พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
11 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
PORSCHE ปล่อยของร้อน 911 TURBO

PORSCHE ปล่อยของร้อน 911 TURBO

Porsche เฉลิมฉลองครบรอบความสำเร็จกว่า 50 ปีของโมเดล 911 อย่างเป็นทางการด้วยการส่ง 911 Turbo รุ่นใหม่ข้าสู่ตลาดรถสปอร์ตซุปเปอร์คาร์พลัง 560 แรงม้า เอาใจแฟนคลับทีี่ชื่นชอบกบรุ่นติดเทอร์โบ บ้าพลังถึงขนาด 0-100 ใน 3.1 วินาที...

VDO


เมื่อ 50 ปีที่แล้ว 911 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงานมหกรรมยานยนต์ Frankfurt International Auto Show (IAA) อีก 10 ปี ต่อมา Porsche ส่ง 911 Turbo แบบ Prototype เข้าไปอวดโฉมในงาน IAA 40 ปีต่อมา วันนี้ Porsche นำเสนอ 911 Turbo เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่เปิดตัวพร้อมกันถึงสองรุ่น นั่นก็คือ 911 Turbo และ 911 Turbo S รถสปอร์ตสายพันธ์ุเยอรมนีที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยกับประสิทธิภาพ ความคล่องตัวสูงสุดจากตระกูล 911 ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อได้รับการพัฒนาใหม่หมด รถเทอร์โบรุ่นใหม่คันนี้มาพร้อมกับระบบ active rear axle steering, ระบบ adaptive aerodynamics, ระบบไฟหน้า LED รูปแบบเต็ม (full-LED headlights) และมีแรงม้าสูงถึง 560 แรงม้า


เครื่องยนต์มีขนาด 6 สูบแบบเทอร์โบคู่หรือ bi-turbo charging ทำให้รถ 911 Turbo เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดคันนี้มีประสิทธิภาพเสมือนรถแข่งทุกประการ Porsche คุยว่าเทคโนโลยีชั้นนำที่ใส่ไว้ในระบบต่างๆจะทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวัน นั้นสมบูรณ์แบบที่สุด นวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาคือตัวถังใหม่ออกแบบให้มีน้ำหนักเบา ระยะฐานล้อขยายให้ยาวขึ้น 100 มิลลิเมตร ล้ออัลลอยมาตรฐานขนาด 20 นิ้ว ระบบควบคุมตัวถัง PDCC active anti-roll system ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในรุ่น 911 Turbo เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความคล่องตัวในการขับขี่และเพิ่มการยึดเกาะ ระบบดังกล่าวเป็นกลไกอิเล็กทรอนิกส์มาตรฐานที่ติดตั้งให้กับรุ่น 911 Turbo S ในรุ่นสูงสุดยังติดตั้ง Sport Chrono Package Plus ที่มาพร้อมกับ dynamic engine mounts และระบบเบรกแบบเซรามิก PCCB (PCCB ceramic brakes) มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับรถ ผลลัพธ์ที่ได้คือ Turbo S คันนี้สามารถทำความเร็วรอบสนามแข่ง North Loop ของสนามแข่ง Nürburgring ได้ในเวลาที่น้อยกว่า 7:30 นาทีเลยทีเดียว (ติดตั้งยางมาตรฐาน) อีกหนึ่งของความเจ๋งคือระบบเสียงของเครื่องยนต์เทอร์โบอันทรงพลังจะถูกส่ง เข้าสู่ห้องโดยสารผ่านลำโพงเพื่อเพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่ที่ดุดันและเร้าใจอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน


นอกเหนือจากระบบขับเคลื่อนที่ได้รับการพัฒนาให้มีความก้าวไกลแล้ว เครื่องยนต์ยังถูกปรับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมไปถึงระบบ PTM all-wheel drive system ใหม่ล่าสุดที่ได้รับการติดตั้งมาในรถคันนี้ เครื่องยนต์มีขนาด 3.8 ลิตร 6 สูบนอนยันชักข้างแบบ Boxer อัดอากาศเข้าท่อไอดีด้วย Twin Turbocharged ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรง (direct petrol injection) พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดของรุ่น Turbo อยู่ที่ 520 แรงม้า (383 กิโลวัตต์) ส่วนรุ่น Turbo S นั้นสูงถึง 560 แรงม้า (412 กิโลวัตต์) Porsche เป็นเพียงแบรนด์เดียวที่ผลิต Turbochargers 2 ตัวไว้ใน variable turbine geometry สำหรับเครื่องยนต์แบบที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง พละกำลังเครื่องยนต์จะถูกส่งผ่านเข้าสู่ระบบขับเคลื่อนโดยชุดเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ หรือ PDK 7 สปีด ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชั่นสตาร์ต/หยุด อัตโนมัติ (auto start/stop function) ระบบการจัดการความร้อน thermal management system ใหม่ล่าสุดที่ทำงานร่วมแกนกับเครื่องยนต์เทอร์โบ และระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK ผลลัพธ์ที่ได้คือการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้นอีก 16% โดยมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง 9.7 ลิตร/100 กิโลเมตร (เป็นตัวเลขอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของทั้งสองรุ่น)


ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับระบบควบคุม electro-hydraulic control
Porsche พัฒนาระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ all-wheel drive system (PTM) ใหม่ขึ้นมาพร้อมกับการควบคุมแบบไฟฟ้าและทำการเปิดใช้งาน multi-plate coupling เพื่อให้ได้มาซึ่งการกระจายกำลังเครื่องยนต์ไปยังเพลาทั้งสองให้รวดเร็วและแม่นยำ ระบบนี้ได้ติดตั้งฟังก์ชั่นการระบายความร้อนด้วยน้ำมาด้วย เพื่อช่วยให้กระจายแรงบิดไปทางด้านล้อหน้านั้นทำได้ดีประสิทธิภาพ ด้วยการทำงานของระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ 911 ใหม่ล่าสุด ผลให้รถคันนี้มีอัตราเร่งที่น่าตกใจ โดยรุ่น 911 Turbo เมื่อลงออปชั่นเสริมเต็มระบบในชุด Sport Chrono Package Plus จะทำให้มันมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงที่ 3.2 วินาที ในขณะที่รุ่น 911 Turbo S ทำได้ที่ 3.1 วินาที!!! ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 318 กิโลเมตร/ชั่วโมง


รุ่นท็อปโมเดลทั้งสองรุ่น แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและศักยภาพของรถที่เพิ่มขึ้น ลักษณะของแผงตัวรถด้านหลังที่ได้รับการขยายให้ใหญ่ขึ้น โดยในรุ่น 911 Turbo เจเนอเรชั่นล่าสุดถูกขยายออกไปอีก 28 มิลลิเมตร หากเทียบกับรุ่น 911 Carrera 4 อีกหนึ่งความโดดเด่นคือล้อขนาด 20 นิ้วแบบ ทูโทนที่ได้รับการติดตั้งเป็นล้อมาตรฐานสำหรับรุ่น 911 Turbo S สร้างความเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างสง่างาม ในรุ่น Turbo S ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED จุดเด่นที่ไฟ Daytime running light 4 จุด เพิ่มมุมมองด้านความปลอดภัยในขณะขับขี่ ฟังก์ชั่นการควบคุมระดับไฟหน้าจะเปลี่ยนไปตามการจับภาพของกล้อง (อุปกรณ์เสริม)


ระบบ Rear axle steering
ระบบ rear axle steering ที่ได้รับการแนะนำในรถเทอร์โบทุกรุ่น พัฒนาการขับขี่ในรูปแบบรถแข่งและการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันถูกติดตั้ง ในรถสปอร์ตทั้งสองรุ่น ระบบจะมาพร้อมกับ electro-mechanical actuators 2 ตัวแทนการควบคุมโดย conventional control arms บนเพลาทั้งซ้ายและขวา องศาการเลี้ยวของล้อหลังแตกต่างกันไปได้ถึง 2.8 องศา ซึ่งขึ้นอยู่กับความเร็วของรถในขณะนั้น เมื่ออยู่ในความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง และล้อหน้าเลี้ยวอยู่นั้น ระบบจะทำการนำพาล้อหลังไปในทิศทางตรงกันข้าม เพื่อให้รถ 911 เทอร์โบ มีประสิทธิภาพสูงในขณะเข้าโค้ ช่วยให้รถเลี้ยวเข้าโค้งได้เร็วขึ้น ตอบสนองต่อพวงมาลัยอย่างคล่องตัว ผู้ขับขี่จะรู้สึกถึงความเหนือชั้นของรถได้เป็นอย่างดีเมื่อต้องเข้าโค้ง หรือทำการจอด เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วที่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระบบจะทำการนำพาล้อหลังไปในทิศทางเดียวกันกับล้อหน้า ซึ่งสอดคล้องกับการที่รถได้ทำการขยายฐานล้อขึ้นอีก 500 มิลลิเมตร ส่งผลให้รถสปอร์ตคันนี้มีความมั่นคง และมีเสถียรภาพแม้ต้องวิ่งอยู่ในความเร็วสูงก็ตาม


ระบบ Active aerodynamics
Porsche ทำการพัฒนาระบบ active aerodynamic system และนำมาติดตั้งใน 911 Turbo เป็นครั้งแรก ระบบดังกล่าวจะประกอบไปด้วยลิ้นสปอยเลอร์หน้าที่มีความคงทน ปรับได้ถึง 3 ระดับพับเก็บได้ ทางด้านหลังมีปีกหลังที่ขยายออกมาและสามารถปรับเปลี่ยนระดับของปีกได้ ส่งผลให้รถมีความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ ตอบสนองต่อการขับขี่ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพและศักยภาพของการขับที่มีความคล่องตัวสูงของรถ เมื่ออยู่ในตำแหน่งที่ต้องการประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ขั้นสูงนั้น ทุกชิ้นส่วนของสปอยเลอร์หน้าจะทำการขยายทั้งหมดเพื่อสร้างแรงกดทางด้านเพลา หน้า เหมือนกับทางด้านปีกหลังที่ได้รับการขยายออกมาให้สูงสุดเพื่อเพิ่มองศาของการปะทะให้มากขึ้น ส่งผลให้รถสามารถสร้างแรงกดทางด้านเพลาหลังได้มากขึ้น ประสิทธิภาพความคล่องตัวในการขับขี่นี้ได้รับการพัฒนาและสามารถทำเวลารอบ สนามแข่ง North Loop ของสนามแข่ง Nürburgring ได้ดีขึ้นไปอีก


ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่หมดโดยในรุ่น (S) จะได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ มาอย่างครบๆ ผสมผสานสีภายใน 2 สีโดยเป็นสี black/carrera red เบาะนั่งมีรูปแบบ sport seats plus สามารถปรับเปลี่ยนแบบไฟฟ้าได้ถึง 18 ทิศทางพร้อมหน่วยความจำ ชุดแต่งคาร์บอน เครื่องเสียง Bose sound system ติดตั้งมาเป็นระบบเสียงมาตรฐานจากโรงงาน เจ้าของยังสามารถเลือกติดตั้งระบบเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลกอย่าง Burmester system เป็นอุปกรณ์เสริมได้หากต้องการ รถคันนี้ยังได้รับการติดตั้งเรด้าจับสัญญาณในการควบคุม cruise control system และมีกล้องติดตั้งมาเพื่อตรวจจับป้ายบอกทางและตรวจจับป้ายจำกัดความเร็ว.

VDO


อาคม รวมสุวรรณ




Create Date : 11 พฤษภาคม 2556
Last Update : 11 พฤษภาคม 2556 3:26:36 น. 0 comments
Counter : 1366 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.