลยสักอย่างแม้แต่เปิดคัมภีร์ยังเปิดไม่ถูกเลยสักหน้าแต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจมากขึ้นตอนที่พยานมาเยี่ยมครั้งแรกเรารู้สึกรำคาญมากเพราะมีพยานคนหนึ่งชื่อสาวหยุดเขาเห็นเราไปประชุมแต่เราไม่ใส่กระโปรงเขาก็บอกเราว่าต้องใส่กระโปรงมาประชุมเขาบอกเราว่าต้องเคารพพระเจ้าเราเบื่อพยานคนนี้มากแต่นี้รู้แล้วว่าเราต้องเคารพพระเจ้าที่เขาเตือนเราพราะเขาห่วงเราตอนนี้เรารักพยานสองคนนี้มากที่สุดอย่างเมื่ออาทิตย์ก่อนเราขี่จักรยานไปประชุมหลังจากประชุมเสร็จฝนตกเขาไม่ให้เอาจักรยานกลับบ้านแต่เขากับเป็นคนไปส่งถึงบ้านเขาบอกว่าเดี๋ยวจะเกิดอันตรายเรารู้ถึงความห่วงใยที่พยานสองคนนี้มีต่อเรามากที่เขาตักเตือนเราเวลาเราทำไม่ดีกับพระเจ้าเพราะเขาห่วงเราคนที่คิดว่าพวกพยานหน้าเบื่อเลิกคิดได้แล้วนะค่ะพยานทุกคนเป็นพี่น้องกันทั่วโลกเรารักพยานพระยะโฮวามากถึงแม้จะมีคนต่อต้านแต่เราไม่สนใจสักวันพระเจ้าจะกำจัดคนชั่วพวกนี้ให้หมดไปจากโลก

คนที่ว่าให้พยานน่ะตัวเองเคยศึกษามาพอแล้วเหรอถึงได้ว่าให้คนอื่นทั้งที่ตัวเองไม่ได้ศึกษามามากพอ

ยังไม่สายที่จะกลับไปหาพระเจ้าคนเราไม่มีใครที่ไม่เคยทำพลาดแม้แต่สาวกของพระเยซูยังขัดแย้งกันและทำพลาดที่เราเป็นแบบนี้เพราะเราเป็นมนุษไม่สมบูรณ์แต่อีกไม่นานเราก็จะกลายเป็นมนุษย์ที่ไม่มีบาปยังไม่สายที่จะกลับใจเข้าปหาพระเจ้าพราะพระองค์ไม่คิดบัญชีย้อนหลัง

พยานไม่ได้เทศน์นะคะแต่อ่านคำภีร์ค่ะ

พวกเราเป็นพยานพระยะโฮวานะไม่มีแผนชั่วอะไรเราหวังที่จะมีโลกใหม่ที่ไม่มีคนชั่วไม่มีคนต่อต้านพระเจ้าเข้าใจไว้ด้วย

พวกเราไม่เคยว่าพระเจ้าในทางไม่ดี

สวัสดีครับ พี่น้องทุกคน

ถึง...ผู้ที่ยังไม่ได้ศึกษาพระคัมภีร์ไบเบิล
เรามีความห่วงใยอย่างมากกับมนุษย์ทุกคนที่ยังอยู่ฝ่ายโลก ซึ่งพวกเขาไม่ผิด เพราะที่ทำไปเพราะความไม่รู้ ซึ่งมนุษย์ส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ล้วนแล้วเป็น "เหยื่อผู้บริสุทธิ์"ด้วยกันทั้งสิ้น โดยตกอยู่ภายใต้อำนาจของ ซาตาน ซึ่งเรียกกันว่า เป็น "พระเจ้าของยุคนี้" ซึ่งมักจะนำเสนอสิ่งที่โลกถือว่าดีนักให้กับมนุษย์ ซึ่งมนุษย์ส่วนใหญ่ติดกับดักของซาตานเหล่านั้นโดย "ไม่รู้ตัว" ตัวอย่างเช่น หนัง
ภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วย ความรุนแรง หนังเกี่ยวกับเวทมนตร์ซึ่งก็มาจากซาตาน หนังอีโรติก หนังเกี่ยวกับการบูชาภูติผีปีศาจ หนังที่มีการผิดศีลธรรม(ซึ่งผู้กำกับมักจะอ้างอยู่เสมอว่าเป็นการสะท้อนสังคม) โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้น ยิ่งทำให้สังคมเสื่อมทรามลงเรื่อยๆ แทนที่จะดีขึ้น โดยเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมากพอก็มักจะเลียนแบบหนังภาพยนตร์เหล่านี้ แต่ทางผู้สร้างก็ยังคงสร้างไม่รู้จักหยุดหย่อน ยังคงสรรหาแบบใหม่มาเรื่อยๆ โดยอ้างว่าเป็นอาชีพ ทั้งๆที่มีแนวทางอื่นทำได้มากกว่านั้นมาก

แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น "เกมที่มีรูปแบบเดียวกัน" ถึงแม้จะบอกว่า เล่นเกมยิงปืนฆ่าคนมันจะผิดอะไรถ้าไม่ได้ฆ่าคนจริงๆ ซึ่งดูเหมือนจะมีเหตุผล แต่...พระยะโฮวาทรงตรัสกับเราว่า "ผู้นั้นก็นิยมในการร้ายด้วย" ซึ่งชาวคริสเตียนจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด ถึงแม้จะเป็นการพักผ่อนในรูปแบบหนึ่ง เพราะยังมีเกมที่สร้างสรรค์อีกมากที่ไม่ต้องรุนแรงก็สนุกได้.

ซึ่งสามารถสังเกตได้จากข่าวที่เคยมีเหตุการณ์เยาวชนที่เลียนแบบเกมจนเป็นข่าวครึกโครมมาแล้ว ซึ่งก็มีคำพูดเช่นเดิมคือ "ต้องโทษที่คน ไม่ใช่เกมส์" ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อิทธิพลของซาตานนั้นมีมากเพียงไรต่อโลกใบนี้.

อย่างไรก็ตาม ผมอยากให้ทุกคนได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลสอน โดยพิจารณา เหตุ และ ผล ว่าทำไมคัมภีร์ไบเบิลจึงสอนอย่างนั้น และคัมภีร์ไบเบิล "สอนอะไรจริงๆ" ซึ่งวิธีที่จะเรียนรู้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ "หัดตั้งข้อสงสัยกับตัวเอง" แล้ว "ค้นหาที่มาของเหตุและผลว่าทำไมคัมภีร์ไบเบิลจึงสอนอย่างนั้น" และ " ต้องอ่านเป็นประจำ " โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นให้อ่านจากหัวข้อที่ผู้นั้นสนใจมากเป็นพิเศษก่อน ถ้ารู้ว่าอาจจะเกิดความเบื่อหน่ายได้ง่ายๆ และลองสังเกตสิ่งที่อยู่รอบตัวเราโดยอาจจะตั้งคำถามกับตัวเองว่า "ต้นไม้ต้นแรกนี้ เมล็ดข้าวรวงแรกนี้ ภูเขาที่มีอยู่ทั่วโลก และสิ่งมีชีวิตนับจำนวนไม่ถ้วนนั้น ใครเป็นผู้สร้าง?" ก็อาจจะทำให้เรามีโอกาสที่จะนำไปสู่การได้รับสิ่งที่เรียกว่า "ความสุขแท้" สิ่งนั้น ใครๆก็อยากได้ ยังไงก็ขอให้ได้พบกับความจริงที่จะทำให้ "คุณเป็นอิสระ" จากสิ่งชั่วร้ายที่ไม่จำเป็นทั้งหลายทั้งปวง

แล้วพบกันใหม่ครับ...

ใกล้ถึงวันประชุมภาคแล้วนะใครประชุมภาคที่ไหนบ้างเราประชุมภาคที่ลำปาง

อินประชุมภาคที่ไหนคะ เราไม่รู้สึกท้อใจเลยที่มีคนต่อต้านเราพราะเราได้รับการหนุนกำลังจากพี่น้องพยานและกำลังจากพระยะโฮวา

รักพระยะโฮวารักพี่น้องพยานมากจากขอนแก่นพีท

ใครประชุมภาคที่ลำปางกันบ้าง น่าสงสารพี่น้องที่กรุงเทพมากที่โดนเลื่อนการประชุมภาคอย่างไม่มีกำหนดแต่พระยะโฮวาทรงจัดเตรียมให้พี่น้องที่โน่นแล้วรักพี่น้องทุกคน

คือว่าเรามีเเฟนเป็นคนเกาหลีหน่ะ คบกันมาสามปีเเระ เเละเค้าก็เป็นพยานพระยะโฮวาด้วย ทำให้ตอนนี้ความรักของเราเริ่มมีปัญหา ทั้งระยะทางไกล นี่ยังมาเจอคนละศาสนาอีก ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วย ขอถามหน่อยเถอะว่าการที่คนเรามีความนับถือคนละศาสนามันผิดตรงไหนเหรอ ทั้งๆที่เราก็เป็นคนดี ไม่ผิดประเวณี มีงานทำที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง กับเรื่องนี้ถึงกับยอมรับการไม่ได้เลยเหรอ เราไม่เข้าใจจริงๆ เราก็ไม่ได้ไม่เชื่ออะไรหรอกนะ เเละเราก็เคยอ่านคำภีร์เเละเคยเข้าประชุมมาเเล้วครั้งนึงด้วย เพราะเรารักเเฟนคนนี้ของเรามาก เราเป็นคนจิงจังกับความรัก เเล้วอีกอย่างคบกันมา สามปีเเล้วด้วย ไม่อยากให้มีปัญหา เเต่พอๆคิดๆไป มันจะไม่มีปัญหาก็คงไม่ได้ เพราะเช่นถ้าเค้ามาอยุ่ที่ไทย เเล้วเรามีลูกด้วยกัน ยังไงก็ต้องมีการจับเกณฑ์หาร หรือการเรียน รด.คุณจะไม่ยอมให้ลูกของคุณทำผิดกฏหมายเเล้วเข้าคุกเหรอ พวกคุณยอมเห็นสิ่งเหล่านี้ใช่หรือไม่ เเล้วในเมื่อพวกคุณนับถือพระยะโฮวา เเล้วญาติพี่น้องของดิฉันเป็นพุทธ ดิฉันก็ไม่สามารถเข้าร่วมศาสนพิธีต่างๆได้เลยใช่หรือไม่ เช่น งานบวชน้องชาย งานศพเเบบพุทธ งานเเต่ง เป็นต้น ซึ่งงานเหล่านี้ล้วนเเล้วเเต่มีศาสนาเข้ามเกี่ยวข้องเเทบทั้งสิ้น ถ้าไม่ไปช่วยงานศพบิดา มารดา หรือ ญาติตัวเองก็เห็นว่าจะเนรคุณมากไปเเล้วหล่ะ เป็นพวกคุณคุณจะทำเช่นไร ช่วยชี้เเนะด้วย เเล้วตอนนี้เเฟนเกาหลีของดิฉันก็ไม่ได้ติดต่อกันเดือนนึงเเล้วเนื่องจากรับโทษทหารอยู่ ดิฉันจึงไม่เเน่ใจในอนาคตว่าเมื่อเค้ากลับมาเรายังเหมือนเดิมอยู่มั้ย (เศร้าสุดๆๆ)

สวัสดีค่ะทุกคน
เราก้อเปนพยานเหมือนกันค่ะ
เพิ่งอ่านเจอเกี่ยวกับBlog นี้
ให้กำลังใจทุกคน ต่อสู้กับการท้าทายในโลกนี้นะค่ะ

เรามีพี่สาวที่เคยเป็นพยาน เป็นอยู่สิบกว่าปี พี่สาวมีลูก3คน ทั้งครอบครัวของพี่สาวเป็นผู้นับถือพระยะโฮวาค่ะ แต่เมื่อสองปีที่แล้ว พี่สาวเป็นมะเร็งค่ะ พวกเพื่อนๆพยานของเขาบอกว่าอย่ารักษาแพทย์แผนปัจจุบันเลย เพราะเดี๋ยวหมอต้องให้เลือดซึ่งผิดกฏของพวกเหล่าพยาน ให้กินเห็ดหลินจือแทน เป็นสมุนไพรรับรองว่าหาย กินอยู่เป็นปีและไม่รับการรักษา ไม่ไปหาหมอ ผลเป็นยังงัยรู้มั้ยคะ พี่สาวตาย ตอนที่นอนรับการรักษาช่วงสุดท้ายของชีวิต ก็ไม่มีพยานคนไหนเลยไปเยี่ยม ทั้งๆที่ก่อนจะเป็นพวกคุณมาพูกกรอกหูพี่สาวฉันทุกวัน ว่าจะมีชีวิตนิรันดร์ งานศพพี่สาวก็ต้องจัดกันแบบขอไปทีเพราะไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะพาไปฝัง พูดง่ายๆก็ขอวัดเผาน่ะ เพราะพี่ขอไว้อย่าให้พระมายุ่งกับศพของเธอ พอเสร็จพวกคุณพยานก็มาถามที่บ้านว่างานศพจัดยังงัย พอแม่ดิฉันเห็นพวกพยานก็โกรธมาก ถึงขั้นมีปากเสียงกันเลย เพราะพวกคุณมาบอกว่าพี่สาวของดิฉันไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ที่ไปรับเลือด ดิฉันเคารพในการตัดสินใจและของความเชื่อของทุกคน แต่ถ้าความตายรอคุณหรือคนที่คุณรักอยู่ คุณจะตัดสินใจยังงัย หรือยังจะยินดีที่จะพบพระเจ้า โดยที่คุณไม่พยายามที่จะต่อสู้กับโลกของความเป็นจริง โดยมีลูกอีกตั้ง3คนที่ยังเล็กรออยู่ ดิฉันเสียใจมากกับคำพูดของพี่พยานคนหนึ่งที่บอกว่า"ยังงัยเป็นมะเร็งก็ต้องตาย จะเอาเลือดทำไม" ขอบคุณจริงๆพวกคุณที่ล้างสมองพี่ฉันได้ พวกคุณเคยกลับมารับผิดชอบลูกๆของพี่ฉันรึเปล่า ทั้งๆที่พี่สาวฉันยังงัยก็เคยทำประโยชน์ให้กับลัทธิของคุณ!

ผมก็เคยมีพี่ชายอยู่1คนแต่เค้าเสียตอนอายุ16ผมเสียใจมากแต่พอได้มาประชุมได้เรียนรู้ความจริงผมก็รู้สึกสบายใจขึ้น
ผมอยากจะบอกว่าถ้าคุณไม่ได้เข้ารู้สึกด้วยตนเองคุณก็จะไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นไร

ผมไม่ใช่พยานน่ะครับแต่อยากสอบถามหน่อยครับ...ใครว่างช่วยแอดมาที่ Mac_supanath@hotmail.com ได้ไหมครับขอบคุนมากๆเลยครับ

ช่วยติดต่อมาทางเอมหน่อยน่ะครับอยากถามเกี่ยรกับเรื่องนีิ้จิงๆ ขอบคุนมากๆครับ

ถึง พี่ฟ้า
สวัสดีไม่รู้พี่จะมีโอกาสได้อ่านข้อความนี้มั๊ย แต่อยากบอกให้รู้ว่าหนูและพี่น้องในประชาคมรักและคิดถึง คอยการกลับมาของพี่เสมอ และพี่น้องที่ถูกตัดสัมพันธ์คะ มันไม่เคยมีวันที่สายที่เราจะกลับมาหาพระยะโฮวาอีกครั้ง เราแต่ละคนประสบได้ด้วยตัวเองแล้วว่าอะไรเป็นจุดมุ่งหมายจริงๆในชีวิต แนวทางใดที่ทำให้ชีวิตมีค่ามากที่สุด หนูไม่อยากให้คนที่ยังรักจะพระยะโฮวา ต้องอยู่ห่างจากพระองค์ พี่ฟ้าหนูคิดถึงพี่มากๆ และพี่ยังเป็นพี่สาวของหนูเสมอ หนูรอวันที่จะได้พี่กลับคืนมาอยู่นะ พี่ชายพีจะแต่งงานแล้วนะ ถ้ายังไม่กลับมาอดเห็นหน้าพี่สะใภ้นะจะบอกให้ พี่น้องยังรักและพร้อมต้อนรับพี่น้องที่กลับใจเสมอ เราไม่เคยเกลียดคุณแต่รักคุณมาก และหนูรู้ว่าพระยะโฮวาก็พร้อมจะต้อนรับ ช่วยเหลือ หนุนกำลังใจ คุณเสมอ
หนูจะรอทุกคน แล้วเราจะเดินผ่านอาร์มาเก็ดดอนไปด้วยกัน....^^

ถ้าสนใจให้เข้าไปดูใน
watchtower.comนะครับ

พยานพระยะโฮวาทุกคนเป็นคนดีทุกคนเวลาเราท้อใจพวกเขาจะช่วยหนุนกำลังใจเราเราก็จะอธิฐานก่อนทำให้รู้สึกดีขึ้นมากตอนนี้กำลังทำความก้าวหน้าฝ่ายวิญญาณอยู่ศึกษาคัมภีร์เข้าร่วมประชุมไม่ขาดใครเคยประชุมภาคที่ลำปางก็คงจะเคยเห็นB.บุญทวี ภาพบุญยังผู้ดูแลหมวดสองแล้วใช่ใหมเขาอยู่ประชาคมแพร่น่ะแต่เขาเดินหมวด

ประชุมภาคลำปางที่ผ่านมา บรรยากาศอบอุ่นมากค่ะ ทุกๆคนน่ารัก และยังมีผู้บรรยายเก่งๆให้ความรู้ทีมีประโยชน์ต่องานรับใช้ การดำเนินชีวิต การเสริมสร้างความเชื่อให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
ขอบพระคุณพระยะโฮวาสำหรับการจัดเตรียมครั้งนี้ และเป็นกำลังใจให้เอาชนะกับสิ่งที่ท้าทายจากโลกนี้อีกด้วย

I Love Jehovah

ไม่ทราบว่าบล็อกนี้ใครทำขึ้นมา แล้วคอมเม้นไม่สามารถลบได้ ซึ่งบางคอมเม้นก็ไม่ใช่พยานฯด้วย เป็นการแสดงความคิดเห็นไม่ผิดหรอกนะ แต่ไม่เหมาะสม เราไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ พยานฯสามารถพูดคุยระบายหรือให้กำลังใจเป็นการส่วนตัวกันได้ ไม่อยากให้เข้ามาคอมเม้นในนี้เพราะในนี้มีการวิพากย์วิจารณ์เกี่ยวกับพระยะโฮวา เยาะเย้ยด้วย เราคงไม่สนับสนุนเว็บนี้จริงไหมเมื่อคนอื่นมาอ่านจะรู้สึกไม่ดี คงไม่อยากทำให้พระยะโฮวาเสียชื่อเสียงใช่ไหม พยานฯคงเข้าใจในสิ่งที่เราอธิบายและคนที่เคยเป็นพยานฯคงเข้าใจด้วยเช่นกัน ก็มีแต่คนที่ไม่รู้อะไรเข้ามาคอมเม้นตามใจชอบก็ต้องปล่อยเขาไปและต้องขอโทษผู้ที่เคยเป็นพยานฯด้วยเราไม่ได้อยากปิดกั้นความรู้สึกคุณแต่อยากให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับบล็อกนี้ และสำหรับพยานฯช่องทางการติดต่อกันมีมากมาย ขอร้องนะจากใจจริง จะได้หยุดอยู่แค่นี้และถ้าเป็นไปได้อยากปิดที่นี่ไปเลยจะดีที่สุด

เห็นด้วยกับ ข้อความนี้ ขอความกรุณาเจ้าของบล็อคลบส่วนนี้เถอะนะครับ

ใช่คะพยานจะไม่เข้ามาคอมเม้นในที่แบบนี้มีปัญหาอะไรก็คุยกับพี่น้องที่ประชาคมได้พวกเขาช่วยหนุนกำลังใจเราได้ คนที่มาคอมเม้นบางครั้งก็ไม่ใช่พยานเขาจะพูดอะไรก็ให้เขาพูดไปเถอะเพราะเขาไม่ได้ศึกษาคัมภีร์ใบเบิลเขาไม่รู้ ซาตานมันชักนำให้คนหลงผิดอยู่แล้ว ฉันเองก็โดนล่อใจบ่อยแต่ก็อธิฐานถึงพระยะโฮวา บางครั้งก็อยากรู้อยากเห็นขอบคุณสำหรับคำเตือนที่ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่ายังมีพยานพระยะโฮวาเป็นห่วงฉันอยู่ ขอบคุณนะคะที่เตือน

ลำปางหนา มีเพื่อนไปมาละ บรรยากาศดีมากอยากไปนะค่ะ

หากคุณรู้จักพยานจริงๆพวกเขาไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะคะ ไอ้มาด่าแช่งนี่ไม่มีหรอก เพราะเขาเคร่งศาสนามาก คุณคงเข้าใจผิดนะคะ แต่ฉันก็ไม่ได้ว่าพยานพระยะโฮวาจะดีพร้อมสมบูรณ์แบบไปซะหมด แต่เขาก็ต่างมีข้อเสียกันอยู่บ้างเพียงแต่เขาคิดที่จะปรับเปลี่ยนความคิดและพฤกรรมกัน คอยประชุมตักเตือนกันให้ใช้ชีวิตตามอย่างคพระประสงค์ของพระเจ้า

Brother and Sister การที่ผู้ประกาศพูดแบบนี้ก็ไม่แปลกเพราะว่าทุกคนบนโลกนี้เป็นพี่น้องกันไม่ว่าจะเป็น ใครก็ตามยศสูงแค่ไหนก็เป็นพี่น้องกันไม่มีผู้ใดใหญ่กว่าพระผู้สร้าง ตอนนี้โลกของเราถูกปกครองโดย ระบบของซาตาน อีกไม่นาน ก็จะถึง วันโลกาวินาศพวกของซาตานจะถูกกษัตริย์องหนึ่งซึ่งพระองค์นั้นเป็นมือขวาของพระยะโฮวาพระองค์จะซงทำลายระบบชั่วของมัน และผู้ที่มีความเชื่อจะรอด ไม่ได้เชื่ออย่างเดียวแต่ต้องปฏิบัติด้วย

ผมอยากมีเพื่อนไปประชุมด้วยกันทุกวันอาทิตย์ got4321@windowslive.com(Facebook)
ขอผู้ที่มีความเชื่อทั้งหลายจงทำงานรับใช้พระเจ้าต่อไปเพราะพระเจ้าของเราทรงเป็นนิตย์ตลอดไป อธิฐานโดยพระนามของพระมหากษัตริย์เยซูคริสอาเมน

ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไปสรุปกันไม่ได้หรอกค่ะ คุณแค่ไปฟังวันเดียวแล้วมาสรุปตามความคิดตัวเอง ต้องมีหลักฐาณพิสูจน์ คุณเคยศึกษาเหตุผลที่พวกเขามาเชื่อกันรึยังค่ะ? ทําไมชาวต่างชาติพวกนั้นต้องมาให้พวกคุณดูถูกด้วย? คริสเตียนอาสาสมัครเงินก็ไม่ได้ องการณ์นี้มีอยู่ทั่วโลก คุณเคยคิดใหมว่าทําไมพวกเค้าต้องทําถึงขนาดนี้ ? ฉันแน่ใจว่าพวกเขามีหลักฐานพร้อมจะยืนยันความเชื่อ ถ้าพวกเขาให้เกียรติ ศาสนาของคุณ คุณก็น่าจะพอใจแล้ว ไม่เห็นต้องเขียนบล็อกว่ากันเลย แล้วอีกอย่างนึง ถ้าคุณสงสัยว่าทําไมต้องเชื่อฟังพระยะโฮวา ฉันก็อยากยกตัวอย่างว่า แล้วทําไมคุณต้องเชื่อฟังพ่อแม่ล่ะ? ลองคิดดูละกันน่ะค่ะ ถ้าสงสัยก็ขอให้ศึกษาด้วยตัวเอง การศึกษาก็ไม่ต้องเสียเงินทําไมต้องซีเรียส เราไม่ได้เรี่ยไรเงินจากพวกคุณเลย แตกต่างจากองการณ์อื่น การศึกษาใช้เหตุและผล ถ้าพวกเค้าให้คุณเชื่อสิ่งที่คุณยังสงสัย คุณก็ถามเค้าซิ! ว่าทําไมพวกคุณเชื่อเรื่งนี้????

ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไปสรุปกันไม่ได้หรอกค่ะ คุณแค่ไปฟังวันเดียวแล้วมาสรุปตามความคิดตัวเอง ต้องมีหลักฐาณพิสูจน์ คุณเคยศึกษาเหตุผลที่พวกเขามาเชื่อกันรึยังค่ะ? ทําไมชาวต่างชาติพวกนั้นต้องมาให้พวกคุณดูถูกด้วย? คริสเตียนอาสาสมัครเงินก็ไม่ได้ องการณ์นี้มีอยู่ทั่วโลก คุณเคยคิดใหมว่าทําไมพวกเค้าต้องทําถึงขนาดนี้ ? ฉันแน่ใจว่าพวกเขามีหลักฐานพร้อมจะยืนยันความเชื่อ ถ้าพวกเขาให้เกียรติ ศาสนาของคุณ คุณก็น่าจะพอใจแล้ว ไม่เห็นต้องเขียนบล็อกว่ากันเลย แล้วอีกอย่างนึง ถ้าคุณสงสัยว่าทําไมต้องเชื่อฟังพระยะโฮวา ฉันก็อยากยกตัวอย่างว่า แล้วทําไมคุณต้องเชื่อฟังพ่อแม่ล่ะ? ลองคิดดูละกันน่ะค่ะ ถ้าสงสัยก็ขอให้ศึกษาด้วยตัวเอง การศึกษาก็ไม่ต้องเสียเงินทําไมต้องซีเรียส เราไม่ได้เรี่ยไรเงินจากพวกคุณเลย แตกต่างจากองการณ์อื่น การศึกษาใช้เหตุและผล ถ้าพวกเค้าให้คุณเชื่อสิ่งที่คุณยังสงสัย คุณก็ถามเค้าซิ! ว่าทําไมพวกคุณเชื่อเรื่งนี้????

ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไปสรุปกันไม่ได้หรอกค่ะ คุณแค่ไปฟังวันเดียวแล้วมาสรุปตามความคิดตัวเอง ต้องมีหลักฐาณพิสูจน์ คุณเคยศึกษาเหตุผลที่พวกเขามาเชื่อกันรึยังค่ะ? ทําไมชาวต่างชาติพวกนั้นต้องมาให้พวกคุณดูถูกด้วย? คริสเตียนอาสาสมัครเงินก็ไม่ได้ องการณ์นี้มีอยู่ทั่วโลก คุณเคยคิดใหมว่าทําไมพวกเค้าต้องทําถึงขนาดนี้ ? ฉันแน่ใจว่าพวกเขามีหลักฐานพร้อมจะยืนยันความเชื่อ ถ้าพวกเขาให้เกียรติ ศาสนาของคุณ คุณก็น่าจะพอใจแล้ว ไม่เห็นต้องเขียนบล็อกว่ากันเลย แล้วอีกอย่างนึง ถ้าคุณสงสัยว่าทําไมต้องเชื่อฟังพระยะโฮวา ฉันก็อยากยกตัวอย่างว่า แล้วทําไมคุณต้องเชื่อฟังพ่อแม่ล่ะ? ลองคิดดูละกันน่ะค่ะ ถ้าสงสัยก็ขอให้ศึกษาด้วยตัวเอง การศึกษาก็ไม่ต้องเสียเงินทําไมต้องซีเรียส เราไม่ได้เรี่ยไรเงินจากพวกคุณเลย แตกต่างจากองการณ์อื่น การศึกษาใช้เหตุและผล ถ้าพวกเค้าให้คุณเชื่อสิ่งที่คุณยังสงสัย คุณก็ถามเค้าซิ! ว่าทําไมพวกคุณเชื่อเรื่งนี้????

คนไทยต้องใจกว้างซิ !!!! คนคิดในแง่ลบไม่ได้ทําตามคําตร้สในหลวงเลย
เสียชื่อคนไทย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ไม่เห็นจะเป็นไรเลย คนมีศาสนาและทําตามก็ดีกว่า อ้างว่ามีศาสนา(ที่จริงตั้งแต่เกิดไม่ได้เลือกเองด้วยซ้ำ) แต่ไม่ได้ทําตามคําสอน ตอนนี้เยอะแยะไป นักบวชก็เป็นตุ๊ด เป็นกระเทย ข่มขืนเด็ก โอ้ยยยยอะไรกันนักหนา ปวดหัว!!!!

พี่ยอเอิน ไม่แน่ใจว่าที่มีสามีชื่อคิมหรือปล่าว?? ฉันศึกษากับ พี่ยอ เหมือนกันค่ะ ทั้งสองก็ดีกับฉันมาก นี่แหละผู้ที่ได้รับการสอนจากพระยะโฮวา.^_^

ผู้เขียนบล็อกโปรดอ่านน่ะค่ะ

ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไปสรุปกันไม่ได้หรอกค่ะ คุณแค่ไปฟังวันเดียวแล้วมาสรุปตามความคิดตัวเอง ต้องมีหลักฐาณพิสูจน์ คุณเคยศึกษาเหตุผลที่พวกเขามาเชื่อกันรึยังค่ะ? ทําไมชาวต่างชาติพวกนั้นต้องมาให้พวกคุณดูถูกด้วย? คริสเตียนอาสาสมัครเงินก็ไม่ได้ องการณ์นี้มีอยู่ทั่วโลก คุณเคยคิดใหมว่าทําไมพวกเค้าต้องทําถึงขนาดนี้ ? ฉันแน่ใจว่าพวกเขามีหลักฐานพร้อมจะยืนยันความเชื่อ ถ้าพวกเขาให้เกียรติ ศาสนาของคุณ คุณก็น่าจะพอใจแล้ว ไม่เห็นต้องเขียนบล็อกว่ากันเลย แล้วอีกอย่างนึง ถ้าคุณสงสัยว่าทําไมต้องเชื่อฟังพระยะโฮวา ฉันก็อยากยกตัวอย่างว่า แล้วทําไมคุณต้องเชื่อฟังพ่อแม่ล่ะ? ลองคิดดูละกันน่ะค่ะ ถ้าสงสัยก็ขอให้ศึกษาด้วยตัวเอง การศึกษาก็ไม่ต้องเสียเงินทําไมต้องซีเรียส เราไม่ได้เรี่ยไรเงินจากพวกคุณเลย แตกต่างจากองการณ์อื่น การศึกษาใช้เหตุและผล ถ้าพวกเค้าให้คุณเชื่อสิ่งที่คุณยังสงสัย คุณก็ถามเค้าซิ! ว่าทําไมพวกคุณเชื่อเรื่งนี้????

แน่นอน !!!! ทุกคนอยากให้ลูกของตัวเองเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย หรือเชื่อฟังนั่นเอง เช่นเดียวกับพระยะโฮวา พระองค์ประสงค์ให้มนุษย์เชื่อฟังพระองค์ ถึงแม้หลายคนไม่อยากเชื่อฟัง หรือเบื่อที่พระยะโฮวาสอน ( เหมือนเด็ที่ไม่อยากฟังพ่อแม่สอน) พระองค์ก็ไม่บังคับ แต่หากคนที่มีลูกแล้วน่าจะเข้าใจความรู้สึกของพระองค์ดี ว่าเป็นยังไง ถ้าลูกๆเบื่อที่จะฟังพวกเค้าสอน

ถ้าคุณลองเปิดใจดูแล้_จะรู้

ผมอยากจะเล่าน่ะครับ
ผมเกิดมาในครอบครัวพยานซึ่งไม่สมบูรณ์แม่ผมศึกษาและเข้ามาเป็นพยานตอนเด็กๆแม่มีปัญหาหลายอย่างมากแต่แม่พาผมไปหอประชุมบ่อยๆส่วนมากผมก็ไปนอนไปฟังบ้างศึกษามาตั้งแต่เด็กครับรู้เรื่องนี้พอควรแต่จำข้อพระคำภีรแล้วบอกคนอื่นไม่ไหวนะ
แต่แม่ผมโดนตัดสัมพันครับแต่เขาก็ยังให้ผมไปประชุมต่อไปทุกวันอาทิตย์
บางครั้งวันศุกร์ก็ไปศึกษาด้วยครับแล้วผ่านไปนานมากแม่ผมก็กลับเข้ามาหาความจริงได้ เพราะแม่ผมรักความจริงมาก

ตัวผมก็เหมือนเดิมครับประชุมทุกครั้งไม่ขาดแต่ไม่ก้าวหหน้าเลยไม่ได้ไปประกาศด้วย ฟังคำบรรยายบางครั้งผมก็ฟังแล้วทะลุหู คงเป็นเพราะตัวผมเอง
ผมรู้ครับ ว่านี่แหล่ะทางแห่งความจริงทางเดียวนี่แหล่ะไม่มีทางอื่นอีกแล้ว ผมก็พยายามศึกษาดูหาหลักฐานทางความจริงมายืนยันความเชื่อของตัวเอง

ผมอยากนะ ที่จะสอนคนให้รู้ความจริง
แต่ผมรู้อ่ะผมรู้อยู่แล้ว ว่าพวกเค้าแทบทุกคนต้องการหลักฐาน อย่างแน่ชัดเพื่อยินยันว่าจริง เหมือนกับตอนที่พระเยซูถูกตรึงบนเสาทรมานนั่นหล่ะ ที่คนเยาเย้ยว่า ไหนล่ะถ้าท่านเป็นพระคริสจริงก็ช่วยตัวเองลงมาสิ ก็ประมานนี้หล่ะครับ
ผมว่ายากนะที่จะบอกให้เชื่อ ถ้าเขาไม่เปิดใจเพราะหมกมุ่นกับโลกมากเกินไป

ผมก็กำลังพยายามจะก้าวหน้าอยุ่อ่ะครับแต่ขามันไม่ขยับ ไม่มีความมั่นใจเลย
เพราะผมก็หมกมุ่นกับโลกอยุ่อย่างเกมสิ่งอื่นต่างๆนาๆ
ผมคิดว่าถ้าผมฝืนทำไปโดยที่ผมไม่พร้อมมัันจะล้มอ่ะครับผมเลยคิดว่าคงมีสักวันที่ความเชื่อผมจะถึงขีดสุดจนต้องกระทำออกมา

พี่น้องแต่ละคนมีความเชื่อมากมายเลยครับขอให้พี่น้องพยายามต่อๆไปเมื่อพวกท่านเห็นวันนั้นใกล้เข้ามานะครับ..หากมีเรื่องไม่สบายใจก็ปรึกษาพี่น้องได้นะครับเป็นกำลังใจให้ครับ...จากที่ผมได้ฟังประสบการณ์ของพี่น้องบางคนบางข้อความทำให้ผมน้ำตาแถบจะไหลเลยแหละครับขอให้พี่น้องออกความพยายามมากขึ้นนะครับและที่สำคัญให้พี่น้องอธิฐานขอพระยะโฮวาพระเจ้าของเราให้ทรงดูแลพี่น้องแต่ละคนด้วย.....ส่วนตัวผมเองนั้นกำลังจะได้เป็นนักเรียนพรุ่งนี้ครับวันพุท ดีใจและตื่นเต้นมาก ^ ^

ขอโทษที่มารบกวนนะคะ เห็นในนี้มีพยานหลายคนอ่ะคะ เลยจะถามว่าประชาคมของเชียงใหม่ รู้สึกว่าประตูเชียงใหม่มั้งคะอยู่ที่ไหนเอ่ย??? คือว่าศึกษาคัมภีไบเบิลค่ะ แล้วมาเรียนที่เชียงใหม่ ซึ่งพี่ที่ศึกษากับหนูดันไม่รู้จักใครเลยที่ประชาคมนี้ ช่วยหนูหน่อยนะคะ ช่วยเอาเบอร์หรือหาที่อยู่ของประชาคมประตูเชียงใหม่ให้ทีนะคะ หนูจนใจแล้วค่ะ เพราะว่าถ้าบอกเป็นที่อยู่หนูก็ไม่รู้อีกเพราะไม่ใช่คนพื้นที่พอถามคนพื้นที่ก็อธิบายมาซะงงเลย ช่วยด้วยนะ ขอบคุณจากใจจริงค่ะ
ติดต่อหนูทางนี้ได้ค่ะ mucneminzy@hotmail.com

@Musne
ผมจำได้แต่เชียงใหม่ใต้ครับ และก็เป็นทางที่ไปได้ไม่ยาก คืออย่างนี้นะครับ
ทางคุณมาจากสถานีตำรวจภูธรภาค 5
ตรงมาเรื่อยๆจนถึงสี่แยกสนามบินหรือ สี่แยก airport plaza คุณก็เลี้ยวซ้ายครับ แล้วตรงไปเลื้อยๆประมาณ 1 กม คุณจะเห็นป้ายหอประชุมอยู่ทางซ้ายมือคุณ ทางเข้าจะเป็นซอยเล็กๆ อยู่ก่อนปั๊มแก๊สครับ เจอซอยแล้วตรงเข้าไปเรื่อยๆนิดเดียวครับไม่ไกลคุณจะเห็นหอประชุมเราอยู่ทางขวามือครับผม

ผมเป็นพยานคนนึงครับ เป็นมานานแล้วด้วย

ผมอยากเตือน พี่ๆน้องๆทุกคนให้มองพวกที่สอนคุณดีๆ ก็คือคนที่ขึ้นไปสอนบนเวทีว่าเค้าเป็นแบบอย่างที่ดีกับคุณเหรอ?

คุณรู้ม้ั้ย บร.ภิเษก ทองสุข เอาเงินที่ไหนซื้่อรถสวยๆใหม่ๆขับ

คุณเคยเห็นพวกที่ขึ้นไปบรรยายบนเวทีประชุมภาค นั่งรถเมลล์มั้ย

พวกเค้าสอนพวกคุณ ให้ไม่เรียนสูง ใช้ชีวิตเรียบง่าย แล้วพวกคุณจะมีเงินซื้อบ้านซื้อรถมั้ย ก็ไม่มี


แล้วพวกเค้าหละ ทำไมมีรถ

พวกคุณรวมทั้งผมถูกล้างสมอง ในกรณีที่จริงใจนะ

แต่ผมเห็นคนที่ขึ้นไปบรรยาย และคนที่เป็นผู้ปกครอง ผู้ช่วยงานรับใช้ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำตามที่ตัวเองสอนหลอก

คุณไม่เคยแปลกใจเหรอว่า ทำไมองค์การเราไม่ค่อยมีหมอ มีวิศวะ หรือคนฉลาดๆ มาเป็น

พวกนี้ผิดเหรอที่เค้า เกิดมาเก่งครอบครัวดี การศึกษาดี เค้าผิดเหรอ

เค้าถึงไม่ได้มาเป็นพยาน

ถ้าพวกคุณไม่โง่้ และเปิดใจจริงๆก็จะพบว่ามันมีอะไรแปลกอีกเยอะ

แต่ถ้าพวกคุณโง่ และต้องการปล่อยให้ใครไม่รู้ ที่เค้าบอกว่า ได้รับการเจิม มาคอยชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ให้คุณทำตาม


ซึ่งคุณเองก็ไม่ได้รู้จักฝรั่งแก่ๆที่อยู่นิวยอร์ค นั้นเป็นการส่วนตัวซะหน่อย

พวกคุณอยากเชื่อก็ตามใจ

เขียนมาให้ได้คิดก็เท่านั้นครับ

ขอบคุณที่เตือนนะคุณ พยานคนหนึ่ง ผมสงสัยอะไรบางอย่าง ทำไมคุณถึงมองด้านวัตถุ เช่น รถครับ บร.ภิเษก เค้าจะมีรถแล้วมันเกี่ยวอะไร บางทีเค้าอาจจะได้รับบริจาคจากพี่น้องคนอื่นก็ได้ เพราะพวกเค้าทำงาน ต้องเดินหมวดหรือทำอะไรที่ต้องลำบาก มันก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอที่เค้าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ใช่ในการรับใช่ ส่วนผู้ช่วยงานรับใช่ที่คุณว่าหรือผู้ปกครองที่คุณว่าพวกเค้าไม่ได้ทำตามที่ตัวเองสอน คุณอย่าลืมสิว่าเราเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์นะจะให้ทำอะไรแล้ว Perfect ไปหมดไม่มีวันเป็นได้ หรือว่าตั้งแต่คุณเกิดมาคุณไม่เคยทำผิดเลยหรือไง? แล้วที่ว่าพยานถูกล้างสมองนะ ผมว่าคุณทำผิดอะไรหรือเปล่า ถูกตัดสัมพันธ์หรือเปล่า ถึงได้พูดออกมาแบบนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ขอให้พิจารณานิสัยตัวใหม่นะครับ แล้วที่ว่าองค์การเราทำถึงไม่มีวิศวะกรหรือหมอหรือคนฉลาดๆ ที่จริงมีเยอะออก ที่เชียงใหม่ก็มี แต่ไม่ขอบอกว่ามีใครบ้าง ที่จริงพวกเเค้าเหล่านั้นไม่ผิดหรอก ใครบอกว่าพวกเค้าผิด พวกเค้าจะเกิดมารวยก็ไม่มีใครผิด อย่าลืมสิพระคัมภีร์ไม่ได้ห้ามให้เราศึกษาสูงๆ แล้วที่จริงคุณบอกว่าให้เราลองเปิดใจดูแล้วจะพบอะไรแปลกอีกเยอะ ผมว่าผมเจอแล้วครับ คือ ทุกอย่างที่พระเจ้าทรงพยากรณ์ไว้กำลังสำเร็จเป็นจริง และจะมีผู้ออกหากค่อยสอนเรื่องเท็จอยู่ ที่จริงเรื่องการรู้จักผู้เจิม เมื่อคุณรู้จักกับเค้าเป็นการส่วนตัวแล้วจะได้อะไรครับ พวกเค้าก็เป็นมนุษย์เหมือนเรานะ มีทุกอย่างเหมือนเรา อย่าลืมเรื่องสาวกของพระเยซูสิ ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร แต่ที่เราเชื่อฟังพวกเค้าเพราะเราแสดงความถ่อมใจและย่อมเชื่อฟังพวกเค้าด้วยใจถ่อมต่างหาก
ใช้แล้วครับ พวกเราอยากเชื่อ เพราะนี้คือความจริง นี้คือทางแคบที่จะนำไปสู่ชีวิต
ขอบคุณที่เขียนมาเตือนนะครับ

ผมขอตอบและถาม 2 เรื่องก่อนนะครับ

ขอตอบว่าผมไม่ได้ถถูกตัดสัมพันธ์

และขอถามว่าหมอ วิศวะ หรือ คนฉลาดๆที่คุณว่า มีกี่คนที่คุณว่าๆมีเยอะ

แต่ก่อน เคยมี หมอธันวา ที่กรุงเทพ เค้าเลิกมาประชุมตั้งนานแล้ว

และมีหมอฟัน นพคุณ ก็เลิกมาประชุมแล้ว เป็นผู้ปกครองด้วยนะครับ

คุณบอกว่าพระคัมภีร์ ไม่ได้ห้ามเราเรียนสูงๆ

คุณเพิ่งเป็พยานเหรอครับ หรือนั่งหลับในการประชุม ภาค ประชุมหมวด

ระยะหลังๆมานี้ ผู้บรรยาย เช่นผู้ดูแลหมวด ต่างไม่สนับสนุนการเรียนหนังสือสูงๆทั้งนั้น รวมถึงแสวงหาเงินทองด้วย

คุณเคยฟังรึป่าว

แปลกใจจริงๆที่คุณเป็นพยานแต่ไม่รู้เรื่องนี้

พวกคุณไม่มีทางรู้โลกภายนอกหรอกครับ

เพราะถูกปิดหูปิดตา

แต่ซักวันนึง ซึ่งก็คงอีกไม่นาน สิ่งเหล่านั้นก็ต้องเกิดขึ้น

เพราะเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดนั่นเอง

คุณเคยรู้มั้ย ในอดีต คุณกรรมการปกครอง ชื่อ Remond Franz หลานของอดีตนายกสามาคม

ได้ลาออกจากองค์การไป เพราะเค้าไม่เห็นด้วยกับหลักคำสอน และพฤติกรรมของคณะกรรมการปกครองด้วยกันเอง


พวกคุณไม่รู้เรื่องพวกนี้กันหรอกครับ เพราะเค้าบังคับคุณว่าห้ามฟังเรื่องอื่นๆจากคนอื่นๆที่เห็นต่าง

ถ้าทุกคนใช่หลักการนี้กันหมด ก็จะไม่มีใครมาเป็นพยานจริงมั้ยครับ

เพราะทุกคนก็จะกลัวที่จะฟังคำสอนใหม่ๆ หรือความเห็นต่างจากที่ตัวเองเคยนับถือ

ผมรู้สึกแปลกใจถึงการพยายามปิดหูปิดตาขนาดนั้น

แต่อีกไม่นานหรอกครับ

ความจริงความเห็นต่างก็จะมีชัยชนะ

เพราะอะไรถูกก็คือถูกอะไรผิดก็คือผิดวันยังค่ำปิดไม่ได้หรอกครับ

จริงๆผมไม่อยากพูดมากเพราะผมไม่อยากถูกตัดสัมพันธ์

เนื่องจากหลงเข้ามาอยู่ในนี้แล้ว

ครอบครัวผมก็เป็นพยาน

ลองคิดดูถ้าเกิดผมแฉ มากๆ ผมถูกบอกว่าแบบนี้พวกออกหาก ถูกตัดสัมพันธ์

แล้วผมกับครอบครัวรวมทั้งๆเพื่อนที่เป็นพยานฯ จะคุยกันก็ไม่สะดวกเหมือน

มันเป็นกฎเหล็กที่ไว้ข่มขู่ เพื่อให้คนอยู่ในโอวาท

เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นพยานอีก

เวลาผมออกประกาศก็เพื่อส่งรายงาน แต่ผมไม่อยากให้ใครเข้ามาเป็นพยาน

นอกจากคนที่มีปัญหาชีวิตจริงๆอันนั้นโอเค แต่คนที่มีความสุขอยู่แล้วอย่ามา เพราะคุณจะใช้ชีวิตลำบากมากขึ้นแน่ๆ

เพิ่มอีกนิดนึง คุณบอกว่าคุณเชื่อว่านี่คือความจริง แล้วคุณรุ้ได้ยังไงว่ามันคือความจริง

ในเมื่อตั้งแต่คุณมาเป็นพยาน คุณก็ปิดรับความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับคำสอนของคุณทั้งหมด

ดังนั้นถ้าเกิดพวกอิสลาม เค้าบอกแบบคุณบ้าง ว่าเค้าเชื่อว่าเค้าพบความจริงแล้วเค้าก็ไม่มีทางเปลี่ยนมาเป็นพยานจริงมั้ยครับ



หรือถ้าไม่มีคนอย่าง C T รัสเซล ผู้ก่อตั้งพยาน ที่ค้นคว้า และบอกว่า สิ่งที่คนสมัยนั้นเชื่อกันไม่เป็นความจริง

ถ้าซีที รัสเซล กลัวผู้นำศาสนาในสมัยนั้น แล้วก็ปิดหูปิดตาตัวเอง ไม่รับไม่ฟังเรื่องอื่นๆใดที่ขัดแย้ง ก็คงไม่ได้มาเป็นผู้ตั้งกลุ่มพยานฯจริงมั้ยครับ

จริงๆซีที รัสเซล ก็คือผู้ออกหาก ของคริสเตียนโบสถ์ในอดีตนั่นเอง



ในสมัยนี้เช่นกัน คณะกรรมการปกครองพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาอธิพลครอบงำไว้ ปิดหูปิดตา และไม่ให้ฟังคนที่คิดเห็นต่างใดๆทั้งสิ้น

แบบนี้มีเหตุผลมั้ยครับ ลองคิดดูดีๆนะ

คำสอนบางอย่างก็ไม่สมเหตุสมผล

เช่นพยาน เราสอนว่า เวลาใกล้หมดแล้ว เราต้องประกาศอย่างเร่งด่วน

เพราะผู้คนจะตายถ้าไม่รู้ความจริงและกลับใจ

แต่ผมถามว่า แล้วที่สอนว่า คนที่ไม่เคยได้เรียนความจริงจะถูกปลุกขึ้นมาเรียนหละจะว่ายังไง

แบบนี้มันเร่งด่วนตรงไหน

อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างนะครับ

ทำไมถึงต้องสอนว่าเร่งด่วน

ตอนนี้ผมมานั่งคิดดูและพบว่า ถ้ามาสอนว่าเร่งด่วน พยานฯก็จะเพิ่งขึ้นช้ามาก ขนาดสอนว่าเร่งด่วน ผมดูพี่น้องก็ไม่เห็นเร่งกันซักเท่าไหร่

ถ้าบอกว่าไม่เร่งหรอกถ้าประกาศไม่หมดพระเจ้ายุติธรรม ก็ต้องให้โอกาสคนไม่เคยได้ยินอยู่แล้ว จะเป็นยังไง



การสอนว่าเร่งด่วนมีมาตั้งแต่สมัยนายกสมาคมคนที่ 2 แล้วนะครับ เจเอฟรัทเทอร์ ฟอร์ด กล่าวว่า หลายล้านคนในเวลานี้(คือเวลานั้นนะครับ) จะไม่ตายเลย

จนถึงตอนนี้คนที่ยังไม่ตาย คงเหลือจำนวนพอนับได้แล้วหละครับ ไม่ได้มีเป็นล้านอย่างที่คุยหรอกครับ



จนมาถึงตอนผมเป็นเด็กเค้าก็สอนอีกว่าจะมาแล้ว คนที่เห็น 1914 จะไม่ตายหมดก่อนที่อามาเก็ดดอนจะมา อีก 2 ปีก็จะครบ 100 ปีแล้วนะครับ

ผมว่าเหลือไม่เกิน 20 คนแล้วหละครับที่เป็นพยานนะครับ คิดว่าไม่น่าเกิน 5 คนด้วยซ้ำ

เค้าจึงต้องเปลี่ยนคำสอนใหม่เป็นคนร่วมสมัยไงครับ

ตาสว่างขึ้นรึป่าวครับ


ทีนี้ถ้าพระเจ้าอยู่เบื้องหลังจริง

ทำไมจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงคำสอน

พระเจ้าตรัสแล้วก็ตรัสเลย

ย่อมแสดงว่าคำสอนเป็นความคิดของมนุษย์จริงมั้ยครับ

ในเมื่อคำสอนหลักๆ ยังเป็นคำสอนของมนุษย์ (เพราะเปลี่ยนแปลงได้)เช่นคำสอนเรื่อง ปี1914 ที่กล่าวไปว่าคนที่เห็นเหตุการณ์นั้นจะไม่ตามหมดก่อนที่อามาเก็ดดอนจะมา

แล้วคำสนอธรรมดาๆ เรื่องอื่นๆที่อยู่ตามสรรพหนังสือ ตามวรสาร เราจะเชื่อได้แค่ไหนกัน

เมื่อไม่นานมานี้ มีสิ่งนึงที่เป็นโปรโมชั่นคือ สามารถเป็นไพโอเนียร์สมทบแบบ 30 ชั่วโมง

พี่น้องที่อธิฐานนำใน หอประัชุมอธิษฐานว่า

ขอบคุณพระยะโฮวาที่ ประทานสิ่งนี้มาให้


คุณเห็นอะไรมั้ย มนุษย์เป็นคนคิดเรื่องนี้ขึ้น

แต่พวกเราพวกพยานฯถือว่าพระเจ้าเป็นผู้ประทานให้

ดังนั้นพูดให้ถูกก็คือ คณะกรรมการปกครองทำอะไร เราถือว่าพระเจ้าเป็นผู้ทำ


แล้วพวกคำสัญญาต่างๆที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจะว่ายังไงครับ

ลองตอบหน่อย

พระเจ้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหรอ

หรือว่าที่แท้แล้วไม่เกี่ยวกับพระเจ้ากันแน่

สรุปส่งท้ายช่วงนี้

ถ้ามีพระเจ้าพระยะโฮวาผู้เ้ปลี่ยนด้วยความเมตตา ที่อยู่เบื้องหลังองค์การพยานพระยะโฮวาจริง

ทำไมคนทั่วโลกมีถึง 6,000 ล้านคน

จึงมีพยานเพียง 8 ล้านคน ที่เหลือเค้าเป็นคนไม่ดีที่ต้องถูกทำลายเหรอเป็นไปได้เหรอครับลองคิดดูสิ

ผมเป็นพยานฯมาเกือบ 20 ปีและตั้งใจฟังการประชุมเสมอนะครับ อยากยืนยันตรงนี้ด้วย

ขอบคุณที่บอกกล่าว

คุณพยานในเชียงใหม่ ลองไปถามผู้ปกครองดูนะครับ ว่าองค์การเราไม่สนับสนุนให้เรียนสูงและให้หาเงินหาทองให้รวยๆใช่หรือไม่

ถ้าเค้าบอกว่าใช่ แล้วลองถามเค้าดูว่าแล้วเราจะมีเงินซื้อรถ ซื้อบ้านได้อย่างไร ให้เค้าตอบดู

และถ้าไม่มีเงินมีทองร่ำรวย องค์การพยานพระยะโฮวาจะเกิดขึ้นหรือไม่


ลองดู DVD ออกจากความมืดสู่ความสว่างแผ่นที่1 ได้

ว่าผู้ก่อตั้งซีที รัสเซล ประสบความสำเร็จในธุรกิจ เป็นคนร่ำรวยมีเงินมีทองเหลือเฟือ และขายธุรกิจ

แล้วเอาเงินมาลงด้านศาสนา จึงได้เป็นผู้นำ

ถ้าไม่มีเงินจะทำแบบนั้นได้เหรอ

แต่ก่อนหอสังเกตณ์ปลายปีจะมีลงค่าใช้จ่ายในการดูแลพี่น้องมิสชันนารี และบ้านเบเธลทั่วโลก ใช่เงินประมาณ 1,000 ล้านบาท ต่อปีนะครับ ถ้าองค์การไม่ร่ำรวย จะจ่ายเงินต่อปีเท่านี้ได้เหรอ

สงสารคนที่จริงใจ เด็กหนุ่มๆสาวๆที่จริงใจ จะเสียโอกาสเสียอนาคต ดีใจที่หลายๆคนก็ไม่ได้ทำตามองค์การสอนเพราะก็เห็นใครมีเงินก็ส่งลูกเรียนจบสูงทุกคน

การทรงสร้าง
1:1 ในเริ่มแรกนั้นพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดินโลก
1:2 แผ่นดินโลกนั้นก็ปราศจากรูปร่างและว่างเปล่าอยู่ ความมืดอยู่เหนือผิวน้ำ และพระวิญญาณของพระเจ้าปกอยู่เหนือผิวน้ำนั้น

วันที่หนึ่งปรากฏมีความสว่างเกิดขึ้น
1:3 พระเจ้าตรัสว่า “จงให้มีความสว่าง” แล้วความสว่างก็เกิดขึ้น
1:4 พระเจ้าทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี และพระเจ้าทรงแยกความสว่างนั้นออกจากความมืด
1:5 พระเจ้าทรงเรียกความสว่างนั้นว่าวัน และพระองค์ทรงเรียกความมืดนั้นว่าคืน มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่หนึ่ง

วันที่สองมีเมฆปรากฏอยู่เหนือผิวน้ำนั้น
1:6 พระเจ้าตรัสว่า “จงให้มีพื้นอากาศในระหว่างน้ำ และจงให้พื้นอากาศนั้นแยกน้ำออกจากน้ำ”
1:7 พระเจ้าทรงสร้างพื้นอากาศ และทรงแยกน้ำซึ่งอยู่ใต้พื้นอากาศจากน้ำซึ่งอยู่เหนือพื้นอากาศ ก็เป็นดังนั้น
1:8 พระเจ้าทรงเรียกพื้นอากาศว่าฟ้า มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่สอง

วันที่สามปรากฏว่ามีทะเล แผ่นดินและพืชพันธุ์ต่างๆ
1:9 พระเจ้าตรัสว่า “จงให้น้ำที่อยู่ใต้ฟ้ารวบรวมเข้าอยู่แห่งเดียวกัน และจงให้ที่แห้งปรากฏขึ้น” ก็เป็นดังนั้น
1:10 พระเจ้าทรงเรียกที่แห้งว่าแผ่นดิน และที่น้ำรวบรวมเข้าอยู่แห่งเดียวกันว่าทะเล พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
1:11 พระเจ้าตรัสว่า “จงให้แผ่นดินเกิดต้นหญ้า ต้นผักที่มีเมล็ด และต้นไม้ที่ออกผลที่มีเมล็ดในผลตามชนิดของมันบนแผ่นดิน” ก็เป็นดังนั้น
1:12 แผ่นดินก็เกิดต้นหญ้า ต้นผักที่มีเมล็ดตามชนิดของมัน และต้นไม้ที่ออกผลที่มีเมล็ดในผลตามชนิดของมัน พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
1:13 มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่สาม

วันที่สี่ปรากฏมีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวต่างๆ
1:14 พระเจ้าตรัสว่า “จงให้มีดวงสว่างบนพื้นฟ้าอากาศเพื่อแยกวันออกจากคืน และเพื่อใช้เป็นหมายสำคัญ และที่กำหนดฤดู วันและปีต่างๆ
1:15 และจงให้เป็นดวงสว่างบนพื้นฟ้าอากาศเพื่อส่องสว่างบนแผ่นดินโลก” ก็เป็นดังนั้น
1:16 พระเจ้าได้ทรงสร้างดวงสว่างใหญ่สองดวง ให้ดวงสว่างที่ใหญ่กว่านั้นครองกลางวัน และให้ดวงที่เล็กกว่าครองกลางคืน พระองค์ทรงสร้างดวงดาวต่างๆด้วยเช่นกัน
1:17 พระเจ้าทรงตั้งดวงสว่างเหล่านี้ไว้บนพื้นฟ้าอากาศเพื่อส่องสว่างบนแผ่นดินโลก
1:18 เพื่อครองกลางวันและครองกลางคืน และเพื่อแยกความสว่างออกจากความมืด พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
1:19 มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่สี่

วันที่ห้าปรากฏมีนกชนิดต่างๆและสัตว์ทะเลนานาชนิด
1:20 พระเจ้าตรัสว่า “จงให้น้ำอุดมบริบูรณ์ไปด้วยสัตว์ที่มีชีวิตแหวกว่ายไปมา และให้มีนกบินไปมาบนพื้นฟ้าอากาศเหนือแผ่นดินโลก”
1:21 พระเจ้าได้ทรงสร้างปลาวาฬใหญ่ บรรดาสัตว์ที่มีชีวิตแหวกว่ายไปมาตามชนิดของมันเกิดขึ้นบริบูรณ์ในน้ำนั้น และบรรดาสัตว์ที่มีปีกตามชนิดของมัน พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
1:22 พระเจ้าได้ทรงอวยพรสัตว์เหล่านั้นว่า “จงมีลูกดกและทวีมากขึ้น ให้น้ำในทะเลบริบูรณ์ไปด้วยสัตว์ และจงให้นกทวีมากขึ้นบนแผ่นดิน”
1:23 มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่ห้า

วันที่หกปรากฏมีสัตว์บกและแมลงนานาชนิด
1:24 พระเจ้าตรัสว่า “จงให้แผ่นดินโลกเกิดสัตว์ที่มีชีวิตตามชนิดของมัน สัตว์ใช้งาน สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ป่าแห่งแผ่นดินตามชนิดของมัน” ก็เป็นดังนั้น
1:25 พระเจ้าได้ทรงสร้างสัตว์ป่าแห่งแผ่นดินตามชนิดของมัน สัตว์ใช้งานตามชนิดของมัน และบรรดาสัตว์ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดินโลกตามชนิดของมัน แล้วพระเจ้าทรงเห็นว่าดี

วันที่หกปรากฏมีชายหญิงคู่แรก
1:26 และพระเจ้าตรัสว่า “จงให้พวกเราสร้างมนุษย์ตามแบบฉายาของพวกเรา ตามอย่างพวกเรา และให้พวกเขาครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศ และสัตว์ใช้งาน ให้ครอบครองทั่วทั้งแผ่นดินโลก และบรรดาสัตว์เลื้อยคลานที่คลานไปมาบนแผ่นดินโลก”
1:27 ดังนั้นพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ตามแบบพระฉายาของพระองค์ พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามแบบพระฉายาของพระเจ้า พระองค์ได้ทรงสร้างพวกเขาให้เป็นชายและหญิง
1:28 พระเจ้าได้ทรงอวยพรพวกเขา และพระเจ้าตรัสแก่พวกเขาว่า “จงมีลูกดกและทวีมากขึ้น จนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดินนั้น และครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศ และบรรดาสัตว์ที่มีชีวิตที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดินโลก”
1:29 พระเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด เราให้บรรดาต้นผักที่มีเมล็ดซึ่งอยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก และบรรดาต้นไม้ซึ่งมีเมล็ดในผลแก่เจ้า ให้เป็นอาหารแก่เจ้า
1:30 สำหรับบรรดาสัตว์ป่าแห่งแผ่นดิน บรรดานกในอากาศ และบรรดาสัตว์ที่เลื้อยคลานที่มีชีวิตบนแผ่นดินโลก เราให้บรรดาพืชผักเขียวสดเป็นอาหาร” ก็เป็นดังนั้น
1:31 พระเจ้าทอดพระเนตรบรรดาสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้าง และดูเถิด เป็นสิ่งที่ดียิ่งนัก มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่หก

ยาโคบเผชิญหน้ากับเอซาว
32:1 ยาโคบก็เดินทางไปแล้วเหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าพบเขา
32:2 เมื่อยาโคบเห็นทูตสวรรค์เหล่านั้นเขาจึงว่า “นี่เป็นกองทัพของพระเจ้า” เขาจึงเรียกสถานที่นั้นว่า มาหะนาอิม
32:3 ยาโคบส่งผู้สื่อสารหลายคนล่วงหน้าไปหาเอซาวพี่ชายของตนที่แผ่นดินเสอีร์ที่เมืองเอโดมตั้งอยู่
32:4 และสั่งเขาว่า “จงไปบอกเอซาวนายของเราว่า ยาโคบผู้รับใช้ของท่านกล่าวดังนี้ ‘ข้าพเจ้าไปอาศัยอยู่กับลาบันจนบัดนี้
32:5 ข้าพเจ้ามีฝูงวัว ฝูงลา ฝูงแพะแกะ มีคนใช้ชายหญิง ข้าพเจ้าใช้คนมาเรียนนายของข้าพเจ้าเพื่อข้าพเจ้าจะได้รับความกรุณาในสายตาของท่าน’”
32:6 ผู้สื่อสารนั้นกลับมาบอกยาโคบว่า “ข้าพเจ้าไปพบเอซาวพี่ชายของท่านแล้ว เขากำลังจะมาพบท่านด้วย มีพวกผู้ชายมากับเขาสี่ร้อยคน”
32:7 ยาโคบมีความกลัวและเป็นทุกข์ยิ่งนัก เขาจึงแบ่งคนทั้งหลายที่มาด้วยเขา และฝูงแพะแกะ ฝูงวัว ฝูงอูฐ ออกเป็นสองพวก
32:8 คิดว่า “ถ้าเอซาวมาตีพวกหนึ่ง อีกพวกหนึ่งที่เหลือจะหนีไปได้”

ยาโคบถ่อมใจลงขอพระเจ้าทรงช่วยเขาให้รอดพ้น
32:9 ยาโคบอธิษฐานว่า “โอ พระเจ้าของอับราฮัมปู่ของข้าพระองค์ และพระเจ้าของอิสอัคบิดาของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ผู้ตรัสสั่งข้าพระองค์ไว้ว่า ‘กลับไปยังแผ่นดินและยังญาติพี่น้องของเจ้า และเราจะกระทำการดีแก่เจ้านั้น’
32:10 ข้าพระองค์ไม่สมควรจะรับบรรดาพระกรุณาและความจริงแม้เล็กน้อยที่สุด ที่พระองค์ได้ทรงโปรดสำแดงแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ ด้วยว่าข้าพระองค์ข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้เมื่อมีแต่ไม้เท้า และบัดนี้ข้าพระองค์มีผู้คนเป็นสองพวก
32:11 ขอพระองค์ทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากเงื้อมมือพี่ชายข้าพระองค์ คือจากเงื้อมมือของเอซาว เพราะข้าพระองค์กลัวเขา เกรงว่าเขาจะมาตีข้าพระองค์ ทั้งมารดากับลูกด้วย
32:12 และพระองค์ตรัสไว้แล้วว่า ‘เราจะกระทำการดีแก่เจ้าเป็นแน่ และทำให้เชื้อสายของเจ้าดุจเม็ดทรายที่ทะเล ซึ่งจะมากมายจนนับไม่ถ้วน’”

ยาโคบส่งฝูงสัตว์ให้เอซาว
32:13 คืนวันนั้นยาโคบพักอยู่ที่นั่นและคัดเอาของที่มีอยู่นั้นให้เป็นของกำนัลแก่เอซาวพี่ชายของตน
32:14 คือแพะตัวเมียสองร้อย แพะตัวผู้ยี่สิบ แกะตัวเมียสองร้อย และแกะตัวผู้ยี่สิบ
32:15 อูฐแม่ลูกอ่อนสามสิบกับลูกวัวตัวเมียสี่สิบ วัวตัวผู้สิบ ลาตัวเมียยี่สิบ และลูกลาสิบ
32:16 ยาโคบมอบสิ่งเหล่านี้ไว้ในความดูแลของคนใช้ แต่ละฝูงอยู่ต่างหาก และสั่งพวกคนใช้ว่า “ล่วงหน้าไปก่อนเรา และให้หมู่สัตว์นี้เว้นระยะห่างกันหน่อย”
32:17 ยาโคบสั่งหมู่ที่ขึ้นหน้าว่า “เมื่อเอซาวพี่ชายของเรามาพบเจ้าและถามเจ้าว่า ‘เจ้าเป็นคนของใคร เจ้าไปไหน และของที่อยู่ข้างหน้าเจ้านี้เป็นของใคร’
32:18 เจ้าจงตอบว่า ‘ของเหล่านี้เป็นของยาโคบผู้รับใช้ของท่าน เป็นของกำนัลส่งมาให้เอซาวนายของข้าพเจ้า และดูเถิด ยาโคบตามมาข้างหลัง’”
32:19 ยาโคบสั่งหมู่ที่สองและหมู่ที่สาม และบรรดาผู้ที่ติดตามหมู่เหล่านั้นทำนองเดียวกันว่า “เมื่อเจ้าพบเอซาว จงกล่าวแก่เขาเช่นเดียวกัน
32:20 และเสริมว่า ‘ดูเถิด ยาโคบผู้รับใช้ของท่านกำลังตามมาข้างหลังพวกเรา’” เพราะยาโคบคิดว่า “ข้าจะระงับความโกรธของเอซาวได้ด้วยของกำนัลที่ส่งล่วงหน้าไป และภายหลังข้าจะเห็นหน้าเขา บางทีเขาจะยอมรับข้า”
32:21 ดังนั้น ของกำนัลต่างๆจึงล่วงหน้าไปก่อนเขา ส่วนตัวเขาคืนนั้นยังค้างอยู่ในค่าย

ยาโคบปล้ำสู้กับทูตสวรรค์ของพระเจ้าและชนะ
32:22 กลางคืนนั้นเอง ยาโคบก็ลุกขึ้น พาภรรยาทั้งสอง สาวใช้ทั้งสองและบุตรชายสิบเอ็ดคนข้ามลำธารชื่อยับบอกไป
32:23 ยาโคบส่งครอบครัวข้ามลำธารไป และส่งของทั้งหมดของตนข้ามไปด้วย
32:24 ยาโคบอยู่ที่นั่นแต่ผู้เดียว มีบุรุษผู้หนึ่งมาปล้ำกับเขาจนเวลารุ่งสาง
32:25 เมื่อบุรุษผู้นั้นเห็นว่าจะเอาชนะยาโคบไม่ได้ ก็ถูกต้องที่ข้อต่อสะโพกของยาโคบ ข้อต่อสะโพกของยาโคบก็เคล็ด เมื่อปล้ำสู้กันอยู่นั้น
32:26 บุรุษนั้นจึงว่า “ปล่อยให้เราไปเถิดเพราะใกล้สว่างแล้ว” แต่ยาโคบตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ท่านไป นอกจากท่านจะอวยพรแก่ข้าพเจ้า”
32:27 บุรุษผู้นั้นจึงถามยาโคบว่า “เจ้าชื่ออะไร” ยาโคบตอบว่า “ข้าพเจ้าชื่อยาโคบ”

ทรงเปลี่ยนชื่อ ยาโคบ มาเป็น อิสราเอล
32:28 บุรุษนั้นจึงว่า “เขาจะไม่เรียกเจ้าว่ายาโคบต่อไป แต่จะเรียกว่า อิสราเอล เพราะเจ้าเหมือนเจ้าชายได้สู้กับพระเจ้าและมนุษย์ และได้ชัยชนะ”
32:29 ยาโคบจึงถามบุรุษผู้นั้นว่า “ขอท่านบอกข้าพเจ้าว่าท่านชื่ออะไร” แต่บุรุษนั้นกล่าวว่า “เหตุไฉนเจ้าจึงถามชื่อเรา” แล้วก็อวยพรยาโคบที่นั่น
32:30 ยาโคบจึงเรียกสถานที่นั้นว่า เปนีเอล กล่าวว่า “เพราะข้าพเจ้าได้เห็นพระพักตร์พระเจ้า แล้วยังมีชีวิตอยู่”
32:31 เมื่อยาโคบผ่านเปนูเอล ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วเขาเดินโขยกเขยกไป
32:32 เหตุฉะนี้ คนอิสราเอลจึงไม่กินเส้นเอ็นที่สะโพก ซึ่งอยู่ที่ข้อต่อสะโพกนั้นจนทุกวันนี้ เพราะพระองค์ทรงถูกต้องข้อต่อสะโพกของยาโคบตรงเส้นเอ็นที่สะโพก

11:17 เหตุฉะนั้น ถ้าพระเจ้าได้ทรงโปรดประทานของประทานแก่เขาเหมือนแก่เราทั้งหลาย ผู้ที่ได้เชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้า ข้าพเจ้าเป็นผู้ใดเล่าที่จะขัดขืนพระเจ้าได้”

กิจการ11:17 เหตุฉะนั้น ถ้าพระเจ้าได้ทรงโปรดประทานของประทานแก่เขาเหมือนแก่เราทั้งหลาย ผู้ที่ได้เชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้า ข้าพเจ้าเป็นผู้ใดเล่าที่จะขัดขืนพระเจ้าได้”

กิจการ5:29 ฝ่ายเปโตรกับอัครสาวกอื่นๆตอบว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายจำต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์
5:30 พระเยซูซึ่งท่านทั้งหลายได้ฆ่าเสียโดยแขวนไว้ที่ต้นไม้นั้น พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเราได้ทรงบันดาลให้เป็นขึ้นมาใหม่
5:31 พระเจ้าได้ทรงตั้งพระองค์ไว้ด้วยพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ให้เป็นเจ้าชาย และองค์พระผู้ช่วยให้รอด เพื่อจะให้ชนอิสราเอลกลับใจใหม่ แล้วจะทรงโปรดยกความผิดบาปของเขา
5:32 เราทั้งหลายจึงเป็นพยานของพระองค์ถึงเรื่องเหล่านี้ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระเจ้าได้ทรงประทานให้ทุกคนที่เชื่อฟังพระองค์นั้นก็เป็นพยานด้วย”
5:33 เมื่อเขาทั้งหลายได้ยินอย่างนี้ ก็รู้สึกบาดใจ คิดกันว่าจะฆ่าพวกอัครสาวกเสีย

กามาลิเอลเข้าขัดขวางทำให้พวกอัครสาวกไม่ถูกฆ่าตาย
5:34 แต่คนหนึ่งชื่อกามาลิเอลเป็นพวกฟาริสี และเป็นธรรมาจารย์ฝ่ายพระราชบัญญัติ เป็นที่นับถือของประชาชน ได้ยืนขึ้นในสภาแล้วสั่งให้พาพวกอัครสาวกออกไปเสียภายนอกครู่หนึ่ง
5:35 ท่านจึงได้กล่าวแก่เขาว่า “ท่านชนชาติอิสราเอล ซึ่งท่านหวังจะทำแก่คนเหล่านี้ จงระวังตัวให้ดี
5:36 เมื่อคราวก่อนมีคนหนึ่งชื่อธุดาสอวดตัวว่าเป็นผู้วิเศษ มีผู้ชายติดตามประมาณสี่ร้อยคน แต่ธุดาสถูกฆ่าเสีย คนทั้งหลายซึ่งได้เชื่อฟังเขาก็กระจัดกระจายสาบสูญไป
5:37 ภายหลังผู้นี้มีอีกคนหนึ่งชื่อยูดาสเป็นชาวกาลิลี ได้ปรากฏขึ้นในคราวจดบัญชีสำมะโนครัว และได้เกลี้ยกล่อมผู้คนให้ติดตามตัวไปเป็นอันมาก ผู้นั้นก็พินาศด้วย และคนทั้งหลายที่ได้เชื่อฟังเขาก็กระจัดกระจายไป
5:38 +ในกรณีนี้ ข้าพเจ้าจึงว่าแก่ท่านทั้งหลายว่า จงปล่อยคนเหล่านี้ไปตามเรื่อง อย่าทำอะไรแก่เขาเลย เพราะว่าถ้าความคิดหรือกิจการนี้มาจากมนุษย์ก็จะล้มละลายไปเอง
5:39 แต่ถ้ามาจากพระเจ้า ท่านทั้งหลายจะทำลายเสียก็ไม่ได้ เกลือกว่าท่านกลับจะเป็นผู้สู้รบกับพระเจ้า”+

สาวกที่ถูกข่มเหงยังคงยินดีและเป็นพยานฝ่ายพระคริสต์
5:40 เขาทั้งหลายจึงยอมเห็นด้วยกับกามาลิเอล

คุณด้วยเราคือ เยโฮวาห์ ไม่ได้เป็นพยานแล้วมาโพสทำไมเหรอครับ

งง

ที่ผมรู้เพราะพยานไม่ทำแบบนี้เหรอกครับ

โยบ1:1 มีชายคนหนึ่งในแผ่นดินอูส ชื่อโยบ ชายคนนั้นเป็นคนดีรอบคอบและเที่ยงธรรม เป็นผู้เกรงกลัวพระเจ้าและหันเสียจากความชั่วร้าย
1:2 ท่านให้กำเนิดบุตรชายเจ็ดคนและบุตรสาวสามคน
1:3 ส่วนสัตว์เลี้ยงของท่าน มีแกะเจ็ดพันตัว อูฐสามพันตัว วัวห้าร้อยคู่ และลาตัวเมียห้าร้อยตัว และท่านมีคนใช้มากมาย ดังนั้นชายผู้นี้จึงใหญ่โตที่สุดในบรรดาชาวตะวันออก
1:4 บุตรชายของท่านเคยจัดการเลี้ยงในบ้านของแต่ละคนตามวันกำหนดของตน เขาจะใช้ให้ไปเชิญน้องสาวทั้งสามคนของเขามารับประทานและดื่มกับเขาด้วย
1:5 และเมื่อการเลี้ยงเวียนครบรอบแล้ว โยบจะใช้ให้ไปทำพิธีชำระตัวเขาทั้งหลายให้บริสุทธิ์ และท่านจะตื่นแต่เช้ามืด ถวายเครื่องเผาบูชาตามจำนวนของเขาทั้งหมด เพราะโยบกล่าวว่า “ชะรอยบุตรชายของข้าพเจ้าได้กระทำบาป และแช่งพระเจ้าอยู่ในใจของเขา” โยบกระทำดังนี้เรื่อยมา

ซาตานฟ้องว่าโยบรับใช้พระเจ้าเพราะรักความมั่งคั่ง
1:6 อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้ามารายงานตัวต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ซาตานได้มาในหมู่เขาด้วย
1:7 พระเยโฮวาห์ตรัสถามซาตานว่า “เจ้ามาจากไหน” ซาตานทูลตอบพระเยโฮวาห์ว่า “จากไปๆมาๆอยู่บนแผ่นดินโลก และจากเดินขึ้นเดินลงบนนั้น”
1:8 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับซาตานว่า “เจ้าได้ไตร่ตรองดูโยบผู้รับใช้ของเราหรือไม่ ว่าในแผ่นดินโลกไม่มีใครเหมือนเขา เป็นคนดีรอบคอบและเที่ยงธรรม เกรงกลัวพระเจ้าและหันเสียจากความชั่วร้าย”
1:9 แล้วซาตานทูลตอบพระเยโฮวาห์ว่า “โยบยำเกรงพระเจ้าเปล่าๆหรือ
1:10 พระองค์มิได้ทรงกั้นรั้วต้นไม้รอบตัวเขา และครัวเรือนของเขา และทุกสิ่งที่เขามีอยู่เสียทุกด้านหรือ พระองค์ได้ทรงอำนวยพระพรงานน้ำมือของเขา และฝูงสัตว์ของเขาได้ทวีขึ้นในแผ่นดิน
1:11 แต่ขอยื่นพระหัตถ์เถิด และแตะต้องสิ่งของทั้งสิ้นที่เขามีอยู่ และเขาจะแช่งพระองค์ต่อพระพักตร์พระองค์”
1:12 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับซาตานว่า “ดูเถิด บรรดาสิ่งที่เขามีอยู่ก็อยู่ในอำนาจของเจ้า เพียงแต่อย่ายื่นมือแตะต้องตัวเขาเท่านั้น” ซาตานจึงออกไปจากพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์

ซาตานรับอนุญาตฆ่าบรรดาบุตรของโยบ และทำลายฝูงสัตว์ของท่าน
1:13 อยู่มาวันหนึ่งเมื่อบุตรชายหญิงของท่านกำลังรับประทานและดื่มน้ำองุ่นอยู่ในเรือนของพี่ชายหัวปีของเขา
1:14 มีผู้สื่อสารมาหาโยบเรียนว่า “วัวกำลังไถนาอยู่ และลากำลังกินหญ้าในที่ข้างๆ
1:15 และคนเชบามาโจมตีเอามันไป และฆ่าคนใช้เสียด้วยคมดาบ และข้าพเจ้าผู้เดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”
1:16 ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “เพลิงของพระเจ้าตกลงมาจากฟ้าสวรรค์ไหม้แกะและคนใช้และเผาผลาญเสียหมด และข้าพเจ้าแต่ผู้เดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”
1:17 ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ชาวเคลเดียจัดเป็นสามกองทำการปล้นเอาอูฐไป และฆ่าคนใช้เสียด้วยคมดาบ และข้าพเจ้าผู้เดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”
1:18 ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “บุตรชายหญิงของท่านกำลังรับประทานและดื่มน้ำองุ่นอยู่ในเรือนของพี่ชายหัวปีของเขา
1:19 และดูเถิด มีพายุใหญ่ข้ามถิ่นทุรกันดารมากระทบเรือนทั้งสี่มุม และเรือนนั้นพังทับคนหนุ่ม และเขาก็ตาย และข้าพเจ้าผู้เดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”
1:20 แล้วโยบก็ลุกขึ้น ฉีกเสื้อคลุมของตน โกนศีรษะ กราบลงถึงดินนมัสการ
1:21 ท่านว่า “ข้าพเจ้ามาจากครรภ์มารดาของข้าพเจ้าตัวเปล่า และข้าพเจ้าจะกลับไปตัวเปล่า พระเยโฮวาห์ทรงประทาน และพระเยโฮวาห์ทรงเอาไปเสีย สาธุการแด่พระนามพระเยโฮวาห์”
1:22 ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้นโยบมิได้ทำบาปหรือกล่าวโทษพระเจ้าอย่างโง่เขลา

โยบ 2:1 และอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้ามารายงานตัวต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ซาตานก็มาในหมู่พวกเขาเพื่อรายงานตัวต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ด้วย
2:2 และพระเยโฮวาห์ตรัสถามซาตานว่า “เจ้ามาจากไหน” ซาตานทูลตอบพระเยโฮวาห์ว่า “จากไปๆมาๆอยู่บนแผ่นดินโลก และจากเดินขึ้นเดินลงบนนั้น”
2:3 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับซาตานว่า “เจ้าได้ไตร่ตรองดูโยบผู้รับใช้ของเราหรือไม่ว่า บนแผ่นดินโลกไม่มีใครเหมือนเขา เป็นคนดีรอบคอบและเที่ยงธรรม เกรงกลัวพระเจ้าและหันเสียจากความชั่วร้าย เขายังยึดมั่นในความซื่อสัตย์ของเขาอยู่ ถึงแม้เจ้าชวนเราให้ต่อสู้กับเขา เพื่อทำลายเขาโดยไม่มีเหตุ”
2:4 แล้วซาตานทูลตอบพระเยโฮวาห์ว่า “หนังแทนหนัง คนย่อมให้ทุกอย่างที่เขามีอยู่แทนชีวิตของเขา
2:5 แต่บัดนี้ ขอพระองค์เหยียดพระหัตถ์ของพระองค์ และแตะต้องกระดูกและเนื้อของเขา และเขาจะแช่งพระองค์ต่อพระพักตร์ของพระองค์”
2:6 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับซาตานว่า “ดูเถิด เขาอยู่ในมือของเจ้า จงไว้ชีวิตของเขาเท่านั้น”
2:7 ซาตานจึงออกไปจากเบื้องพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์ และได้ให้โยบเป็นฝีร้าย ตั้งแต่ฝ่าเท้าของท่านจนถึงกระหม่อมที่ศีรษะ
2:8 และท่านก็เอาชิ้นหม้อแตกขูดตัวของท่าน และนั่งอยู่ในกองขี้เถ้า

ภรรยาโยบเยาะเย้ยท่าน
2:9 แล้วภรรยาท่านเรียนว่า “ท่านยังจะยึดมั่นในความซื่อสัตย์ของท่านอีกหรือ จงแช่งพระเจ้าและตายเสียเถอะ”
2:10 แต่ท่านตอบนางว่า “เธอพูดอย่างหญิงโฉดจะพึงพูด อะไรกัน เราจะรับสิ่งดีจากพระหัตถ์ของพระเจ้า และจะไม่รับของชั่วบ้างหรือ” ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้นโยบมิได้กระทำบาปด้วยริมฝีปากของตน

เราเป็นพยานพระยะโอวามาได้สามเดือนเองทีแรกที่สนใจเพราะมีคุณลุงชื่อณรงค์มาประกาศที่บ้านๆเราอยู่หัวหินน่ะลุงเขาเรียบร้อยมากยิ้มแย้มมากๆแล้ววันนั้นเป็นวันที่ร้อนที่สุดในหัวหินแต่พยานก็ยังเดินประกาศอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยเราเลยทึ่งมากและทีแรกเราไม่รู้จักพระยะโฮวาด้วยว่าคือใครทำอะไรพอผ่านไปสามวันคุณลุงก็มากับคุณป้าภรรยาของเขามาพูดคุยที่บ้านถามไถ่ทุกอย่างๆสุภาพมากๆเอาคัมภีร์ไบเบิ้ลเล่มหานตึบมาให้พร้อมกับหนังสือคัมภีร์ไบเบิ้ลสอนอะไรจริงๆพอวันอาทิตย์เราก็ไปที่หอประชุมครั้งแรกที่เดินเข้าไปรู้สึกเหมือนมีมนต์ขลังทุกคนหน้าตาสดใสยิ้มแย้มมากดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อยจนน่าทึ่งตั้งแต่นั้นมาเราเลยตั้งใจว่าเราจะศึกษาคัมภีร์อย่างตั้งใจที่สุดครั้งแรกที่เรียนก็มีข้อข้องใจหลายอย่างยังไม่เชื่อเต็มร้อยแต่ด้วยความที่เราตั้งใจจึงเรียนรู้ได้เร็วความเชื่อก็เพิ่มมากขึ้นเราโชคดีที่แฟนของเราเข้าใจถึงแม้ว่าจะคนละศาสนาแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจจริงๆหรือเปล่าเพราะเรายิ่งเรียนรู้มากขึ้นข้อห้ามก็มากขึ้นเราก็ปฎิบัติตามแฟนก็เริ่มจะตั้งป้อมกับศาสนานี้แต่เราไม่สนใจหรอกนะเรารักพระยะโฮวาเรารักพี่น้องคริสเตียนทุกคนแล้วเราจะอฐิษฐานเผื่อพี่น้องที่กำลังประสบกับปัญหาทุกๆคนนะ

ยอห์นโยฮัน6:44 ไม่มีผู้ใดมาถึงเราได้นอกจากพระบิดาผู้ทรงใช้เรามาจะทรงชักนำให้เขามา

สดุดี เพลงสรรเสริญ 34:8 โอ ขอเชิญชิมดูแล้วจะเห็นว่าพระเยโฮวาห์เป็นผู้ประเสริฐ คนที่วางใจในพระองค์ก็เป็นสุข

คุณ "พยานคนหนึ่ง" อะไรทำให้คุณคิดว่าคน "ฉลาดๆ" หมายถึงหมอ หรือวิศวะ หรือคนที่เรียนสูงๆ ฝ่ายโลกเท่านั้น. คนที่เข้ามาเป็นพยานฯ ถึงแม้บางคนจะเรียนไม่สูงก็"ฉลาด"และคิดหาเหตุผลเป็น. ถึงแม้หลายคนจะมีรถ มีบ้านแต่เขาใช้สิ่งนั้นให้เป็นประโยชน์ในการรับใช้พระเจ้า พอใจในสิ่งที่มี. ไม่ใช่สิ่งผิดที่คนเราจะมีฐานะร่ำรวยเพราะหลายคนรำ่รวยมาก่อนที่จะเรียนความจริง (เช่น บร.รัสเซล) แต่เราไม่รักเงินทองหรือความร่ำรวยมากกว่ารักพระเจ้า (1 ติโมเธียว 6:6-9) หลายคนที่มีรถยนต์อาจจะมาจากการที่เขาใช้ชีวิตเรียบง่ายประหยัดอดออมในด้านอื่นเป็นเวลาหลายปี ไม่จำเป็นต้องขับรถเบ๊นส์แต่เป็นหนี้เป็นสินแบบคุณก็ได้. ดูจากระยะเวลาที่คุณบอกว่าเข้ามาเป็นพยานแสดงว่าตอนนี้คุณคงอายุ 50 กว่าๆ แล้วหากคุณยังมีทัศนะแบบที่เขียนมาแล้ว ถ้าอวสานมาหรือคุณเสียชีวิตก่อนเนื่องจากสาเหตุใดก็ตาม คุณคิดว่าพระยะโฮวาจะพิพากษาคุณอย่างไร. เพราะข้อความที่คุณเขียนในบล๊อกนี้จะพิพากษาคุณอยู่แล้วว่าคุณมีทัศนะอย่างไรกับพระยะโฮวาและองค์การของพระองค์. ให้คุณรีบกลับใจและปรับทัศนะใหม่เถอะนะครับ ก่อนที่เวลานั้นจะมาถึง.

คุณรู้มั้ยพวกคุณหนะอยู่ด้วยความกลัว พวกคุณมาเป็นพยาน ก็เพราะส่วนหนึ่งพวกคุณกลัวว่าจะถูกทำลายไปพร้อมกับอามาเก็ดดอน
ดังนั้นคณะกรรมการปกครองจึง พยายามทำให้เห็นว่าอาร์มาเก็ดดอนมาใกล้แล้วเสมอ
คุณลองถามพยาน ที่เป็นพยานมาตั้งแต่เด็กๆ หรือตอนเป็นหนุ่มเป็นสาวดูก็ได้ครับ ว่าสมัยก่อนเค้าก็บอกว่ามาใกล้แล้วจริงมั้ย


จริงๆแล้วเปาโล และติโมเธียวก็บอกว่ามาใกล้แล้วเหมือนกัน ซึ่งก็ผ่านไปเกือบ 2 พันปีแล้ว

บร.รัสเซล บร.รัทเทอร์ฟรอด ก็บอกว่ามาใกล้แล้วเหมือนกัน

คุณลองคิดดูดีๆสิครับ

คิดออกมั้ยครับ ถ้ามันมาใกล้แล้ว ต้องหมายความว่าคนที่พูดต้องได้เห็นเหตุการณ์ด้วย แต่เค้าไม่ทันได้เห็นก็ตายกันไปหมด

เหมือนสมัยนี้แหละครับ

คุณกับผมคอยดูด้วยกัน ผมกล้าท้าว่า อีก 30 ปีก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ

เท่าที่ฟังคุณเล่ามาผมว่าคุณต่างหากที่อยู่ด้วยความกลัว. เพราะคุณ "หลงเข้ามา" เป็นพยานฯแต่ในนามทั้งที่ไม่ได้เชื่อจริงๆ ไม่กล้าพูดสิ่งที่คิดเพราะกลัวถูกตัดสัมพันธ์ ต้องมาแฝงกายอาศัยบล๊อกแบบนี้เพื่อระบายความในใจ. ไปประกาศเพราะกลัวจะไม่มีรายงานส่ง. ถ้าคุณมั่นใจว่าแนวทางนี้ไม่ใช่ความจริงแต่คุณยังพาครอบครัวมาก็แสดงว่าชีวิตของคุณอยู่ด้วยความหลอกลวง ต้องตีสองหน้าอยู่หอประชุมทำตัวเป็นพยานฯแต่กลับบ้านก็ใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่ง. นั่งหน้าคอมพิวเตอร์เขียนสิ่งที่ตัวเองคิดแต่ไม่กล่้าพูดกับใคร. ช่างน่าสงสารจริงๆ.

คุณสวัสดี ผมยังชื่อว่าพยานคนหนึ่ง

ส่วนคุณเป็นพยานฯ รึป่าวผมก็ไม่รู้

รู้แต่ว่าคุณขาดสิ่งหนึ่งไปแน่ๆ



นั่นคือความรัก เพราะคำพูดและถ้อยคำที่คุณใช้ก็ไม่ต่างจากพยานฯทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครองหรือไม่


ก็คือพวกพยานฯไม่มีความรักแท้จากหัวใจ

น่าสงสารที่ไม่เข้าใจกัน

แต่ก็เอาเหอะก็ในเมื่อมันไม่ใช่ศาสนาแท้อยู่แล้ว

จะมีความรักแท้ได้อย่างไร


ถ้าพระเจ้าเป็นพระเจ้าแบบที่พยานฯสอนจริง สมาชิก ก็คงไม่ได้เป็นแบบผมหรือแบบคุณหรอก


ผมอยู่มานานผมรู้ ขอให้คุณอยู่ต่อไปเหอะ แล้วถ้าคุณมีความจริงใจ คุณก็จะเข้าใจเอง


แต่ถ้าคุณปิดหูปิดตา คุณก็ไม่มีวันเข้าใจหรอกครับ

ลองคิดดูนะครับ ถ้าคุณเป็นพยานฯ แล้วคุณมีความรักให้กับพี่น้องจริง


คุณจะพูดแบบที่คุณพูดมั้ย คุณก็ต้องพูดดีๆกับผมถูกมั้ยครับ โดยหวังว่าผมจะกลับใจ

จริงมั้ยครับ

คุณไม่ต้องแปลกใจกับพฤติกรรมตัวเองครับ

เพราะพยานฯไม่ได้รับพระพร แบบที่คุยไว้

ก็เลยมีคนแบบคุณเต็มไปหมด


คือตีสองหน้า ทำตัวเหมือนกับว่าเป็นคนดี

แต่จิตใจไม่ได้ดีจริงเลย


ไม่เชื่อให้เอาถ้อยคำที่คุณพิมพ์ สองครั้งด้านบนนี้

ไปให้ใครอ่านก็ได้แล้วถ้าว่าคนที่พิมพ์แบบนี้เป็นคนที่ เปี่ยมด้วยความรัก ที่หวังดีต่อคนอื่นๆรึป่าว

ลองดูสิครับ

และคุณสวัสดี

ผมจะบอกคุณที่ผมตมาเป็นพยานฯ เพราะตอนแรกผมไม่รู้ไงว่ามันเป็นแบบนี้

พอมาอยู่ซักระยะนึงผมก็เริ่มเห็นความจริง
ว่าคนในนี้ไม่ได้เป็นคนดี หรือต่างจากข้างนอกทั่วๆไปเลย


เพียงแต่กฎระเบียบที่เคร่งครัด และกลัวโดนว่า โดนตัดสัมพันธ์ จึงไม่กล้าทำอะไรน่าเกลียดกัน

แต่ก็ยังมีคนทำผิดอยู่เรื่อยๆ เช่นบร. อัลเฟรด ก็ไม่ทำผิดศีลธรรม กับแม่ของจูดี้

และยังมีกรณีอื่นๆอีกมากมายที่คุณอาจไม่เคยรู้เคยเห็น

ผมอยู่มานานจนผมมามั่นใจว่า ถ้าพระเจ้ามีจริงก็ไม่ได้อยู่้เบื้องหลังองค์การนี้หรอกครับ


พวกคุณถูกล้างสมองแล้ว เหมือนผมก็เคยถูกแต่ตอนนี้ผมตาสว่างแล้ว


ส่วนคำถามที่ว่าทำไมผมถึง อ้างพวกหมอพวกวิศวะ


คุณไม่เข้าใจตรงนี้แสดงว่าคุณเรียนไม่สูงเท่าไหร่


ถ้าคุณสอบติดมหาวิทยาลัยรัฐหรือมีความรู้ คุณจะรู้เลยว่าการคิดหาเหตุผลของคนที่มีความรู้กับไม่มีความรู้มันต่างกันขนาดไหน


เค้าถึงไม่อยากให้คุณเรียนสูงไงครับ เพราะถ้าคุณเรียนสูงคุณก็จะออกไป

เพราะคุณก็จะหาเหตุผลอะไรต่างๆเป็น ไม่ได้ถูกครอบงำแบบนี้

หวังว่าคุณสวัสดีจะมาอ่าน

และผมเองขอบอกน้องๆพยานฯ ทุกคนไว้นะที่นี้เลย

ว่าใครอยากเรียน สูงจงเรียน ใครอยากทำงานดีๆ จงทำ

เพราะคุณจะเสียโอกาสดีๆไปอย่างมากในชีวิต

นอกเสียแต่ว่าคุณจะไปเป็นผู้ดูแลหมวด หรือไปนั่งกินนอนกินให้พี่น้องเลี้ยงที่เบเธล

และไม่มีเงินที่จะดูแลเลี้ยงดูครอบครัวหรือพ่อแม่ยามแก่ชราได้ ไม่มีบ้านไม่มีรถอยู่อย่างพอเพียง ขึ้นรถเมลล์ อันนั้นคุณเลือกเอง


ดังนั้นเพื่อให้องค์การอยู่ต่อไป จึงต้องเน้นว่าอวสานมาใกล้แล้ว

เพราะถ้าไม่เน้นตรงนี้ ก็จะไม่มีใครมาทุ่มเทให้งานนี้


ถ้าเค้ารู้ว่าตลอดชีวิตเข้าตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น จนตาย เค้าก็ไม่ได้เห็นอาร์มาเก็ดดอนหรอก


ก็จะไม่ค่อยมีคนมากระตือรือร้น ทำงานรับใช้

คุณสวัสดี และพี่ๆน้องๆ พยานฯ

ตอบคำถามข้อนี้ให้ได้ก่อนก็พอครับ

ว่าทำไมงานประกาศ ถึงเป็นงานเร่งด่วนครับ


ถ้าบอกว่าเร่งด่วนเพราะคนที่ไม่ยินจะไม่รอด


มันถูกเหรอ เพราะคนที่ไม่ได้ยินก็ต้องได้รับการปลุกถูกมั้ยครับ



แล้วมันจะเร่งยังไง

ในพระราชกิจ และสรรพหนังสือต่างๆบอกไว้ชัดเจนว่า


เป็นงานเร่งด่วนเพราะเป็นงานช่วยชีวิตประตูจะปิดแล้ว

อืม ลองเอาประเด็นนี้ไปคิดดูนะครับ

ว่ามันสมเหตุสมผลมั้ย

เรื่องต่อไป ชีวิตไม่ได้ถูกลิขิตไว้


แล้วทำไมคืนก่อนวายพระชนม์ พระเยซูจึงบอกว่ายูดา จะเป็นผู้มอบพระองค์ไว้



ทำไมพระเยซูถึงต้องไปลิขิตด้วยหละว่าต้องเป็นยูดา

ถ้าชีวิตไม่ได้ถูกลิขิตไว้จริงอย่างว่า

ทำไมพระเยซู ไม่บอกกับยูดาด้วยความรักหละว่า

เราได้เห็นแล้วว่าเจ้าจะมอบเราไว้ และวันต่อมาเจ้าจะฆ่าตัวตายเพราะเสียใจ


เรารักเจ้ามาก ไม่อยากให้เำกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เจ้าจงกลับใจเสียใหม่นะ


ทำไมพระเยซูจึงไม่พูดอย่างนั้น

หรือพระเยซูตัดสินแล้ว ว่ายูดาไม่กลับใจแน่

จริงมั้ยครับ ลองคิดดู


พวกน้องๆพี่ๆรวมทั้ง คุณสวัสดี

ยังไปไม่ถึงไหนกันเลย อย่าว่าแต่พิสูจน์ว่าพระเยซู เป็นใคร เชื่อได้มั้ยเลย

พวกคุณกลัวแม้แต่คณะกรรมการปกครองที่เค้าบอกว่าเป็นตัวแทนของพระเจ้า

ไม่กล้าแตะไม่กล้าลบหลู่

ส่วนผมหนะไม่สนใจ เพราะผมเชื่อตามเหตุและผล

แม้แต่พระเจ้าพระเยซู ผมก็ต้องพิสูจน์ว่าทำถูกต้องจริงมั้ย มีจริงรึป่าว


ไม่ใช่ใครสอนอะไรก็เชื่อไปหมด



ลองคิดดูเราเรียนว่าพระเจ้าเป็นองค์บริสุทธิ์ จะทนเห็นสิ่งชั่วก็ไม่ได้


ระดับบริสุทธิ์ขนาดนั้น จะมาพิสูจน์ประดงประเด็นอะไร ให้คนหลายคนต้องโดนกดขี่ข่มเหง

หลายคนต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน

คุณอยากมีพระเจ้าแบบนี้เหรอครับ

ที่ต้องการพิสูจน์ประเด็น

ฟังขึ้นมั้ยครับ

2เปโตร3:3 จงรู้ข้อนี้ก่อน คือในวันสุดท้ายคนที่ชอบเยาะเย้ยจะเกิดขึ้นและดำเนินตามใจปรารถนาชั่วของตน
3:4 และจะถามว่า “คำที่ทรงสัญญาไว้ว่าพระองค์จะเสด็จมานั้นอยู่ที่ไหน เพราะว่าตั้งแต่บรรพบุรุษหลับล่วงไปแล้ว สิ่งทั้งปวงก็เป็นอยู่เหมือนที่ได้เป็นอยู่ตั้งแต่เดิมทรงสร้างโลก”
3:5 เพราะว่าเขาแกล้งลืมข้อนี้เสีย

กิจการ5:38 +ในกรณีนี้ ข้าพเจ้าจึงว่าแก่ท่าน............ว่า จงปล่อยคนเหล่านี้ไปตามเรื่อง อย่าทำอะไรแก่เขาเลย เพราะว่าถ้าความคิดหรือกิจการนี้มาจากมนุษย์ก็จะล้มละลายไปเอง
5:39 แต่ถ้ามาจากพระเจ้า ท่านทั้งหลายจะทำลายเสียก็ไม่ได้ เกลือกว่าท่านกลับจะเป็นผู้สู้รบกับพระเจ้า”+

ผมถึงบอกไงว่าคุณน่าสงสาร เพราะคุณไม่เชื่อแต่คุณทนอยู่เป็น "พยานคนหนึ่ง" มาได้ตั้งกว่า 20 ปี คุณไม่เชื่อแต่คุณก็พาครอบครัวมาทนฟังที่หอประชุมได้เป็นชั่วโมงๆ นั่งประชุมภาคได้เป็นวันๆและอุตส่าห์ตั้งใจฟัง ออกไปประกาศเรื่องที่คุณไม่เชื่อ แจกแผ่นพับ สรรพหนังสือ วารสารทั้งที่ไม่เชื่อว่าสิ่งที่ประกาศเป็นจริง คุณจึงเป็นคนไม่มีความสุขในชีวิตตลอดเวลาที่คุณทำเหล่านี้. คนที่นับถือศาสนาพุทธ คริสตจักร หรืออิสลามที่เขาเชื่อศรัทธาจริงๆในสิ่งที่เขานับถือยังมีความสุขมากกว่าคุณเลย. หากคุณไม่เชื่อในพระยะโฮวาและองค์การของพระองค์ผมจึงอยากแนะนำคุณให้แสวงหาว่าศาสนาไหนสอนความจริงแล้วใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อีกไม่นานนี้ทุ่มเทกับสิ่งเหล่านั้นเพื่อคุณจะมีความสุขไม่ต้องใช้ชีวิตแบบเสแสร้งแบบที่คุณทำมาตลอดหลายปี แลพซ่อนตัวเองแบบนี้. หรืออีกวิธีหนึ่งคือ นำเรื่องที่คุณสงสัยทั้งหมดที่คุณเขียนในบล๊อกนี้ไปถามผู้ปกครองในประชาคมที่คุณสนิทที่สุดขอความช่วยเหลือจากพวกเขา ตรงไหนไม่เข้าใจขอให้เขาช่วยอธิบายเพื่อคุณจะปลดเปลื้องจากความขัดข้องใจเหล่านี้ เพื่อคุณจะมีความเชื่อแท้และมีความสุขกับการใช้ชีวิตในฐานะ "พยานคนหนึ่ง" อย่างแท้จริง

คือจริงๆผมเพิ่งเลิกไม่ไปประชุมครับ

ก่อนหน้านี้ แค่สงสัย หลายอย่างแต่ไม่มีใครตอบได้

ดูเหมือนว่าพวกคณะกรรมการปกครอง จะสั่งจะบัญชาอะไร ก็ทำตามกันไป หรือไม่ทำ แต่ก็สอนกันไปตามเรื่อง


และที่ผมสังเกตเห็นชัดๆก็คือความรักที่แท้จริง

ที่มันขาดไป เหมือนกับคุณ ที่ใช้ชื่อว่าสวัสดี


ผมไม่รู้สึกนะว่าคุณมีความรัก แบบที่พยานฯสอน


ผมทนอยู่มานาน แต่ก็พยายามมองในแง่ดี

แต่ก็อย่างที่คุณพูด ถ้าไม่เชื่อก็จะอยู่ไปทำไม

ผมก็เลยเิลิกไปประชุม

แต่ผมไม่โง่ ผมก็เลิกไปซะอย่างงั้น ไม่ต้องไปลีลาอะไรมาก


เพราะอาจจะโดนตัดสัมพันธ์หรืออะไรต่างๆได้


ตลอดระยะเวลาที่มีพยานในประเทศไทยมา

ผมก็เห็นว่ามีคนเข้าๆออก

ส่วนคนโง่คือคนที่ถูกตัดสัมพันธ์

หรือคนที่สารภาพ ผิดโดนเอาไปนินทาเป็นที่น่าอับอายมาก


ผมจึงขอติดตามแนวทางที่ฉลาดกว่า

คือออกมาดื้อๆเลย

เกิดวันไหนคณะกรรมการปกครองชุึดนี้ตายหมด หรือเค้าเปลี่ยนคำสอนให้มันถูกต้องกับยุคสมัยแล้วผมก็อาจจะกลับมาก็ได้


เพราะฉะนั้น คุณสงสารตัวเองดีกว่า

ที่ต้องโง่งมให้เค้าสนตะพาย ต่อไป

ทั้งๆที่คุณก็ไม่ได้มีคุณสมบัติอะไรแบบที่เรียนมาเลย


จากที่ผมลองอ่านดูที่คุณเขียนมานะ


ผิดถูกอย่างไรก็ลองไปคิดดู

อย่างน้อยก็เป็นพยานฯเหมือนกัน


แต่ผมค่อนข้างมันใจว่าคุณเป็นคนมีการศึกษาไม่ค่อยสูงนัก

อีกอย่างผมเชื่อว่าคุณคงมาเป็นพยานฯไม่นาน


เพราะเห็นคุณบอกว่า พยานฯที่มีรถเค้าอาจจะเก็บออมเงิน


ก็ขอให้คุณอยู่ดูต่อๆไปละกันครับ ว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆเหรอ


แล้วซักวันนึงคุณอาจจะระลึกถึงผม


ว่าที่ผมพูดมันถูกจริงๆ

คือผมหมายความว่า คนที่มีเงินซื้อรถก็คือเค้าออกไปทำงานหารายได้กันตามปกติ


ไม่ได้ทำตามคำแนะนำ ขององค์การแต่อย่างใด


เพราะถ้าทำตามคำแนะนำก็คือ หางานแค่พอเลี้ยงชีพแล้วไปเป็นไพโอเนียร์

ก็จะไม่มีเงินซื้อรถซื้อบ้าน


ส่วนบร.พิเษก ทองสุข นั่นเค้าก้อมีเงินภรรยาเลี้ยง

เพราะฐานะทางบ้านภรรยาดี


ส่วนพวกมิชชันนารี รุ่นเก่าๆ ก็มีเงินมรดกของฝรั่ง

กินเงินรัฐบาลของเค้าด้วย ทั้งๆที่มาอยู่เมืองไทย ไม่ได้ทำอะไรให้ประเทศของตนเลย

ก็แค่นั้นแหละ
ในเมื่อคุณคิดว่าองค์การนี้ไม่ได้สอนความจริงก็ขอให้คุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณเลือก ขอให้คุณพบแหล่งที่จะให้ความจริงและความสุขแท้สำหรับคุณและครอบครัว. ผมเชื่แว่าคนเรามีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง. อย่างน้อยตอนนี้คุณก็ไม่ต้องอยู่แบบเสแสร้งเหมือนกับที่ผ่านมา.
สวัสดี อ้อไม่ใช่...ลาก่อน

I was brought up a Jehovah's Witness and remember hearing all the rumours surrounding Raymond Franz's departure and the publishing of his book. I asked my father why we were not allowed to read such "apostate" literature because I reasoned that our faith should be strong enough to counter any attacks. He told me that such literature came from the demons and poisoned one's mind. Thus my impression of this book had always been that is was written by a bitter man wanting to take vengeance on the JW's and that it was designed to tear down one's faith.
After finding myself disfellowshipped by the JW's, I still did not want to read this book because of these preconceived ideas I still held. Finally, a friend who had also been disfellowshipped told me that it would not tear down my faith but that I would find it very interesting. IT OPENED MY EYES!!!
My impression from reading this book is that Brother Franz is a kindly man, whose love and fondness for his former "brothers" shines through strongly, despite his being treated the way he was.
Needless to say, my faith was not torn down but built up immensely. I could see the hypocrisy of the JW's, despite many sincere individuals within the organisation. This book is full of honesty and truth, written by a man who has the courage to face up to the truth and bear the drastic consequences of his actions.
Thank you Brother Franz!

เรื่องราวของ Reymond Franz ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆของอดีตนายกสมาคม ของพยานพระยะโฮวา
เป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง
เพราะ Reymond Franz รับใช้นานถึง 42 ปี และ 9 ปีสุดท้าย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการปกครองของพยานพระยะโฮวา

ผู้ที่ไม่เชื่อ สามารถนำชื่อไป search ข้อมูลจากโปรแกรม Watchtower Li ได้
Reymond Franz ในปี 1980 ยังเป็นผู้กล่าวคำบรรยายให้กับพิธีจบหลักสูตรกิเลียดด้วยซ้ำ

9 ปีที่ทำงานในสำนักงานใหญ่ของสมาคม ทำให้เข้าใจและรับไม่ได้กับคำสอนและวิธีปฎิบัติของสมาคม

ดังนั้น Reymond Franz ถูกบังคับให้ลาออก ซึ่งจริงๆเค้าก็ต้องออกอยู่แล้วเพราะทนไม่ไหวกับสิ่งที่เห็น

หลังจากนั้นเค้าได้ เขียนหนังสือเปิดโปง สิ่งที่เค้าได้พบไว้ในหนังสือชื่อ The crisis of conscience

อาจเป็นเพราะมันมีเหตุผล ฟังขึ้น คณะกรรมการปกครองของพยานฯ จึงเตือนสมาชิก อยู่เสมอว่าอย่าอ่านสิ่งพิมพ์ของผู้ออกหาก

ซึ่งเป็นเรื่องผิด แทนที่จะหาเหตุผลกันว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่องค์การกับพยายามปิดหูปิดตาสมาชิก ไม่ให้หาเหตุผล

แต่กลับไปชักชวนคาทอลิก กับคริสเตียนโบสถ์ ว่า ทางโบสถ์กำลังปิดหูปิดตาคุณไม่ให้รู้ความจริง

แล้วถ้าสิ่งที่ผุ้ออกหากเขียนไว้ไม่มีเหตุผลทำไมถึงได้กลัวนัก

หนังสือ The Crisis of conscience มีแปลในหลายภาษา แต่ยังไม่มีในภาษาไทย

ผมเชื่อว่าในอนาคต เมื่อเหตุผลเป็นใหญ่กว่า ทุกคนก็จะได้อ่านหนังสือเล่มนี้ และพยานพระยะโฮวาก็คงจะลำบากมากในตอนนั้น

อาจจะต้องเปลี่ยนคำสอนกันยกใหญ่เลย

มัทธิว5:38 ท่านทั้งหลายเคยได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า ‘ตาแทนตา และฟันแทนฟัน’
5:39 ฝ่ายเราบอกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย

คุณพี่ The crisis of conscience และพี่ พยานคนหนึ่ง พี่คิดว่ามีศาสนาที่ใหน สอนความจริงละคะ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมคะ

มัทธิว7:13 จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่และทางกว้างนั้นนำไปถึงความพินาศ และคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก
7:14 เพราะว่าประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ ผู้ที่หาพบก็มีน้อย

2ทิโมธี3:16 พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี การอบรมในเรื่องความชอบธรรม
3:17 เพื่อคนของพระเจ้าจะดีรอบคอบ ถูกเตรือมใว้พร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง

ขอตอบคุณพยานฯใหม่
ในตอนนี้ผมเข้าใจว่าไม่น่ามีพระเจ้าแบบที่พระคัมภีร์บอก และพระเยซูก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึงเท่านั้น
มันน่าจะเป็นกุศโลบาย ของคนสมัยก่อน พูดง่ายๆก็คือโมเซแต่งเรื่องขึ้นมาเองเพื่อควบคุมชนเชื้อชาติตัวเองออกจากอียิปต์

ทำไมผมจึงคิดเช่นนั้น เริ่มจากโยเซฟที่ถูกขายไปอียิปต์ ภายหลังโยเซฟบอกว่าที่แท้เป็นแผนการของพระเจ้าที่จะให้เรามาเตรียมเพื่อการอดอยากขาดแคลนอาหารในอนาคต

ไม่เป็นการง่ายกว่าเหรอที่พระเจ้าผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก จะอวยพรให้ยาโคบและครอบครัวอุดมด้วยอาหารฝนตกตามฤดูกาล เหมือนที่บอกว่าพระเจ้าอวยพระพรให้พวกอิสราเอลเมื่อเข้าแผ่นดินแห่งคำทรงสัญญา

จำเป็นด้วยเหรอต้องส่งโยเซฟไปเก็บอาหารที่อียิปต์

โมเซเจอพระเจ้าที่พุ่มไม้ ลองกลับไปอ่านดูหรือนึกทบทวนดูก็ได้ว่า มันอัศจรรย์ขนาดไหน แต่โมเซยังปฏิเสธบอกว่าข้าพเจ้าพูดไม่เก่ง จนพระเจ้าโกรธ

ลัทธิมอร์มอน โจเซฟ สมิทธิ์ ผู้ก่อตั้งอ้างว่าพบเรื่องแบบนี้ แนวๆโมเซเช่นเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นการเพ้อฝัน หรือโกหกแต่งเรื่อง ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ในศาสนาพุทธ ก็มีอิทธิฤทธิ์ปฎิหารย์ มากมายไม่แพ้สมัยโมเซ สมัยพระเยซู
เราเรียนว่า นอกจากพระเจ้าแล้วไม่มีพระอื่นๆใด แล้วใครคือผู้ห้ฤทธิ์ อำนาจ ศาสนาอื่นและลัทธิอื่นในการทำการอัศจรรย์

อย่าตอบว่า ซาตาน เพราะในเพลงราชอาณาจักร เล่มเก่า มีเพลงนึง ท่อนนึงร้องว่า เป็นไม้กับหินยินไม่ได้ ทั้งไม่รู้สิ่งบังเกิดมาไม่อาจคุ้มครองป้องกันผู้วันทา ไม่มีฤทธิ์ธา อย่างองค์เที่ยงแท้
จากเนื้อเพลงและในคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูทำให้เห็นว่าที่มักประณามคนไหว้รูปเคารพว่าทำไปไร้ประโยชน์ นอกจากพระเจ้าแล้วไม่มีผู้อื่นมีฤทธิ์ที่จะทำ หรือจะช่วยมนุษย์ได้

ทำไมจึงเชื่อได้ว่าพระเยซูเป็นมนุษย์คนนึง

ผมอยากจะสรุปสั้นๆ พระเยซูนั้นจริงๆแล้วเป็นเด็กพิเศษคนนึง ที่ถูกกรอกหูจากพ่อแม่อยู่ประจำว่า ลูกไม่ธรรมดา

ตอนอายุ12 พระเยซูได้แสดงให้เห็นแววของความฉลาดมาก เพราะเข้าไปธรรมศาลาและพูดคุยซักถามกับอาจารย์ได้อย่างน่าทึ่ง

จึงเห็นได้ว่าพระเยซูเป็นเด็กอัจฉริยะนั่นเอง
ไม่แปลกใจที่พระเยซูในวัย 30 สามารถสอนคนและโน้มน้าวใจคนได้มากมาย

ในไบเบิลบอกว่า มีคำพยากรณ์ว่าพระเยซูมาประสูติจะมีเด็กตาย
คำพยากรณ์นั้นสำเร็จเป็นจริงเพราะเฮโรดโกรธที่โดนหลอก จึงสั่งฆ่าเด็กเล็กจำนวนมาก
นี่เป็นอีกเรื่องนึงที่สามารถบอกได้ว่า ชีวิตและเรื่องราวต่างๆที่จะเกิดขึ้นถูกกำหนดไว้แล้ว คือถูกลิขิตไว้แล้ว
พระเจ้าตามที่เราเคยนับถือ คงไม่ได้ดลใจให้เฮโรดสั่งฆ่าเด็ก เพื่อเป็นไปตามคำพยากรณ์
ในกรณีที่สอดคล้องกับที่เรียนมาคือ ต้องไม่ใช่พระเจ้าดลใจ ดังนั้นเห็นได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้วถึงได้พยากรณ์ล่วงหน้าได้ แต่อะไรหรือใครคือคนกำหนด อันนี้ไม่ทราบ

และก่อนที่พระเยซูจะิสิ้นพระชนม์ พระเยซูตรัสว่า เหตุไฉน ทรงทอดทิ้งข้าพเจ้า


เหมือนกัับความเชื่อของพระเยซูเปลี่ยนไป



แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องพูดตามตรงว่าผมคิดเอง

ถ้าใครมีไอเดียก็สามารถแชร์กันได้

ถ้าเหตุผลเหนือกว่าผม ผมก็ยอมรับ

ผมไม่ปิดกั้นความคิดนะครับ

ส่วนคุณ ด้วยเรา คือ เยโฮวาห์

เลิกโพสเถอะครับ ไม่มีประโยชน์อะไรเลยมันน่ารำคาญมากกว่า

พี่The Crisis of conscienceคะ พี่เข้าใจว่าไม่น่ามีพระเจ้าแบบที่พระคัมภีร์บอก ใช่ใหมคะ ถ้าอย่างนั้น พี่นับถือศาสนาอะไรคะ อย่าบอกนะว่าเป็นคนไม่มีศาสนา หนูคิดว่า คบคนที่มีศาสนา ก็ดีกว่า เพราะ มีศิลธรรมมากกว่าไม่ว่าเขาจะนับถือศาสนาอะไรก็ตาม แต่สำหรับหนู พยานเหมาะสมที่สุดค่ะ การอ่านพระคำภีร์มีทัศนะลบก่อนเสมอแต่เมื่อดูบริบทหรือเจตนาก็จะเห็นทัศนะบวกค่ะ หนูระวังทัศนะเช่นเดียวกับโยนาห์ ที่พระเจ้าตรัสจะทำลายเมืองนีนะเวห์แต่ไม่ได้ทำลายจริงๆ นั่นหมายความว่าพระเจ้าโกหกหรือปล่าวคะ พระคำภีร์กล่าวว่า "พระเจ้าตรัสมุสาไม่ได้ " แต่เมื่อดูบริบทจะมีทัศนะบวกค่ะ ลองอ่านโยนาห์ดูนะคะ เมืองนีนะเวห์กลับใจพระเจ้าจึงไม่ทรงทำลายค่ะ
อันที่จริง ทุกคำถามต้องมีคำตอบ ขึ้นอยู่กับว่าใครได้คำตอบบวกหรือลบ
อะไรก็ บวก บวก บวก ดีนะคะ เออมีสิ่งหนึ่งที่บวกไม่ได้ คือเลือดค่ะ
ปล. แค่อยากรู้ว่าพี่The Crisis of conscience นับถือศาสนาอะไรคะ

เมื่อก่อนพี่ก็คิดเหมือนน้องพยานใหม่นี่แหละครับ


แต่เดี๋ยวซักวันนึงน้องก็จะเข้าใจเอง



ถ้าน้องมีความจริงใจกับตัวเองพี่เชื่อว่าในที่สุดน้องก็ต้องคิดได้เหมือนพี่


ส่วนคำตอบสำหรับคำถามของน้อง


ตอบตามตรงศาสนาคือเครื่องมือ

ดังนั้นพี่ก็ใช้ๆประโยชน์จากคำสอนศาสนาต่างๆได้ทุกศาสนาแหละครับ


ขอบคุณครับ

ถ้าอยากรู้ความจริงไม่ต้องเถียงกันครับ
อ่านพระคัมภีร์และใคร่ครวญหาเหตุผลและพิสูจน์ว่าสิ่งที่พระคัมภีร์บอกนั้นเป็นความจริงรึเปล่า

ที่กิจการ 17:11 บอกอย่างไรลองอ่านดูนะครับ ไม่ต้องมาทะเลาะกันโดยใช้ความคิดของตัวเองไม่มีประโยชน์

แน่นอนครับ ผมค้นดูมานานมากแล้วครับ



แล้วพบว่าคัมภีร์ ไบิเบิล คงเขียนขึ้นโดยมนุษย์นี่แหละครับ


และตีความโดยมนุษย์เช่นเดียวกัน





แต่ผมเน้นคำสอนที่เรียนมาจากพยานฯนะครับ



เช่นเรื่องประเด็นในสวนเอเดนครับ


เราเรียนว่าพระเจ้าต้องการพิสูจน์ประเด็น


ึจึงไม่กำจัดมนุษย์และซาตานทิ้ง

(แล้วซาตานยังสามารถมาปรากฎตัวในที่ประชุมของพระเจ้าในสมัยโยบได้อีกต่างหากนะครับตลกมั้ย)



ประเด็นในสวน บอกว่าพระเจ้าต้องการพิสูจน์ว่ามนุษย์ไม่สามารถปกครองตัวเองได้



ประเด็นนี้มีจุดอ่อนครับ เพราะพระเจ้าตัดกำลังมนุษย์ิทิ้ง


โดยทำให้มนุษย์กลายเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์

ทั้งยังต้องตายในอายุขัยจำกัด คืออายุสั้น

ปัจจุบันประมาณ 80 ปี

ดังนั้นผมขอตั้งประเด็นบ้าง ถ้าพระเจ้ามีจริงทูตสวรรค์ มีจริง ซาตานมีจริง


ขอให้อ่านประเด็นนี้กันชัดๆเลย



มนุษย์สามารถปกครองตัวเองได้ ถ้ามีชีวิตนิรันดร์ และเป็นมนุษย์สมบูรณ์


ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะพิสูจน์ประเด็นต่างๆ เพราะประเด็นมันจะมีเต็มไปหมด มีรายละเอียดปลีกย่อยเต็มไปหมด

แค่ประเด็นเรื่องความยุติธรรม ก็แปลกแล้ว






พระคัมภีร์บอกว่า ให้สอนลูกในแนวทางของพระเจ้าตั้งแต่เด็ก โตขึ้นเค้าจะอยู่ในแนวทางต่อไป


แสดงว่าสิ่งแวดล้อมที่เติบโตมามีส่วน


แบบนี้ก็เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบสิครับ

แล้วคนที่เค้าเป็นลูกโจรหละ จะว่าอย่างไร


มันมีการได้เปรียบเสียเปรียบกันชัดๆ


อย่างลูกพยานฯ หลายคนก็เป็นพยานฯ


แต่ถ้าเค้าเกิดมาเป็นลูก อิสลาม เค้าก็เป็นอิสลาม


ผมเชื่อว่าคนมีปัญญาอ่านความเห็นผมแล้วคงเข้าใจ

ในหนังสือพยานฯเคยบอกว่า ทำไมพระเจ้า ถึงต้องปล่อยให้มนุษย์ทุกข์ทรมานในโลกทุกวันนี้


ก็เปรียบเหมือน กับพ่อแม่ ต้องยอมให้ลูกเจ็บปวดในห้องผ่าตัด เพื่อให้หาย


ลองคิดดีๆนะครับ นั่นพ่อแม่ต้องปล่อยนั่นเพราะไม่มีทางเลือก


ถ้าพ่อแม่มีอำนาจเหมือนพระเจ้า ก็ไม่ต้องให้ลูกเข้าห้องผ่าตัดถูกมั้ยครับ


ดังนั้นถ้าพระเจ้าทรงอานุภาพจริงและจิตใจดีงามบริสุทธิ์ ยิ่งใหญ่แบบที่เรียนกันจริง


คิดว่าพระเจ้าจะทนเ็ห็นความชั่วที่เกิดขึ้นทุกวันๆนี้ได้เหรอครับ พระเจ้ายังรอเพื่อพิสูจน์ประเด็นเหรอครับ มันเป็นไปได้เหรอครับ


ดูแค่คำถามของซาตาน ในหนังสือโยบแล้วดูว่าพระเจ้ายอมให้ซาตานทำอะไรก็แปลกแล้ว

เห็นอยู่แล้วว่า เป็นการยั่วยวนพระเจ้า

และซาตานเข้ามาได้ยังไงครับในที่ประชุมของพระเจ้าแปลกมั้ยครับ

ขอหาเหตุผลด้วยนะครับ

ถ้าขณะที่มนุษย์ในขณะนี้มีอายุไม่ยืนยาวอย่างมนุษย์ในสมัยพระคัมภีร์ แต่โลกกลับเลวร้ายและยิ่งแย่ลงทุกวัน แต่ถ้ามนุษย์แต่ละคนมีอายุยืนยาวกว่านี้คุณคิดว่าโลกนี้จะเป็นอย่างไรครับ โลกคงไม่แย่กว่านี้อีกหลายร้อยเ่ท่าหรือครับ

เท่าที่อ่านความคิดเห็นของคุณนะครับ
ขอตั้งคำถามหน่อยว่า

ทำไมมนุษย์ถึงสูญเสียความสมบูรณ์ไป?
ทำไมพระเจ้าให้มนุษย์ปกครองตนเอง?
ซาตานมีต้นกำเนิดอย่างไร?

ถ้าุคุณยังไม่รู้คำตอบของคำถามเหล่านี้ก็สามารถหาคำตอบได้จากในพระคัมภีร์ไบเบิลนะครับ ไม่ใช่จากความคิดมนุษย์

2 โครินธ์ 4:4 ส่วนคนที่ไม่เชื่อนั้น พระของยุคนี้ได้กระทำใจของเขาให้มืดไป

แวะเข้ามาอ่านครับ เคยเข้าร่วมประชุมใหญ่ที่ราม 1 รู้จักกับพยานฯหลายท่าน เคยมีเจ้านายเป็นพยานด้วย....ท่านใดอยากคุยด้วยเชิญพบผมได้ที่ Facebook ในนาม Mongkon Jantrarangsan หรือที่ อีเมล์ revelation01@hotmail.com และ surawish@gmail.com

ถ้าขณะที่มนุษย์ในขณะนี้มีอายุไม่ยืนยาวอย่างมนุษย์ในสมัยพระคัมภีร์ แต่โลกกลับเลวร้าย และ ยิ่งแย่ลงทุกวัน

แต่ ถ้ามนุษย์แต่ละคนมีอายุยืนยาวกว่านี้คุณคิดว่าโลกนี้จะเป็นอย่างไรครับ โลกคงไม่แย่กว่านี้อีกหลายร้อยเ่ท่าหรือ

เห็นด้วยกับความคิดนี้ค่ะ

1/2 = 0.5

MCยกกำลัง2 = E

โลก = ฟลุ๊ค,บังเอิญ อย่างนั้นหรือ ?

พื่The Crisis of conscience เชื่อเถอะ พระเจ้ามีจริงค่ะ ,มาหาเหตุผลด้วยกันก็ได้นะคะ

ที่พี่โฟสมาหนูได้คำตอบหมดแล้วค่ะ (ข้างบน)

แต่ดูเหมือน คุณพี่พยานคนหนึ่ง มีทัศนะคล้ายพี่The Crisis of conscienceนะคะ

ดูเลข IP แล้วเป็นคนเดียวกันหรือปล่าวคะ

5555+ ขออนุญาติฮา พี่ พยานคนหนึ่ง ค่ะ
ขำจริงๆไม่รู้ว่าพี่เค้าทำได้ไง ไม่มีความเชื่อแต่ทนไปนั่งฟัง และปั้นหน้ายิ้มให้ดูเหมือนจริงใจกับพวกพยาน นับถือ นับถือ... อ่าาา... ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาคุยกับใครโดยเฉพาะนะคะ... แต่ตั้งใจมาขอร้องค่ะ....

อยากให้พี่น้องทุกคนที่เป็นพยานหรืออ้างตัวว่าเป็นพยาน "หยุด" ออกความคิดเห็นทีนะคะ เพราะว่า การออกความคิดเห็นเรื่องความเชื่อที่นี่ไม่เหมาะสมค่ะ เพราะความเชื่อเป็นเรื่องส่วนตัว และส่วนบุคคล ใครก็ตามที่มีปัญหากับพยาน หรือความเชื่อของพยานกรุณาติดต่อกับพยานโดยตรงที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ //www.jw.org ขอร้องพี่น้องนะคะว่า ไม่ควรเอาชื่อเสียงของพระยะโฮวามาทำให้เป็นสาธารณะอย่างนี้ค่ะ
และไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรกับพยาน ไม่ขอขัดแย้งนะคะ นับถือทุกความคิดเห็นค่ะ เพราะทุกคนมีสิทธ์คิดได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าคนนั้นๆมองมุมไหน มีพื้นฐานความคิดอย่างไร คิดไปเถอะค่ะ เพราะเราสนับสนุนให้คุณหาเหตุผลอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ที่นี่ค่ะ คุยกับพยานพระยะโฮวาแบบเห็นหน้าเลยดีกว่า จะได้พิสูจน์ด้วยว่าพวกเขาเสแสร้งกันรึเปล่า
ทั้งนี้ขอนับถือทุกคนที่พยายามค้นคว้าและหาหลักฐานด้วยตัวเองนะคะ อย่าให้ใครมาล้างสมองและชักนำความคิดคุณได้ เพราะถึงแม้ถ้าเขาทำสำเร็จคุณก็ไม่ภูมิใจหรอกค่ะ ทำให้ความจริงเป็นทางของคุณเอง ไม่ใช่ของใครนะคะ
สุดท้ายจริงๆค่ะ อยากบอกว่า ให้เรารักพระเจ้ามากกว่ามนุษย์นะคะ อย่าใส่ใจกับการกระทำของมนุษย์มากนัก เพราะถ้าเค้าทำได้ตามที่ตัวเองพูด เค้าคงไม่ได้เป็นแค่มนุษย์หรอกค่ะ คงได้เป็นพระเจ้าไปแล้ว 5555+


^________^

เห็นมั้ยครับน้อง พยานใหม่ ดูคุณข้างบนนี้สิครับ



พยานหลายคนก็เป็นแบบนี้แหละครับ มาถึงก็มาหัวเราะ บอกว่าขำ

ลีลายียวน เหมือนกับพยานอีกคนที่อยู่โพสบนๆ


ใช่แล้วครับ

เป็นการประจานตัวเองแท้ๆ

ถึงต้องเรียกให้พี่น้องคนอื่นๆอย่ามาแสดงความคิดเห็นไงครับ


เค้าบอกว่า

ารออกความคิดเห็นเรื่องความเชื่อที่นี่ไม่เหมาะสมค่ะ เพราะความเชื่อเป็นเรื่องส่วนตัว และส่วนบุคคล ใครก็ตามที่มีปัญหากับพยาน หรือความเชื่อของพยานกรุณาติดต่อกับพยานโดยตรงที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ //www.jw.org ขอร้องพี่น้องนะคะว่า ไม่ควรเอาชื่อเสียงของพระยะโฮวามาทำให้เป็นสาธารณะอย่างนี้ค่ะ



มันมีเหตุผลเหรอครับ ลองอ่านดูสิครับ

สำหรับคุณนักศึกษาพระคัมภีร์ที่บอกว่า



ถ้าขณะที่มนุษย์ในขณะนี้มีอายุไม่ยืนยาวอย่างมนุษย์ในสมัยพระคัมภีร์ แต่โลกกลับเลวร้ายและยิ่งแย่ลงทุกวัน แต่ถ้ามนุษย์แต่ละคนมีอายุยืนยาวกว่านี้คุณคิดว่าโลกนี้จะเป็นอย่างไรครับ โลกคงไม่แย่กว่านี้อีกหลายร้อยเ่ท่าหรือครับ



นั่นแหละครับประเด็นไงครับ

ต้องพิสูจน์สิครับ ว่าถ้ามนุษย์มีชีวิตนิรันดร์และสมบูรณ์ด้วย จะสามารถปกครองตัวเองได้หรือไม่


พระเจ้าต้องให้พิสูจน์สิครับ เพราะผมสงสัย

คุณนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลครับ



คุณเพิ่งเริ่มศึกษาแต่ผมเป็นพยานฯมาหลายปีแล้ว


มีคำบรรยายนึง ก็บอกไว้ชัดเจนครับ

ว่าสาเหตุนึงที่มนุษย์ปกครองตัวเองไม่สำเร็จเพราะมนุษย์อายุสั้น

พอมีผู้ปกครองดีๆขึ้นมาคนนึงไม่นานเดี๋ยวเค้าก็ตาย ไม่สามารถสืบทอดเจตนารมณ์ที่ดีได้ครับ

เนื่องจากน้องพยานใหม่



บอกว่าสามารถตอบโพสบนๆของพี่ได้หมดแล้ว


งั้นเรามาถามกันที่ละข้อและตอบกันทีละข้อให้เคลียร์ๆกันไปเลยดีกว่านะครับ


พี่คิดว่าน้องคงเป็นคนมีการศึกษาคงจบเรียนอยู่้มหาวิทยาลัย หรือจบจากมหาวิทยาลัยแน่ๆเลย


ส่วนพวกพี่น้องพยานฯ ที่ไม่ต้องการใช้เหตุ ต้องการให้ฝรั่งที่อยู่สำนักงานใหญ่

ครอบงำ ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้

ก็ขอให้อย่ามาอ่านเลยครับ

ขอเอาเฉพาะคนที่มีสติปัญญาต้องการหาุเหตุผล


โดยไม่งมงาย หวั่นกลัว ว่าจะถูกลงโทษจากพระเจ้าเพราะไม่เชื่อผู้ถูกเจิม


ผมจะบอกใ้ห้คณะกรรมการปกครองคนนึงที่ออกมาจากองค์การ เค้าก็มีชีวิตอยู่จนแก่และเพิ่งตายไปเมื่อไม่นานมานี้เองครับ

ถ้าน้องพยานใหม่ สามารถหาเหตุผลได้



บางที่พี่อาจจะกลับไปเป็นพยานฯที่เชื่อศรัทธา แบบเดิมก็ได้นะครับ


คิดดูสิครับ พระคัมภีร์บอกว่า แกะหายไปตัวเดียว ได้คืนมา ยังดีใจกว่าแกะที่เหลืออยู่ 99 ตัว


แต่พวกพยานฯ ด้านบน พูดจาถากถางเยาะเย้ยพี่

นี่เหรอครับ ที่เราเรียนกันมา

ว่าให้รักพี่น้อง ให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง


นี่เหรอครับพระเจ้าอยู่เบื้องหลังองค์การนี้


เดี๋ยวพอน้องพยานใหม่อยู่ไปนานๆก็จะรู้จักคนพวกนี้มากขึ้นเองครับ

พยานฯคนล่าสุด ที่โพส เค้าบอกว่าอย่าไปใส่ใจการกระทำของมนุษย์มากนัก






ก็พระคัมภีร์บอกไม่ใช่เหรอครับ

ว่าเครื่องระบุตัวคริสเตียนแท้คือความรัก


แล้วเราจะไม่ใส่ใจการกระทำได้เหรอครับ

หาเหตุผลกันไม่เป็นจริงๆ


เดี๋ยวพอน้องพยานฯใหม่อยู่ไปเรื่อยๆ

ก็จะได้ยินคำว่าสะดุดๆ

คือไอคำว่าสะดุด เนี่ยจริงๆเป็นคำดูถูกนะ


เพราะว่า ถ้าคนไหนสะดุด ก็แสดงว่าไม่เชื่อพระเจ้า แต่ไปดูที่การกระทำของพี่น้องมากกว่า


แต่พวกเค้าคงลืืมไปว่า การกระทำของพี่น้องนี่แหละคือสิ่งที่สำคัญ


เพราะพระคัมภีร์บอกว่า ถ้าไม่รักพี่น้องที่เห็นได้แล้วจะรักพระเจ้าได้อย่างไร

แสดงว่าพวกนี้ทำให้คนอื่นสะดุด เค้าไม่รักพี่น้อง ก็แสดงว่าเค้าไม่รักพระเจ้า

แล้วนี่เหรอครับคนในองค์การของพระเจ้า

อารัมภบทมาซะยาว



ขอเริ่มคำถามเลยนะครับ



คำถามแรก งานประกาศเป็นงานเร่งด่วนได้อย่างไร



เพราะถ้าเป็นงานเ่ร่งด่วนจริง คนที่ไม่ได้ยินหรือได้รับการประกาศ

จะต้องตายหรือไม่รอดจริงมั้ย

แต่เรารู้อยู่แล้วว่าไม่เป็นเช่นนั้น

คนที่ไม่ได้ยินการประกาศพออามาร์เก็ดดอนมา

เค้าต้องได้รับโอกาสมาเรียน

และน้องคิดว่า คนที่เห็นเหตุการณ์อามาร์เก็ดดอนได้เข้าโลกใหม่

แล้วมาเรียน


กับคนที่ได้รับการประกาศตอนนี้ คนกลุ่มไหน

จะเชื่อพระเจ้าง่ายกว่าครับ



สรุปแล้วเร่งด่วนยังไงครับ

น้องหรือพี่ไปประกาศนั่นแหละจะทำให้เค้าตายด้วยซ้ำ เพราะประกาศไปคนส่วนใหญ่เค้าก็ไม่เชื่อเห็นมั้ยครับ

แต่ถ้าเค้าไม่ได้ยินคำพยานคำประกาศ

แล้วเค้าเห็นอาร์มาเก็ดดอน ได้มีโอกาสเข้าไปในโลกใหม่ได้เรียนรู้ตอนนั้น
เค้าต้องมีโอกาสเชื่อมากกว่าอยู่แล้ว


สภาพแวดล้อมก็ดีกว่า ไม่ต้องถูกกดดันจากคนรอบข้างเหมือนโลกทุกวันนี้ด้วย


น้องว่าพี่พูดถูกมั้ย


ช่วยตอบและอธิบายด้วยครับ

ไว้ว่าจะเป็นน้องพยานใหม่ หรือพยานคนอื่นๆก็หาเหตุผลกันได้นะครับ


ส่วนพยานฯที่กลัวคณะกรรมปกครอง และไม่อยากใช้เหตุผลก็อย่ามาอ่านเลยครับ


ที่ขอการหาเหตุผลนะครับ ไม่ใช่งมงาย

พี่คะ ถามจริงๆ พี่ไม่กล้าบากหน้าไปหาผู้ปกครองหรอคะ ถึงต้องมาถามเอากับน้องพยานใหม่เนี่ย

ที่บอกไปก็ชัดเจนแล้วนะว่าที่เรามาเป็นพยานเพราะเรารักพระเจ้ามากกว่ามนุษย์ ฉนั้นเราไม่ถือสาหรอกค่ะ ว่ามนุษย์จะทำอะไร ถ้าเค้าครอบงำเรา เค้าจะเอาไบเบิลให้เรามาค้นคว้าเองทำไมละคะ เพราะฉนั้น ใครที่คิดเป็น อ่านออก เขียนได้ ก็ทำความเข้าใจเองได้ค่ะ แล้วพี่เองก้อมีไบเบิล ทำไมไม่ลองนั่งศึกษาส่วนตัวดูซักครั้งละคะ เอาแบบลึกซึ้งเลยนะพี่ เอาให้กระจ่างแล้วไปหักล้างผู้ปกครองที่พี่ว่าเค้าสอนผิดให้ได้

ยืนยันคำเดิมค่ะ อย่าให้ใครมาจูงจมูกเราได้ อย่าให้ใครมาล้างสมองว่านั่นผิด นี่ถูก แต่ให้ศึกษาเอง หาเหตุผลเอง อย่าเชื่อคำพูดของมนุษย์ไม่สมบูรณ์ นอกจากจะพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วนะคะ

บอกตรงว่าเป็นห่วงพี่ และ ประชาคมที่พี่อยู่มาก ว่าจะเป็นประชาคมที่ขาดพระพรขนาดไหน เอาเป็นว่า นู๋ไม่ได้มาชวนใครทะเลาะนะคะ ขอโทษถ้าพูดอะไรไม่เข้าหู แค่อยากให้พี่เปลี่ยนมุมมองในด้านความคิดน่ะคะ อย่ายึดติดกับมนุษย์มากนะคะ


^____^

น้องครับขอโทษนะครับ พี่นี่แหละครับผู้ปกครองครับ



น้องไม่รู้ตื้นลึกหนาบางแล้วอย่ามาพูดครับ


น้องลองเอาเรื่องที่พี่ถามไปถามผู้ปกครองประชาคมน้องสิครับ ว่าเค้าจะตอบได้มั้ย


พี่อ่านพระคัมภีร์จบเล่มมา 5 รอบแล้วนะครับ

น้องเคยอ่านที่พี่เขียนข้างบนบ้างมั้ยครับว่า

หนึ่งในคณะกรรมการปกครองเค้ายังออกมาเลยครับ

น้องใช้เหตุผลหน่อยนะครับ


พวกพยานฯไม่ได้ใช้ความคิดเห็นของตัวเองหรอกครับ

น้องเคยประชุมผู้ปกครองมั้ยครับ

ทุกอย่างต้องยึดตามคณะกรรมการปกครองแบบมัดมือชกครับ

ห้ามเห็นขัดแย้งครับ

ห้ามเห็นขัดแย้ง ห้ามคิดเอง ยึดตามหอสังเหตการณ์ ตามคณะกรรมการปกครอง


นี่แหละครับพยานฯ ไปถามใครดูก็ได้ครับว่าเราคิดเองได้รึป่าว

ถ้าใครมาไล่อ่านดูจะเห็นเลยว่า คุณพยานใหม่ฯ


จะดูเป็นคนนิสัยดีกว่าทุกคน



ถูกต้องแล้วครับ คนที่มาเป็นพยานฯใหม่ๆหลายคนจะเป็นคนดี

แต่พอเป็นไปนานๆ ก็จะเ็ป็นเหมือนผมหรือเป็นเหมือนคุณข้างบนนี้ครับ


นิสัยไม่ได้ดีอะไรเหมือนที่ตอนแรกตอนเราเป็นนักศึกพระคัมภีัร์เข้าใจเลยครับ

อันนี้เรื่องจริง


เอาง่ายๆพวกน้องไปเดินประกาศกับพวกผู้หญิงนินทากันป่าวหละครับ

แน่นอนจริงมั้ยครับ

แล้วพยานนินทาได้เหรอ


ถ้ามีพยานฯใหม่ มา ก็ต้องบอกว่าเฮ้ยอย่าพูดๆเดี๋ยวน้องเค้าสะดุด

แล้วน้องครับทำไมต้องถามผู้ปกครอง







คำตอบก็คือผู้ปกครองจะได้ให้คำตอบโดยอาศัยความรู้ที่ทาสสัตย์ซื่อและสุขุมเป็นคนชี้นำถูกมั้ยครับ


สรุปแล้วน้องกล้าคิดอะไรเองรึป่าวครับ

กล้าสงสัยรึป่าว

กล้าหาเหตุผลรึป่าวครับ

พี่คะ ถ้าคนเราสะดุดกันง่ายขนาดนั้นนู๋คงสะดุดพี่ไปแล้วละค่ะ แต่นี่เป็นเพราะนู๋ไม่ได้สนใจว่าพี่จะเป็นใคร มาจากไหน นู๋แค่รู้สึกว่าพี่เองกำลังเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นอยู่ พี่เอาความเห็นส่วนตัวของพี่ มาตัดสินว่าคนอื่นต้องเป็นอย่างนี้ ต้องทำอย่างนั้น

นู๋เองก้อไม่เข้าใจว่าทั้งที่ไม่มีความเชื่อ แต่พี่ทำความก้าวหน้าจนมาเป็นผู้ปกครองทำไม พี่กลัวหน้ามนุษย์มากไปรึป่าวคะ ถึงได้ไม่กล้าแสดงตัวว่าพี่คิดอะไร รู้สึกยังไง ทำได้แค่พูดในอินเตอร์เน็ต

นู๋เป็นคนแบบนี้มาตั้งนานแล้วค่ะพี่ ตั้งแต่เริ่มศึกษา และด้วยความที่เป็นแบบนี้ ทำให้นู๋ไม่สะดุดใครง่ายๆ นู๋เจอนิสัยส่วนตัวของพี่น้องหลายๆคนมาแล้ว แต่นู๋ไม่เก็บมาสะดุดเพราะนู๋อยู่ ณ จุดนี้เพื่อพระเจ้า ไม่ใช่เพื่อมนุษย์ แน่นอนเราต้องรักพี่น้องและการมองข้ามข้อผิดพลาดนี้แหละค่ะ เป็นการแสดงความรัก เป็นสิ่งระบุตัวคริสเตียนแท้

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ ^_^

ป.ล. นู๋ไม่เคยประชุมผู้ปกครองค่ะเพราะนู๋เป็นผู้หญิง(เผื่อพี่ลืมสังเกต ^^) แต่แฟนนู๋เคยค่ะ รวมถึงเสาร์ที่จะถึงนี้ด้วย เอ๊ะ!! แล้วพี่จะไปด้วยรึป่าวคะเสาร์นี้ ต้องปั้นหน้าอีกแล้วสิ ^___^

ใช่้ครับ พี่ไม่สามารถพูดความคิดเห็นได้ในหมู่พยานหรอกครับ



เพราะอย่างที่บอกเราถูกบังคับให้เชื่อเหมือนๆกัน


มีคณะกรรมการปกครองคนนั้นที่เชื่อต่างก็เลยถูกบังคับให้ลาออก

และถูกตัดสัมพันธ์ในเวลาต่อมาครับ

และอีกอย่างนึง

กลัวหน้ามนุษย์นี่เค้าใช้สำหรับพยานกับชาวโลกนะครับ

ไม่ใช่พยานกับพยาน

อีกไม่นานพอแฟนน้องที่เป็นผู้ปกครองถ้าเค้าเคร่ง

เค้าก็จะบอกเองว่าอย่าไปอ่านเรื่องที่คิดต่างจากพวกเรา

มันก็เป็นแบบนี้แหละครับ


พยานส่วนใหญ่ไม่ไปไหนหรอกครับเพราะไม่มีทางไปเพื่อนๆครอบครัวญาติๆก้ออยู่ในนี้


ใครจะอยากทำตัวเป็นแกะดำจริงมั้ยครับ

เพราะพวกเราทุกคนล้วนถูกล้างสมองอยู่ทุกอาทิตย์อยู่แล้วหละครับ

ขอสารภาพนะครับ ว่าผมไม่ใช่ผู้ปกครองหรอกครับ


ผมอำคุณหนะครับ



แต่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วนะครับ

ว่าไม่น่าแปลกใจถ้ามีผู้ปกครองมีพฤติกรรมแบบผม


เอาเป็นว่าเลิกโพสกัินแล้วดีกว่า

ใครอยากจะเชื่อศรัทธาอะไร

ถ้าทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเหอะครับ

ถ้าใครทำแล้วเดือดร้อนไม่มีความสุขก็อย่าไปฝืน


ขอบคุณมากๆสำหรับทุกคนที่เข้ามาอ่านซะยาว

ใช่ค่ะนู๋ไม่แปลกใจเลยซักนิดถ้าผู้ปกครองซักคนจะคิดแบบนี้ เพราะผู้ปกครองก้อมนุษย์ไม่สมบูรณ์ค่ะ ทุกคนมีอิสระที่จะคิด แฟนนู๋ไม่เคยห้ามที่จะอ่านค่ะ เค้าแค่บอกว่า ให้อ่านโดยใช้วิจารณญาณ

อย่าให้ใครมาบังคับความคิดจนแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาไม่ได้นะคะ ขอย้ำอีกทีว่า สมองเรา อย่ายอมให้ใครมาล้างง่ายๆนะคะ ยินดีที่ได้คุยกัน เพราะอย่างน้อยก้อทำให้ได้รู้ว่า พี่เป็นคนถ่อมในระดับนึง ที่ยอมอ่านทุกเรื่องที่นู๋เขียน

ยินดีที่ได้คุยกันค่ะ ^^

//www.youtube.com/watch?v=2uvp5Q1pd_Q



อันนี้หลักฐานของคนที่เสียผลประโยชน์จากคำสอนที่เค้าเคยเชื่ออย่างหมดใจ

เริ่มเรื่องจะเห็นว่าเค้าถือป้าย ที่มีข้อความที่เป็นผลมาจากคำสอนที่เปลี่ยนแปลงนะครับ


เรื่องต่างๆเหล่านี้มีจริง

แต่คงไม่ค่อยมีผลกับคนไทยเท่าไหร่นัก เพราะเท่าที่เห็นคนไทยไม่ค่อยเชื่อแบบหมดใจ


ยังคงเรียนหนังสือสูงๆหาเงินหาทองกันตาม ใจตนเอง


แต่พวกฝรั่งหลายคนเค้าเชื่อหมดใจจริงๆแล้วต้องผิดหวัง

พยานอ้างว่าคำสอนเปลี่ยนเพราะมีแสงสว่างแวบใหม่


ก็ระวังกันให้ดีๆละกันครับเพราะต้องมีอีกหลายแว่บแน่ๆครับ

1914 1925 1941 1975




คนที่เห็น 1914 จะไม่ตายหมดก่อน


ล่าสุดคนร่วมสมัย


เปลี่ยนไปเรื่อยๆครับ

ถ้าพระเจ้าอยู่เบื้องหลังจะเป็นแบบนี้เหรอ

สวัสดีพี่พยาน 12/12/12 อ่านข้อความพี่แล้วหนูเข้าใจความรู้สึกพี่ค่ะ

ถ้าพี่อ่านตั่งแต่บนถึงล่าง พี่จะไม่ถามว่าเสาร์นี้ไปประชุมผู้ปกครองหรือปล่าว

เพราะพี่ CC เขาบอกว่าเลิกไปประชุมแล้ว
คลายกับ ตัดตัวเอง (แกะที่หลงหาย)

ปล่อยให้หนูหาเหตุผลกับเขาเองเถอะค่ะ

ขอร้องพี่พยานทุกคนที่หลงเข้ามาใน //www.นี้ อ่านได้ แต่กรุณาอย่าพึ่งออกความคิดเห็นนะคะ เรื่องมันจะยาว เพราะหนูยังคุยกับพี่ CC ยังไม่จบ

พี่ 12/12/12ไม่ตอ้งห่วงหนู ถึงหนูจะเป็นพยานใหม่ หนูจะใช้ความรู้ที่พระเจ้าประทานให้คุยกับพี่ CC เองค่ะ

พี่ CC อย่าพึ่งถามเพิ่มนะคะให้หนูตอบข้อเก่าๆก่อนนะคะ

คำตอบของหนูบางคำตอบไม่สามารถเขียนเป็นตัวหนังสือได้เพราะมันเป็นวิทยาศาสตร์เกินไป เพราะบางครั้งวิทยาศาสตร์ก็ไม่สอดคล้องกับศาสนา (บางศาสนา) มันจะกลายเป็นว่าพาดพิงศาสนาอื่นเขา มันไม่ดีคะ

ได้ดู แล้ว ไม่แปลกใจค่ะ

ข้อ 1 พระเจ้าจะเปิดเผิยข้อลับลึกให้เราทราบมากขึ้นเรื่อยโดยทางพระวิญญานบริสุทธิ์ไม่แปลกที่มีการปรับเปลี่ยนให้ตรงตามพระคัมภีร์มากขึ้นเรื่อยๆ

ข้อ2 ก็ไม่แปลกที่ใครจะตั้งศาสนาด้วยจุดประสงค์อะไร ด้วยความตั้งใจหรือกลับใจ หรือธุระกิจ แต่ตอนนี้ก็มีคำตอบอยู่กับใจแล้วมิใช่หรือว่าใครใช้พระคัมภีร์เป็นหลัก

พระคัมภีร์บอกว่า ไม่มีอำนาจใดที่พระเจ้ารู้ ในอดิตพระเจ้าอาจใช้ใครสักคนหรือการเมือง หรือมหาอำนาจโลกเพื่อจุดประสงค์ บางประการ ดังนั้นหนูไม่ตำหนิใครว่าจะตั้งด้วยจุดประสงค์อะไร

แต่คำตอบก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าใครใช้พระคัมภีร์เป็นหลัก

มีพี่น้องด้้านบนคนหนึ่งบอกว่าไม่ตอ้งเถียงกัน ให้ดูพระคัมภีร์เป็นหลัก

แต่กรณีของพี่ CC ไม่เชื่อว่าพระคัมภีร์ ได้รับการดลใจและไม่น่ามีพระเจ้าอย่างที่คัมภีร์บอก

แต่พี่CCกลับเชื่อว่าโมเซเขียนเชิงจิตวิทยาเพื่อปกคลองชาติยิสราเอลเท่านั้นและจะเขียนมากกว่า1500ปีก็ได้

ถ้าอย่างนั้นก็ต้องพิสุทธ์กันต่อนะคะ รวมถึงเรื่องโยเชฟด้วย


แต่พี่อย่าเพิ่งถามอะไรเพิมนะคะ

ขอโทษนะคะ พิมตกไปตัวหนึ่ง
ไม่มีอำนาจใดที่พระเจ้าจะไม่ทราบ พระองค์ทรงทราบทุกอำนาจค่ะ

ได้ครับเดี๋ยวพี่จะมาอ่าน



ดีครับที่น้องพยานใหม่เป็นคนยึดหลักเหตุผล


ไม่ใช่มาอ้างว่า อย่าไปคุยกับคนออกหากอย่าไปคุยกับคนเห็นต่างไม่มีประโยชน์เดี๋ยวคล้อยตาม


แบบนี้มันปิดกั้นการใช่เหตุผลชัดๆ

ข้อ 3 พี่ CC เข้าใจว่า ไม่จำเป็นตอ้งเร่งด่วนที่จะประกาศ เพราะ สมัยพันปีก็จะปลุกทั้งคนดีและคนชั่วมาเรียนพระคัมภีร์กันใหม่ทั้งหมดถึงตอนนั้นทุกคนเห็นการอัศจรรย์แล้วก็จะมีความเชื่อเอง ทัศนะแบบนี้เป็นลบค่ะ

การหาเหตุผลแบบทัศนะ บวก บวก บวกหนูหาเหตุผลแบบนี้ค่ะ

3.1เราต้องเร่งประกาศ เพราะ ซาตาน มันก็เร่งทำงานของมันเหมือนกัน

3.2 ทูตสวรรค์บางองค์ เห็นพระเจ้าทำการอัศจรรย์ อะไรต่อมิอะไรมากมาย ก็ยังกลายมาเป็น ซาตานได้เลยค่ะ

3.3 ชาวอิสราเอล เห็นการแยกทะเลแดง ภัย10ประการ ช่วงสั้นๆ 40 ปี ยังขัดขืนพระเจ้า ซ้ำแล้วซ้ำอีก แล้วจะว่าอย่างไรกับ 1000 ปีคะ

3.3 มนุษสมบูร์เช่น อาดาม กับ ภรรยา ก็ยังทำบาปเลยค่ะ

3.4 แม้แต่คนที่ศึกษาพระคัมภีร์มาหลายรอบ ก็ยังกลายมาเป็น นักวิจารณ์ เลยค่ะ



ดังนั้นไม่ใช่ทุกคนจะรอดในสมัยพันปี เป็นงานเร่งด่วนมากค่ะ ที่จะประกาศ

พี่ CC ลองหาเหตุผลทางบวก บวก บวก บางนะคะ พี่น้องทั่วโลกจะยินดีอย่างยิ่ง ที่ แกะที่หลงหายกลับเข้าฝูง

หมายความว่าถ้าไม่เร่ง พวกเค้าจะถูกซาตานเอาไปเป็นพวกเหรอครับ

ขอบคุณพี่ CC สำหรับความคิดเห็น

แล้วหนูจะตอบคำถามเพิ่มเติมค่ะ

ขอย้ำ อย่าเพิ่งถามเพิ่มเติมนะคะ พี่จะได้ถามแน่ค่ะ

ของเก่ายังตอบไม่หมดเลย

อันที่จริงหนูมีคำถามที่ยากกว่าพี่อีก แต่ตอบได้แล้วคะ แล้วจะเล่าให้ฟังนะคะ ถ้าพี่เป็นแกะหลงตัวนั้นจริงๆ

ถึงน้องพยานใหม่ โอเคครับจะติดตามอ่านไปเรื่อยๆครับ






จริงๆแล้วพี่เป็นคนยึดตามแนวทางถูกต้องนะถ้าอะไรถูกก็จะยอมรับ

ถ้าน้องหาเหตุผลได้จริงๆพี่ก็จะกลับไปประชุมเหมือนเดิมนะ



เพราะพี่ก็เคยอธิษฐานเหมือนกันว่าถ้าพระเจ้าเป็นความรักจริงก็ต้องช่วยพี่ให้เข้าใจและเชื่อในพระองค์อีกครั้งสิ

คุณ CC มี E-mail ให้ติดต่อได้มั้ยครับ แนวคิดค่อนข้างน่าสนใจ และอยากรู้จักครับ :D

คุณBlack_cat เป็นพยานรึป่าวหละครับ



ขอบคุณที่ชมว่าแนวคิดค่อนข้างน่าสนใจ


แนวคิดผมก็คือคิดนั่นเอง ไม่ใช่ใครสอนอะไรให้ทำอะไรก็เชื่อหมด

มันต้องมีเหตุผลอธิบาย

ไม่ต้องอีเมลล์ก็ได้ครับ ถกกันในนี้แหละครับ


จะได้ให้ทุกคนเห็นไปด้วยว่าใครมีเหตุผลไม่มีเหตุผล

ข้อ 4 โยเซฟ รู้ว่าเป็นประประสงค์ของพระเจ้า โยเชฟมีเจตจำนงค์เสรีที่จะเลือกว่าจะทำตามหรือไม่ก็ได้นี่ค่ะ

แต่ แต่ แต่ เขาก็เลือกที่จะทำตามค่ะ

ส่วนพี่ CCJOB ก็เรียนรู้พระประสงค์ของพระเจ้ามาแล้วระดับหนึ่ง ก็มีสิทธิ์เลือกเหมือนกัน พระเจ้าไม่ได้บังคับ เพียงแต่บอกว่า ถ้าเลือกแบบนี้จะเป็นใหน ยะซายา บท43 พระองค์จะทำอะไรพระองค์ก็บอกค่ะ

ในสมัยพันปี จะมาบอกว่ายังไม่เคยได้ยินเลย คงจะพูดไม่ออกสำหรับบางคนนะคะ

ข้อ 5 เกี่ยวข้องกับข้อ 4 คือว่า พระองค์เป็นผู้สร้าง รู้ ส่วนที่ลึกกว่า DNA (เพลงสรรเสริญ) รู้ว่าเรามีผมกี่เส้น ( มัดธาย)

พระองค์รู้ ก่อน ที่เราจะอธิฐานด้วยซ้ำ


พระองค์รู้ว่าใครคือ ผู้ออกหาก หรือ แกะที่หลงหายไป สองคำนี้ต่างกันนะคะ พี่CCJOB คิดเอาเอง


พระองค์รู้ว่า เซาโล เป็นอย่างไรต้องปรับทัศนะคติใหม่ใช่ไหมคะ เป็นตัว เอ้ ด้วย มีส่วนฆ่าสาวกด้วย

พระองค์รู้ว่า โยนา เป็นอย่างไรต้องปรับทัศนะคติใหม่


เปโตรก็เช่นกัน ปฎิเสธ 3 ครั้ง จนไก่ขันก็กลับใจ ร้องให้

แต่ แต่ แต่ กรณีของซาตานไม่กลับใจพระองค์ก็รู้ กรณีของ อิสการิโอตก็เช่นกันคะ

ไม่แปลกคะที่พระเยซูตรัสกับยูดา อิสการีโอตแบบนั้น เพราะรู้ว่าไม่กลับใจเช่นเดียวกับซาตานคะ

พี่CCJOB ลองเทียบดูนะคะว่า โจร สองคนนี้ที่ถูกตรึงพูดกับพระเยซูอย่างไร คนที่กลับใจพระเยซูตรัสกับเขาอย่างไร

ลูกา23:40 ฝ่ายคนหนึ่งในผู้ร้ายที่ถูกตรึงไว้จึงพูดหยาบช้าต่อพระองค์ว่า ถ้าท่านเป็นพระคริสต์ จงช่วยตัวเองกับเราให้รอดเถิด
แต่อีกคนหนึ่งห้ามปรามเขาว่า เจ้าก็ไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือ เพราะเจ้าเป็นคนถูกโทษเหมือนกัน
และเราก็สมกับโทษนั้นจริง เพราะเราได้รับสมกับการที่เราได้กระทำ แต่ท่านผู้นี้หาได้กระทำผิดประการใดไม่
แล้วคนนั้นจึงทูลพระเยซูว่า พระองค์เจ้าข้า ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จเข้าในอาณาจักรของพระองค์
ฝ่ายพระเยซูทรงตอบเขาว่า เราบอกความจริงแก่เจ้าว่า เจ้าจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม


สำหรับพระเจ้าแล้วพระองค์ย่อมรู้ดีค่ะ ว่าใครคือลูกของ ตัวชั่วร้าย


สำหรับพระเจ้าแล้วพระองค์ย่อมรู้ดีค่ะ ว่าใครคือ แกะที่หลงหายไป

นี่เป็นคำตอบคราวๆเกียวกับ โยเซฟ ยูดา และพระเยซู ค่ะ


แล้วจะตอบเพิ่มเติมนะคะ


ปล.เมื่อวานขายได้น้อยอย่าไปเครียดนะคะ ค้าขายมีขึ้นมีลง ถ้าเครียดจะกลายเป็นคน รักเงินรักทอง มากเกินไปนะคะ

ปล. ครอบครัวพี่และลูกๆน่ารักดี โดยเฉพาะ เจ้าตัวเล็กค่ะ

ไม่ใช่แล้วครับคุณพยานใหม่ฯ ขายของอะไรผมไม่รู้เรื่องเลยนะครับ


ทำไมถึงคิดว่าเป็นพี่หละ งงครับอธิบายด้วย

ครับ ผมก็ชอบทางนั้น มันมาจากจุดเริ่มเล็กๆเกี่ยวกับความสงสัยในความเชื่อของตัวเองสมัยเด็กๆ(10 ขวบได้)ว่าอะไรคือความจริง และที่ผมเชื่อมันจริงมั้ย ส่วนตัวพ่อผมเคยคลุกคลีกับกลุ่มพยานครับแต่จำอะไรไม่ได้เลย(7-8 ขวบได้)ช่วงตกงานก็ได้รับการช่วยเหลืออยู่ ภายหลังพอสามารถหางานทำได้แล้วจึงค่อยๆห่างเหินออกไปบ้าง จนหลังๆไม่ได้เข้าร่วมเลยครับ ถึงจะมีความรู้สึกแปลกๆติดอยู่ในใจ แต่ก็ยังติดต่ออยู่เสมอๆ ผมเอาเพจนี้ให้พ่อผมอ่านด้วย ก็สนใจมากๆเหมือนกันครับ (ไม่ค่อยเห็นพยานได้ถกกันในเว็บซะด้วย แปลกมาก)

เรียน เจ้าของ เว็บ

ข้อ 6 ไม่แปลกใจค่ะ ที่ผู้รับใช้ของพระเจ้าบางคนอยากจะแก้ไขความคิดที่ไม่ถูกต้องของพี่The Crisis of conscience Job ในเว็บนี้นะค่ะ ทำให้หนูคิดถึงพระคัมภีร์ข้อหนึ่งนะค่ะที่มัดธาย21:12 ที่ว่า

พระเยซูจึงเสด็จเข้าไปในพระวิหารของพระเจ้า ทรงขับไล่บรรดาผู้ซื้อขายในพระวิหารนั้น และคว่ำโต๊ะผู้รับแลกเงิน กับทั้งคว่ำที่นั่งผู้ขายนกเขาเสีย
และตรัสกับเขาว่า “มีพระวจนะเขียนไว้ว่า ‘นิเวศของเราเขาจะเรียกว่าเป็นนิเวศอธิษฐาน’ แต่เจ้าทั้งหลายมากระทำให้เป็น ‘ถ้ำของพวกโจร’”

พี่ The Crisis of conscience Job เองก็มีลูก ถ้าลูกของพี่ทำอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พี่เองก็อย่ากที่จะปรับทัศนะของลูกใช่ไหมคะ บางครังไม่ใชแค่บอก แต่ ตีด้วย จึงถูกเรียกว่า ตีสอน ค่ะ

ข้อ 7 ก็ไม่แปลกเช่นกันค่ะ ที่พี่น้องบางคน บอกว่าไม่ควรสนทนาในนี้ เพราะแม้แต่หหนูเองก็ยังไม่แน่ใจว่าพี่ The Crisis of conscience Job เป็นแกะหลง หรือ ..............นะคะ

ข้อ 9 ดังนั้นคำถามที่ว่ากลัวไม่กล้า ถกหรือ หนูขอตอบโดยหาเหตุผลทาง บวก ว่า ถ้าเป็นคำถามที่ไม่ตอ้งการคำตอบ (ผู้จมตี) พี่นอ้งไม่เสียเวลาด้วย

แต่ถ้าถามเพื่อต้องการคำตอบ (แกะหลง) อย่างนี้ก็หาเหตุผลด้วยค่ะ

อันที่จริงหาเหตุผลได้ใน JW.ORG


ข้อ 10 ก็ไม่แปลกใจค่ะที่ ตำหนิใครบางคน ( Br ) ว่ารับใช้พระเจ้าเพาะผลประโยชน์

การ หาเหตุผลทาง บวก บวก บวก คือ โยบ ก็เคยถูกกล่าวหาว่ารับใช้พระเจ้าเพราะผลประโยชน์เหมือนกันค่ะ

คำถามนี้ถ้าพี่นอ้งได้อ่านทุกคนต้องคิดถึง พระธรรม โยบบทที่ 1และ2แน่ ที่ซาตาน กล่าวกับโยบที่ว่า “โยบยำเกรงพระเจ้าเปล่าๆหรือ พระองค์มิได้ทรงกั้นรั้วต้นไม้รอบตัวเขา และครัวเรือนของเขา และทุกสิ่งที่เขามีอยู่เสียทุกด้านหรือ พระองค์ได้ทรงอำนวยพระพรงานน้ำมือของเขา และฝูงสัตว์ของเขาได้ทวีขึ้นในแผ่นดิน

พี่The Crisis of conscience Job
ต้องการหาเหตุ (หนูไม่ใช้คำว่า ถกเถียง )
พี่มีความถ่อมใจในระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้น พี่The Crisis of conscience Job ควรทำให้แน่ใจว่าพี่เป็นแกะที่หลงหายตัวนั้นนะคะ
เพราะคำพูดของพี่บอกว่า ถ้าได้คำตอบ ก็จะกลับเข้าฝุงอีกครั้ง (หนูหมายความว่า ใครก็แล้วแต่ที่สงสัยถามได้แต่ควรใช้คำที่สุภาพ นะคะ ถ้าใช้คำถามจมตีจะกลายเป็นผู้ออกหากนะคะ) นีคือคำตอบข้อ 10 ค่ะ

แล้วจะตอบเพิ่มนะคะ

ข้อ 11 การหาเหตุผลว่าอะไรคือความจริง

เช่น นรกมีจริงหรือไม่?

การหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เกียวกับ อะมีบา (AMEBA) แบ่งตัวเองได้ ก็คงจะได้คำตอบเกียวกับนรกด้วยค่ะ(ให้พี่ The Crisis of conscience Job คิดต่อเอาเองนะคะ

โดยเฉพาะหาเหตุผลทาง คณิต ยิ่งได้คำตอบ ชัดเจนมากคะ

สรูปข้อ 11 นี้คือ ความจริงตอ้งไม่ขัดกับ วิทยาศาสตร์ และ คณิต และอื่นๆ ค่ะ

ข้อ 11.2 การหาเหตุผลว่าอะไรคือความจริง

เช่น นรกมีจริงหรือไม่?

การหาเหตุผลทาง คณิตศาสตร์ ให้พี่ The Crisis of conscience Job คิดต่อเอาเองนะคะ เพราะหนูไม่สามารถเขียนอย่างละเอียดได้ในนี่ แต่มีประโยคหนึ่งทิ้งไว้ให้พี่The Crisis of conscience Jobและหลานและคนอื่นๆคิดต่อเอาเองนะคะ แล้;จะได้คำตอบเกี่ยวกับ นรกมีจริงหรือไม่

ประโยคนั้นมีอยู่ว่า " ปัจจุบัน พี่ CC ถูกส่งมาเกิดเป็นชาติที่ ติดลบห้า "

ข้อ 11.3 การหาเหตุผลว่าอะไรคือความจริง

เช่น นรกมีจริงหรือไม่?

การหาเหตุผลทาง นิติศาสตร์ (กฎหมาย)ให้พี่ The Crisis of conscience Job คิดต่อเอาเองนะคะ เพราะหนูไม่สามารถเขียนอย่างละเอียดได้ในนี่ แต่มีประโยคหนึ่งทิ้งไว้ให้พี่The Crisis of conscience Jobและหลานและคนอื่นๆคิดต่อเอาเองนะคะ แล้วจะได้คำตอบเกี่ยวกับ นรกมีจริงหรือไม่

เหตเกิดที่ศาลแห่งหนึ่ง ประโยคนั้นมีอยู่ว่า " "

(ผู้สนใจ วัย 17) เมื่อผมเริ่มมีความเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ คนใกล้ตัวผมถามว่า ! ผมถูก ล้างสมอง ?? (ตอบ) ใช่ครับผมถูกล้างสมอง (เค้าล้างอะไร ออกไปบ้างหล่ะ ถึงได้เป็นแบบนี้) อ๋อ ผมโดน ล้างสมอง โดยการ ล้างเอา พฤติกรรม แย่ ๆเช่นพูดจาไม่สุภาพหยาบคายและคำพูดหยาบหยาม. ไม่ให้เกียติผู้อื่น โกหก ฯ ครับ และกำลังโดนใส่ สิ่งใหม่มากมายเข้ามาแทนที่สิ่งต่างๆที่ถูกล้างไป.. และก็จะกำลังสวมบุคลิกภาพใหม่. แล้วพี่น้องหล่ะ อิอิ อย่าลืมสวม ยุทธพันธ์ ของพระเจ้านะครับ. อย่า ลืมเติมเชื้อเพลิง (ฟืน) ให้ลุกโชนอยู่ตลอดเวลานะครับ.

เจ้าของกระทู้ จิตใจสกปรกเกินกว่าจะเข้าใจ ไม่ต้องไปละดีแร้ว เดียวคุนทำไห้เสียชื่อเปล่าๆ ถ้าตัดจากอะไรเก่าไม่ได้ก็อย่าหวังว่าจะได้รับอะไรไหม่ๆเรยค่ะ

พี่พยานคนหนึ่งค่ะ พี่เขียนได้ตรงใจหนูมากเลย แต่หนูก็ไม่เคยถามใคร แต่พี่น้องที่เป็นพยานก็จะไม่เลวร้ายทุกคนนะค่ะ บางคนก็ดีจริง ๆ แต่หนูอยากถามพี่ว่า บร.นพคุณ เลิกเป็นพยานแล้วจริงหรือค่ะไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ พี่เค้าเป็นคนสุำภาพอ่อนน้อมมาก ความคิดที่หนูอยากจะกลับเข้าไปอีก เลยหมดไปแล้วอยุ่ข้างนอกน่าจะดีกว่า

ถึงคนเคยเป็น บร.นพคุณเค้าเลิกมาประชุมตั้งนานแล้ว แบบนี้ถือว่าเลิกเป็นพยานรึป่าว ก็แล้วคนคิดนะครับ





พี่น้องที่เป็นพยานไม่เลวร้ายทุกคนหรอกครับ เห็นด้วย สังคมข้างนอกก็เหมือนกันแหละครับ มีทั้งคนดีไม่ดีปะปน


แต่พยานฯนั้นสอนเคร่งไป สอนในสิ่งที่ทำไม่ได้ในชีวิตประจำวัน



แต่ก็ยังสอนทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำ และไม่คิดจะทำ

บางคนก็บอกว่าระวังเดี๋ยวคนอื่นรู้เดี๋ยวเค้าสะดุด อันนี้ระดับผู้ปกครองพูดนะครับ



เพราะฉะนั้นคนที่มีความจริงใจอย่ามาเป็นพยานฯเลยครับเสียความรู้สึกเปล่าๆนะครับ

น้องที่เคยเป็นพยานฯ



ที่คุณบอกว่าอยู่ข้างนอกน่าจะดีกว่าถูกต้องแล้ว

เชื่อพี่อย่ากลับเข้าไป ที่นั่นไม่มีอะไรมากไปกว่าเดิมหรอกครับ มันเป็นที่ของคนที่ไม่มีอนาคตทางโลก เค้าเลยไปเอาทางธรรมดีกว่า และเป็นที่ของลูกหลานพยานที่เชื่อต่อๆกันมานานแล้วไม่อยากออกไปไหน

เข้าไปให้เค้าล้างสมอง และควบคุมสมองน้องเปล่าๆ


พอพี่เลิกไปประชุมซักระยะนึงแล้วรู้สึกได้เลยว่าที่ผ่านๆมาถูกล้างสมอง

เสียอนาคตไปตั้งเยอะ

อันนี้เพราะพี่มีความจริงใจนะคือเชื่อจริงๆจังๆ ต้องการทำเหมือนที่เรียนในหอประชุม


ส่วนพวกผู้ปกครองผู้ดูแลหมวด และวัยรุ่นส่วนใหญ่

คิดว่าเค้าไม่ได้จริงใจอะไรมากหรอก


เค้าทำเหมือนเป็นหน้าที่หนะ ก็เห็นหลายคนก็เรียนสูงๆมีงานดีๆทำหาเงินซื้อรถซื้อบ้าน

ไปกินร้านอาหารดีๆ ดูหนังฟังเพลง

หนังรุนแรง ก็ดูกัน ไม่เห็นทำเหมือนที่เรียนเลย


ออกมาดีกว่า อย่าไปเป็นคนตีสองหน้าอยู่ในนั้นเลย

ไม่ดี



จริงๆพี่คิดว่าถ้าพระเจ้าเป็นเหมือนที่เราเรียนมาต้องการพิสูจน์ประเด็นให้เห็น

จนต้องมีคนเจ็บปวดทั้งกายทั้งใจ ตลอดยุคสมัยที่ผ่านมามากมายนับไม่ถ้วน

ก็ยังปล่อยมานานป่านนี้เพื่อพิสูจน์ประเด็น


พี่ขอตายดีกว่า ขอแค่ให้พี่หลับไปเหมือนที่เรียนมาละกัน พระเจ้าอย่ามาปลุกเลย

เพราะถ้ามีพระเจ้าแบบนี้อนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ไม่รู้ เอาแน่ไม่ได้

ขอนอนหลับไม่รู้เรื่องดีกว่า


(ส่วนตัวแล้วตอนนี้เชื่อว่าพระคัมภีร์มนุษย์เป็นคนเขียนเองเพราะดูจากนิสัยพระเจ้าในคัมภีร์แล้วเหมือนมนุษย์เลย มีทั้งรักโลภ โกรธหลง ต้องการให้คนยกย่องนับถือ ต้องการแก้แค้น โมโหโกรธบ่อยๆ แล้วเดี๋ยวก็ให้อภัย เดี๋ยวมีโปรเจ็คใหม่ๆอีก)

คำพูดพี่ CC JOB ข้างบนนี้ ไม่ได้ท้าทายพยานนะ แต่ท้าทายพระยะโฮวาห์เลยนะ น่ากล้วจังเลยค่ะ บอกว่า "พระเจ้าไม่มีจริง ขอตายดีกว่า ถ้ามีพระเจ้าแบบนี้" พระองค์ คงจะทำตามที่พี่ขอนะ หลับเถอะ

ครับน้องพยานใหม่ พี่ขอหลับสบายไม่รู้เรื่องดีกว่า






จริงๆพระเจ้าของคนๆนึงจะเป็นยังไงมันอยู่ที่ผู้นำของกลุ่มนั่นๆที่เค้าสังกัดอยู่


พระเจ้าของโบสถ์ เป็นตรีเอกานุภาพ

พระเจ้าของพยานก็เป็นพระเจ้าเดียว

แต่พระคัมภีร์ที่เราใช้ 1โยฮัน บท1:1 ดันบอกว่า พระเยซูเป็นพระเจ้าองค์หนึ่ง


ก็ไม่รู้ว่าผู้เขียน คือโยฮัน กล้าหาญชาญชัย เขียนแบบนี้ได้ยังไงถ้า พระเยซูไม่ใช่พระเจ้าจริง

ลองคิดดูดีๆครับ ฉบับแปลโลกใหม่เขียนชัดเจน

พระวาทะ(พระเยซู) คือพระเจ้าองค์หนึ่ง


ถ้าไม่มีโยฮันบท 1 ข้อ 1

จะมีใครในหมู่พยาน บอกว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าองค์หนึ่งมั้ย


พระเยซูเป็นพระเจ้าองค์หนึ่ง แต่ไม่ใช่พระเจ้าองค์ยิ่งใหญ่สูงสุด

เป็นไปไม่ได้ใช่มั้ยครับ ที่เราจะพูดแบบนี้ถ้าไม่มีโยฮันบท 1 ข้อ1


ถ้าขืนพูดมีหวังถูกตัดสัมพันธ์แน่ๆ


แต่โยอันสาวกที่พระเยซูรักกับเขียนข้อความแบบนี้ในตอนขึ้นต้นของหนังสือตัวเองซะงั้น

ถ้าได้รับการควบคุมดลใจจากพระเจ้าพระเจ้าจะปล่อยผลงานที่จะสร้างความขัดแ้ย้งในอนาคตแบบนี้เหรอ