หลวงปู่เกษม แสดงธรรม "ลักษณะพระที่ควรกินของชาวบ้าน" 26 พ.ค.2555
เนื้อหา บางส่วนจากการแสดงธรรมชุดนี้ ๑. พระผู้อยู่ป่าเป็นวัตรฯ ๒. ภิกษุผู้ชื่อว่าทำตามคำสอนของพระศาสนา(ควรกินของชาวบ้าน) ๓. เรื่องพระมหามิตตเถระ ๔. เรื่องพระปิณฑปาติเถระ ๕. ธรรม ๑๑ ประการเพื่อปีติสัมโพชฌงค์ เช่น พุทธานุสสติ..... ฯลฯ พระผู้อยู่ป่าเป็นวัตรฯ เล่ม33 หน้า214 ว่าด้วยคุณสมบัติที่เป็นส่วนหนึ่งของลาภ [๒๐๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเป็นผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตรความเป็นผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร ความเป็นผู้ถือทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ความเป็นผู้ถือทรงไตรจีวร ความเป็นพระธรรมกถึก ความเป็นพระวินัยธร ความเป็นผู้มีพระพุทธพจน์อันได้สดับแล้วมาก ความเป็นผู้มั่นคง ความมีอากัปปสมบัติ ความมีบริวารสมบัติ ความเป็นผู้มีบริวารมาก ความเป็นกุลบุตร ความเป็นผู้มีผิวพรรณงาม ความเป็นผู้มีเจรจาไพเราะ ความเป็นผู้มักน้อย ความเป็นผู้มีอาพาธน้อย นี้เป็นส่วนหนึ่งของลาภ. ภิกษุผู้ชื่อว่าทำตามคำสอนของพระศาสนา (ควรกินของชาวบ้าน) เล่ม33หน้า214-216 ว่าด้วยผู้ชื่อว่าทำตามคำสอนของพระศาสนา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุเจริญปฐมฌานแม้ชั่วกาลเพียงลัดนิ้วมือไซร้ ภิกษุนี้เรากล่าวว่า อยู่ไม่เหินห่างจากฌาน ทำตามคำสอนของพระศาสดา ปฏิบัติตามโอวาท ไม่ฉันบิณฑบาตของชาวแว่นแคว้นเปล่า ก็จะป่วยกล่าวไปไยถึงผู้กระทำให้มากซึ่งปฐมฌานนั้นเล่า. [๒๐๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุผู้เจริญทุติยฌานแม้ชั่วกาลเพียงลัดนิ้วมือ...เจริญตติยฌาน..เจริญจตุตถฌาน... เจริญเมตตาเจโตวิมุตติ...เจริญกรุณาเจโตวิมุตติ. . .เจริญมุทิตาเจโตวิมุตติ...เจริญอุเบกขาเจโตวิมุตติ...พิจารณากายในกายอยู่ พึงเป็นผู้มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌา และโทมนัสในโลก...พิจารณาเวทนาในเวทนาทั้งหลาย..พิจารณาจิตในจิตอยู่...พิจารณาธรรมในธรรมทั้งหลาย...ยังฉันทะให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิตไว้ ตั้งจิตไว้ เพื่อไม่ให้อกุศลธรรมอันลามกที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น...ยังฉันทะให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิตไว้ ตั้งจิตไว้ เพื่อละอกุศลธรรมอันลามกที่เกิดขึ้นแล้ว..ยังฉันทะให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิตไว้ ตั้งจิตไว้ เพื่อยังกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น..ยังฉันทะให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิตไว้ ตั้งจิตไว้ เพื่อความตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฝือ เพื่อความมีมาก เพื่อความไพบูลย์ เพื่อความเจริญ เพื่อความบริบูรณ์แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว..เจริญอิทธิบาทที่ประกอบด้วยฉันทสมาธิปธานสังขาร..เจริญอิทธิบาทที่ประกอบด้วยวิริยสมาธิปธานสังขาร...เจริญอิทธิบาทที่ประกอบด้วยจิตตสมาธิปธานสังขาร...เจริญอิทธิบาทที่ประกอบด้วยวีมังสาสมาธิปธานสังขาร...เจริญสัทธินทรีย์...เจริญวิริยินทรีย์...เจริญสตินทรีย์...เจริญสมาธินทรีย์...เจริญปัญญินทรีย์..เจริญสัทธาพละ...เจริญวิริยพละ...เจริญสติพละ...เจริญสมาธิพละ...เจริญปัญญาพละ...เจริญสติสัมโพชฌงค์...เจริญธัมมวิจยสัมโพชฌงค์...เจริญวิริยสัมโพชฌงค์...เจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์สัมโพชฌงค์...เจริญสมาธิสัมโพชฌงค์...เจริญอุเบกขาสัมโพฌงค์..เจริญสัมมาทิฏฐิ...เจริญสัมมาสังกัปปะ..เจริญสัมมาวาจา...เจริญสัมมากัมมันตะ... เจริญสัมมาอาชีวะ...เจริญสัมมาวายามะ....เจริญสัมมาสติ ถ้าภิกษุเจริญสัมมาสมาธิแม้ชั่วกาลเพียงลัดนิ้วมือไซร้ภิกษุนี้เรากล่าวว่า อยู่ไม่เหินห่างจากฌาน ทำตามคำสอนของพระศาสดาปฏิบัติตามโอวาท ไม่ฉันบิณฑบาตของชาวแว่นแคว้นเปล่า จะป่วยกล่าวไปไยถึงผู้กระทำให้มากซึ่งสัมมาสมาธิเล่า. เรื่องพระมหามิตตเถระ เล่ม33หน้า247 พระมหามิตตเถระอาศัยอยู่ในถ้ำชื่อกัสสกะ. ก็มหาอุบาสิกาคนหนึ่งในโคจรคามของท่าน ปฏิบัติพระเถระเหมือนกับบุตร. วันหนึ่งนางจะไปป่าจึงสั่งลูกสาวว่า ลูกจ๋า ข้าวสารเก่าอยู่โน้น นมสดอยู่โน้นเนยใสอยู่โน้น น้ำอ้อยอยู่โน้น เวลาพระผู้เป็นเจ้ามิตตะ พี่ชายของเจ้ามา เจ้าจงหุงข้าวถวายพร้อมกับนมสด เนยใส และน้ำอ้อย ละเจ้าก็ควรบริโภคเสียด้วย ส่วนแม่จะบริโภคข้าวค้างคืนที่หุงไว้เมื่อวานนี้กับน้ำผักดอง. ลูกสาวถามว่า กลางวันแม่จะบริโภคอะไรล่ะจ๊ะแม่. แม่ตอบว่า เจ้าจงใส่ผักดองเอาข้าวสารหัก ๆ ต้มข้าวยาคูเปรี้ยวเก็บไว้ให้นะลูก พระเถระห่มจีวรแล้วกำลังนำบาตรออกมา ได้ยินเสียงนั้นจึงกล่าวสอนตนว่า นัยว่า มหาอุบาสิกาจักบริโภคข้าวค้างคืนกับน้ำผักดอง แม้ตอนกลางวันก็จักบริโภคข้าวยาคูเปรี้ยวปรุงด้วยข้าวสารหักกับผัก. ก็นางบอกให้ข้าวสารเก่าเป็นต้น เพื่อประโยชน์แก่ท่าน และนางอาศัยท่านแล้วจะหวังได้นา หวังได้สวนก็หามิได้ แต่นางปรารถนาสมบัติทั้ง ๓ จึงให้ท่านจักสามารถให้สมบัติเหล่านั้นแก่นางไหม ก็บิณฑบาตนี้แล ท่านผู้มีราคะ โทสะ โมหะ ไม่อาจรับ ดังนี้แล้วจึงอาบาตรใส่ถลก ปลดลูกดุมกลับไปที่ถ้ำกัสสกะ เก็บบาตรไว้ใต้เตียง พาดจีวรไว้ที่สายระเดียง นั่งอธิษฐานความเพียรว่า เรายังไม่บรรลุพระอรหัต จักไม่ออกไป. ภิกษุผู้ไม่ประมาทอยู่ประจำมานาน เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตในเวลาก่อนภัตตาหาร เป็นพระขีณาสพกระทำความแย้มออกไป เหมือนดอกบัวแย้มฉะนั้น. ธรรม ๑๑ ประการเพื่อปีติสัมโพชฌงค์เช่นพุทธานุสสติ......เล่ม33หน้า256 ธรรม ๑๑ ประการย่อมเป็นไปเพื่อความเกิดขึ้นแห่งปีติสัมโพชฌงค์. คือ พุทธานุสสติ ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ๑ ธัมมานุสติ ระลึกถึงคุณของพระธรรม ๑ สังฆานุสสติ ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์ ๑ สีลานุสสติระลึกถึงคุณของศีล ๑ จาคานุสสติ ระลึกถึงการบริจาค ๑ เทวดานุสสติระลึกถึงคุณอันทำบุคคลให้เทวดา ๑ อุปสมานุสสติ ระลึกถึงความเข้าไปสงบ (คือพระนิพพาน) ๑ เว้นคนผู้เศร้าหมอง ๑ เสพคนผู้เรียบร้อย ๑ พิจารณาพระสูตรอันน่าเลื่อมใส ๑ ความเป็นผู้มีจิตน้อมไปในปีติสัมโพชฌงค์นั้น ๑ วัดป่าสามแยก ศึกษาพระธรรมวินัย เบิกบุญ โอนบุญ อกหัก โดนของ ธรรมะ ธรรมทาน คลายเครียด เจริญรุ่งเรือง //www.samyaek.com
Create Date : 18 สิงหาคม 2555 |
Last Update : 18 สิงหาคม 2555 20:30:43 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1182 Pageviews. |
|
|
รับชมได้ที่
ดูวีดีโอช่องที่ 1 (สำหรับผู้ที่อินเตอร์เน็ทช้า: 56k)
www.samyaek.com
ดูวีดีโอช่องที่ 2 (สำหรับผู้ที่อินเตอร์เน็ทเร็ว: 212k)
www.samyaek.com/?channel=2
สำหรับท่านที่มีปัญหาดูถ่ายทอดสดไม่ได้
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=2303.0
การใช้ iPad, iPhone, iPod touch ดูถ่ายทอดสด
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=5531.0
วิธีใช้ Tablet ตระกูล Android ดูถ่ายทอดสด
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=5512.0