ควันหลงฮันนีมูน .. กลับจากหัวหินมา คอแดงเป็นจ้ำๆเลย
................ชีวิตยุ่งเหยิงพอสมควร นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้อัพบล็อคมาอาทิตย์นึงเต็มๆ ต้นเดือนไม่ได้เข้าเน็ท ตั้ง 3 วันติดกันด้วยซ้ำ เพราะว่าก็ไปถ่ายรูปชุดวิวาห์กันมา พอดีเช่าชุดมาแล้ว กะว่าจะเข้าโบสถ์แบบเงียบๆ แต่ปรากฏว่า มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะว่าผมไม่ได้เป็นคาธอลิก แล้วก็ยังไม่เคยล้างบาป ซึ่งถ้าจะทำพิธีแลกแหวน หรืออะไรๆเนี่ย ก็จะต้องเข้าคอร์สอบรม กะหลวงพ่อ แล้วก็เตรียมตัวอะไรอีกเยอะ ต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ 3 เดือน หรือทั่วไปก็ปีนึง ซึ่งมันก็ไม่ทันแล้วอ่ะครับ เพราะสุดที่รักจะบินกลับอิตาลีอยู่แล้ว แต่ใหนๆก็ใหนแล้ว ที่รักบอกว่าชุดที่เช่าสวยมาก ก็เลยกะว่า ออกไปหาที่แลกแหวนกันเองข้างนอก แล้วก็ถ่ายรูปกันซะเลย
................งานนี้ก็เลยโทรไปที่อยุธยา ขอใช้บริการของพี่จ๋า แห่ง ไพโรจน์ เว๊ดดิ้ง สตูดิโอ ข้างหลัง เทคนิค ยุดยา โดยผ่านทางปุ๊กกุจัง น้องสาวสุดซี้เก่าแก่ แฟนช่างภาพ อิอิ ทีแรกจะไปที่ เมืองโบราณ แต่ค่าสถานที่แพง ก็เลยไปสวนรถไฟแทน แต่มันก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เลยได้ภาพมานิดเดียว จะไปสวนเบญจศิริ ( สิริกิตต์ ) หลังจตุจักร ก็ดันมีป้ายเก็บตัง 3พัน ทั้งๆที่เป็นสวนสาธารณะของรัฐ ของกทม แต่เก็บตังค่าเข้าไปถ่ายรูปชุดแต่งงาน นี่สามพัน แมร่งเอ๊ย ไม่รู้เงินไปเข้าใหน ไม่รู้ว่ากฏระเบียบนี่ออกมาได้ยังไง แล้วมันต่างกันตรงใหนระหว่างเดินเข้าไปถ่ายชุดธรรมดา กับชุดแต่งงาน สวนที่ไม่ค่อยมีคนจะเดินเข้าไปเนี่ยนะ สวนที่ใช้เงินภาษีของเราๆท่านๆมาบำรุงเนี่ยนะ แต่พอเราจะเดินเข้าไปถ่ายรูป มันไม่ให้ถ่าย กลัวหญ้าจะสึกหรอหรือไง ให้ตายห่าสิ ผมไม่ได้เอาทีมงานไปทั้งสตูดิโอนะ ก็แค่ช่างภาพ กล้องธรรมดาตัวเดียว แฟนช่างภาพอีกคน กับอุปกรณ์แต่งหน้านิดๆหน่อย ๆ แค่เนี้ย ( พูดแล้วเซ็งอารมณ์ กับ หน่วยงาน ของกรุงเทพมหานครจริงๆพับผ่าสิ )
.................ตัดข้ามช็อตดีกว่า สุดท้ายผมกะสุดที่รักก็ไปถ่ายรูปกันที่ ดรีมเวิลด์แทน หลังจากปุ๊กกุจัง เช็คแล้วว่าไม่คิดค่า ขูดรีด เพิ่ม แต่คิดแค่ค่าผ่านประตู 120 บาท แถมที่ดรีมเวิลด ก็มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะไปหมดครับ สุดท้ายก็เลยได้ถ่ายกันหลายชั่วโมง จน บ่าย 3 กว่าแน่ะ เกรงใจ ปุ๊กกะ พี่จ๋ามากเลย คงจะเหนื่อยแย่ ... ทีแรกกะว่าถ่ายรูปเสร็จ จะพาที่รัก ไปนั่งรถเคเบิล กะรถไฟชมรอบดรีมเวิลด์ สักหน่อย แต่ดูเวลาแล้ว คงจะไม่ทันการณ์แน่ ก็เลยนั่งรถกลับมาในเมือง แวะบ้านแม่ที่บางลำพู พา ( ว่าที่ ) เจ้าสาว ไปคุยกะคุณแม่สักกะหน่อย แล้วก็นั่งรถไปเรี่ยนภาษาอิตาลี ที่อักษร จุฬา พาที่รักเข้าไปนั่งเรียนด้วย ทั้งๆจุดเจ้าสาวเลยนะ แต่ใส่เสื้อคลุมไปชั้นนึง ส่วนผมก็ถอดทักซิโด้ออก เหลือแต่เสื้อเชิ้ตใน
.................เรียนเสร็จสองทุ่มก็ขับรถย้อนไปปากน้ำ เอาชุดไปคืนที่ร้าน จากนั้นก็ขับรถไปหัวหินกันต่อเลย สาวเจ้าเหนื่อยน่าดู เห็นแอบงีบตั้งแต่ตอนเรียนในห้องแล้ว เค้าบอกว่า ประมาณเหมือนสอนเด็กอนุบาลน่ะ เลยคร่อกๆดีกว่า แล้วก็หลับต่อในรถ ไปถึงเพชรบุรีแวะทานข้าวมื้อดึก แล้วก็ตรงไปหาโรงแรมที่หัวหิน ทีแรกจะพักในเมือง แต่มันเต็มหมด ก็เลยอ้อมมาพักที่ มาเจสติก บีช รีสอร์ท โรงแรมผมก็ว่าระดับ สัก เกือบๆ 4ดาวมั้ง แต่ที่รักบอกว่า น่าจะสักประมาณ สามดาว ( อืมย์ สามดาว ที่พักคืนละ 2300 แพงเหมือนกันนะ ) เช็คอิน ตี1 แทบสลบ ห้องก็ไม่ค่อยถูกใจ คือจริงๆห้องอ่ะโอเค แต่เตียงมันดันแยก เป็นสองเตียง ผมว่าเตียงเล็กไป ก็เลยขอย้ายไปอีกห้องนึง ที่เป็นเตียงใหญ่ แต่ปรากฏห้องมันเล็ก แล้วก็มีห้องน้ำคั่นกลาง มี ห้องพักผ่อนด้านหน้า ( คล้ายๆห้องสูท แต่ไม่เชิง )
....................ตื่นมา เกือบ9โมงเช้า แวะไปซื้อยาสีฟัน และก็พวกแปรง กะยาสระผม แถวเซเว่นหน้าปากทางแล้วรีบกลับมาล้างหน้าแปรงฟัน แล้วลงมากินบุฟเฟ่ท์อาหารเช้า ที่ห้องมนต์ทะเล บรรยากาศดีมากเลย ริมทะเล กินซะพุงกางเลย เพราะไม่ได้กินบุฟเฟ่ท์เช้าโรงแรมแบบนี้มานานมากกกกกแล้ว อิ่มเสร็จก็ขึ้นห้อง แล้วเราก็ทำอะไรกันหว่า จำไม่ได้ เตรียมตัวออกไปทะเลกันมั้ง ไปเล่นที่หาดของ ที่ๆที่รักเขาเคยไปพัก มีแต่ฝรั่งครับ ข้าวของก็วางทิ้งไว้ได้ปลอดภัย เล่นน้ำไม่นาน เพราะสุดที่รักกลัวแมงกระพรุน แล้วก็ไปขี่ม้ากัน ที่รักเค้าขี่ ผมเดินตามถ่ายรูป แล้วกลับมาเล่นน้ำอีกรอบ ( ลืมถ่ายรูป ) แล้วก็กลับที่พัก มาเล่นน้ำในสระว่ายน้ำของโรงแรม เย็นๆก็ออกมาหาไรกินกันในเมือง อาหารทะเลไม่แพงเท่าไหร่ มีซอยแบบเดินช๊อปปิ้ง ก็เดินชมๆบรรยากาศก่อน เลือกร้าน แล้วค่อยย้อนกลับมาทาน ปรากฏว่า คุณที่รักแกหิว เลยกินโน่นกินนี่ไปรองท้อง สุดท้ายไปถึงร้าน อิ่มซะแระ
................ค่ำๆก็ตรงกลับที่พัก ไป ...... อะไรกันหว่า .... ลืมอีกแล้ว เช้าก็ลงมาทานอาหาร แล้วก็ ไป ... ทำอะไรกันบนห้องอีกหว๊า ( ลืม ) ... ความจำไม่ค่อยดีเลยช่วงนี้ เบรอๆ อิอิ วันสุดท้าย เช็คเอ๊าท์แล้วก็ไปตะเวณถ่ายรูป แวะไป พระที่นั่งมฤคทายวันด้วย เดินชมวัง ถ่ายรูปแล้วก็กลับกรุงเทพ แวะไปส่งที่รักที่สนามบิน แล้วย้อนกลับมาเรียนภาษาที่จุฬา จากนั้นก็กลับไปที่สนามบินอีกรอบ ที่รักไม่ยอมให้ไปส่ง บอกว่าไม่อยากร้องไห้ ผมก็เลยได้แต่ส่งเสียงไปทางโทรสับ เศร้า ฮือๆ คืนนั้นกลับบ้านสี่ทุ่ม แวะทานข้าวแล้วมาเจอกันในห้องแพนด้า แป๊ปนึง ก่อนที่รักขึ้นเครื่อง ป่านนี้เขาไปถึงโน่นแล้ว ไม่รู้เขาจะลืมเราหรือเปล่า กลัวความห่างไกล และความไม่ไว้ใจของเค้าจัง เฮ่อๆๆๆๆๆ
Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2549 |
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2549 16:32:37 น. |
|
16 comments
|
Counter : 658 Pageviews. |
|
|
|
รูปคู่น่ารักจังเลยค่ะ....
ปล.นุ๊ก ยังบั้นท้ายดินระเบิดเหมี๋ยนเดิมมมม