ร้อนนรก ไปทะเลกับ FORD FOCUS ดีกว่า (ตอนที่1)
ร้อนนรก ไปทะเลกับ FORD FOCUS ดีกว่า (ตอนที่1) อุณหภูมิที่ทะลุ 40 องศาเซลเซียสทำให้เกิดความร้อนรุ่มกลุ้มอุรา จะเดินไปไหนก็ร้อนเสียจนเหงื่อท่วม ไปทะเลกับ New Focus 2.0 กันดีกว่า ตอนแรกกับการรีวิวรูปทรง เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่างและระบบช่วยจอดอัจฉริยะ... แฮตช์แบค 5 ประตูสีเหลืองคันนี้คือ New Focus ที่เคยผ่านสายตาในรูปทรงกันไปบ้างแล้วหลังจากออกขายมาเกือบปี นี่คือรถยนต์ที่ Ford Motor อัดเทคโนโลยีมาให้ทุกอย่าง ทั้งเครื่องยนต์ Duratec 2.0 ลิตร เกียร์ DSG แบบทวินคลัตช์ ระบบช่วยจอด ระบบสั่งงานด้วยเสียง ระบบ Adaptive Cruise Control ระบบ ESP แบบ Torque Vectoring บูลทูธ วิทยุดิจิตอลของ Sony ฯลฯ มันเยอะมากจนคุณอาจใช้งานมันได้ไม่ครบหากไม่มีเวลามากพอที่จะศึกษาเพื่อเข้า ถึงระบบของการใช้งาน นับเป็นอีกหนึ่งยนตรกรรมจาก Ford Motor ที่ไฮเทคสุดๆ เท่าที่รถราคาล้านนิดๆ จะสามารถทำได้ Focus รุ่นล่าสุดยังมีให้เลือกทั้งแบบซีดาน 4 ประตู กับความอเนกประสงค์ของรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู ซึ่งมีฝาท้ายที่เปิดออกได้ในมุมกว้างกับเบาะหลังแบบพับเอนราบได้เพื่อความ สะดวกในการขนสัมภาระ เป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่นำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับวงการโดยเฉพาะระบบรองรับการขับขี่ควบคุมที่เชื่อมโยงกับโครงข่ายสมอง กลไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ Focus วางแนวทางการออกแบบเรือนร่างด้วยแนวคิด kinetic design เส้นสายด้านข้างตัวถังทำออกมาได้ดีมากจนดูเหมือนรถกำลังเคลื่อนที่แม้จะจอด อยู่นิ่งๆ จากแนวโค้งของเส้นที่แก้มข้างไล่ไปจนถึงประตูทั้งสองบานจนไปถึงไฟท้าย ด้านล่างของบานประตูยังเพิ่มมิติมุมมองด้วยการเซาะแนวชายล่างของบานประตู เพื่อเพิ่มแสงเงา เส้นโครเมียมที่เดินกรุกับขอบกระจกบังลมของบานประตูกับแนวโค้งของหลังคาที่ ค่อยๆ ไล่ระดับความลาดเอียง คือความฉลาดทางการออกแบบ เสาหน้าที่ใช้องศาของการลาดเอียงมากกว่ารุ่นเก่า ช่วยให้ระบบอากาศพลศาสตร์ของรถคันนี้ดีขึ้น กระจังหน้าแบบใหม่และสปอยเลอร์ขนาดเขื่อง รวมถึงไฟตัดหมอกทรงกลมที่อยู่มุมล่างเสริมให้ด้านหน้าของมันดุดันขึ้นอีก เล็กน้อย แม้จะเป็นรถราคาไม่แพงมากนัก แต่ Ford ก็ยังใจดีแถมไฟ LED Daytime Runing มาให้โดยรวมอยู่ในกรอบไฟหน้า ไฟ LED ยังสามารถควบคุมด้วยสวิตช์ปิด-เปิดได้อย่างสะดวก อีกหนึ่งจุดที่ออกแบบได้ดีคือฝากระโปรงหน้าที่ยกมุมขึ้นเล็กน้อยก่อนจะ เชื่อมกับเสาหน้า เป็นงานออกแบบที่ประสานไปกับแนวคิด One World One Ford ซึ่งใช้รถโมเดลเดียวกันจัดจำหน่ายไปทั่วโลก Ford Focus 2.0 มีล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้วที่สวยงาม แถมยังใส่ยางที่มีประสิทธิภาพอย่าง Michelin รุ่น Primacy LC ไซส์ 215/50/R17 สัดส่วนด้านหลังดูแบนๆ จากแนวหลังคาที่ลาดลงกับกระจกบานฝาท้ายขนาดกำลังพอดี Ford ออกแบบให้พื้นที่ฝาท้ายมีขนาดที่เพิ่มขึ้น โดยสามารถใส่ยางอะไหล่แบบไซส์เล็กไว้ที่ด้านล่าง แผ่นปิดด้านในของฝาท้ายกรุด้วยพรมสีดำ ยังถอดออกได้เพื่อการขนของชิ้นใหญ่ มือจับฝาท้ายด้านในที่ติดตั้งอยู่ทั้งสองข้างช่วยให้การใช้งานยกขึ้นหรือกด ลงสะดวกดี มุมของฝาท้ายที่เปิดได้สูงทำให้ไม่ต้องก้มตัวยามยกของหนักอีกด้วย สำหรับไฟท้ายออกแบบให้เข้ากับแนวด้านข้างของตัวถัง แต่เมื่อมองดูจากด้านหลังตรงๆ มันเล็กไปสักนิด กระจกบานฝาท้ายยังมีใบปัดน้ำฝนขนาดเล็ก สปอยเลอร์ดักอากาศด้านหลังที่ติดอยู่บนฝาท้ายใกล้กับแนวขอบหลังคามีไฟเบรก ดวงที่สาม เป็นไฟแบบ LED ที่ช่วยเพิ่มมุมมองและความปลอดภัยเมื่อใช้เบรกให้กับรถที่ขับตามมาด้านหลัง ห้อง โดยสารให้อารมณ์ที่กระชับแบบรถสปอร์ต เมื่อลองเข้าไปนั่งภายในของ New Focus ถูกดีไซน์โดยคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นหลัก เห็นได้จากการจัดวางอุปกรณ์พวกสวิตช์ควบคุมต่างๆ ให้อยู่ในระยะที่ผู้ขับ สามารถเอื้อมมือไปถึงได้อย่างสบาย Ford เคยโดนตำหนิเรื่องการตกแต่งห้องโดยสาร มาถึง Focus รุ่นใหม่ ทุกอย่างจึงดูดีขึ้นจากการเลือกใช้พลาสติก หนังและชิ้นงานโครเมียม ผิวลื่นคล้ายกับอัลลอยเดินขอบช่องแอร์-วงพวงมาลัยและคันเกียร์ เบาะแบบครึ่งหนังครึ่งผ้านั่งได้กระชับตัวดีแต่ไม่ค่อยสบายตัวนักเมื่อขับ ทางไกล ตัวเบาะคู่หน้ายังใช้กลไกปรับตั้งแบบแมนวลด้วยมือ ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอีก 15% ของแชสซี ทำให้ความกระด้างและแรงสั่นสะเทือนลดลง รวมถึงเสียงรบกวนก็ยังลดลงจากวัสดุซับเสียงที่ถูกเพิ่มเข้ามาหลายจุด พลาสติกสีเงินที่ล้อมกรอบชุดเครื่องเสียงของโซนี่ไล่ไปจนถึงซุ้มเกียร์ทำให้ มันดูน่าใช้งานดี พวงมาลัยแบบสี่ก้านยังเต็มไปด้วยสวิตช์สั่งงาน ระบบปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ ปุ่มสั่งงานโทรศัพท์ไร้สาย และปุ่มสั่งงานเครื่องเสียง แผงประตูฝั่งคนขับมีสวิตช์กระจกไฟฟ้าและสวิตช์ปรับตั้งกระจกมองข้างกับมือ จับที่เปิดประตู พนักเท้าแขนออกแบบเป็นกล่องเก็บของในตัวซึ่งใช้เก็บของกระจุกกระจิก ตำแหน่งของแป้นเบรก แผงประตู และแผงเหนือศีรษะยังมีไฟหรี่สีแดงที่ให้แสงนวลตายามค่ำคืน แผง หน้าปัดแบบกระบอกทรงเหลี่ยมที่กำลังฮอตฮิต ทั้งวงมาตรวัดรอบเครื่องยนต์และมาตรวัดความเร็วใช้เข็มสีฟ้าบนพื้นสีดำและ ตัวเลขบอกความเร็วรอบกับความเร็วรถสีขาว ซึ่งทำให้อ่านค่าได้ง่าย คอนโซลกลางขนาดใหญ่และความลาดเอียงของกระจกบานหน้าทำให้เกิดแสงสะท้อนในวัน ที่มีแดดจัด แก้ได้ด้วยการเอาไปติดฟิล์มกันแดด ส่วน Sunroof ที่ให้มานั้นทำงานได้ดีและช่วยให้การเปิดใช้งานสร้างมุมมองใหม่ๆ ในการเดินทางอยู่เสมอ ใกล้กับสวิตช์ควบคุม Sunroof ยังมีกล่องเก็บแว่นตาที่ออกแบบให้รวมอยู่ในกรอบสวิตช์ Sunroof ได้อย่างสวยงาม ซุ้มเกียร์ดูแข็งๆ ไปสักนิดจากการออกแบบ แต่ใช้งานได้ดีจากตำแหน่งของการติดตั้ง คันเบรกมือหน้าตาประหลาดทำเป็นก้านยื่นออกมาข้างๆ คันเกียร์ออโต้ สำหรับพวงมาลัยในรถ New Focus ยังสามารถปรับตั้งระยะห่างและความสูงได้ครอบคลุมสำหรับคนที่ชอบให้มันยื่น เข้าหาตัวหรือหดกลับเข้าไปจนเกือบติดกับแผงหน้าปัด จอ MID Screen หรือ Multi Information Display มีมาให้ถึง 2 ตำแหน่ง คือตำแหน่งด้านหน้าของคนขับรวมอยู่ภายในกรอบมาตรวัด กับอีกตำแหน่งที่ติดตั้งอยู่เหนือชุดเครื่องเสียงแบบดิจิตอลของโซนี่ จอ Multi Information Display ที่อยู่ตรงหน้าคนขับทำหน้าที่แจ้งเตือนข้อมูลที่สำคัญสำหรับการขับขี่เช่น ระยะทางที่สามารถวิ่งไปถึงกับเชื้อเพลิงในถัง อัตราเฉลี่ยการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบลิตรต่อ 100 กิโลเมตร อุณหภูมิภายนอก ทริปมิเตอร์จับระยะทางของการวิ่ง ความฉลาดของ New Focus เริ่มจากระบบสั่งงานด้วยเสียง หรือ Ford SYNC ระบบดังกล่าวจะช่วยให้การค้นหาเบอร์โทรเพื่อติดต่อ โทรออกหรือเลือกเล่นเพลงโปรดจาก USB iPod โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่น MP3 ซึ่งรองรับได้โดยเสียบอุปกรณ์เหล่านี้ผ่านช่องเชื่อมต่อ AUX-USB นอก จากนี้ยังมีระบบ Active Park Assist ซึ่งเป็นระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบจะทำการค้นหาช่องว่างที่เหมาะสมสำหรับการจอดด้วยคลื่นอัลตราโซนิคที่ติด อยู่รอบรถ เซ็นเซอร์จะตรวจจับทั้งความกว้างและความลึกของพื้นที่จอด เพื่อบังคับพวงมาลัยเข้าจอดเองโดยที่ผู้ขับขี่มีหน้าที่ควบคุมแป้นเบรก (แทบจะไม่ต้องกดคันเร่ง เพียงแค่คอยยกเท้าออกจากแป้นเบรกเบาๆ เท่านั้น) รวมถึงการควบคุมเข้าเกียร์ถอย (เฉพาะรุ่น Sport คันทดสอบและรุ่น Titanium) ตามด้วยระบบ Active City Stop หรือระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำเพื่อป้องกันการชนท้ายหรือคนเดินถนน ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุจากการเบรกฉุกเฉินของรถคันข้างหน้า ในสภาพการจราจรที่เคลื่อนๆ หยุดๆ แบบเมืองใหญ่ หากเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่ารถคันข้างหน้าอยู่ใกล้มากจนเกินไป ระบบเบรกจะทำงานโดยอัตโนมัติ ระบบ Blind Spot Information System ที่ช่วยตรวจจับรถหรือวัตถุที่อยู่ในจุดบอด ซึ่งคนขับไม่สามารถมองเห็นได้ เมื่อทำการเปลี่ยนเลน ระบบจะแจ้งเตือนทันทีเมื่อตรวจพบวัตถุดังกล่าว โดยจะมีสัญญาณไฟสีแดงแสดงขึ้นบนกระจกมองข้างทั้งสองด้าน นอกจากระบบต่างๆ ที่ช่วยรองรับการขับให้มีความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นแล้ว กุญแจแบบอัจฉริยะยังสามารถเปิดประตูได้โดยที่ไม่ต้องกดสวิตช์ปลดล็อก ปุ่มสวิตช์สตาร์ตเครื่องยนต์ใช้งานได้ว่องไวดีเพียงแค่เหยียบเบรกแล้วกด สวิตช์สตาร์ต รวมถึงที่ปัดน้ำฝนและระบบไฟหน้าแบบอัตโนมัติก็ยังเข้ามาช่วยเสริมให้ New Focus มีความทันสมัย จากอุปกรณ์ไฮเทคที่ประดังเข้ามาใส่ไว้นับสิบรายการ ระบบ พวงมาลัยแบบไฟฟ้า EPAS รุ่นล่าสุด ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับ Focus ทุกรุ่น ช่วยให้การควบคุมทิศทางทำได้อย่างแม่นยำ ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติแม้จะเป็นพวงมาลัยไฮดรอลิคไฟฟ้า ตัวแปรกว่า 250 รายการในซอฟต์แวร์ของระบบบังคับเลี้ยวได้รับการปรับจูนลงรายละเอียด เพื่อให้การตอบสนองที่ถูกต้องและแม่นยำเมื่อขับด้วยความเร็วสูง และแปรผันต่อเนื่องให้มีน้ำหนักที่เบา ควบคุมทิศทางได้ง่ายเมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ เช่น ในขณะที่ถอยจอด ระบบดังกล่าวไม่เพียงรองรับการทำงานของ Active Park Assist ซึ่งเป็นระบบกึ่งอัตโนมัติที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าจอดได้สะดวกมากขึ้น ระบบดังกล่าวติดตั้งมาจากโรงงานสำหรับรุ่นสูงสุด (2.0 Sport) สำหรับระบบชดเชยน้ำหนักของพวงมาลัย หรือ Pull Drift Compensation ช่วยลดความน่ารำคาญในการที่ต้องคอยบังคับทิศทางของพวงมาลัย เมื่อต้องขับผ่านสภาพพื้นผิวถนนที่มีความขรุขระ หรือมีกระแสลมรุนแรงปะทะด้านข้าง เนื่องจากระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์จะทำงานเมื่อจำเป็นเท่านั้น ระบบนี้จะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงลงได้ประมาณ 3% เมื่อเปรียบเทียบกับพวงมาลัยแบบพาวเวอร์สายพานไฮดรอลิคทัั่วๆ ไป เครื่อง ยนต์ Duratec 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,998 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ด้วยเทคโนโลยี GDi (Gasoline Direct Injection) พร้อมระบบแปรผันหัวแคมชาฟต์อิสระ Ti-VCT (แปรผันทั้งฝั่งไอดี และไอเสีย) ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร หรือ 20.5 กิโลกรัม/เมตร ที่ 4,450 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ PowerShift ลูกใหม่ ชุดคลัตช์เป็นแบบแห้ง พร้อมปุ่ม + - ที่ติดตั้งบนคันเกียร์ SelectShift Automatic เพื่อให้ผู้ขับขี่เลือกเกียร์ได้เอง วางอยู่ในรุ่น Sedan Titanium กับ Titanium Plus และ Hatchback 5 ประตู Sport กับ Sport Plus อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง วิศวกรของ Ford เคลมว่า ทำได้ 14.9 กิโลเมตร/ลิตร อีกหนึ่งทางเลือกที่ประหยัดกว่าด้วยรุ่น 1.6 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ Duratec บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,598 ซีซี พร้อมระบบแปรผันวาล์ว Ti-VCT จากรถเล็กรุ่น Fiesta โดยปรับระดับความแรงเพิ่มขึ้นเป็น 125 แรงม้า (PS) ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 159 นิวตันเมตร หรือ 16.2 กิโลกรัม/เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วย 2 ระบบส่งกำลังให้เลือก หากเป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ PowerShift อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในรุ่น 1.6 ลิตร เคลมไว้ 15.4 กิโลเมตร/ลิตร Ford ออกแบบเครื่องยนต์ DOHC รุ่น 2.0 ลิตร ด้วยการใช้แคมชาร์ปสองแท่ง ควบคุมการปิด-เปิดวาล์วไอดีและวาล์วไอเสียแบบแยกจากกันโดยสิ้นเชิง ระบบวาล์วแบบแปรผันนี้ยังช่วยให้แคมชาร์ปตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เยื้องออกไป จากจุดเดิมเล็กน้อย โดนเริ่มเปิดวาล์วเร็วหรือช้ากว่าปกติเพื่อให้มีความสอดคล้องกับรอบของ เครื่องยนต์ในระบบ Ti-VCT ทั้งแคมชาร์ปฝั่งไอดีและไอเสีย โดยใช้วาล์วโซลินอยด์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดชนิดพิเศษซึ่งมีแรงดันสูงมากไปยัง ใบพัดควบคุมของแต่ละเฟืองสายพานแคมชาร์ป การใช้วาล์วโซลินอยด์แบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมการจ่ายน้ำมันของแต่ละแคมชาร์ป แบบแยกจากกันนั้น ทำให้แคมชาร์ปในส่วนของวาล์วไอดีและวาล์วไอเสีย สามารถเร่งหรือชะลอได้อย่างอิสระ เมื่อการทำงานของเครื่องยนต์เปลี่ยนไป จะช่วยให้การควบคุมจังหวะการทำงานของวาล์วไอดีและไอเสียได้ดีขึ้น การฉีดจ่ายเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ทำงานได้อย่างแม่นยำด้วยหัวฉีดที่จะฉีดพ่นละอองน้ำมันตรงไปยังสูบแต่ละ ตำแหน่งมีปริมาณที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ ครอบคลุมตั้งแต่ตอนสตาร์ตไปจนถึงรอบสูงสุด ระบบดังกล่าวช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงและช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ ปล่อยไอเสียน้อยลง เนื่องจากระบบฉีดเชื้อเพลิงตรงแบบไดเรคอินเจคชั่นนี้ จะฉีดเชื้อเพลิงตรงไปยังห้องเผาไหม้ ณ บริเวณที่ีต้องการเชื้อเพลิงเพื่อการเผาไหม้โดยเฉพาะ ต่างจากระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบท่อ หรือ Port Fuel Injection ซึ่งฉีดเชื้อเพลิงไปยังระบบไอดี สำหรับหัวฉีดไดเรคอินเจคชั่น ในเครื่องยนต์เบนซินสี่กระบอกสูบของ Ford เครื่องยนต์สามารถทำงานในย่านอัตราส่วนกำลังอัดสูงถึง 12.0:1 หัว ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง ติดตั้งไว้บริเวณด้านข้างของกระบอกสูบ เพื่อเล็งหัวฉีดไปยังกระบอกสูบที่ติดอยู่กับหัวเทียน และอยู่ใกล้กันกับวาล์วไอดีไอเสีย น้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกฉีดเข้าไปในกระบอกสูบ มีแรงดันในบางจังหวะสูงถึง 2,150 PSI หรือประมาณ 35 เท่า ของแรงดันที่ใช้ในระบบ PFI หัวฉีดน้ำมันแรงดันสูงของเดนโซ ใช้โซลินอยด์ด้านใน ปรับการปิด-เปิดการไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างแม่นยำ โดยน้ำมันเชื้อเพลิงจะไหลผ่านช่องเล็กๆ ที่คล้ายกับรูเข็มจำนวน 6 รู ในแต่ละหัวฉีด การฉีดน้ำมันในแต่ละครั้ง จะปรับให้อยู่ในตำแหน่งที่มีความประหยัดและลดการปล่อยมลภาวะได้ดี วิศวกรของ Ford ใช้คอมพิวเตอร์ในการออกแบบเพื่อช่วยแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งที่สามารถลดการ เสียดสีลงได้อย่างเป็นประโยชน์สูงสุด พื้นผิวของรางวาล์วได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อทำให้มันมีความราบเรียบมากที่สุด กระโปรงลูกสูบเคลือบสารที่มีแรงเสียดทานต่ำ ปั๊มน้ำมันเครื่องและอัตราการจ่ายน้ำมันเครื่องเพื่อหล่อลื่นเครื่องยนต์ ผ่านการคำนวณให้มีปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ การเสียดสีกันของอุปกรณ์อื่นๆ ยังถูกลดทอนลงด้วยวิธีการมากมาย เช่น พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าช่วยลดแรงต้านเมื่อไม่มีปั๊มไฮดรอลิคไปต่อเชื่อม เทคโนโลยีสายพานแบบใหม่ หรือ Stretchy Belt ช่วยลดการเสียดสีขณะที่หมุนเนื่องจากสายพานตึงเกินไป ช่วยทำให้ระบบให้ความเย็นพวกคอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ได ชาร์จแบบแยกส่วน ใช้ลูกรอกแบบพิเศษที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน ช่วยให้ไดชาร์จกับสายพานขับเคลื่อนปั๊มน้ำทำงานด้วยความตึงที่ต่ำกว่าปกติ ลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากแรงเสียดสีได้อีกทางหนึ่ง เป็นการออกแบบเชิงวิศวกรรมอันชาญฉลาด ที่จะช่วยรักษาน้ำหนักตัวโดยรวมของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับต่ำที่สุดเท่า ที่จะทำได้ ตัวถัง เครื่องยนต์ ฝาสูบ อ่างน้ำมันเครื่องที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์ซึ่งมีน้ำหนักมากที่ สุดถูกผลิตขึ้นจากอะลูมินั่มอัลลอย โดยได้รับการพัฒนาในขั้นตอนของการทดสอบก่อนผลิตจริงเพื่อความแข็งแกร่งและ น้ำหนักที่เบาขึ้น ลูกสูบของเครื่อง Duratec ใช้ลูกสูบอัลลอยที่มีน้ำหนักเบา ทำให้การเคลื่อนตัวดีขึ้น วัสดุผสมที่ใช้ทำท่อร่วมไอดีเพื่อให้น้ำหนักเบาที่สุด การวางท่อไอดียังคำนึงถึงประสิทธิภาพและการใช้ประโยชน์จากความร้อน ช่วยเพิ่มแรงบิดรอบต่ำได้อีกนิดหน่อย New Focus ถูกเน้นหนักด้านความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนของการทดสอบและพัฒนา โครงสร้างตัวถังใช้โลหะที่มีส่วนผสมของเหล็กที่แข็งแกร่งถึง 55% โดย 26% ของโครงสร้างตัวถังทำจากเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงรวมถึงเหล็กแบบโบรอน เหล็กในตัวถังแบบใหม่ของ Focus มีค่าความแข็งแรง ณ จุดคราก Yield Strength สูงกว่า Focus รุ่นที่แล้ว 47% ค่าความแข็งตึงต่อการรับแรงบิด Torsional Rigidity ในรุ่นแฮตช์แบคห้าประตูคันทดสอบ เพิ่มขึ้นอีก 15% อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยเมื่อเกิดการชนปะทะ เช่น ระบบหน่วงถุงลมนิรภัย ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ม่านนิรภัยสำหรับผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ระบบควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ ESP ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดในทางลาดชัน ระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ แกนพวงมาลัยแบบปรับได้ตามแนวขวาง ช่วยลดแรงกระแทกบริเวณศีรษะและหน้าอก ระบบดังกล่าวจะเหวี่ยงแกนพวงมาลัยให้พ้นจากด้านหน้าของผู้ขับหากเกิดการชน ที่ด้านหน้าด้วยความเร็วสูง และทำงานร่วมกับแผงควบคุมอุปกรณ์ด้านหน้ารถ ที่ได้รับการออกแบบให้ลดแรงกระแทกบริเวณขาของผู้โดยสาร หากแรงกระแทกส่งมาถึงบริเวณนั้นเมื่อเกิดการชน. ราคา ALL NEW FORD FOCUS - 4 ประตู 1.6 ลิตร Ti-VCT Ambiente เกียร์ธรรมดา 759,000 บาท - 4 ประตู 1.6 ลิตร Ti-VCT Ambiente เกียร์อัตโนมัติ 799,000 บาท - 4 ประตู 1.6 ลิตร Ti-VCT Trend เกียร์อัตโนมัติ 829,000 บาท - 5 ประตู 1.6 ลิตร Ti-VCT Ambient เกียร์อัตโนมัติ 809,000 บาท - 5 ประตู 1.6 ลิตร Ti-VCT Trend เกียร์อัตโนมัติ 839,000 บาท - 4 ประตู 2.0 ลิตร Ti-VCT GDi Titanium 959,000 บาท - 5 ประตู 2.0 ลิตร Ti-VCT GDi Sport 969,000 บาท - 4 ประตู 2.0 ลิตร Ti-VCT GDi Titanium Plus 1,069,000 บาท - 5 ประตู 2.0 ลิตร Ti-VCT GDi Sport Plus 1,079,000 บาท FORD FOCUS 2.0L 5DOOR SPECIFICATIONS BODY Construction.......................................Unitized steel body Final assembly .....................Michigan Assembly Plant, Wayne, Mich. POWERTRAIN AND CHASSIS ENGINE ............................................Type 2.0-liter Ti-VCT I-4 Manufacturing .....................Dearborn, Mich. Configuration......................................Aluminum block and head Valvetrain...........................................DOHC, four valves per cylinder, twin independent variable camshaft timing (Ti-VCT) Bore x stroke......................................3.44 x 3.27 in. Displacement......................................122.0 cu. in./1,999 cc Compression ratio...............................12.0:1 Horsepower........................................170 @ 6,500 rpm Torque................................................146 lb.-ft. @ 4,450 rpm Recommended fuel............................87 octane Fuel capacity......................................12.4 gallons Fuel injection.....................................Direct gasoline injection Oil capacity........................................4.6 quarts with filter (GF4 5w20) Emission control................................Three-way catalyst Federal emissions (tailpipe/evaporation) Tier 2 Bin 4/LEV II California emissions states (tailpipe/evaporation) SULEV/PZEV DRIVETRAIN Layout................................................Front-wheel drive TRANSMISSION DSG PowerShift six-speed automatic SUSPENSION Front..................................................Independent MacPherson strut with 23.5-mm stabilizer bar Rear...................................................Control Blade™ multilink independent with 19.0-mm stabilizer bar STEERING Type....................................................Electric power-assisted steering (EPAS) Ratio...................................................14.7:1 Turns, lock-to-lock............................2.6 Turning circle, curb-to-curb..............36 ft. BRAKES Type Power-assisted front disc, rear drum with four-sensor, four-channel anti-lock braking system (ABS+ESC) Power-assisted four-wheel disc with four-sensor, four-channel anti-lock braking system (ABS+ESC) on Titanium, SEL and SE Sport Package Front.................................................278-mm vented disc Rear..................................................228-mm drum or 271-mm disc TIRES AND WHEELS (TYPE, SIZE) 17-in. painted and machined aluminum Michelin Primacy LC 215/50/R17 Wheelbase.......................................2,648 mm Track/tread (front)...........................1,544 mm Track/tread (rear).............................1,534 mm Length.............................................4,358 mm Width...............................................1,823 mm Height..............................................1,484 mm weight..............................................1,421 kg 3,133 lb Weight distribution .........................front Fuel tank capacity............................60 litres13.2 UK Gal 15.9 US Gal
Create Date : 11 เมษายน 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 11 เมษายน 2556 2:58:03 น. |
Counter : 2683 Pageviews. |
|
|
|