พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 
9 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
ทดสอบ BMW ACTIVE HYBRID 5 (Part2

ทดสอบ BMW ACTIVE HYBRID 5 (Part2

350 แรงม้า 0-100 ใน 5.9 วินาทีบนน้ำหนักตัว 1,925 กิโลกรัม ยนตรกรรม Hybrid ที่เน้นการขับขี่แบบสปอร์ตกับ BMW Active Hybrid 5 ซาลูนสมรรถนะสูงของค่าใบฟัดฟ้า-ขาว ตอนที่สองกับการขับทดสอบประสิทธิภาพทั้งในและนอกเมือง...

รถยนต์ ตระกูล Hybrid ของ BMW มีคำว่า Active นำหน้าทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Active Hybrid 3 / Active Hybrid 5 คันทดสอบและ Active Hybrid 7 ไม่เว้นแม้แต่ X6 ก็ยังคงมีคำว่า Active Hybrid พ่วงเข้ามาเพื่อสื่อให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างระบบ Hybrid แบบปกติที่ไม่เน้นพละกำลังด้านอัตราเร่งกับความเร็วสูงสุด กับ Active Hybrid ระบบพลังงานเสริมที่ดุเดือดเลือดพล่านท่ามกลางความประหยัด!!! นี่คือยนตรกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจของค่ายใบพัดที่มักจะสร้างพึงพอใจให้กับเจ้าของอยู่เสมอ (จะพึงพอใจมากกว่านี้ถ้าพวกมันทุกคันมีราคาที่ถูกลง) งานวิศวกรรมชั้นเลิศของจักรกลสปอร์ตซีดานซึ่งเป็นได้ทั้งรถจ่ายกับข้าวที่ จิบเชื้อเพลิงเพียงน้อยนิด หรือแปลงร่างอย่างฉับพลันทันทีไปเป็นปิศาจบ้าความเร็ว ทุกสิ่งทุกอย่างบนรถคันนี้ล้วนแล้วแต่ขึ้่นอยู่กับคุณแทบทั้งสิ้น ระบบรองรับการขับขี่ที่จะคอยประคบประหงมราวกับคุณเป็นเด็กอ่อนหัดที่เพิ่งจะขับรถเป็นครั้งแรก ความปลอดภัยขั้นก้าวหน้าของมันที่ีทำงานเร็วกว่าความเร็วของนักกรีฑาเจ้าของ เหรียญทองโอลิมปิก ECU ที่คอยสอดส่องให้ทุกระบบทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ต่างๆ เหล่านี้ต้องแลกมาด้วยเงินที่มากถึง 5.3 ล้านบาท และกระโดดไปอีกหลายแสนหากคุณต้องการ 5 Hybrid ในแบบ M-Sport ซึ่งแตกต่างและงดงามอย่างมีระดับในกลุ่มรถซาลูนหรูหรา


พลังงานของเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้าในเกียร์แปดอัตราทดจากบริษัท ZF นักเลงเกียร์เก่าแก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฮดรอลิกและระบบส่งกำลังของยุโรป ทำให้มันขึ้นถึงจุดสูงสุดของสมรรถนะแห่งพลัง คุณสามารถขับแบบย่องเบาไหลไปเรื่อยๆ ในโหมด ECO-PRO ด้วยการจิบเชื้อเพลิงเพียงน้อยนิดที่จะทำให้คุณพออกพอใจ หรือวิ่งเฉียวพุ่งทะยานไปข้างหน้าแบบสปอร์ตจีทีในโหมด Sport หากนึกสนุก มันเป็นรถยนต์สองร่างสองบุคลิกในคันเดียวกัน มีทั้งหวานนุ่มชุ่มละมุนและโหดดิบจนน่าตกใจ นี่คือรถยนต์ที่ขับใช้งานได้ดีในเมืองใหญ่ทั่วโลก หากคุณเป็นนักเดินทางและชอบรถยนต์ คุณจะพบเห็นพวกมันวิ่งอยู่บนถนนทั่วไป หากแต่เป็น Series-5 F10 รุ่นปกติที่ไม่มีระบบ Hybrid เจ้า Active Hybrid 5 คันนี้ ตอบสนองต่อสภาพการณ์ของการขับขี่ภายในเมืองได้อย่างดีเยี่ยม ตำแหน่งท่านั่งเหมาะเจาะที่สุดแล้วในกลุ่มซาลูนหรู มุมมองที่โปร่งโล่งจากการออกแบบอันชาญฉลาด และโหมดประหยัดที่พกพาประสิทธิภาพของการบริหารเชื้อเพลิงในระดับที่ Prius เองยังต้องหันกลับมาดู เจ้า Active Hybrid วิ่งอย่างเงียบเชียบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียวๆ ที่ความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยไปได้ไกลประมาณ 6 กิโลเมตร ระยะทางดังกล่าวมีค่ามากเมื่อราคาของเชื้อเพลิงนั้นถูกกำหนดโดยกลไกของตลาด โลกที่ไม่ค่อยมีความชอบธรรมมากนัก ราคาเชื้อเพลิงที่มักจะขึ้นสามครั้ง ลงครั้งเดียว ผลุบขึ้นหล่นลง ราวกับเล่นกล สุดท้ายมันก็ยังส่งผลถึงกระเป๋าของคุณอยู่ดี ถึงแม้คุณจะเป็นคนที่รวยมากจนมีปัญญาซื้อรถราคาเกือบหกล้านมาขับเล่นก็ตาม


สีฟ้าอ่อนๆ ของ Active Hybrid 5 คันทดสอบ เมื่อกระทบกับแสงแดด ทำให้ตัวถังของมันเปล่งประกายของผิวโลหะออกมาอย่างชัดแจ้ง มันเหมือนงานประติมากรรมที่มีทั้งความแข็งกร้าวและความอ่อนพลิ้ว ค่อนข้างขัดแย้งแต่ก็มีความกลมกลืน เมื่อระบบทุกอย่างบนรถคันนี้ทำงานร่วมกัน คุณจะสัมผัสได้ถึงความนิ่มนวลในย่านความเร็วต่ำและหนึบแน่นเมื่อเฆี่ยนมัน ด้วยความเร็วสูง ระบบรองรับแบบใหม่ของ Hybrid 5 เหมือนกันกับรุ่นปกติทุกประการยกเว้นคุณเป็นพวกไม่ธรรมดา และสั่งออฟชั่นพิเศษซึ่งเป็นช่วงล่างแบบ Active ปรับตั้งได้หลากหลายระดับซึ่งไม่ค่อยมีความจำเป็นมากนัก การใช้เครื่องยนต์เบนซินหกสูบแบบแถวเรียงแล้วอัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่นั้นแรง สุดๆ อยู่แล้ว มันเป็นเครื่องยนต์บ้ากำลังที่มีเรี่ยวแรงถึง 306 แรงม้า เมื่อมันมีมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 50 แรงม้ามาช่วยเสริมแรงบิด พลังงานที่ได้รับทำให้มันกลายร่างเป็นซาลูนพรีเมี่ยมที่โดดเด่นที่สุดของวงการ และยากที่รถคู่แข่งจะตามทัน ทั้งๆ ที่มีซีซีเท่ากัน อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 5.9 วินาทีของ BMW Active Hybrid 5 แรงจนดึงให้คุณหน้าหงายได้ง่ายๆหากออกตัวอย่างรุนแรงในโหมดสูงสุด แต่ผมไม่แนะนำให้คุณทำแบบนั้นบนถนนหลวงเพราะมันอันตราย ส่วนความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น ขอบอกว่ามันวิ่งได้ถึงอย่างแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ตัวเลขความเร็วที่กล่าวนั้น มันผิดกฎหมายจราจรของประเทศนี้อย่างร้ายแรง ซึ่งไม่ค่อยจะมีถนนที่โล่งขนาดนั้นให้คุณได้ขับไปถึง รวมไปถึงผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ ที่มักคำนวณหรือประเมินความเร็วรถคุณผิดพลาด แล้วก็จบเห่


เป็นที่รู้กันดีว่าโหมด ECO-PRO ใน BMW ยุคใหม่นั้นช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น ในโหมดนี้จะประกอบไปด้วยระบบ Auto Start-Stop ที่จะดับเครื่องยนต์ทันทีที่รถหยุดสนิทนิ่งโดยไม่ไปกระทบกับระบบปรับอากาศ ไฟส่องสว่างและระบบให้ความบันเทิงเริงรมย์โดยระบบดังกล่าวยังคงทำงานผ่านแบต เตอรี่ Hybrid เจ้า ECO-PRO จะจัดสรรปันส่วนพลังงานด้วยสมองกลไฟฟ้าที่ถูกโปรแกรมมาเป็นอย่างดี ชุดจ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่นปรับตัวเองในโหมดนี้โดยจ่ายเชื้อเพลิง เท่าที่เครื่องยนต์ต้องการและยังคงสมรรถนะของอัตราเร่งเอาไว้หากผู้ขับกดคัน เร่งไฟฟ้าแบบฉับพลันทันที เกียร์ในโหมดนี้จะทำงานแบบทดขึ้นสูงทันทีอย่างรวดเร็วโดยหลีกเลี่ยงการคาไว้ ที่รอบต่ำ เกียร์ของมันจะเข้าสู่ตำแหน่งเกียร์ Over Drive ซึ่งหมายถึงเกียร์ 8 ที่เป็นเกียร์สุดท้าย ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกียร์ ZF 8 Speed ลูกนี้ปรับอัตราทดอันน่ามหัศจรรย์ผ่านความเร็วรอบ 1,800 รอบต่อนาทีซึ่งเป็นความเร็วเดินทางตามกฎหมายบนไฮเวย์และช่วยให้คุณประหยัด เชื้อเพลิงบนความเร็วเดินทางที่ถูกกฎหมายในย่านรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำจนดู เหมือนมันเดินเบาไปตลอดทางหากคุณไม่ลงคันเร่งลึกๆ


แม้น้ำหนักตัวจะเพิ่มอีก 150 กิโลกรัม แต่มันก็ยังใช้เชื้อเพลิงได้ต่ำจนน่าชมเชย ค่าของการปล่อย CO2 ดีขึ้นผิดหูผิดตา ช่วยทำให้อากาศของโลกใบนี้สะอาดขึ้นบ้างแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เมื่อคุณยกคันเร่งและมีประจุไฟฟ้าสำรองมากพอในแบตฯของระบบ Hybrid ทุกครั้งที่ยกคันเร่ง เครื่องยนต์ของมันจะดับลงทันทีไม่ว่าคุณจะวิ่งด้วยความเร็วสูงหรือไม่ก็ตาม วัดรอบเครื่องยนต์ที่ชี้ไปยังตำแหน่ง 0 อาจทำให้คุณหรือญาติที่ยืมรถรุ่นนี้ไปขับตกอกตกใจ แต่ระบบต่างๆ ยังคงทำงานได้อย่างน่าทึ่งและเป็นปกติทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ระบบความปลอดภัยทั้งหมด รวมกับความรู้สึกบนพวงมาลัยไฟฟ้าที่เชื่อมโยงระบบรองรับแบบ Active (ออฟชั่นเสริมที่ต้องจ่ายเพิ่ม) ความรู้สึกยังคงเหมือนกันกับตอนที่เครื่องยนต์ทำงาน!!! รวมถึงระบบปรับอุณหภูมิและระบบไฟฟ้าของตัวรถ เมื่อแตะคันเร่งเพียงนิดเดียวขณะกำลังวิ่ง เครื่องยนต์ที่ดับจากการยกคันเร่งในครั้งแรกจะกลับมาติดตัวเองอย่างรวดเร็ว อีกครั้ง และไปยังรอบเครื่องยนต์กับตำแหน่งเกียร์ที่มีความสมดุลกับโหมดของการขับขี่ ที่ประสานไปกับความเร็วนั้นๆ มันฉลาดแกมโกงที่แอบหยุดใช้เชื้อเพลิงแต่ก็ยังเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ สำหรับการพุ่งทะยานเพื่อแซงตามโปรแกรมของ ECU ในชุดควบคุม ความหยิ่งผยองแต่มาดมั่นและสมดุลสูงสุดของรถคันนี้จะทำให้คุณขับมันเร็วขึ้น อย่างจงใจ ซึ่งมันจะตอบสนองกลับมาในแบบที่นักเลงรถส่วนใหญ่ชื่นชอบ


การเพิ่มแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและค่าการปล่อยไอเสียดีขึ้นเมื่อนำมันไปเปรียบเทียบกับคู่แข่ง แบตเตอรี่จะทำการเก็บสะสมพลังงานที่สูญเสียไประหว่างการเบรก รวมถึงการขับด้วยความเร็วที่คงที่ แล้วนำพลังงานนั้นมาใช้ขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าในรูปของปะจุไฟแรงสูงโดยไม่ ก่อมลพิษขณะที่มอเตอร์ทำงานเพียวๆ แบตเตอรี่ แบบ Lithium-ion ถูกวางอยู่ที่ด้านหลังขณะที่ชุดทอร์คคอนเวอร์เตอร์ที่วางอยู่ในเกียร์ 8 สปีดมีมอเตอร์ไฟฟ้ามาร่วมแจมพื้นที่ มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลัง 40 กิโลวัตต์ทำให้ค่าความสิ้นเปลืองและค่าการปล่อย CO2 ลดลงซึ่งเหนือกว่ารุ่น 535i อย่างชัดเจน ผมขับอยู่ในเมืองเพียงแค่วันเดียว เช้าวันรุ่งขึ้นจึงนำเจ้า Active Hybrid 5 ออกลาดตระเวนทางไกลเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และระบบ Hybrid บนทางแบบไฮเวย์ เครื่อง 3.0 ลิตรทวินเทอร์โบทำงานได้อย่างราบเรียบ มอเตอร์ของมันทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในโหมด ECO-PRO และ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในโหมด Comfort เมื่อผมลองเปลี่ยนโหมดการขับมาเป็น Sport Mode เครื่องยนต์จะเข้ามารับหน้าที่ในการขับเคลื่อนทันที โดยเมื่อขับขึ้นลงเนินเขาหรือทางที่มีความลาดชัน มอเตอร์ไฟฟ้าของมันจะหยุดทำงานและกลายเป็นเครื่องยนต์ล้วนๆ ที่ส่งถ่ายแรงบิด ลงไปยังล้อคู่หลังซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อน มอเตอร์ของ Active Hybrid นอกจากจะรับหน้าที่คอยเสริมแรงบิดแล้ว มันยังทำงานต่อเนื่องด้วยการชาร์จประจุกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บยังแบตเตอรี่ แบบ Lithium-ion เข้าใจง่ายๆ ก็คือมันรับงานปั่นกระแสไฟฟ้าเพื่อกักเก็บพลังงานเอาไว้ใช้ใน ระบบ Hybrid ซึ่งมีความสลับซับซ้อนพอสมควร


การทรงตัวในทางโค้ง การถ่ายเทน้ำหนัก อยู่ในค่าที่เป็นกลาง ไดนามิกของแชสซีส์แบบใหม่ทำให้อาการโคลงตัวแทบไม่ปรากฏหากไม่บ้าระห่ำซัดจนออกอาการ โหมดสูงสุด Sport + ผมขอแนะนำให้ใช้มันในสนามแข่งหรือสนามทดสอบที่มีความกว้างมากกว่าจะนำมาใช้ อย่างต่อเนื่องบนถนนหลวง ระบบควบคุมการทรงตัวที่ถูกยกเลิกอย่างสิ้นเชิงในโหมดสูงสุดอาจทำให้คุณรู้สึกสนุก แต่มันก็มีอันตรายแฝงอยู่จากความเร็วของตัวรถที่จะทะยานเป็นลูกกระสุนทุกครั้งที่คันเร่งถูกกด ในโหมดนี้ ท้ายของ Active Hybrid 5 จะไวเป็นพิเศษเนื่องจากขาดระบบช่วยทรงตัว มันขึ้นอยู่กับฝีไม้ลายมือของคุณเองว่าจะเอามันอยู่หรือไปแปะติดกับต้นไม้ข้างทาง โดยทั่วไปโหมดนี้ถูกออกแบบให้หน่วยเฝ้าระวังในระบบช่วยทรงตัวหยุดทำงาน มันจะไม่มีการแทรกแซงใดๆ ทั้งสิ้น เหมือนรถบางยี่ห้อที่ถึงแม้จะปิดตัวช่วยแล้ว มันก็ยังแอบเข้ามาควบคุมการหมุนของล้อหากเกิดการลื่นไถล ทำให้รสชาติของความดิบโหดลดลง แต่ไม่ใช่ใน BMW Active Hybrid 5


น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นเมื่อถูกพ่วงด้วยระบบ Active Hybrid กลับทำให้มันวิ่งได้อย่างมั่นคงที่ย่านความเร็วสูง แม้ขณะที่ผมต้องใช้เบรกหนักๆ แบบเต็มกำลัง ความนิ่งและอาการขืนตัวของพวงมาลัยยังคงสื่อออกมาในแบบที่เป็นกลางน่าประทับใจ พวงมาลัยไฟฟ้าที่ค่อนข้างหนักแน่นจะถูกหน่วงให้หนึบมือมากยิ่งขึ้นในโหมด สูงสุด กดคันเร่งแต่ละครั้งคุณจะสัมผัสได้ถึงพลังของการลากจูง มันสมบูรณ์แบบ พร้อมที่จะท้าตีท้าต่อยไปทั่วเมื่อคุณต้องการขับให้เร็วขึ้น Active Hybrid ของ BMW เป็นรถที่ยากต่อการที่จะเอาชนะ มันวิ่งทางไกลได้ดีจนคุณไม่อยากลงจากรถเมื่ออุปกรณ์อำนวยความสะดวกถูกใช้งาน คุณจะพึงพอใจได้บ้างไม่มากก็น้อย ความตื่นเต้นที่ส่งถ่ายผ่านความเสถียรของตัวรถยิ่งทำให้คุณอัดมันหนักข้อ ขึ้นเรื่อยๆ เกียร์ในโหมด Sport จะทำงานด้วยการคารอบเครื่องยนต์ไว้สำหรับการถ่ายเทแรงบิดอย่างชนิดเต็มกำลัง เมื่อมันเริ่มต้นแปลงร่างจากรถบ้านจ่ายกับข้าวมาเป็นสปอร์ตซาลูน ภาพสองข้างทางจะร่นเข้ามาหาคุณเร็วขึ้นบนความนิ่งและเงียบงันของห้องโดยสาร ระวังให้ดีเมื่อคุณพยายามจะผลักดันมันให้ขึ้นถึงจุดสูงสุดของสมรรถนะ มันเป็นรถที่ดีหากรู้จักใช้ประโยชน์ของระบบต่างๆ ให้มีความสอดคล้องกับการขับขี่และสภาพของเส้นทาง สุดท้าย มันจะนำคุณไปถึงจุดหมายปลายทางได้เป็นอย่างดีโดยไร้ข้อตำหนิติเตียนใดๆทั้ง ปวงยกเว้นเรื่องของราคาค่าตัว


กดคันเร่งหนักๆ ในโหมด Sport เสียงเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 3.0 ลิตร อัดเทอร์โบในรอบสูงครางออกมาให้ได้ยินคล้ายเสียงของเครื่อง V8 มันจะเร้าอารมณ์ของการขับจนคุณแทบจะอดใจไว้ไม่อยู่ การกระหน่ำ Active Hybrid 5 ไปตลอดเส้นทางที่รกร้างและเปล่าเปลี่ยวจะทำให้คุณมีความสุข ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนั้น ยากที่จะทำให้นิ่งและได้มาตรฐานเหมือนกันทุกๆ การทดสอบ ตัวแปรต่างๆ ทั้งสภาพทาง ลม และเท้าของคุณที่กดลงไปบนคันเร่งคือสิ่งที่จะบอกได้ว่ามันกินเชื้อเพลิงมาก หรือน้อยเท่าใด โดยภาพรวม อัตราสิ้นเปลืองเมื่อวิ่งทางไกลแบบไปเรื่อยๆ ทำได้ 15.2 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบนรถยนต์ตัวโตน้ำหนักเยอะแบบนี้ เครื่องยนต์ที่มีเทคโนโลยี BMW Active Hybrid - BMW Twin-power Turbo กับ BMW EfficientDynamics นั้นเริ่ดสุดแล้วในรถราคาค่าตัว 5.3 ล้านบาท เมื่อรวมกับความสบายของระบบรองรับและเทคโนโลยีของการขับเคลื่อน กับเกียร์แสบๆ ที่มีประสิทธิภาพของ ZF ทำให้ Active Hybrid 5 คือหนึ่งในจักรกลเดินทางที่ทันสมัยและเข้ากับยุคของการประหยัดพลังงานอย่างที่สุดแล้ว หากคุณยังอยากที่จะเป็นวัยรุ่นเด็กแนวก็จัด Active Hybrid 3 กับอัตราเร่ง 5.6 วินาทีที่ทำให้ขนบนหัวของคุณตั้งตรงได้ หรืออยากเป็นผู้บริหารไฟแรงสูงที่รักษ์โลกแต่ยังคงคาแรกเตอร์ดิบๆ ของการซิ่ง ก็เลือก Active Hybrid 5 สำหรับมาดสุขุมนุ่มลึกของ Active Hybrid 7 รถตัวโตหนัก 2 ตันที่เร่งจาก 0-100 ได้ใน 6.4 วินาทีนั้น ไม่เหมาะที่จะขับเอง คุณจะหมดความสนุกเมื่อต้องจ่ายแพง แต่ทำได้เพียงแค่ย้ายก้นมานั่งที่เบาะหลังเพื่อวางมาดเจ้าของรถแล้วปล่อยให้ คนขับรถเพลิดเพลินไปกับสมรรถนะของมัน อย่างไรก็ตาม Active Hybrid ของ BMW ทุกรุ่น ทุกคันจะสร้างความพึงพอใจได้บ้างไม่มากก็น้อย ลองดูเถอะที่พูดมาทั้งหมดน่ะ มันไม่เกินความเป็นจริงหรอก.




Create Date : 09 สิงหาคม 2556
Last Update : 9 สิงหาคม 2556 4:43:18 น. 0 comments
Counter : 1366 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.