บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เฉลิมฉลองวาระ 120 ปี ของการดำเนินธุรกิจและเติบโตเคียงคู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมแถลงวิสัยทัศน์ในการร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทยในอนาคต...
อัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การประสานความร่วมมือในระยะยาว ช่วยให้เชลล์ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาตลอด 120 ปี และจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต เพราะทุกฝ่ายต้องร่วมกันหาแนวทางในการรับมือกับปัญหาด้านพลังงานที่มีความท้าทายมากยิ่งขึ้น โดยประเด็นที่รัฐบาลทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ คือการแสวงหาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอต่อความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องมาจากจำนวนประชากรในกลุ่มชนชั้นกลางได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ เชลล์เริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เมื่อครั้งที่เรือเอส เอส มิวเร็กซ์ บรรทุกน้ำมันก๊าดมาจอดเทียบท่าที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2435 นับจากนั้นเชลล์ก็ได้นำเข้าน้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ มายังประเทศไทย และได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสู่ผู้บริโภคชาวไทยมาตลอดศตวรรษที่ผ่านมา นอกจากนี้เชลล์ยังมีส่วนส่งเสริมกิจกรรมด้านการศึกษา ศิลปวัฒนธรรม และการพัฒนาสังคม โดยเชลล์ได้รับพระราชทานตราตั้งห้าง (ตราครุฑ) จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2533 ซึ่งนับเป็นบริษัทน้ำมันแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับพระราชทานตราตั้งห้าง อัษฎากล่าวย้ำว่าไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เชลล์ให้ความสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามทั้งคุณอัษฎาและทีมผู้บริหารจะเดินหน้าขยายการเติบโตทางธุรกิจให้กับเชลล์ประเทศไทย เพื่อดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติมจากกลุ่มบริษัทเชลล์อย่างต่อเนื่อง
อัษฎากล่าวด้วยว่า บทบาทสำคัญของเชลล์ประเทศไทยในอนาคต คือการตอบสนองความต้องการของประเทศในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน การขยายและสร้างความหลากหลายของแหล่งเชื้อเพลิง รวมทั้งพัฒนาการพึ่งพาตนเองของไทย นอกจากนี้ยังต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์และรูปแบบการใช้งานในเชิงนวัตกรรม ภายใต้แนวคิด Smarter Product และ Smarter Usage เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สิ่งหนึ่งที่เชลล์ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ คือการประสานความร่วมมือในระยะยาวกับทุกภาคส่วนให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน และสนับสนุนการพัฒนาพลังงานในรูปแบบต่างๆ ให้กับประเทศไทย อัษฎากล่าวว่า เชลล์มีจุดแข็งในการเข้าถึงแหล่งพลังงานที่มีอยู่ทั่วโลก และมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในการรับมือความท้าทายต่างๆ เช่น การสรรหาแหล่งพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน รวมทั้งการจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ทั้งนี้ อัษฎาเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการของเชลล์ประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2555 นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจ โกลบอลสเปเชียลตี้ส์ (ยางมะตอย และซัลเฟอร์) ทั่วโลกด้วย โดยจะรับผิดชอบการบริหารงานทั้งสองตำแหน่งควบคู่กันไป ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทยคนใหม่ มีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ และทีมงานเชลล์ประเทศไทยทุกคน เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคและสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจของเชลล์ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
เกี่ยวกับเชลล์
เชลล์ดำเนินการสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซมาเป็นเวลากว่าศตวรรษ เชลล์มีพนักงานราว 90,000 คน ในมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก สำนักงานใหญ่ของเชลล์ตั้งอยู่ที่เมืองฮาร์ก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุดคือ นายปีเตอร์ วอเซอร์ บริษัทแม่ของกลุ่มเชลล์ คือ บริษัทรอยัล ดัชท์ เชลล์ จำกัดมหาชน ซึ่งจดทะเบียนในประเทศอังกฤษและเวลล์