ได้ยินคำสนทนาขำๆ ลอยมาตามสายลมแว่วๆ 'คิดว่าคนเราชอบไฟจราจรสีใดมากกว่า' เอาล่ะสิ คำสนทนาระหว่างคนอื่น แต่กลับทำให้ใจเราว้าวุ่นอย่างบอกไม่ถูก  'แน่นอน ใครก็ชอบไฟเขียว ใครอยากรถติดบ้าง ถามมาได้' คำตอบในใจกังวานขึ้น พลางแสยะยิ้มในความเฉียบแหลมของตัวเอง หึหึ

'ผิด คนชอบไฟแดงต่างหาก' เปรี้ยง!! คำตอบสะเทือนความมั่นใจดังขึ้น แต่ยังแย้งในใจชนิดหลังพิงฝาเหมือนหมาจนตรอก

'ถ้าคนชอบไฟเขียวมากกว่า ทำไมพอไฟเขียวแล้วถึงได้วิ่งไปกันล่ะ แต่พอเป็นไฟแดงละหยุดดูกันเป็นแถว' เปรี้ยง!! ฟ้าผ่าดาบสอง ด้วยเหตุผลที่ฟังแล้ว บอกได้คำเดียว ตูยอม...ขอร้องอย่าซ้ำเติม

ใครจะชอบสีไหน แดง เหลือง ??..........หรือว่า เขียว ถ้าขาดสีสุดท้าย เดี๋ยวจะกลายเป็นคอลัมน์เชิญแขกแน่ๆ เอาเป็นว่าไม่ต้องไปสนใจแล้วกัน แต่ใครเคยเป็นแบบนี้บ้าง มองสัญญาณไฟจราจรแยกไหนๆ มันก็เหมือนกันไปหมด น่าเบื่อ น่าจำเจเสียจริง หงุดหงิดๆ

วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ได้สืบเสาะหา 'ไฟจราจร' ดีไซน์ใหม่ที่ดูแล้วมันไฉไลชวนให้มอง มานำเสนอกันดีกว่า เผื่อเกิดวันใดวันหนึ่งไฟจราจรดีไซน์เก๋ๆ เหล่านั้นอาจถูกนำมาใช้งานอย่างจริงจัง แถวสี่แยกหน้าบ้านเราๆ ท่านๆ กันบ้างก็ได้ คงจะเท่ดีไม่เบา

ไฟจราจรอัจฉริยะ

คงต้องยกคำว่า 'อัจฉริยะ' ต่อท้าย ให้กับไฟจราจรรูปแบบนี้ มันถูกออกแบบโดย Psychic Factory แก้ปัญหาหนักอกหนักใจว่า 'เวลารถติด แล้วฉันกับเธอจะทำไรกันดี'

และนั่นแหละคือที่มาของความสามารถที่พบได้ในตัวมัน ในขณะที่รถจำนวนมากติดไฟแดง ตัวสัญญาณไฟจะทำหน้าที่แสดงข่าวสารในช่วงเวลานั้นให้ผู้สัญจรไปมาได้นั่งอ่านแก้เซ็ง แถมได้รู้ข่าวสารทันโลกตั้งแต่อยู่บนท้องถนน ไม่ต้องรอถึงออฟฟิศ หยิบ นสพ. หรือรีบเปิดอินเทอร์เน็ตให้วุ่นวาย และยังสามารถแสดงสภาพดินฟ้าอากาศได้อีกด้วย แต่ถ้านำมาใช้งานจริง คงหนีไม่พ้นข้อความโฆษณาที่อยากจะใช้บริการของไฟจราจรชนิดนี้อีกนั่นแหละ

ไฟจราจรแบบนับถอยหลัง

นึกคำจำกัดความของไฟจราจรที่ถูกออกแบบโดย Damjan Stankovic ไม่ออก เพราะการทำงานของมันก็คือนับถอยหลังเวลาเพื่อเปลี่ยนสัญญาณไฟ เหมือนที่ในบ้านเราเป็นตัวเลขดิจิทัลนั่นแหละ

แต่การดีไซน์ลักษณะของไฟ มันดูคลับคล้ายคลับคลากับที่พบได้บนนาฬิกาข้อมือบางรุ่น หรืออาจรวมไปถึงเกจ์รถซิ่งอะไรทำนองนั้น แต่โดยรวมแล้วมันน่าดูน่าลุ้นกว่าแบบตัวเลขเฉิ่มๆ เป็นไหนๆ เหมือนกับกำลังรอสัญญาณไฟปล่อยตัวของรถแข่งในสนามเซอร์กิตก็ไม่ผิดนัก

ไฟจราจรแบบม่านบาเรีย

สุดยอดแห่งความล้ำยุค ไฟจราจรที่ถูกออกแบบโดย Hanyoung Lee เมื่อถึงสัญญาณไฟแดง ลำแสงสีแดงจากเสาปล่อยสัญญาณจากสองฟากฝั่งถนน จะสร้างกำแพงเสมือนจริงขึ้นเป็นฉาก เพื่อป้องกันไม่ให้รถที่สัญจรในถนนเส้นนั้นวิ่งล้ำเส้นเข้าไปด้านใน

ซึ่งพื้นที่ด้านหลัง 'ม่านบาเรีย' ถือว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้ข้ามถนน หรือรถจากสี่แยก นึกภาพแล้วดูมันเหนือจินตนาการในโลกยุคศตวรรษหน้าอย่างไงอย่างงั้นเลยทีเดียว

ไฟจราจรแบบนาฬิกาทราย

ไม่ต้องไปสนใจชื่อของมัน แต่สิ่งที่ต้องสนใจมากกว่าคือ มันถูกออกแบบโดย Thanva Tivawong ชื่อเหมือนคนไทย?? ไม่ใช่แค่เหมือน แต่ธันวา ทิวาวงศ์ เขาคือคนไทย!! ที่ออกแบบและได้รับการเสนอผลงานชิ้นนี้บนเว็บไซต์ระดับโลกมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน

การดีไซน์โดยใช้นาฬิกาทรายเป็นแรงบันดาลใจในผลงาน ต้องบอกว่ามันสุดยอดและมีความครีเอทอย่างล้นเหลือในตัวผลงาน แม้ในการใช้งานนี้จริงอาจมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เล็กน้อยถึงอุปสรรคที่อาจเกิดจากผู้ขับขี่ที่ตาบอดสีได้ แต่นั่นเป็นเรื่องของอนาคต หากนำมาใช้งานจริงก็คงต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสมอย่างที่สุด หากแต่ตอนนี้อยากกดสัก 1000+ Likes ให้ผลงานดีไซน์ชิ้นดีจริงๆ

ไฟจราจรทรงเรขาคณิต

ออกแบบโดย Ji-youn Kim, Soon-young Yang และ Hwan-Jeon ไฟจราจรที่ต้องใช้การระดมสมองจาก 3 ดีไซเนอร์ ดูแล้วมันสิ้นเปลืองกำลังคนไม่ใช่น้อย เพราะดีไซน์ที่ออกมา มันแทบจะแตกต่างกับไฟจราจรรูปแบบเดิมแค่นิดหน่อยเท่านั้น

ไฟ 3 สี ถูกจัดเรียงแบบแนวตั้งดูเดิมๆ เพียงแค่จับรูปทรงเรขาคณิตเป็นลูกเล่นเข้าไปเท่านั้น แต่!!...สิ่งที่ลึกซึ้งในตัวมันคือ รูปทรงของสัญญาณไฟแต่ละสีมันกลับมีคุณค่าอย่างมากแก่ผู้ที่ตาบอดสี ไม่สามารถแยกแยะระหว่างสีได้ เพราะรูปทรงของมันทำให้คนเหล่านั้นสามารถรู้ได้ว่าตอนนี้สัญญาณไฟเป็นสีใดนั่นเอง...เยี่ยมจริงๆ