BlogGang.com : : amulet108 :

ส้มจี๊ดจอมประหยัด BMW X1 sDRIVE 20D (ตอนที่1)

ส้มจี๊ดจอมประหยัด BMW X1 sDRIVE 20D (ตอนที่1)

ทดสอบครอสโอเวอร์จอมประหยัด BMW X1 sDRIVE 20D ยนตรกรรมตัวลุยขับเคลื่อนสองล้อ เครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง ตอนแรกกับการรีวิวเรือนร่าง อุปกรณ์อำนวยความสะดวก เครื่องยนต์ เกียร์และราคา...

BMW Group ประสบความสำเร็จในการสร้างรถยนต์แนว Crossover โมเดล X1 บนความอเนกประสงค์ของรูปแบบที่ใช้โครงสร้างร่วมกับ Series-3 e90 แต่ขยายขนาดของตัวถังด้านความสูงให้มีมากขึ้น สัดส่วนที่คล้ายกับรถสเตชั่นแวนกอนหรือทัวส์ริ่งในโมเดลของ BMW เพื่อเพิ่มเติมความหลากหลายในการใช้งานให้ครอบคลุมมากกว่า Series-3 เป็นความชาญฉลาดในการใช้แชสซีร่วมกันเพื่อลดต้นทุนในการผลิต แต่มีรูปแบบของตัวถังแตกต่างกันออกไปจาก Series-3 เมื่อมันออกขายในปี 2010 ความนิยมชมชอบในตัวรถทำให้มันไปได้ดีบนตลาดรถ Crossover ที่เน้นลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง สำหรับสุภาพสตรีเอวบางร่างน้อย รถ SUV แบบฟูลไซส์ดูจะใหญ่โตเกินไป เรือนร่างที่กะทัดรัดโดยมีพื้นที่ขนสัมภาระที่ฝาท้ายมากกว่ารถ BMW ในรูปแบบซีดาน บวกกับราคาตอนเปิดตัวในปี 2011 ด้วยราคาเริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยเจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิง ที่สามารถขึ้นลงอย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องปีนขึ้นไปนั่งเหมือน SUV คันโต หรือมุดลงไปในเก้าอี้เหมือนรถสปอร์ต จนมียอดจองยาวข้ามปี

ล่า สุด BMW Group ส่ง BMW X1 sDrive20d xLine MInor Change 2013 เครื่องยนต์ดีเซล พร้อมกับชุดส่งกำลังแบบใหม่ เป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic และโหมด ECO PRO เพื่อการขับขี่อย่างประหยัดสูงสุด โดยตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 2.799 ล้านบาท

รูป โฉมภายนอกของ X 1 มีขนาดกำลังเหมาะพอดิบพอดีสำหรับการขับขี่ใช้งานทั้งในเมืองใหญ่หรือเดินทาง ไกล กับการวิ่งบนเส้นทางแบบออฟโรด รถ X 1 ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้สอยเป็นหลัก มันให้ทั้งความหรูหราและการขับขี่สไตล์สปอร์ต เอกลักษณ์ของชาติพันธ์ุรถยนต์ ในค่ายใบพัดสีฟ้า-ขาว ด้านหน้าที่เคยถูกต่อว่าในรุ่นแรกสุดถูกปรับเปลี่ยนกระจังหน้ารูปไตคู่ โดยใช้สีเงินยวงสวยงาม ไตคู่ซึ่งเป็นทั้งกระจังหน้าและช่องดักอากาศเข้าไประบายความร้อนให้กับ เครื่องยนต์ ถูกขยายขนาดโดยใช้เส้นขอบของไฟหน้าเป็นตัวกำหนด ไฟหน้ากลมคู่ เอกลักษณ์ที่ยากจะลอกเลียนแบบของ BMW ใช้เทคโนโลยี LED กับ Dynamic Bi-Zenon ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีหลอด Zenon ไฟกลางวันหรือที่เรียกกันว่าไฟ Daytime Runing มีรูปแบบเป็นวงแหวน LED สีขาวครอบดวงไฟหรี่และไฟสูง ใช้งานได้ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนผ่านสวิตช์ไฟหรี่สำหรับ LED Daytime ซึ่งเมื่อไม่ต้องการเปิดก็เพียงแค่บิดสวิตช์ไฟไปที่ตำแหน่งปิด ไฟเลี้ยวข้างบนกระจกมองข้างที่มีเสริมเข้ามาแทนที่รุ่นแรกก่อนปรับโฉมที่ไม่ มีติดมาให้จากโรงงานและต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อแบบออปชั่นเสริมมาในรุ่น ปรับโฉมของรถ X1 20D มีหลอดไฟเลี้ยวแบบ LED ติดตั้งอยู่ในกรอบกระจกมองข้าง ไฟตัดหมอกทรงกลมคล้ายกับ Series-3 F30 ที่โดดเด่นมากคือสปอยเลอร์หน้าแบบใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและช่วยให้มีมุมมองที่ดี ขึ้น ชิ้นงานแบบทูโทนของสปอยเลอร์หน้าซึ่งมีพลาสติกโพลิเมอร์สีดำเดินตัดขอบด้วย สีเงิน ทำให้ด้านหน้าของมันคมเข้ม ลบเสียงครหาได้ดีมาก

ด้าน ข้างมีความยาวจากหน้าจดหลังถึง 4,477 มิลลิเมตร มองดูคล้ายกับรถสเตชั่นแวนกอนยกสูงตระกูล XC ของ Volvo แต่มีเส้นสายที่อ่อนช้อยกว่า แนวของเสาหน้าลาดเอียงสอดรับกับฝากระโปรงหน้าที่ยกตัวขึ้นเล็กน้อยจากการออก แบบของ Adrian van Hooydonk หัวหน้าแผนกออกแบบของ BMW Group แรคหลังคาใช้วัสดุน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง พวกอะลูมินัมอัลลอยสีเงินคาดไล่ตั้งแต่หน้ามาจนถึงด้านหลัง แรคหลังคาสามารถติดตั้งจุดยึดพวกอุปกรณ์สำหรับขนสัมภาระขนาดใหญ่ที่ไม่ สามารถเก็บไว้ภายใน เช่น สกี กระดานบอรด์สำหรับนักโต้คลื่น รวมทั้งจักรยาน เสาอากาศของระบบโทรศัพท์ยังคงใช้รูปแบบกระโดงปลาฉลามที่มีระบบอากาศพลศาสตร์ ดีกว่าเสาแบบอื่นๆ สัดส่วนของหลังคาที่ค่อยๆ ลาดลงอย่างสวยงามผสานไปกับแนวตัดตรงของส่วนท้าย รถ X1 ถึงแม้จะมีด้านหน้าที่ดูประหลาด แต่มันมีบั้นท้ายที่ลงตัวมากจากไฟท้ายที่ใช้ทรงเหลี่ยมเข้ากับบานประตูฝา ท้าย สปอยเลอร์หลังมีชิ้นงานพลาสติกสะท้อนแสงเพื่อความปลอดภัยเมื่อจอดรถตอนกลาง คืน กระจกบานฝาท้ายออกแบบได้ดีโดยทำไม่ให้เห็นยางขอบกระจกคล้ายกับ F30 บานกระจกหลังมีใบปัดน้ำฝนขนาดเล็ก กับชิ้นงานขอบกระจกด้านบนที่มีไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ที่เห็นได้อย่างเด่นชัดเวลาแตะเบรก

ภาย ในของ BMW X1 sDRIVE 20D X-Line ให้ความหรูหราในทุกรายละเอียด วัสดุคุณภาพดี และการใช้สีที่ลงตัวกับทุกสัมผัส ช่องแอร์และขอบสีดำเงา สะท้อนความมีสไตล์ คอนโซลกลาง และปุ่มควบคุมต่างๆ ถูกออกแบบให้ถูกหลักสรีระสำหรับผู้ขับขี่ อาทิ ระบบนำทางแบบพร้อมจอแสดงผลความละเอียดสูง ชุดควบคุมระบบปรับอากาศ และ idrive เบาะหนังแท้สีเบส คาดกลางด้วยแถบสีแดงน้ำตาลเส้นเล็กที่กลางเบาะ รุ่น X-Line มีอุปกรณ์ที่ดีขึ้นกว่า X1 รุ่นแรกที่ขายในปี 2011 งานตกแต่งที่ลงตัวและสวยงาม จอมัลติฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ 8 นิ้ว กาบบันไดลาย X-Line พวงมาลัยแบบสามก้านพร้อมแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์หลังพวงมาลัยที่มีขนาดพอดี กับการใช้งาน ลายไม้ในรถ X1 รุ่น Minor Change 2013 คันนี้ เป็นลายไม้สีน้ำตาลเข้มที่ทำผิวไม้แบบไม่ขัดเงาทำให้ดูแปลกตาและสวยงามแตก ต่างไปจากลายไม้แบบอื่นๆ ที่มักขัดเงาเคลือบแล็กเกอร์เพื่อให้ผิวสัมผัสที่ลื่น หัวเกียร์สไตล์ BMW ยุคใหม่ซึ่งมีไฟบอกตำแหน่งที่คันเกียร์ กับถุงหนังสีดำที่ใช้ห่อหุ้ม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยหนังแท้, ระบบ Comfort Access, ระบบควบคุมฟังก์ชั่นอัจฉริยะ iDrive พร้อมจอสีขนาด 8.8 นิ้วที่ไม่มีระบบสัมผัส ระบบแผนที่นำทางแบบสามมิติ (Navigation system Professional) ระบบเสียงไฮ-ไฟด้วย Amplifier ขนาด 180 วัตต์ พร้อมลำโพง 8 ตัว และแอพพลิเคชั่น BMW พร้อม Facebook Twitter และฟังก์ชั่น Web radio (สำหรับ iPhone)

ภาย ในของ X1 ยังคงอารมณ์ของรถ BMW เอาไว้อย่างครบถ้วน แม้จะเป็น Crossover แต่อุปกรณ์ส่วนใหญ่สามารถพบเห็นได้ในรถ BMW ยุคใหม่ ปุ่มและสวิตช์ต่างๆ และงานประกอบทำออกมาแบบประณีตบรรจงไปจนถึงฝาเก็บของและแผงประตู ระบบนำทางและกำหนดตำแหน่งด้วยดาวเทียมยังคงใช้ภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างอ่านยาก ไปสักนิด ชุดเครื่องเสียงพร้อมลำโพงคุณภาพสูง 8 ตัวรอบๆ ห้องโดยสารทำงานผ่านการควบคุมของปุ่ม iDRIVE ที่ลดขั้นตอนของความสลับซับซ้อนลงแต่ก็ยังใช้งานได้ยากอยู่ดี ตำแหน่งของเบาะคู่หน้าปรับตั้งด้วยไฟฟ้า BMW ออกแบบให้ตำแหน่งของการขับขี่รถ X1 มีความสูงมากกว่า Series-3 เนื่องจากเป็นรถแบบลุยเล็กๆ หรือ Crossover การนั่งขับไปบนทัศนวิสัยมุมมองที่สูงเด่นช่วยให้มองเห็นได้ทั่วทั้งคัน โดยเฉพาะด้านหน้าที่มีกระจกบังลมบานใหญ่ ส่วนมุมมองด้านหลังอับทึบไปสักนิดจากรูปแบบ 5 ประตู หลังคาลาดที่มีเสาหลังโน้มเอียงมากกว่ารถทั่วๆ ไป ส่วนชุดควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิตอลก็ยกเอามาจาก Series-3 ทั้งยวง เป็นปุ่มหมุนปรับระดับน้ำยาแอร์ สวิตช์ควบคุมความแรงของพัดลมในห้องโดยสาร ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วนของ X1 ไม่มีช่องแอร์ของผู้โดยสารตอนหลังแต่ความแรงของพัดลมภายในห้องโดยสารสามารถ ส่งกระจายความเย็นไปได้อย่างทั่วถึง เบาะผู้โดยสารตอนหลังยังปรับให้ราบเอนลงได้เพื่อการขนสัมภาระขนาดใหญ่ ฝาท้ายที่เปิดออกได้ด้วยมุมที่กว้าง มีช่องและตาข่ายรัดของแถมมาให้

สิ่ง ที่โดดเด่นมากในรถคันนี้ เห็นจะหนีไม่พ้น การทรงตัวที่เกาะถนนได้อย่างมั่นคง ด้วยช่วงล่างที่ปรับแต่งให้พอเหมาะ สามารถกระจายน้ำหนัก หน้า:หลัง บนตัวเลขที่มีความสมมาตรในระดับ 50:50 และมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำแม้ตัวจะสูงกว่า Series-3 ระบบรองรับของ X1 ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลงโดยใช้อัลลอยในบางจุดเพื่อลดน้ำหนัก ส่วนระบบรองรับด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ซึ่งใช้ก้านยึดหรือปีกนกหลังทำจาก อะลูมิเนียม สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อของรถยนต์ในตระกูล X1 จะใช้รหัส sDRIVE ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะใช้รหัส xDRIVE เพื่อป้องกันความสับสนของลูกค้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลังอัจฉริยะของ sDrive ที่ให้การทรงตัวดีเยี่ยม ถ่ายเทกำลังจากเครื่องยนต์ มายังเกียร์ 8 อัตราทดของ ZF แล้วส่งมาที่เพลากลางเพื่อรับแรงบิดมายังเฟืองท้ายซึ่งปรับใหม่หมด ประสานกับระบบควบคุมการเกาะถนนแบบไดนามิก (Dynamic Traction Control – DTC) เพิ่มการยึดเกาะถนนลดการลื่นไถลบนทางลูกรังหรือบนทางหิมะ ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบการขับในสไตล์ "ดริฟต์" สามารถเปิดการทำงานระบบ DTC เพื่อตอบสนองการขับขี่แบบสปอร์ตยิ่งขึ้น

X1 sDrive20d วางเครื่องยนต์ดีเซล BMW และใช้เทคโนโลยี TwinPower Turbo เป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบแถวเรียง ความจุ 2.0 ลิตร ที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ดีจากแรงบิดรอบต่ำตามสไตล์เครื่องดีเซลของ เยอรมนี มีกำลังสูงสุดถึง 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดมากันแบบล้นๆ ที่ 380 นิวตัน-เมตร บนย่านรอบเครื่องยนต์ที่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดของค่าย ZF นับเป็นครั้งแรกกับการวางเกียร์ที่มีอัตราทดกว้างและครอบคลุมทุกๆรอบการทำ งานของเครื่องยนต์ พร้อมกลไก steptronic สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุดประมาณ 218 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 20.0 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 132 กรัมต่อกิโลเมตร (ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU) ระบบอัดอากาศแบบ Twin-scroll Turbo สำหรับ BMW ในปัจจุบันเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ลดขนาดความจุของเครื่องยนต์ลง เครื่องยนต์หนึ่งรุ่นสามารถนำไปใช้กับรถยนต์หลากหลายรุ่นภายในแบรนด์ได้ เพื่อเป็นการลดต้นทุนและลดชิ้นส่วนอะไหล่ เครื่องยนต์ดีเซล 4 กระบอกสูบอัดเทอร์โบความจุ 2.0 ลิตร ยังถูกนำไปใช้กับรถรุ่น Series-3 F30 รหัส 320D รวมถึง 5 Series รุ่น 520D และ 520D Touring Sport เพื่อกำหนดนิยามของคำว่า BMW TwinPower Turbo โดยมีหลักการทำงานของเทอร์โบชาร์จหนึ่งตัวเชื่อมต่อกับท่อร่วมไอเสียสอง พอร์ต ส่งผลให้สามารถผลิตแรงดันได้อย่างรวดเร็วกว่าพอร์ตเดียว เครื่องยนต์ตอบสนองได้ทันใจยิ่งขึ้น

การ ออกแบบเครื่องยนต์ที่เป็นเทคโนโลยีแบบ Twin-scroll Turbo ช่วยในเรื่องของการประหยัดพื้นที่ในห้องเครื่องยนต์ เนื่องจากขนาดของตัวเครื่องเล็กลงและมีน้ำหนักลดลงมาก จึงส่งผลให้รถมีน้ำหนักเบา ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในระหว่างการขับขี่ใช้งาน นวัตกรรม TwinPower Turbo คือเครื่องยนต์ที่มีขนาดกะทัดรัด กินเชื้อเพลิงต่ำและมีน้ำหนักเบา ความสะอาดของไอเสียมาตรฐาน EURO 5 กับเทคโนโลยี EfficientDynamics และ TwinPower Turbo (Twin Scroll Turbo) เครื่องดีเซล 2.0 ลิตร 1,995 ซีซี ฉีดเชื้ิอเพลิงด้วยหัวฉีดแรงดันสูง Piezo ซึ่งจะฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรงแบบ Direct Injection ฉีดน้ำมันได้เร็วและมีความถี่สูงกว่าหัวฉีดแบบโซลีนอยด์หลายเท่า เครื่อง 2.0 ลิตร ดีเซลที่ใช้เทคโนโลยี EfficientDynamics และ TwinPower Turbo (Twin Scroll Turbo) มีแรงม้าสูงสุด (แล้วแต่การปรับตั้งจากโรงงานในรุ่นแยกย่อย) 181 ตัวที่ 4,700 รอบต่อนาที กับแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 7.9 วินาที ความเร็วตีนปลายทำได้ 218.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20.1 กิโลเมตรต่อลิตรในโหมดประหยัด (ECO-PRO) ส่วนระบบควบคุมการขับขี่ Dynamic Drive สามารถเลือกได้ทั้ง ECO-PRO และ Sport เทคโนโลยี EfficientDynamics และ TwinPower Turbo (Twin Scroll Turbo) ใช้กลไกของวาล์วแบบแปรผันไปตามความเร็วรอบ Double-VANOS พร้อมด้วย Valve Tronic มีระดับการปล่อย CO2 ที่ 152 กรัมต่อกิโลเมตร พร้อมโหมด Auto Stop-Start ที่มีสวิตช์เพื่อยกเลิกการใช้งานติดมาให้เพื่อความสะดวกสำหรับคนที่ไม่คุ้น ชินกับการติดๆ ดับๆ ของเครื่องยนต์เมื่อหยุดรถและเคลื่อนตัว ระบบ Auto Stop-Start ยังช่วยลดการปล่อยไอเสียขณะที่จอดอยู่กับที่อีกด้วย

BMW ทำการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลแบบ High Precision Injection ควบคู่ไปกับนวัตกรรม EfficientDynamics และ TwinPower Turbo (Twin Scroll Turbo) เครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นที่ 3 ทั้งเบนซินและดีเซล ใช้หัวฉีดแรงดันสูงถึง 200 บาร์ เป็นที่มาของการลดมลพิษและประหยัดเชื้อเพลิงโดยยังคงกำลังและแรงบิดที่ดี มีความต่อเนื่องของการเร่งความเร็วจากรอบต่ำไปจนถึงรอบสูงสุด เครื่องยนต์ 4 สูบ อัดอากาศเข้าสู่ท่อร่วมไอดีด้วยเทอร์โบแบบ Twin Scroll Turbo ส่วนกลไกของวาล์วแบบ Double-VANOS และ Valve Tronic แปรผันการเปิดปิดของวาล์วไอดีและวาล์วไอเสียอย่างแม่นยำ ช่วยทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงมากกว่าเครื่องรุ่นเก่า สำหรับระบบส่งกำลังหรือเกียร์ วิศวกรได้จัดวางเกียร์ 8 อัตราทดของ ZF บริษัทผู้ผลิตระบบส่งกำลังชั้นนำของยุโรป เกียร์ออโต้ 8 สปีดรุ่นล่าสุดนี้ มีความโดดเด่นที่ความต่อเนื่องของอัตราทดซึ่งถูกออกแบบให้ครอบคลุมกับการ ขับขี่ในทุกระดับ ตำแหน่งของเกียร์ 1 ไปจนถึงเกียร์ 5 ของ X1 ถูกปรับเซตให้มีความต่อเนื่องและแม่นยำ การเปลี่ยนอัตราทดขึ้นลงไปตามสมองกลเกียร์มีความรวดเร็วและนิ่มนวล ส่วนเกียร์ 6-8 เป็นเกียร์สูงซึ่งเน้นในเรื่องของความประหยัดเป็นสำคัญ เกียร์ Over Drive ที่ตำแหน่ง 7-8 ช่วยให้รอบเครื่องต่ำลงมากกว่าปกติ ซึ่งมีผลในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ลดลงมามาก เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องแถวเรียง 6 สูบ รุ่นเก่า เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 181 แรงม้าตัวนี้ ยังมีน้ำหนักเบา ช่วยให้การวางลงไปในห้องเครื่องของ X1 สะดวกง่ายดายมากขึ้น การร่นแท่นเครื่องและจุดยึดให้ขยับเข้าไปใกล้กับห้องโดยสารมีผลโดยตรงที่ทำ ให้ตัวเลขของการกระจายน้ำหนักอยู่ในระดับที่มีความสมมาตร รวมถึงการซ่อมบำรุงที่ง่ายขึ้นจากขนาดที่เล็กลงของเครื่องยนต์ ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานของช่างกับลดค่าใช้จ่ายลงได้อีกพอสมควร

X1 sDrive20d xLine รุ่น Minor Change 2013 ใส่ล้ออัลลอยลายก้างปลาที่สวยงามและเข้ากับลักษณ์ของตัวรถแบบ Crossover เป็นล้ออะลูมิเนียมสีเงินรุ่น Y-Spoke 322 ขนาด 18 นิ้ว ห่อรัดด้วยยางคุณภาพสูงของ Goodyear รุ่น Efficientgrip Runflat ขนาด 225/45 R 18 94H ทั้งสี่ล้อ

BMW X1 sDRIIVE 0D X-Line SPECIFICATIONS
body type...................................................4/5 seater suv/sports utility vehicle
number of doors........................................5
engine type................................................turbocharged diesel
engine manufacturer..................................BMW
engine code................................................N20B20
cylinders Straight ......................................4
capacity......................................................2 litre 1,995 cc (121.742cu in)
bore×stroke................................................84 mm × 90mm 3.31 × 3.54 in
bore/stroke ratio.........................................0.93
valve gear..................................................DOHC 4 valves per cylinder 16 Total valves
maximum power output............................183.5PS(181bhp) (135kW) at 4,000 rpm
specific output...........................................90.7bhp/litre 1.49bhp/cu in
maximum torque......................................380Nm(280ft·lb) (38.8kgm) at 1750-2750rpm
specific torque..........................................190.48Nm/litre 2.3ft·lb/cu3
engine construction
sump..........................................................wet sumped
compression ratio.....................................16.5:1
fuel system.................................................common rail direct diesel injection
bmep (brake mean effective pressure)2393.6kPa(347.2psi)
maximum rpm
crankshaft bearings
engine coolant............................................Water
unitary capacity..........................................498.75cc
aspiration....................................................Turbo D.
acceleration 0-100km/h..............................7.90s
maximum speed.........................................218km/h(135mph)
power-to-weight ratio................................114.92bhp/ton

fuel consumption.......................................5.6/4.7/5.0 l/100km urban/extra-urban/combined
carbon dioxide emissions..........................132g/km
engine position...........................................front
engine layout..............................................longitudinal
drive wheels...............................................rear wheel drive
torque split.................................................N/A
steering.......................................................rack & pinion PAS
wheel size front.........................................8½J x 18
wheel size rear...........................................8½J x 18
tyres front..................................................225/45 R 18 94H Goodyear Efficientgrip Runflat
tyres rear....................................................225/45 R 18 94H Goodyear Efficientgrip Runflat
front brake diameter..................................312mm
rear brake diameter....................................300mm

wheelbase..................................................2,760 mm 108.7 in
track/tread (front)......................................1,500 mm 59.1 in
track/tread (rear)........................................1,529 mm 60.2 in
length.........................................................4,477 mm 176.3 in
width..........................................................1,798 mm 70.8 in
height.........................................................1,545 mm 60.8 in
length:wheelbase ratio...............................1.62 kerb
weight........................................................1,575 kg 3,472l b
weight distribution....................................front
fuel tank capacity.......................................61 litres 13.4 UK Gal 16.1 US Gal

Create Date : 18 เมษายน 2556

0 comments

Last Update : 18 เมษายน 2556 5:56:28 น.

Counter : 5971 Pageviews.