ตลาดรถเมืองไทยปีนี้อยู่ในสถานะ “โตไม่หยุด ฉุดไม่อยู่”

รับอานิสงส์จากการที่ค่ายรถได้ฟื้นตัวจากการผลิตรถยนต์ ภายหลังจากที่ต้องชะลอกำลังการผลิตตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว เพราะเหตุสึนามิที่ญี่ปุ่นเมื่อต้นปีที่แล้วและวิกฤติน้ำท่วมในบ้านเราเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

ทั้งยังมาจากแรงอั้นการซื้อรถยนต์เมื่อปีที่แล้ว เพราะเหตุวิกฤติ

น้ำท่วมดังกล่าว

และที่สำคัญ ยังได้ส้มหล่นจากนโยบายคืนภาษีรถคันแรกที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อรถยนต์ให้พุ่งทะลักมากขึ้น

จึงอย่าแปลกใจที่แค่ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) ยอดขายรถยนต์รวมทุกยี่ห้อและทุกประเภทได้ทะลุ 1 ล้านคันแล้ว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

เสี่ยวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ค่ายโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย แจ้งมาในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์บ้านเราว่า ยอดขายรถยนต์รวมช่วง 9 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 1,000,577 คัน เพิ่มขึ้น 71.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ยอดขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.โตโยต้า 380,751 คัน เพิ่ม 75.9% มีส่วนแบ่งตลาด 38.1%, 2.อีซูซุ 150,003 คัน เพิ่ม 42.7% ส่วนแบ่งตลาด 15.0% และ 3.ฮอนด้า 106,444 คัน เพิ่ม 74.8% ส่วนแบ่งตลาด 10.6%

สำหรับตลาดรถยนต์รวมดังกล่าว ประกอบด้วย ตลาดรถยนต์นั่ง มียอดขาย 451,266 คัน เพิ่มขึ้น 72.7% (ยอดขาย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.โตโยต้า 167,026 คัน เพิ่ม 59.2%, 2.ฮอนด้า 103,516 คัน เพิ่ม 82.3% และ 3.นิสสัน 65,784 คัน เพิ่ม 103.9%)

และ ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ มียอดขาย 549,311 คัน เพิ่มขึ้น

70.3% (ยอดขาย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.โตโยต้า 213,492 คัน เพิ่ม 91.5%, 2.อีซูซุ 150,003 คัน เพิ่ม 42.7% และ 3.มิตซูบิชิ 64,922 คัน เพิ่ม 56.4%)

ในส่วน ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ มียอดขาย 480,832 คัน เพิ่มขึ้น 73.5% (ยอดขาย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.โตโยต้า 197,075 คัน เพิ่ม 96.7%, 2.อีซูซุ 137,394 คัน เพิ่ม 42.9% และ 3.มิตซูบิชิ 64,922 คัน เพิ่ม 56.4%)

ค่ายโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ฟันธงว่าการที่ยอดขายรถยนต์เติบโตอย่างมาก เป็นผลจากความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศที่มีอยู่สูง ประกอบกับกำลังการผลิตที่มากขึ้น จนสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตของตลาดรถยนต์

ขณะที่ยอดขายรถยนต์รวมเฉพาะเดือน ก.ย.ปีนี้ มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 132,874 คัน เพิ่มขึ้น 52.7% ประกอบด้วยรถยนต์นั่ง 68,282

คัน เพิ่มขึ้น 67.8% รถเพื่อการพาณิชย์ 64,592 คัน เพิ่มขึ้น 39.4% โดยรถกระบะขนาด 1 ตัน ขายได้ 56,282 คัน เพิ่มขึ้น 40.4%

เนื่องจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดที่สูงจากนโยบายภาครัฐ

สำหรับตลาดรถยนต์ในเดือน ต.ค.นี้ มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะยอดค้างจองสะสมและความต้องการของตลาดที่โตต่อเนื่อง ในขณะที่ทุกค่ายรถยนต์ได้เพิ่มกำลังการผลิต ส่งผลให้ส่งมอบรถให้แก่นักเลงรถได้มากขึ้น

ประกอบกับการเร่งใช้สิทธิจากนโยบายรถยนต์คันแรกนั่นเอง!!!