จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติและแบบจำลองสถานการณ์ของเชลล์ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์จำลองในปี พ.ศ. 2573 ว่า ความต้องการพลังงาน น้ำและอาหารในโลกจะเพิ่มมากขึ้นราว 4050% เพื่อรองรับความต้องการและจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อแหล่งทรัพยากรที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต คือพลังงานเป็นสิ่งที่ใช้ในการบำบัดน้ำ น้ำถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการผลิตพลังงานและทั้งพลังงานและน้ำล้วนเป็นปัจจัย ในการผลิตอาหาร ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่า ผู้ตอบสอบถามชาวไทยตระหนักดีถึงปัญหาเหล่านี้ โดยพวกเขาบอกว่าการขาดแคลนพลังงาน (91%) รวมถึงราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น (89%) ตลอดจนการขาดแคลนน้ำ (87%) และอาหาร (80%) จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
เชลล์ ดำเนินการสำรวจความท้าทายของพลังงานในอนาคต เพื่อมุ่งสนับสนุนรัฐบาลในการวางแผนรับมือความต้องการพลังงานในอนาคต โดยพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาความมั่นคงทางด้านพลังงานจากผลสำรวจ ชี้ให้เห็นว่าความต้องการพลังงานในอนาคตถือเป็นประเด็นที่คนไทยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ไม่แพ้ปัญหาอื่นๆ ทั้งยังตระหนักดีว่าทรัพยากรพลังงาน น้ำ และอาหารต่างมีความเชื่อมโยงกัน อย่างไร นายอัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวแถลงต่อผู้สื่อข่าว
ผลการสำรวจเรื่องความท้าทายของพลังงานในอนาคต ยังแสดงให้เห็นว่าชาวไทยสนับสนุน การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (83%)^โดยคิดว่าพลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานที่จะตอบสนองความต้องความต้องการพลังงาน ของพวกเขาในอนาคต ตอกย้ำข้อเท็จจริงที่ว่าประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยยังระบุถึงแหล่งพลังงานอื่นๆ ที่อาจนำมาใช้ตอบสนองความต้องการพลังงานในอนาคตได้คือ พลังงานน้ำ (54%)^พลังงานลม (41%)^ และก๊าซธรรมชาติ (35%)^ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่เผาไหม้ได้สะอาดกว่าและจัดเป็นพลังงานหมุนเวียน โดยธรรมชาติ
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย 9 คน ใน 10 คน (92%) เห็นว่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามอีก 6% ตอบว่าเป็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ หลายคนระบุว่าพวกเขากำลังทำสิ่งต่างๆ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
โดยวิธีลดการใช้พลังงานลงหรือปิดไฟก่อนออกจากห้อง (83%)
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดพลังงาน (53%)
การรีไซเคิล (49%)
ผู้ตอบแบบสอบถามคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 2 (46%) เห็นพ้องกันว่าความร่วมมือกันของชุมชน รัฐบาล และภาคอุตสาหกรรม เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการกำหนดทิศทางพลังงานในอนาคต ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เห็นว่าประชาชนทั่วไป (70%) รัฐบาล (69%) ภาคอุตสาหกรรม (41%) มีบทบาทสำคัญที่สุดในการพัฒนาระบบพลังงานในอนาคต
นายอัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แบบสำรวจนี้ มุ่งให้ทุกภาคส่วนเห็นถึงความสำคัญที่จะร่วมมือกันสร้างสรรค์วิธีการต่างๆ เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านพลังงานในอนาคต โดยบริษัทเชลล์พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการพัฒนาระบบพลังงานใหม่
ข้อมูลที่น่าสนใจจากการสำรวจ
ร้อยละ 92 ของจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด หรือเทียบเท่า คนไทย 9 ใน 10 คนเห็นว่าความต้องการพลังงานในอนาคตถือเป็นประเด็นปัญหาสำคัญ ปัญหาอื่นๆ ที่คนไทยให้ความสำคัญเป็นประเด็นหลักเพิ่มเติม ได้แก่ สภาพการจราจรที่แออัด (92%)
ระบบการศึกษาของภาครัฐ (91%) ค่าครองชีพ (89%) ระบบสาธารณสุข (88%) มลภาวะทางอากาศ (88%)
ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยเห็นว่าปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน คือ
การขาดแคลนพลังงาน (91%) # และราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น (93%) # จะสร้างผลกระทบอย่างมากต่อพวกเขาในอนาคต ปัญหาอื่นๆ ที่พวกเขาแสดงความกังวล ได้แก่ การขาดแคลนน้ำ (87%)# การขาดแคลนอาหาร (80%)# อัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น (79%)# และความไร้เสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ (74%)# แหล่งพลังงานที่ผู้ตอบแบบสำรวจสนับสนุนมากที่สุด คือ
พลังงานแสงอาทิตย์ (83%)
พลังงานน้ำ (54%)
พลังงานลม (50%)
ก๊าซธรรมชาติ (35%)
เชื้อเพลิงชีวภาพ (35%)
91%* เห็นว่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถือเป็นเรื่อง สำคัญมาก ในขณะที่อีก 6% ให้เป็นเรื่อง สำคัญ 46% เชื่อว่าความร่วมมือกันระหว่างภาคอุตสาหกรรม รัฐบาล และชุมชน คือปัจจัยสำคัญที่สุดในการหาทางออกให้กับปัญหาด้านพลังงานในอนาคต ประชาชนชาวไทยโดยทั่วไปมีบทบาทสำคัญที่สุดในการสร้างอนาคตด้านพลังงานที่ดียิ่งขึ้น (69%)^ รองลงมา ในสัดส่วนที่เกือบเท่ากันคือรัฐบาล (69%)^ และภาคอุตสาหกรรม (43%)
เกี่ยวกับการสำรวจเชลล์ ได้มอบหมายให้บริษัท อิปซอสส์ ดำเนินการสำรวจเรื่องความท้าทายของพลังงานในอนาคตในประเทศไทย เพื่อประเมินความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามประมาณ 400 คน จากกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ โดยแบบสำรวจนี้เน้นสอบถามความต้องการพลังงานในอนาคตของคนไทย รวมถึงความสำคัญในการใช้พลังงานและบทบาทสำคัญในการสร้างอนาคตด้านพลังงานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม.