David Cameron นายกรัฐมนตรีของประเทศอังกฤษได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการแถลงข่าวครั้งนี้ พร้อมกับ Dr.Martin Winterkorn ประธานบริหารและบอร์ดบริหารจาก Volkswagen Group ที่โรงงาน Bentley ในเมือง Crewe ได้กล่าวไว้ว่า “ถือเป็นข่าวดีสำหรับเมือง Crewe และประเทศอังกฤษทั้งหมดที่ทาง Bentley จะทำการลงทุนกว่า 800 ล้านยูโร รวมถึงการสร้างงานใหม่ที่จะเกิดขึ้นให้กับประเทศมากกว่า 1,000 อัตรา และสามารถกลายมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมสภาวะเศรษฐกิจให้กับ ประเทศอังกฤษ”

“อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอีกหนึ่ง อุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีการแข่งขันกันทั่วโลก สำหรับการผลิตรถที่ประเทศอังกฤษนี้ถือได้ว่าในทุกๆ 20 วินาที จะมีรถยนต์ที่ผลิตสำเร็จจำนวนหนึ่งคันออกมา และเรายังได้ส่งเสริมการลงทุนด้วยการใช้กลยุทธ์ Government’s Automotive Industrial Strategy เพื่อจะช่วยส่งเสริมความสำเร็จนี้ให้ได้อย่างต่อเนื่อง ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เบนท์ลีย์ได้ตัดสินใจในการสร้างสรรค์รถ ใหม่ของพวกเขาที่นี่ ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างงานให้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 1,000 แรงงาน และยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการสร้างความสามารถและโอกาสในการพัฒนาขึ้นมาเป็นช่างที่มีทักษะและฝีมือที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย”

Dr.Winterkorn กล่าวว่า “Volkswagen Group มั่นใจว่าประเทศอังกฤษจะเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการผลิตรถยนต์ บรรดาเหล่าคนรัก Bentley ทั่วโลกต่างเฝ้ารอที่จะได้เห็นรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) คันแรกจากแบรนด์ของเรา เราขอให้มั่นใจได้เลยว่าเราจะสร้าง Bentley ใหม่ล่าสุดให้ออกมาเป็นยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบ ทรงพลัง โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”

Vince Cable เลขานุการฝ่ายเศรษฐกิจกล่าวไว้ว่า: “นี่คือความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมระหว่างประเทศอังกฤษและค่ายผลิตรถยนต์ กลยุทธ์ทางอุตสาหกรรมยานยนต์ของเราได้พิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลได้ทำงานอย่าง หนักร่วมกับค่ายรถระดับโลกอย่าง Bentley ในการสร้างงานและสนับสนุนการส่งออกอย่างเต็มที่ Bentley เป็นองค์กรแรกที่ผมเข้าเยี่ยมในฐานะรัฐมนตรี และเป็นองค์กรที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยศักยภาพของพวกเขาในการผลิตรถยนต์และทำการส่งออกได้ถึง 4 คันจาก 5 คันที่พวกเขาผลิตในประเทศอังกฤษไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเลยทีเดียว”

Dr.Wolfgang Schreiber ประธานบริหารและประธานกรรมการจาก Bentley ได้กล่าวเพิ่มเติมไว้ว่า: “นี่คือข่าวดีสำหรับ Bentley และประเทศอังกฤษ รถยนต์ยี่ห้อนี้ประสบความสำเร็จมากขึ้นและด้วยการพัฒนาและผลิตรถยนต์รุ่นที่ 4 ใหม่ล่าสุดคันนี้จะทำให้ Bentley ยิ่งประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นสำหรับตลาดรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ทั่วโลก การสนับสนุนจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทได้รับการปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิด และช่วยให้บริษัทเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย” รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) จะกลายมาเป็นรถ Bentley ที่เพียบพร้อมตามแบบฉบับความหรูหราสไตล์ผู้ดีอังกฤษทุกประการ และแน่นอนว่าได้รับการเสริมแต่งมาด้วยงานฝีมือชั้นเยี่ยมอย่างเต็มพิกัด ส่วนรูปลักษณ์จะมีความโดดเด่นและเหนือกว่ารถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) คันอื่นๆ บนท้องถนน ให้ท่านสัมผัสได้ถึงรูปลักษณ์ความเป็น Bentley ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังสามารถกลายมาเป็นรถยนต์ที่หรูหราและเป็นรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ที่ทรงพลังมากที่สุดในตลาดนี้ ทั้งการตอบรับจากลูกค้าในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมาทั่วโลกถือได้ว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างยิ่ง

Bentley Motor เพิ่มจำนวนพนักงานขึ้นเป็น 4,000 คนในเมือง Crewe ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองหลักในการปฏิบัติการ รวมทั้งฝ่ายการออกแบบ ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายวิศวกร และฝ่ายผลิต ที่รวมไว้ซึ่งช่างงานฝีมือที่เต็มไปด้วยทักษะและความเชี่ยวชาญ วิศวกรที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพ และเทคโนโลยีชั้นนำที่โดดเด่นไม่เหมือนใครจากโรงงานผลิตรถยนต์หรูจากประเทศอังกฤษอย่าง Bentley อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศอังกฤษที่เต็มไป ด้วยคุณค่า Bentley ส่งออกสินค้าที่มีค่ามากกว่า 1,000 ล้านยูโร ในปี 2012 ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่ลงทุนเกี่ยวกับการพัฒนาวิจัยในวงการยานยนต์ของอังกฤษ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 และใหญ่เป็นอันดับที่ 18 ของประเทศ ครึ่งปีแรกของปี 2013 Bentley ส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น 9% หรือส่งมอบไปแล้ว 4,279 คันทั่วโลก ตลาดรถในสหรัฐอเมริกายังคงเป็นภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดสำหรับตลาดของ Bentley โดยมียอดส่งมอบถึง 1,282 คันและถือได้ว่าเพิ่มขึ้นอีก 12% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในช่วงปี 2012 ที่ผ่านมา ส่วนตลาดในยุโรปเติบโตขึ้น 22% โดยมียอดส่งมอบที่ 740 คัน ส่วนในตลาดประเทศอังกฤษส่งมอบไปแล้ว 698 คันคิดเป็นยอดเติบโตขึ้น 25% หากเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2012 ในประเทศจีนส่งมอบไปแล้ว 817 คันถือได้ว่าลดลง 23% เนื่องจากลูกค้าในประเทศจีนต่างเฝ้ารอรุ่นฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying spur) ใหม่ล่าสุดที่จะเข้ามาช่วยทำยอดในครึ่งปีหลังนี้ ตลาดในประเทศตะวันออกกลางเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน โดยมียอดส่งมอบที่สูงขึ้นอีก 28% หรือมียอดส่งมอบที่ 394 คัน ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ถือได้ว่าพัฒนาอย่างดีเยี่ยมโดยมียอดส่งมอบที่เพิ่มมากขึ้นถึง 53% เป็น 222 คัน ส่วนประเทศญี่ปุ่นเติบโตขึ้นอีก 28% โดยมียอดส่งมอบที่ 96 คัน.