Group Blog
 
 
กันยายน 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
20 กันยายน 2559
 
All Blogs
 
จิตเกาะพระ 11กย2559 ถามใจตนดูก่อน











ขอบพระคุณที่มาเฟสบุคPhuBodin 11กย2559 สาธุค่ะ
#ถามใจตนดูก่อน
ก่อนด่วนตัดสินใจอะไรลงไป
เคยถามใจตนเองบ้างหรือเปล่า
หากด่วนตัดสินใจโดยไม่ถามใจตนเองก่อน
แต่ถ้าไม่สบายใจภายหลัง 
แสดงว่า เราขืนหรือฝืนใจตนเอง
จะด้วยเหตุผลอันใดก็แล้วแต่ เป็นเพราะตามใจผู้อื่นเขา
อะไรก็ตาม ถ้าขืนหรือฝืนจิตใจตน ย่อมไม่ดีแน่นอน
และจงรู้ไว้ว่า เรากำลังฝืนธรรมชาติ
เพราะคำว่า เป็นกลาง  มิได้หมายถึง ..
เราต้องฝืนหรือตามใจตนเอง
ฉะนั้น พระอรหันต์ย่อมมีใจเป็นกลาง
หมายถึง จิตนิ่งและวางเฉย
ไม่ไปวิ่งตามอะไรอีก เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
จิตเป็นกลาง ไม่มีคำว่า เอนหรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
จิตนิ่งและเฉยเป็น นี่เรียกว่า "ใจเป็นกลาง"
ใครจะเป็นจะตายไม่รุ๊ รู้แค่ใจฉันนิ่ง+เฉยพอแล้ว

คนส่วนใหญ่ที่ไม่เคยถามใจตนเองก่อน
เพราะใจมันไวกว่าสตินั่นเอง
ถึงได้ตัดสินใจทันด่วนอะไรแบบนั้น
ผลเสียที่ตามมาก็คือ ความผิดพลาด ย่อมมีมากกว่า
ต่อไปนี้ไม่เอา เพราะความผิดพลาดที่ผ่านมาก็มากพอแล้ว
ถ้ามีสติสักนิดนึง ความผิดพลาดก็จะน้อยลง
หยุดถามใจตนเองก่อน ..
แค่หยุดถามใจตนนั้น หมายถึง เรามีสติแล้วนะ 
หยุดถามใจตนก่อนที่จะด่วนตัดสินใจอะไรลงไป
เราจะได้ไม่ต้องมาเสียใจหรือผิดหวังภายหลัง
ส่วนคนที่ขืนหรือฝืนจิตใจตนเองนั้น แปลว่า ..
ท่านกำลังฝืนกฎธรรมชาติ 
อะไรก็ตาม ถ้าเป็นการฝืนธรรมชาติ ย่อมไม่เป็นผลดีแน่
ต่อไป อย่าไปขืนหรือฝืนจิตตนเอง
แต่มิได้หมายถึงต้องไปตามใจตนเองนะ .. ไม่ใช่
หากทำได้ดังนี้ จิตจะเป็นกลางไม่ยาก  "ใจเป็นกลาง"

เมื่อใจเป็นกลาง ความนิ่ง"เสถียร" ก็จะเกิดขึ้นเอง
ต่อไป จิตจะเข้าถึงธรรมะ เข้าถึงธรรมชาติง่ายดาย
ขออนุญาตยกตัวอย่าง เช่น ดิน 
แค่ดินคำเดียว ไม่สามารถไปทำร้ายจิตใจใครได้เลย
ผมจะอธิบายเป็นสองนัยยะ คือ

๑."ดิน" รู้สึกดี เพราะปลูกพืชได้ ปลูกบ้านอาศัยได้
แต่ถ้าเป็นดินโคลนถล่ม ดินสไลด์ แผ่นดินไหว
รู้สึกดีมั๊ย ตอบว่าไม่ดีเลย
ดังนั้น คนที่จิตไม่เป็นกลางก็จะรู้สึกว่า ดินไม่ดี
ใจที่เป็นกลาง เขาไม่เอาความรู้สึกดีหรือไม่ดี
แล้วนำมาเป็นเรา เป็นของเรา นอกจาก ไม่ยึด
แถมเข้าใจกฎไตรลักษณ์ คือเข้าถึงคำว่า "ธรรมดา"

๒."น้ำ" ก็เช่นกัน แค่ฟังเฉยๆ ก็รู้สึกดี 
เพราะทุกชีวิต ต้องการน้ำ 
ขาดน้ำไม่ได้ ตายแน่ แต่ถ้ามากเกินไป ชีวิตอาจจบลง
เช่น น้ำท่วม น้ำไหลหลาก เป็นไง รู้สึกดีไหม ไม่ดีใช่ไหม
ส่วนใจคนที่เป็นกลาง เขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร
รู้สึกเหมือนกัน แต่รู้สึก เฉยๆ 
เพราะจิตภายใน รู้ความจริงแท้หมดแล้ว
หรือเรียกว่า "ไม่รู้สึกบนความรู้สึก'

ทำไม พูดแบบนี้ ก็เพราะว่า ยังมีขันธ์๕ อยู่
นั่นแสดงว่า ยังมีเวทนากาย เวทนาใจ เหมือนเดิม
แต่ผู้หลุดพ้น มีแต่เวทนากาย แต่ไม่มีเวทนาจิต

๓.คำว่า "ไฟ" ก็เหมือนกัน อาจรู้สึกได้ทั้งบวกและลบ
คงไม่ต้องอธิบายแล้ว เพราะทุกคนเข้าใจธรรม

คำว่า "ไม่รู้สึก" หมายถึง จิตไม่ยึดไม่จับเอาเวทนาใดๆ
ส่วนคำว่า "บนความรู้สึก" หมายถึง ตราบใด ยังไม่ตาย
ย่อมมีความรู้สึกทั้งกายและใจแน่นอน เหมือนกันหมด
เพียงแต่ว่า จิตไม่จับหรือไม่ยึดเอาความรู้สึกใดๆ
มาเป็นเรา เป็นของเราอีกต่อไปแล้ว มีเท่านั้นเอง
มันแยกกันตรงนี้แหละ ..
ระหว่างจิตปุถุชนกับ "อริยบุคคล"
โมทนาสาธุ
...
วันหยุด จิตมิเคยจะหยุดคิดอะไรเลย ปล่อยมันไป ในเมื่อจิตมันอยากคิดเอง เพียงแค่เรามีสติตามดูจิต ตามดูความคิด ที่กำลังเกิดหรือดับ แต่ถ้าสติใครพอจะมองเห็นความคิดเกิดขึ้น และกำลังตั้วอยู่นั้น ส่วนมันจะดับตอนไหน ช่างมัน เพราะความคิดจะดับลงได้ก็ด้วยสติปัญญาตนรู้ทันหรือรู้เท่าทันอารมณ์หรือความคิดนั่น พอเรามีสติรู้ทันจิต ความคิดก็จะดับลงเอง ความคิดดับเพราะจิตนิ่งเฉย ไม่ไปสนใจมันอีกต่อไปแล้วนั่นเอง สาธุ
...

ฉะนั้น ความคิด จึงไม่มีใครเขาห้ามได้ ห้ามจิตมิให้คิดไม่ได้ เห็นมีแต่จะทำยังไงให้จิตหยุดคิด นี่คือ จุดหมายของทุกคน ทำไม่ยาก แค่มีสติอยู่ที่กายใจพอแล้ว หมายถึง ทำยังไงก็ได้ให้จิตตนนิ่งเป็น แค่นิ่งเฉยๆ จึงไม่พอ ให้เอาจิตขณะที่นิ่งอยู่นั้น ไปวิปัสสนาต่อ หมายถึง เอาจิตนิ่งไปพิจารณาธรรมต่อเลย หมายถึง เอาสติเอาจิตขณะนิ่งนั้น ตามดูจิตตามรู้จิตด้วยใจเป็นกลาง แล้วเราจะเห็นจิตเกิด-ดับ  คือเห็นความคิดเกิด-ดับนั่นเอง ถ้าใครเห็นเกิดดับของจิตหรือความคิด คนๆนั้น ก็จะออกจากคำว่าทุกข์ไม่ยาก เพราะมีสติมองเห็นจิต คือรู้ทันจิต เท่ากับรู้ทันอารมณ์ต่างๆ หรือรู้ทันความคิด คือ "รู้ทันจิตสังขาร" .. สรุปคือ เห็นจิตก็เห็นความคิดและเห็นความทุกข์ที่อยู่ในใจตนเองด้วย พอจิตมองเห็นทุกข์ เดี๋ยวก็รู้เองว่า ละทุกข์ยังไง สาธุ
...
แค่เห็น รู้ทัน 
สาธุๆ ถูกต้องครับ
...
เห็นหรือยังว่า ที่นี่ เหมือนจะเน้น "สมถะ" แต่ไม่ซะทีเดียว แต่ไปเน้น "หลุดพ้น"  คือเน้นไปต่อ คือเน้นวิปัสสนา ให้ขาดสิ้น สาธุ
...
สาธุในธรรมทานค่ะ..... จิตนิ่งจะมีคำถามและคำตอบให้เราเสร็จสรรพค่ะครู
โมทนาสาธุ แสดงว่า คุณ...รู้แล้ว จิตรู้แล้วก็ขยันทรงสมาธิจิตให้ได้ #ต่อเนื่อง จิตยิ่งนิ่งก็ยิ่งรู้มากเท่านั้น.. ตามที่หลวงปู่ดูลย์ท่านเคยกล่าวธรรมทำนองนี้ว่า จิตนิ่งเมื่อไหร่เราก็รู้เมื่อนั้น แสดงว่า สติมาปัญญาเกิด

บางครั้งอารมณ์ความคิดจะออกนอกเส้นทาง  เหมือนสติจะมาตัดตอนก่อนเลยค่ะว่า หยุดปรุงแต่ง จิตก็จะจบอยู่แค่นั้น. อย่างงี้เค้าเรียกว่าอะไรคะ
สาธุครับ สติรู้ทันจิตไง๊ พอเรามีสติเพิ่มขึ้น สติจะรู้เท่าทันอารมณ์หรือความคิดต่างๆ โดยเฉพาะ อารมณ์ที่ไม่ดี หรือคิดไม่ดี เป็นต้น สาธุ
...
หากใครมีสติ หรือมีสมาธิจิตดี ย่อมได้รับธรรมะตรงนี้ไปเต็มๆเลย โมทนาสาธุด้วยจร้า สาธุ ขอให้ทุกท่านสุขกายสบายใจ เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป รักษากายใจตนให้ดี โดยเฉพาะ รักษาใจตนให้เป็นปกติ ถ้าไม่คอยหมั่นเติมกำลังใจตนก็อย่าเผลอสติบ่อยนักเพราะจิตตก เดี๋ยวจะโดนข้อหาทำร้ายใจตนเศร้าหมอง ถือว่าท่านทำผิดศีลละเอียดเข้าแล้ว ในฐานะทำจิตตนเศร้าหมอง ถ้าตายตอนนี้ ขาดทุนจิตะเอง ไม่เอาน๊า เป็นห่วงนะเนี๊ย ที่พร่ำมากเนี๊ย รู้มั๊ยๆ
...
ตราบใด จิตยังไม่หยุดนิ่ง เราก็ไม่ยอมหยุดทำกรรมฐานหรือทำภาวนา ทำไปๆ ทำไปยันตาย สาธุ
...
#ขออนุญาตเม้นต์นำมาแปะไว้ที่นี่..
#คนที่ยังมีกำลังใจน้อยจะได้ตามอ่าน..

Phu Bodin  สาธุ อย่าเอาหนี้มาอ้าง เวลาทำกรรมฐาน อย่าเอาหนี้มาต่อรองกรรมฐาน ตรงนี้เธอต้องวางกำลังใจตนให้ถูกต้องก่อนน๊า ถ้าเธอพูดแบบนั้น เศรษฐี ก็เป็นอรหันต์กันหมดจิ คนจนไม่มีสิทธิ์เงยหัวขึ้นได้เลย พระพุทธสาสนา พระพุทธเจ้าตรัสว่า ทุกคนเท่าเทียมกันหมด ต้นทุนเท่ากันหมด โดยเริ่มต้น คำว่า "มนุษย์" เพราะสามารถบรรลุธรรมได้เหมือนกันหมด น๊านแร๊ะ จะบอกให้นะว่า ยิ่งจนยิ่งเห็นทุกข์ ยิ่งเห็นธรรมง่ายดายกว่าคนร่ำรวย จำไว้เลยว่า คนที่เกิดมาชาตินี้ ไม่ร่ำรวย คือจนสุดๆ ยิ่งไม่มีอะไรเหลือเลยนั่นแหละ..คนที่จะไปนิพพานได้อย่างง่ายดายนัก นี่เอาอารมณ์พระมาตอบเธอโดยเฉพาะเลยเนี๊ย รีบๅรับไปเร็วเลย ดังนั้น ห้ามท้อ ถอยตั้งหลักได้ #โอกาสทองเธอมาถึงแล้ว ถ้ารอหมดหนีหรือให้รวยก่อน เธอคิดว่า เธอไม่ติดสุขทางโลกแน่นะ ดูพี่ภูเป็นตัวอย่างนี่ เป็นผู้ที่ไม่มีอะไรเหลือเลย แม้นกระทั่ง กายใจ เพราะชาตินี้ ยกถวายพระหมดแล้ว มีลมหายใจก็มิใช่ของตน เป็นของกายหยาบเขา เพราะกายหยาบก็ไม่ใช่ตน มิใช่ของตนเองอีกแล้ว จิตเข้าใจดีแล้ว พร้อมตายทุกเมื่อ ทุกวันนี้ก็ไม่อยากจะมีลมหายใจอยู่แล้ว อยากมีกายแก้ว ที่อยู่บนพระนิพพานนู้น เพราะสบายกว่ามีกายหยาบมากๆเลย นับแต่ท่านพ่อเมตตาพาลูกขึ้นไปข้างบนนู้น สรุปแล้ว กำลังใจอย่างเดียวลูกเอ๊ย ..สรุปแล้วที่เหลือจะมีอะไรเป็นของเราอี๊ก ไม่มีแล้ว กลายเป็นอนัตตาไปหมดแล้ว ตอนนี้ ตายทั้งๆที่ยังมีลมหายใจอยู่เนี๊ย จิตลำหน้าไปก่อนแล้วนะ น้องรัก
...
ส่วนคนที่บอกว่า มีต้นทุนน้อย มีกำลังใจน้อย มีของเก่าน้อย มีบุญบารมีน้อย เป็นต้น  ดังนั้นก็เลยมักจะพูดว่า ชาตินี้เอาแค่พระโสดาบันให้ได้ก่อนเห่อ ส่วนพระนิพพาน ไกลเกินเอื้อม.. แต่ก็เป็นความจริงนะ นั่นสำหรับผู้ที่มีกำลังใจน้อยนิด อันนั้น เข้าใจๆ ถ้าเริ่มต้นเรามาแบบนั้น คือ ปักธงก่อนแล้ว ยังไม่ทันได้ทำด้วยซ้ำไป .. ผมจะบอกให้นะ .. ท่านอย่าไปปักธง อย่าไปปักใจเชื่ออะไรตรงนั้น อันนั้น คนคิดแบบนั้น บอกเลยว่า ไม่เอาไหน ไม่เอาถ่าน ไม่ทันลงสนามเลย คือยังไม่ทันจะปฎิบัติด้วยซ้ำไป ก็พูดก่อนแล้ว มันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อย่าไปพูดตามเขา อย่าไปเชื่อตามเขานะ เชื่อพระพุทธเจ้า เชื่อครูบาอาจารย์ของตนเองนี่ ดูหลวงพ่อ(อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าซุง) ท่านทำให้ลูกหลานดูและเห็นหมดแล้ว ร่างกายของพ่อก็ไม่ดีเหมือนคนอื่นๆเขาเลย คือสามวันดีสี่วันไข้ เป็นอย่างนี้จนละสังขาร พ่อไม่เคยท้อ พ่อเอาจิตรอด พ่อหลุดพ้นแล้ว แถมยังตามช่วยลูกหลานอีกมากมาย แต่ทำไม ลูกพ่อถึงได้มีกำลังใจกันแบบนี้ ทำไมพูดกันเป็นค่านิยมกันแบบนี้เล่า ทั้งๆที่พ่อทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่างหมดแล้ว.....
...
จะบอกให้นะว่า เมื่อก่อน ผมไม่เคยคาดหวังจะต้องได้ขั้นนู้นขั้นนี่ ไม่เคยหวังแม้นพระโสดาฯ ปฎิบัติธรรมใหม่ๆ หวังแค่จิตสงบก็พอใจแล้ว แต่พอทำไปและอธิษฐานจิตถึงหลวงพ่อเรื่อยๆ เหมือนหลวงพ่อคอยตามสอนในจิตตลอดเลย รู้คนนี้รู้ตัวดีว่า ลูกมีได้ถึงทุกวันนี้ก็เพราะพ่อ คุณหลวงพ่อยิ่งใหญ่นัก เอ้า พิมพฺไปก็ร้องไห้ไป ไม่รุ๊จะร้องทำไม (จิตบ่นกับกายหยาบ แต่จิตภายใน เฉยๆนะ ไม่อินอะไรทั้งน๊าน) .. และหลวงพ่อนี้แร๊ะ ที่ทำให้ลูกพบเจอท่านพ่อ(สมเด็จองค์ปฐม) ใครจะว่าเราบ้าก็ยอมนะ บ้าทางนี้บ้างเห่อ เพราะบ้าทางโลกมามากแล้ว ไม่เห็นจะได้ดีอะไรสักอย่าง
...




Create Date : 20 กันยายน 2559
Last Update : 20 กันยายน 2559 15:23:04 น. 0 comments
Counter : 388 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

doraeme
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add doraeme's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.