ทดลองขับ Hilux Vigo Champ Smart Cab 2.5 ลิตร ดีเซลเทอร์โบรุ่นล่าสุด เปลี่ยนแปลงรายละเอียดเพื่อรองรับประสิทธิภาพการใช้งาน เติมเต็มความสดใหม่ล่าสุดของวงการปิกอัพยกสูงในประเทศไทย...
Toyota Motor Thailand ปรับปรุงรถปิกอัพรุ่นขายดี Hilux Vigo ด้วยการเสริมเติมเต็มสมรรถนะและประสิทธิภาพของระบบรองรับและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกขณะขับขี่ เป็นการปรับภาพลักษณ์ครั้งล่าสุดเพื่อกระตุ้นยอดขายหลังจากออกวางตลาดและได้ รับความนิยมขึ้นเป็นรถปิกอัพที่สามารถกวาดยอดขายเป็นอันดับที่หนึ่งของประเทศไทย การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งทางงานวิศวกรรมช่วงล่างและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ที่ทันสมัยจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของตัวรถให้มีความครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้น
Toyota Hilux Vigo Champ Smart Cab มีการปรับปรุงด้านเครื่องเสียงโดยทำการเปลี่ยนชุดเครื่องเสียงใหม่หมด ชุดให้ความบันเทิงด้านเสียงมีระบบ Hand-free Bluetooth ติดตั้งมาให้จากโรงงาน มันไม่สามารถเล่นเพลงจากระบบ Bluetooth ได้แต่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน สำหรับรุ่นสูงสุดของชุดเครื่องเสียงมีระบบนำทางเนวิเกเตอร์โปรแกรมใหม่ ล่าสุดรองรับการทำงานร่วมกับ Toyota smart G-book รวมถึงการได้รับสิทธิในการดาว์นโหลดฟรี 3 ปี Toyota smart G-book ประกอบไปด้วยเนวิเกเตอร์นำทางด้วยดาวเทียม ระบบ Operator service ช่วยเลือกเส้นทางที่มีการจราจรไม่ติดขัดมากนัก รองรับข้อมูลการจราจรแบบ Real time ซึ่งมีการพัฒนารากฐานของระบบรายงานสภาพการจราจรที่ดีขึ้นหรือระบบ R-TIC โดย Toyota Tsusho Electronics (Thailand) Co., Ltd. หรือ TTET ได้ดำเนินการติดตั้ง GPS จำนวนกว่า 9,000 คัน ในกลุ่มแท็กซี่ของกรุงเทพและปริมณฑล รวมทั้งการติดตั้งและทดสอบระบบซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลจราจรที่เป็นหัวใจของการให้บริการทั้งที่ไลเซนส์มาจากต่างประเทศและที่พัฒนาเองในระบบ VICS/RTIC แล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2555 เป็นต้นมา บริษัท TTET ได้เริ่มให้บริการข้อมูลจราจรคุณภาพสูง TSquare Traffic Information Service โดยเป็นการให้ข้อมูลจราจรผ่านแอพพลิเคชั่น Smart G-Book ของ Toyota นั่นเอง
การบริการด้วยระบบ VICS/RTIC ซึ่งให้ข้อมูลจราจรอย่างละเอียดและคุณภาพสูงนี้ เหมาะที่สุดสำหรับการให้ข้อมูลจราจรของ Mega city ที่มีการจราจรแออัดของเอเชีย ปัจจุบันมีการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพแพร่หลาย เป็น Standard ของประเทศญี่ปุ่น และจีน โดยไทยเป็นประเทศที่สามที่ไต่ระดับถึงได้ และ TTET จะร่วมมือกับเครือข่ายในการขยายบริการนี้ ไปยังประเทศอื่นๆ ต่อไป เช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศในตะวันออกกลาง ฯลฯ ข้อมูลหลักในการวิเคราะห์ข้อมูลจราจรได้มาจาก GPS ที่ติดตั้งในแท็กซี่ภายใต้โครงการหมื่นแท็กซี่ GPS ร่วมกับห้ากลุ่มแท็กซี่ใหญ่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลและโครงการ 10 ล้อ GPS ร่วมกับสมาคม TTLA โดยทำการพัฒนา Customized Firmware ขึ้นมาเอง ทำให้สามารถเก็บข้อมูล ของ GPS ทุกๆ 3 หรือ 5 วินาที และทำการบีบอัดข้อมูล ฯลฯ ก่อนส่งเข้ามาที่ server ทำให้ได้ข้อมูลดิบที่ละเอียดมาก ณ ปัจจุบัน ระบบจะได้รับข้อมูล GPS จากรถแท็กซี่และรถบรรทุกในเครือข่าย มากกว่า 50 ล้านข้อมูล GPS ต่อวัน ระบบซอฟต์แวร์และดาต้าเบส ออกแบบและสร้างบน Cloud Servers ให้ความมั่นใจได้สำหรับบริการ 24 x 7 ที่มีค่า SLA ระดับสูงสุด
T Square Traffic เป็นการบริการสภาพจราจรในระบบ RTIC ซึ่งสามารถนิยามและบรอดคาสต์ข้อมูลจราจรแก่ผู้ใช้ ทั้งด้วยระบบวิทยุ FM และออนไลน์ แก่ ถนนหลัก ถนนรอง และเส้นทางลัดสำคัญๆ ทั้งหมดของกรุงเทพฯ ถึงกว่า 25,000 เส้น ช่วยให้ผู้ใช้ถนนสามารถมองเห็น สภาพจราจรของกรุงเทพฯที่ท่านจะผ่านไปอย่าง Birds eye view อย่างละเอียด ช่วยในการตัดสินใจเดินทาง เลือกเส้นทางได้อย่างไม่ต้องเดาหรือเสี่ยงดวงโดยระบบจะให้ข้อมูลจราจรล่าสุด ของทุก 5 นาทีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าได้ตามมาตรฐาน และช่วยให้ได้รับรู้ข้อมูลล่าสุดเมื่อ 5 นาทีก่อนที่ผ่านมา ในการตัดสินใจเลือกใช้เส้นทาง ณ เวลานั้นๆ ได้ และในอนาคต เมื่อมีข้อมูลดิบเพิ่มมากขึ้นจะสามารถยกระดับความถี่ของการให้ข้อมูลล่าสุด ได้อีก ซึ่งจะช่วยให้เห็นสภาพจราจรใกล้เวลา ณ ปัจจุบัน
ความถูกต้องของข้อมูลสภาพจราจร อยู่ระดับสูงที่สุด (เทียบกับผู้ให้บริการอื่นๆ เท่าที่ทราบในปัจจุบัน) ในขอบเขตให้บริการที่กว้างขวางและจำนวนเส้นถนนที่มากถึง 25,000 กว่าเส้น โดยอยู่ที่ระดับความถูกต้อง 70% ซึ่งสูงมากเทียบเท่ากับมาตรฐานของญี่ปุ่นและจีน โดยทีมงานของ TTET จะทำการวิเคราะห์ความถูกต้องอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับทีมซอฟต์แวร์ในการปรับปรุงพารามิเตอร์ให้เหมาะสมที่สุดกับสภาพถนนและการจราจรของกรุงเทพฯ นับเป็นระบบนำทางที่คอยแจ้งสภาพการจราจรที่ดีที่สุดในขณะนี้ สำหรับระบบนำทางและระบบให้ความบันเทิงผ่านจอภาพของ Hilux มีเฉพาะในรุ่น G ทั้ง Double Cab และ Smart Cab ส่วนลำโพง 6 ทิศทางจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น E พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นเริ่มจากรุ่น E สามารถควบคุมเครื่องเสียงได้บนปุ่มที่พวงมาลัย ส่วนรุ่น Double Cab 3.0 ลิตร จะได้ระบบปรับอากาศอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
เครื่องยนต์ ดีเซลแบบแถวเรียง 4 สูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบแบบ VN Turbo พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ช่วยเพิ่มความหนาแน่นและลดอุณหภูมิของไอดีก่อนประจุไป ยังห้องเผาไหม้ อากาศที่ร้อนจัดจะก่อให้เกิดการขยายตัวของวัสดุที่ใช้ประกอบเป็นเครื่องยนต์ วิศวกรของ Toyota แจ้งว่าระบบการป้อนไอดีในเครื่องยนต์ดีเซลฃอง New Hilux Vigo มีการทำงานที่เหนือกว่ารถยนต์คู่แข่ง อินเตอร์คูลเลอร์แบบมีครีบในโพรงท่อนำอากาศช่วยเพิ่มการระบายความร้อนของอากาศที่จะถูกประจุเข้าสู่ห้องเผาไหม้ อินเตอร์คูลเลอร์ของเครื่องยนต์ดีเซล 2.5-3.0 ลิตรใน Hilux Vigo ด้านที่เข้ามาจากเทอร์โบผลิตด้วยโลหะ ส่วนท่อทางออกของอากาศทำจากวัสดุประเภทเซรามิกเพื่อความคงทนและลดการหดหรือ ขยายตัวเมื่อเกิดความร้อน อากาศที่ถูกลดอุณหภูมิจะถูกประจุอัดเข้าสู่ท่อร่วมไอดีทำให้อากาศมีความหนาแน่นซึ่งส่งผลไปถึงการจุดระเบิดที่สมบูรณ์ อินเตอร์คูลเลอร์ที่วางไว้เหนือเครื่องยังช่วยลดขนาดความยาวของท่อนำอากาศ ช่องรับอากาศเข้าที่ฝากระโปรงหน้าช่วยลำเลียงอากาศเย็นทำให้ระบายความร้อน ได้เร็วขึ้น ระบบอัดอากาศแบบ VN Turbo เป็นเทอร์โบแบบแปรผันโดยการใช้มอเตอร์ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร แบบแถวเรียงสี่กระบอกสูบอัดอากาศด้วยระบบ VN Turbo
ปริมาตร ความจุ 2,982 ซีซี D4D จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่น DOHC 16 วาล์ว ระบบอัดอากาศเทอร์โบแปรผันด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลัง 171 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,300-3,400 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร แบบแถวเรียงสี่กระบอกสูบ (เกียร์อัตโนมัติ) อัดอากาศด้วยระบบ VN Turbo
ปริมาตร ความจุ 2,494 ซีซี D4D จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่น DOHC 16 วาล์ว ระบบอัดอากาศเทอร์ดบแปรผันด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าควบคุมด้วยอีเล็กทรอนิกส์ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลัง 144 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร แบบแถวเรียงสี่กระบอกสูบ (เกียร์ธรรมดา) อัดอากาศด้วยระบบ VN Turbo
ปริมาตร ความจุ 2,494 ซีซี D4D จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่น DOHC 16 วาว์ล ระบบอัดอากาศเทอร์โบแปรผันด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลัง 144 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร แบบแถวเรียงสี่กระบอกสูบ อัดอากาศด้วยระบบ VN Turbo
ปริมาตร ความจุ 2,494 ซีซี D4D จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่น DOHC 16 วาล์ว ระบบอัดอากาศเทอร์โบแปรผันด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลัง 120 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 325 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร VVT-i
เครื่องยนต์ 2TR-FE ปริมาตรความจุ 2,694 ซีซี DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน ให้กำลัง 160 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 241 นิวตันเมตร ที่ 3,800 รอบต่อนาที
มาตรฐานไอเสียของเครื่องยนต์ในรุ่นปี 2013 EURO-4
สำหรับ ระบบส่งกำลังใน Toyota Hilux Vigo Champ 2013 ยังคงเเหมือนเดิมโดยมีเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีดให้เลือกใช้
ระบบรองรับหรือช่วงล่างของ New Hilux Vigo ถูกปรับแก้ให้ส่งถ่ายความรู้สึกมั่นคงได้ดีขึ้น ช่วงล่างด้านหน้าแบบปีกนกคู่ Double wishbone มีการออกแบบมุมทางเรขาคณิตเพื่อทำให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นผิวถนนให้มาก ที่สุดเท่าที่จะทำได้ 100% ตลอดเวลา เพื่อสร้างแรงยึดเกาะที่ดี เมื่อทำงานร่วมกับยางคุณภาพสูงของ Bridgestone รุ่น dueler HT ทำให้ประสิทธิภาพของการเกาะถนนส่งถ่ายความมั่นใจได้ดี แหนบที่ด้านหลังแบบ Brlin eye รับหน้าที่รองรับการบรรทุก เป็นการผนวกกันระหว่างแหนบกับคอยสปริงทำให้เกิดการยืดหยุ่นตัวที่ดี แหนบที่วางอยู่เหนือเพลาขับหลังจากการออกแบบด้วยการไม่เพิ่มความยาวของแหนบ รองรับให้มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะมีความเหมาะสมกับสัดส่วนของความสูงแบบปิกอัพตัวลุย ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลไปพร้อมๆ กัน Aero technology ช่องลมที่ซุ้มล้อป้องกันการเหินตัวของยางหน้าขณะขับขี่ด้วยความเร็ว โช้คอัพแบบ Mono-fork ทำงานร่วมกับแหนบ Brlin eye มีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นตัว ดูดซับแรงสะเทือนจากการเคลื่อนตัวของแหนบทำให้ระบบรองรับด้านหลังมีความนิ่มนวลลดอาการแข็งกระด้างแบบเก่า
ราคา Toyota Hilux Vigo Champ 2013
รุ่นสมาร์ทแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ TRD Sportivo 689,000 บาท
รุ่นสมาร์ทแค็บพรีรันเนอร์ TRD Sportivo 765,000 บาท
รุ่นดับเบิ้ลแค็บพรีรันเนอร์ TRD Sportivo 905,000 บาท
วันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2556 บริษัท Toyota Motor Thailand เชิญสื่อมวลชนลงทดสอบรถยนต์ปิกอัพรุ่นยอดนิยม Toyota Hilux Vigo 2013 เป็นการขับทดสอบตัวรถรุ่น Smart Cab 2.5 ดีเซลคอมมอลเรล 144 แรงม้า ซึ่งได้รับการปรับปรุงระบบรองรับและอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้การขับขี่มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องขับใช้งานในชีวิตประจำวัน สำหรับเส้นทางทดสอบที่พีอาร์ของ Toyota Motor Thailand Co,ltd. กำหนดขึ้นเริ่มสตาร์ตจากลานจอดรถในสนามบินเชียงใหม่สู่ยอดดอยอินทนนท์แล้ววกกลับลงมายังตัวเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง เป็นการทดสอบประสิทธิภาพของระบบรองรับที่ปรับมาใหม่กับกำลังของเครื่องยนต์ ดีเซล 2.5 ลิตรอัดเทอร์โบแปรผัน หลังจากฟังบรรยายสรุปการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนบางอย่างรวมถึงการ ตกแต่งห้องโดยสารใหม่หมดจดของ New Vigo Smart Cab 2.5 ลิตร เวลา 10.30 น. ขบวนรถทดสอบทั้งหมดก็วิ่งออกจากบริเวณสนามบินเชียงใหม่ ด้วยตัวรถรุ่น Smart Cab 2.5 ดีเซล พรีรันเนอร์ ขับเคลื่อน 2 ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่อยู่ในท้องที่อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม กิ่งอำเภอดอยหล่อ และอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยขับขี่เดินทางตามเส้นทางถนนสานเชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอหางดง อำเภอสันป่าตอง อำเภอจอมทองและอำเภอฮอด จากอำเภอฮอดเดินทางต่อโดยใช้เส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง ฮอด (ทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวง แล้วเลี้ยวขวาต่อไปยังอำเภอแม่แจ่มโดยเส้นทางสาย ออบหลวง-แม่แจ่ม (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1088) จากอำเภอแม่แจ่มใช้เส้นทางสายแม่แจ่ม-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1192) ขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ ที่ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009 กิโลเมตรที่ 38-39
สภาพภูมิประเทศของเทือกอินทนนท์ประกอบด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นส่วนหนึ่งของแนวเขตเทือกเขาถนนธงชัยที่ทอดตัวตามแนวเหนือ-ใต้ ทอดตัวมาจากเทือกเขาหิมาลัยในประเทศเนปาล มีระดับความสูงของพื้นที่อยู่ระหว่าง 400-2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยจุดสูงสุดอยู่ที่ยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นจุดที่สูงสุดในประเทศไทย ยอดเขาที่มีระดับสูงรองลงมา คือ ยอดดอยหัวหมดหลวง สูง 2,330 เมตร ยอดดอยหัวหมดน้อย สูง 1,900 เมตร ยอดดอยหัวเสือ สูง 1,881 เมตรจากระดับน้ำทะเลลักษณะโครงสร้างทางธรณีของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์โดยทั่วไป ประกอบด้วยหินที่มีอายุตั้งแต่ยุคแคมเบรียนขึ้นไป และหินส่วนใหญ่จะเป็นหินไนส์และหินแกรนิต ส่วนหินชนิดอื่นๆ ที่พบจะเป็นหินยุคออร์โดวิเชียนซึ่งได้แก่ หินปูน จนถึงยุคเทอร์เซียรี่ได้แก่หินกรวดมน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำปิง ให้กำเนิดแม่น้ำลำธารหลายสาย ที่สำคัญได้แก่ ลำน้ำแม่วาง ลำน้ำแม่กลาง ลำน้ำแม่ยะ ลำน้ำแม่หอย ลำน้ำแม่แจ่ม และลำน้ำแม่เตี๊ยะ ซึ่งลำน้ำเหล่านี้จะไหลผ่านและหล่อเลี้ยงชุมชนต่างๆ ในเขตอำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอฮอด อำเภอแม่วาง และอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ แล้วไหลลงสู่แม่น้ำปิง
รถคันที่ผมใช้ ขับทดสอบเป็นรถรุ่นสมาร์ทแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 144 แรงม้าซึ่งตัวรถรุ่นปรับปรุงมีภายในที่คล้ายกับรุ่นที่ผ่านมา เพียงแต่พลาสติกคอนโซลมีผิวที่ดูดีขึ้นจากสีดำ ส่วนชุดปรับอากาศที่อยู่ใต้เครื่องเสียงยังคงเหมือนเดิม เป็นแบบปุ่มหมุนที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย พลาสติกตลอดจนการตกแต่งภายในเน้นความทนทานและเหมาะต่อสภาพของการขับลุย เบาะหุ้มด้วยผ้าสีดำรวมถึงพรมปูพื้นก็ยังใช้สีดำให้ให้บรรยากาศภายในของเจ้า New Vigo รุ่นสมาร์ทแค็บพรีรันเนอร์คันนี้ดูดีขึ้นมาอีกเล็กน้อย ชุดเครื่องเสียงกรอบสีเงินที่เปลี่ยนใหม่ทั้งชุดมีลำโพงที่ให้สุ้มเสียงดีขึ้นมาก เมื่อลองเล่นเพลงผ่าน USB iPOD ก็จะได้คุณภาพและมิติของเสียงเจ๋งขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วอย่างชัดเจน เครื่องเสียงแบบ CD ยัดด้านหน้ายังใช้งานได้ง่ายผ่านปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยสำหรับการเลือกเล่น เพลง สถานีวิทยุหรือเร่ง-ลดระดับเสียงได้อย่างสะดวก ตำแหน่งของท่านั่งที่สูงตามสไตล์ปิกอัพยกสูงรุ่นพรีรันเนอร์ แม้จะขับเคลื่อนแค่สองล้อหลังแต่มองจากรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายในแล้วไม่ ได้มีความแตกต่างจากรถลุยขับสี่ล้อเท่าใดนัก การขับขี่ภายในตัวเมืองเชียงใหม่ที่มีสภาพการจราจรคับคั่งไม่ต่างจากกรุงเทพฯ ท่านั่งที่สูงโด่งทำให้คุณมองเห็นรอบๆ ตัวได้ไกลกว่าขับรถเก๋ง แรงบิดรอบต่ำจากเครืิ่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตรกับระบบส่งกำลังซึ่งวางเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดสามารถพาน้ำหนัก 1,590 กิโลกรัมให้เคลื่อนตัวไหลไปตามสภาพการจราจรได้เป็นอย่างดีเพียงแค่แตะคัน เร่งเบาๆ มันก็ไหลเลื่อนเคลื่อนตัวด้วยความกระฉับกระเฉง เกียร์ออโต้ 5 สปีดที่ย่านความเร็วต่ำยังสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนอัตราทดเมื่อลงคันเร่งหรือ ถอนเท้าออกจากคันเร่ง ระบบบังคับเลี้ยวยังคงใช้พวงมาลัยเพาเวอร์สายพานที่มีปั๊มเชื่อมต่อกับพูเลย์เครื่องยนต์ พวงมาลัยให้ความรู้สึกตึงๆ ข้อมือที่ย่านความเร็วต่ำ และจะกลับมามีน้ำหนักที่เบาขึ้นเล็กน้อยในย่านความเร็วสูง
ที่ เชิงดอยอินทนนท์ ถนนลาดยางสองเลนสวนกันเริ่มมีระดับของความลาดชันสลับไปกับโค้งที่คดเคี้ยว มากยิ่งขึ้น การไต่ระดับความเร็วเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังเมื่อคุณต้องขับรถขึ้นภูเขาที่มีโค้งวกไปวนมา ใน Hilux Vigo รุ่นพรีรันเนอร์ขับสองล้อหลัง แรงบิด 343 นิวตันเมตร เพียงพอต่อการขับขึ้นไปยังภูเขาที่มีระดับความสูง 2,565 เมตรได้อย่างสบายๆ การขับเข้าโค้งด้วยตัวรถที่มีสัดส่วนความสูงมากกว่าปกติ หมายรวมถึงรถยนต์แบบออฟโรดที่สูงโย่ง การลดความเร็วและประคองทิศทางให้อยู่ในแนวที่ถูกต้องถือเป็นเรื่องที่สำคัญ คุณต้องใช้ความระมัดระวังรถคอยหลบรถที่วิ่งลงเขาด้วยความเร็วมากกว่าปกติและวิ่งกินเลนเข้ามา การตอบสนองของช่วงล่างใน Hilux Vigo รุ่นพรีรันเนอร์ขับสองล้อหลัง สามารถรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ช่วงล่างของมันให้สัมผัสที่ยืดหยุ่นสูงกว่าเดิมและมีความหนึบแน่นให้ได้รับ รู้เมื่อขับเข้าสู่โค้งแคบๆ ซ้ายสลับขวา การถ่ายเทน้ำหนักค่อนข้างดีแต่รถทดสอบคันที่ขับไม่ได้มีสัมภาระอะไรที่หนัก มากไปกว่ากระเป๋าสองใบและผู้โดยสารรวมคนขับแค่สองคน พวงมาลัยชัดเจนแม้จะเป็นเพียงแค่พวงมาลัยของรถปิกอัพแต่ทำออกมาได้น่าพอใจ อัตราเร่งไต่ขณะขับขึ้นเนินชันไม่สร้างปัญหาหรือส่อไปในทางอืดอาดเชื่องช้า ที่รอบเครื่องยนต์ 1,700-3,200 รอบต่อนาทีคุณจะรับรู้ถึงแรงบิดได้อย่างชัดเจน เกียร์ 5 สปีดที่มีร่องเกียร์หยักไปมาของ Vigo ถูกผมยัดคาไว้ที่ตำแหน่งเกียร์ 3 การคงเกียร์ต่ำเหมาะกับการขับขึ้นหรือลงทางลาดชันโดยใช้รอบเครื่องยนต์เป็นตัวหน่วงไม่ให้รถวิ่งเร็วจนเกินไป ขึ้นมาได้ค่อนทาง ขบวนรถทดสอบ Toyota Hilux Vigo Champ Smart Cab 2.5 ลิตร รวมกับรถของเจ้าหน้าที่จาก Toyota นับสิบคันก็ขึ้นมาจอดยังร้านอาหารในโครงการหลวงอินทนนท์เพื่อแวะทานข้าวเที่ยงก่อนออกเดินทางต่อไปยังยอดดอย
เสร็จจากอาหารกลางวัน ขบวนรถทดสอบ New Vigo ของสื่อมวลชนออกเดินทางต่อเพื่อขึ้นไปบันทึกภาพบนยอดดอยอินทนนท์บริเวณจุดที่ใกล้กับสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศ ช่วงล่างของ Hilux Vigo Champ Smart Cab 2.5 ลิตร ยังคงแสดงตัวอย่างเป็นมิตรไปตลอดทางจนถึงจุดจอดรถที่ด้านบนสุดของอินทนนท์ เสียงวิทยุของเพื่อนๆ สื่อมวลชนที่พูดคุยกันไปตลอดเส้นทางบอกว่าช่วงล่างของมันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจริงๆ การดูดซับแรงสะเทือน การถ่ายเทน้ำหนัก การเปลี่ยนทิศทางของตัวรถให้ความร้สึกมั่นใจได้มากกว่า Vigo ทุกคันที่ผมเคยขับทดสอบ ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวและทดสอบเป็นครั้งแรกที่เขาแผงม้าในจังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่สองที่ต้องเดินทางไกล 9,000 กิโลเมตรลงไปขับทดสอบกันถึงออสเตรเลีย บนสนามทดสอบแบบครอสคันทรี่ในเมืองเมลเบิร์น ครั้งที่สามกับการขับทดสอบทางไกล 2,000 กิโลเมตร จากนครพนมไปยังซาปาซึ่งเป็นเมืองเหนือสุดของประเทศเวียดนาม ส่วนครั้งที่สี่ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดกับการขับทดสอบที่เขื่อนรัชชประภาใน จังหวัดสุราษฎร์ธานีไปยังจังหวัดภูเก็ตเมื่อกลางปี 2555 จนมาถึงครั้งสุดท้ายขณะที่ผมกำลังห้อเจ้า Vigo ขึ้นยอดดอยอินทนนท์ เมื่อวิ่งออกจากโครงการหลวงอินทนนท์มาได้สักครู่ก็พบกับเมฆหมอกขาวโพลนที่ โดนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้หอบมาปกคลุมยอดดอยอินทนนท์จนทัศนวิสัยหดสั้นลงเหลือ เพียงแค่ไม่กี่สิบเมตร ผมลดความเร็วโดยทิ้งระยะห่างจากรถคันนำมากยิ่งขึ้น การขับฝ่าหมอกที่หนาทึบทำให้ไม่สามารถใช้ความเร็วได้ตามปกติเพื่อความปลอดภัยของตัวรถทดสอบเองรวมถึงเพื่อนร่วมทาง ไหลตามกันมาได้ไม่นานนักทั้งหมดทุกคันก็มาจอดชมบรรยากาศที่สดชื่นของตำแหน่งที่สูงที่สุดในประเทศไทย
แวะถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อโดยการขับลงเขามุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่พักในตัว เมืองเชียงใหม่ ในช่วงขาลงผมคาเกียร์ไว้ที่ตำแหน่งเกียร์ 2-3 ตลอดเวลา การใช้เกียร์ต่ำขับลงเขาช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ การขับเข้าโค้งธรรมดาหรือบนภูเขา ควรมองให้ไกลให้ลึกและให้คนนั่งข้างช่วยดูสภาพทางด้วย เมื่อแน่ใจว่าไม่มีรถสวนมาให้ใช้วิธีขับตัดโค้ง วิธีนี้จะช่วยให้รถทรงตัวดีขึ้น เข้าโค้งได้เร็วขึ้นอีกเล็กน้อย หน้ายางจะสัมผัสผิวถนนได้มากตามไปด้วยแต่ต้องแน่ใจว่าไม่มีรถสวนมาเมื่อเข้า โค้งขวาก่อนเข้าโค้งให้ถอนคันเร่งลง หัดพวงมาลัยไปทางซ้ายนิดหนึ่ง แล้วหักพวงมาลัยมาทางขวาเพื่อทำโค้งให้กว้างขึ้น ใช้พื้นที่ถนนทุกตารางนิ้ว โค้งซ้ายก็ให้เลี้ยวทางขวานิดหนึ่งแล้วหักพวงมาลัยเลี้ยวซ้ายโดยประคอง ทิศทางรวมถึงแตะเบรกเพื่อชะลอความเร็วหากลงมาเร็วมากจนเกินไปอาจก่อให้เกิด อาการโอเวอร์สเตียร์ได้ สภาพผิวทางที่มีน้ำฝนปกคลุมทำให้ผมลดความเร็วรวมถึงทิ้งระยะห่างจากรถคันนำ มากขึ้นไปอีกเพื่อความปลอดภัย การทรงตัวที่ดีขึ้นของ New Hilux Vigo จากการปรับช่วงล่างใหม่หมดช่วยให้ผมสามารถควบคุมตัวรถได้ง่ายขึ้นมาอีกนิด ช่วงขาลงที่มีความเร็วเพิ่มมากขึ้นจนต้องคอยแตะเบรกเพื่อชะลอความเร็ว ท่ามกลางบรรยายกาศที่เต็มไปด้วยหมอกและละอองฝนของดอยอินทนนท์ ขับลงมาจนถึงทางราบก่อนเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ในแถบอำเภอสันป่าตอง ฝนที่ตั้งเค้าดำทะมึนก็เทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา กลุ่มฝนในช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 6 กันยายนซึ่งพัดเข้าปกคลุมเชียงใหม่ทั้งเมืองก่อให้เกิดน้ำท่วมขังจนทำให้การ จราจรกลายเป็นอัมพาตกันไปทั้งเมือง
โดยภาพรวมแล้ว Toyota Hilux Vigo Champ รุ่นปรับปรุงมีความดีอยู่ตรงช่วงล่างและอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มเติมเข้ามา หลายท่านอาจรอรุ่นเปลี่ยนโฉมแต่คงต้องอดใจไว้ก่อน ตัวรถในรุ่นล่าสุดมีการตกแต่งห้องโดยสารที่ดีขึ้น เครื่องเสียงและลำโพงมีคุณภาพที่ดีกว่ารุ่นสุดท้าย ช่วงล่างให้ความมั่นใจได้ดี เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังของ Toyota Hilux ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของความทนทาน มอบประสิทธิภาพสำหรับการขับใช้งานทั้งบนทางเรียบและทางลุยได้น่าพึงพอใจ ตัวรถทดสอบคันที่ผมขับแม้จะไม่ใช่รุ่นสูงสุดแต่มันสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่างจังหวัดได้ดีพอสมควร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ในระดับแนวหน้าของวงการ แม้จะใช้เครื่องยนต์เดีเซล 2.5 ลิตร แต่ระบบอัดอากาศแบบ VN Turbo เติมเต็มสมรรถนะในด้านอัตราเร่งและการวิ่งที่ความเร็วเดินทางได้ดี ความคุ้มค่าคุ้มราคานั้นค่ายสามห่วงยังคงนำหน้าคู่แข่งอยู่เล็กๆ จากบริการหลังการขาย การรับประกันและราคาขายต่อที่เหนือกว่ารถคู่แข่งเล็กน้อยเนื่องจากค่านิยม ของคนไทย Toyota Hilux ทุกรุ่นยังคงเป็นรถที่ฆ่าไม่ตาย มันเหมือนแมวที่มีถึง 9 ชีวิตและแต่ละช่วสงชีวิตคือการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่อความอยู่รอด นี่คือปิกอัพที่เหมาะสมกับประเทศที่มีเส้นทางสายรองสมบุกสมบันซึ่งรถเก๋งทั่วไปไม่อาจฟันฝ่าไปได้ คุณจะหลงรักมันเมื่อต้องขับฝ่าน้ำท่วมขังที่มีระดับความสูงมากกว่า 30 เซนติเมตร คุณจะยิ่งชอบเมื่อขับมันไปในวันหยุดพักผ่อนกับครอบครัวแล้วพบกับสถานที่ที่สวยงาม ราคา 6.7 แสนบาทของรุ่นสมาร์ทแคป 2.5 ดีเซลเทอร์โบ แม้เบาะหลังจะไม่มีมาให้เหมือนกับรุ่นดับเบิ้ลแค็บ แต่สมรรถนะและความโดดเด่นของเครื่องยนต์ เกียร์และช่วงล่างตลอดจนอุปกรณ์ที่เสริมเข้ามามีความพอดีกับระดับของราคา ค่าตัวและเหนือกว่ารถคู่แข่งในบางแง่มุมอย่างชัดเจน ลองไปหาขับทดสอบดูแล้วจะรู้ว่าช่วงล่างของมันหนึบแน่นขึ้นจริงๆ.