จิตเกาะพระ20พย2559 เอาจิตเกาะพระไว้
จิตเกาะพระ 20พย2559 เอาจิตเกาะพระไว้ สาธุขอขอบพระคุณที่มาจากเฟสบุค Phu Bodin https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=863949937075428&id=100003812895876 ... #เอาจิตเกาะพระไว้ ไม่งั้นตกพระนิพพาน ไม่รุ๊ด้วย เอาจิตเกาะพระพุทธเจ้าไว้ หรือเกาะพระอริยสงฆ์สาวกฯ ที่ท่านหลุดพ้นไปแล้ว ถ้าไม่เอาจิตเกาะพระ เราขาดพลังจิต หรือขาดกำลังใจที่จะไปพระนิพพาน หากไปหวังพึ่งสติปัญญาตนเพียงอย่างเดียว ย่อมไม่เพียงพอแน่ .. เพราะด้วยเวลาเหลือน้อย เกรงว่าจะไม่ทันกิน เกรงจะหมดอายุขัยเสียก่อน หมดไปแล้วชาตินึง เราได้ไรมั่ง กำไรหรือขาดทุน
ถ้าเราไม่ฝึกจิต จิตก็จะไปเรื่อย คือจะหาที่เกาะ หาไรยึดไปเรื่อย สุดท้าย ยึดมากก็ทุกข์มาก ไม่ยึดก็ไม่ทุกข์เลย ยามที่ใจเป็นทุกข์ ทุกคนไม่มีใครต้องการ แต่เราจะเอาอะไรไปสั่งให้จิตเขาปล่อยวาง กับสิ่งที่จิตเขากำลังยึด.. ไม่มีอะไรไปสั่งจิตได้เลย เพราะจิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ปกติจิตคนเรามักประภัสสร เพราะเป็นธรรมชาติของจิตทุกดวงอยู่แล้ว จิตเศร้าหมอง เพราะกิเลสมาเยือน เด่วก็จะเคลื่อนตัวออกไปแล้ว แต่คำว่า ทุกข์ นั้น เป็นสภาวะที่ทุกคนทนได้ยาก และกองทุกข์ทั้งปวงได้แก่ ขันธ์5 (ร่างกาย) ถ้าคิดว่าเราเป็นชาวพุทธ เราต้องทำกิจทั้ง4 คือ อริยสัจ4 ทำไปเพื่อละและปล่อยวาง ถ้าไม่งั้น เราก็จะต้องทนทุกข์อยู่แบบนั้น เบื่อทุกข์อย่างเดียวไม่ได้นะ เราต้องหาทางออก ทางออกจากทุกข์นั่นก็คือ มัชฌิมาปฏิปทา "ทางสายกลาง" หรือ อริยมรรค (มรรคมีองค์8) เป็นหนทางการดับทุกข์ ย่นย่อ เรียกว่า "ไตรสิกขา" (ศีล สมาธิ ปัญญา) เรียกกันติดปาก แต่ไม่ติดจิต(ติดใจ) เพราะศีลสมาธิปัญญา มันอยู่นอกจิต ฉะนั้น จงอย่าได้ท่องจำเฉยๆ ว่ามรรคมีองค์8 มีอะไรบ้าง ท่องเอาไว้สอบนักธรรมพอได้อยู่ แต่จะท่องเพื่อจะออกจากทุกข์ #ไม่มีทาง เพราะคนที่จะออกจากทุกข์ได้นั้น #ต้องปฏิบัติ ส่วนทำบุญนอกจิตนั้น ก็ออกจากทุกข์ไม่ได้นะ บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป จะนำมาปนกันไม่ได้ หรือจะเอาบุญมาแลกให้พ้นทุกข์ไม่ได้นะ ไม่เกี่ยวกัน แต่บุญทำให้จิตใจสบายกว่าเก่า หากไม่ทำบุญ เราก็ไม่พ้นทุกข์แบบถาวร อยากพ้นทุกข์แบบถาวร ให้เราทำบุญกรรมฐาน หรือเรียกว่า #บุญภายใน อันนี้พ้นทุกข์แน่ ถ้าปฏิบัติได้มรรคผล โมทนาสาธุ ภูทยานฌาน ... เอาจิตมาอยู่กับพระนั้นน่ะ ดีแล้ว เพราะเราจะได้ไม่มีเวลาไปทำบาป ไม่มีเวลาไปแวะหาอกุศลกรรมใดๆ.. ดีมั๊ย? ... ไปไหนเอาพระไปด้วย ให้พระนำหน้า เวลาเราจะทำอะไร พระจะได้เตือนเรา เราจะได้อายพระ เกรงใจพระ.. ถ้าจิตเรามีพระอยู่ตลอดนะ.. สาธุ ... จงเปลี่ยนลมหายใจของตนเป็น พระพุทธคุณ พระมหาเมตตาฯ .. จงเปลี่ยนอายตนะทั้ง6 ทั้งนอกทั้งในเป็น พระพุทธคุณ พระมหาเมตตาฯ .. จงเปลี่ยนอาหารหรือเครื่องดื่มเป็น พระพุทธคุณ พระมหาเมตตาฯ .. ลองทำบ่อยๆนะ สติเราจะเกิดต่อเนื่อง สมาธิเกิดต่อเนื่อง ปัญญาเกิดต่อเนื่อง จิตค่อยๆออกมาวิปัสสนา เห็นธรรมนู้นนี่นั่น เห็นเกิดดับเป็นว่าเล่น มองทุกสิ่งเป็นธรรมหมดเลย มองเห็นไตรลักษณ์ ชัดเจน .. เปลี่ยนน้ำที่เรากำลังอาบ ทำจิตนิ่งๆ และก็เสกน้ำเป็นน้ำพระพุทธคุณ แล้วก็นำมาอาบ น้ำชำระกายหยาบ ส่วนพระพุทธคุณมาชำระล้างจิต ล้างกิเลส ล้างเสนียดจังไร ให้ออกไปจากกายใจตนเอง ให้เหลือกายสะอาด เหลือจิตบริสุทธิ์ .. ... เวลาจะนอน สมมุติว่าหมอนเป็นพระบาทของพระพุทธองค์ ส่วนผ้าห่มเป็นพระพุทธคุณ พระมหาเมตตาฯ ทำให้กายใจอบอุ่น รู้สึกปลอดภัย ... ยิ่งเราทำไปด้วยความศรัทธามากเท่าไหร่ เราก็ได้อานิสงส์หรือเป็นผลมากเท่านั้น ขึ้นอยู่ที่ตนเองแล้วครับ สาธุ ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ ใจที่มุ่งมั่นและมั่นคงต่อคุณพระรัตนตรัย สาธุ ...
Create Date : 21 พฤศจิกายน 2559 |
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2559 10:40:40 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1253 Pageviews. |
|
|
|
|
|