<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
11 เมษายน 2555

ทัวร์ 5 วัด (วัดทองธรรมชาติวรวิหาร)








สวัสดีค่ะ

บล็อกนี้ ขอพาท่านมาชมภาพฝาผนังของ วัดทองธรรมชาติวรวิหาร กันค่ะ


สถานะและที่ตั้ง

วัดทองธรรมชาติ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เลขที่ ๑๔๑
ถนนสมเด็จเจ้าพระยา แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร มีที่ดินตั้งวัด เนื้อที่ ๑๖ ไร่ ๑ งาน ๑๖.๕ ตารางวา






ประวัติความเป็นมาวัดทองธรรมชาติ

เป็นวัดโบราณ ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง เดิมเรียกกันว่า วัดทองบน คู่กับ วัดทองล่าง (วัดทองนพคุณ)
สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาเนื่องจากเสนาสนะเป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา ในสมัยรัชกาลที่ ๑

พระองค์เจ้าหญิงกุ (ต่อมาคือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนรินทรเทวี)
ซึ่งเป็นขนิษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือเรียกกันว่าเจ้าครอกวัดโพธิ์
กับพระสวามี คือ หม่อมมุก (กรมหมื่นนรินทรพิทักษ์) ทรงบูรณปฏิสังขรณ์และสร้างพระอุโบสถใหม่
แต่การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จเพราะกรมหมื่นนรินทรพิทักษ์สิ้นพระชนม์ลง


ครั้นรัชกาลที่ ๓ ทรงทราบว่าวัดทองธรรมชาติบูรณะยังไม่เสร็จ
จึงโปรดให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร เป็นแม่กอง ก่อสร้างจนเสร็จ และทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวง






สิ่งสำคัญในพระอาราม

พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐ ถือปูน หลังคามุงกระเบื้อง ประดับช่อฟ้า






ใบระกา หางหงส์ หน้าบันลายปูนปั้น

หน้าบันพระอุโบสถจำหลักไม้เป็นรูปเทพพนมบนลายก้านขดเป็นฝีมือของช่างสมัยอยุธยา

บานประตูหน้าต่างด้านนอกลงรักเขียนลายทองมีลักษณะเป็นลายกลับสองชั้น
ช่างเขียน ชื่อนายมั่น เขียนเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๕๗


พระวิหาร เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้อง แบบสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย มีจำนวน ๑๐ องค์
บนแท่นชุกชีมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ๑ องค์ และมีองค์เล็กกว่าตั้งลดหลั่นลงมาอีก ๓ แถว มีลักษณะอย่างเดียวกันทุกองค์
นอกจากนี้ยังมีกุฏิสงฆ์ สร้างในรัชกาลที่ ๕ หลายหลัง และมีศาลาโถงสร้างไว้ตรงมุมกำแพงแก้ว ทั้ง ๔ มุม

หอไตร เป็นอาคารไม้ กว้าง ๔ เมตร ยาว ๕ เมตร สร้างเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๕๗

หอระฆัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๓ ชั้น รูปร่างคล้ายป้อมฝรั่ง
ชั้นที่ ๑ ประดิษฐานพระพุทธรูป ระฆังอยู่ชั้นล่าง

ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารไม้ หลังคามุงกระเบื้อง กว้าง ๑๐.๗๐ เมตร ยาว ๑๙.๘๐ เมตร

ธรรมาสน์ เป็นไม้จำหลัก แบบบุษบก ๓ ชั้น







พระประธาน ในพระอุโบสถ

เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ลงรักปิดทอง ปางมารวิชัยหน้าตัก ๔ ศอก ๔ นิ้ว
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันได้พระราชทานนามแก่พระประธานองค์นี้ว่า "พระพุทธชินชาติ มาศธรรมคุณ"
และมีพระอัครสาวกซ้ายขวา ประดิษฐานอยู่บนแท่นชุกชี






ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเขียนเมื่อครั้งสร้างพระอุโบสถสมัยรัชกาลที่ ๓











บริเวณเหนือขอบหน้าต่างเขียนเป็นภาพเทพชุมนุม แบ่งตามศักดิ์ ๓ ชั้น






รองลงมาเป็นภาพพระพุทธประวัติ ฝีมือเขียนแบบไทย






ด้านหลังพระประธานเป็นภาพไตรภูมิ







ส่วนด้านตรงข้ามพระประธานเป็นภาพพระพุทธประวัติตอนมารผจญ










ภาพมารผจญทางด้านซ้ายมือ






ภาพที่อยู่หลังพระประธานด้านล่าง เป็นภาพมองจากที่สูง
ภาพวิถีชีวิตผู้คนในหมู่เรือนไทยและตึกในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่ผนัง ระหว่างประตูด้านหลังพระประธาน

ผู้เขียนคงเขียนขึ้นเพื่อแสดงที่อยู่ของผู้ปฏิสังขรณ์วัดนี้






เป็นภาพท้องที่วังบูรพาภิรมย์ สมัยรัชกาลที่ ๓ เห็นวังตั้งเด่นอยู่กลาง
แวดล้อมด้วยตึกใหญ่ข้าง ๆ หลายหลัง ต่อจากกำแพงวังเป็นทางเดินปูอิฐสีแดง






ต่อมาเป็นห้องแถวซึ่งมีทั้งคนไทยอาศัยอยู่ และคนจีนทำการค้าขาย





ตามลำคลองมีโรงสำหรับเก็บเรือและแสดงการฝึกพายของพวกฝีพาย
ต่อจากประตูกำแพงเมืองมีซุ้มประตูและมีสะพานขนาดใหญ่ลงน้ำ
เห็นช้างพลายกำลังเดินออกจากประตูเพื่ออาบน้ำในคลอง

ซึ่งนับเป็นภาพจิตรกรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี
เพราะได้แสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ และลักษณะชุมชนของคนในสมัยนั้นเป็นอย่างดี






ภาพฝาผนังที่วัดทองธรรมชาติ
(ภาพและเรื่อง ต่อไปนี้ นำมาจากเวปของ ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย )
ขอขอบคุณ คุณยีนส์ ผู้ดูแลเวปนี้เป็นอย่างสูงค่ะ







ภาพที่1
มุมผนังด้านหลัง(รักแร้ผนัง)ซ้ายมือพระประธาน
เริ่มเรื่องพุทธประวัติเขียนตอนพระอินทร์ทูลอารธนาท้าวสันตดุสิตเทวราชให้มาจุติในพระครรภ์ของพระนางสิริมหามายา
(ช่วงบนผนังส่วนช่วงล่างเขียนตอนอภิเษกสมรสของพระเจ้าสุทโธทนะกับพระนางสิริมหามายา)







ภาพที่ 2 ประสูติพระพุทธเจ้าและพยากรณ์พุทธลักษณะแสดงปาฏิหารย์ขึ้นไปประทับยืนบนชฎาของกาฬเทวิลดาบส






ภาพที่ 3 แสดงเค้าโครงภาพ 4 กลุ่มเรื่องคือ
พระราชพิธีอภิเษกสมรสเจ้าชายสิทธัตถะและพระนางพิมพา เสด็จประพาสอุทยานพบเทวทูตทั้ง 4
ทอดพระเนตรพระนางพิมพาและพระราหุล และออกมหาภิเนษกรมณ์






ภาพที่ 4 ตอนตัดพระเมาลี ครองเพศบรรพชิต บำเพ็ญทุกรกิริยามีปัญจวัคคีย์เฝ้าอุปัฏฐาก
ตอนสดับเสียงพิณพระอินทร์ให้ทรงเลือกเดินสายกลาง
ตอนนางสุชาดาถวายข้างมธุปายาสและทรงลอยถาด






ภาพที่ 5 โสตถิยพราหมณ์ถวายหญ้าคา
ภาพพระพุทธเจ้าประทับบนบันลังก์มี่ซุ้มเรือนแก้วและเหล่าเทวะกำลังฟ้อนรำยินดีที่ชนะมาร
ธิดาพญามารร่ายรำล่อลวงพระพุทธเจ้า แล้วพระพุทธเจ้าประทับริมสระมุจรินทร์
จบด้วยตปุสสะ ภัลลิกะถวายก้อนสัตตุผง






ภาพที่ 6 ท้าวสหัมบดีพรหมทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าแสดงธรรมโปรดแก่เทพเทวดาและสัตว์โลกทั้งปวง






ภาพที่ 7 ผนังระหว่างประตูใต้ภาพมารผจญหน้าพระประธาน เขียนตอนโทณพราหมณ์แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ






ภาพที่ 8 พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์และโปรดชฎิลดาบส






ภาพที่ 9 พระพุทธเจ้าเสด็จโปรดพระประยูรญาติศากยวงศ์ โปรดพุทธบิดาและนางมหาประชาบดี
โปรดพระนางพิมพาพระร่หุล แลพระราหุลบรรพชา






ภาพที่ 10 พระพุทธเจ้าเสด็จโปรดพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์(เปิดโลก)






ภาพที่ 11 พระพุทธเจ้าประชวร ปรินิพพานและถวายพระเพลิงพระบรมศพ
เป็นตอนนึงที่งดงามและมีชื่อเสียงของจิตรกรรมฝาผนังวัดนี้
โดยเฉพาะตอนการละเล่นต่างในงานพระบรมศพ งดงามเป็นธรรมชาติ






ภาพที่ 12 เป็นภาพธาตุอันตรธาน ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว 218 พรรษา
พระเจ้าอโศกมหาราชทรงแจกพระบรมสารรีริกธาตุไปประดิษฐาน ณ มหาสถูป 84000 องค์
ในการพิธินั้น พญามารวสวัสดีจะมาทำลายพิธี พระเจ้าอโศกจึงได้นิมนต์พระอุปคุตต์เถระมาปราบ
โดนเสกสุนัขเน่าพันคอไว้และทรงเสกสุนัขเน่าพันคอพญามารไว้แล้วจับมัดกับต้นไม่ให้ได้รับทุกข์ทรมานจนต้องยอมแพ้





ภาพที่ 13 พระพุทธเจ้าแสดงธรรมแก่กษัตริย์ทั้งปวง





ภาพฝาผนังทั้งหมดนี้ ยังมีอยู่ที่ วัดทองธรมชาติวรวิหาร
ท่านผู้ใดต้องการชมของจริง เชิญไปได้ที่วัดเลยนะคะ ภาพอันสวยสดงดงามรอคอยท่านอยู่ค่ะ







ครั้งหน้าจะพาไปชมวัดพิชัยญาติการามค่ะ อย่าพลาดนะคะ







 

Create Date : 11 เมษายน 2555
5 comments
Last Update : 26 พฤษภาคม 2555 14:09:27 น.
Counter : 12793 Pageviews.

 

ไม่น่าเชื่อว่าจะสวยงามขนาดนี้
ขอบคุณป้าแอ๊ดที่พาไปชมค่ะ

ขอแชร์ไปไว้ที่หน้าเพจ Bloggang~BlogPage นะคะ

 

โดย: ณ ปลายฉัตร 11 เมษายน 2555 14:47:09 น.  

 

เป็นอีกวัดที่ใกล้แถวบ้านสมัยเด็กๆครับ เหมือนวัดประยูร

และก็อีกเช่นเคยครับ วัดประยูรผมไปแค่ดูเต่าในบ่อที่มีเขาจำลองที่เขาเรียกว่าเขาเต่า

ส่วนวัดทองเนี่ยผมได้แค่ไปช้อนลูกน้ำข้างวัดมาให้ปลากินครับ




เลยต้องอาศัยรู้จักวัดจริงๆจังๆผ่านบล็อกป้าแอ๊ดเนี่ยเลย ขอบคุณครับ

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 11 เมษายน 2555 14:49:43 น.  

 

ชื่อวัด คุ้นครับ เพราะเคยนั่งรถเมล์ผ่าน แต่ไม่เคยรู้อะไรมาก่อนเลย จนมาอ่านบล็อกป้าแอ๊ดวันนี้

 

โดย: yyswim 11 เมษายน 2555 15:49:17 น.  

 

แหม กำลังจะโพสต์ว่าหน้าบันลายคล้ายกับวัดใหญ่สุวรรณารามที่คุณยีนส์เอามาโพสต์เลย

วัดนี้พระดุอ่ะ สงกรานต์นี่อาจจะเสี่ยงดวงไปอีกรอบ ยังไงก็ต้องพยายามเข้าไปดูให้ได้

 

โดย: VET53 11 เมษายน 2555 16:04:53 น.  

 

สวัสดีค่า ป้าแอ็ด
เมื่อกี้ไปวัดประยูรมาค่า
เมื่อวานพลาดไป
ตามไปดูย้อนหลังเรียบร้อยแล้ว

ตามมาวัดทองต่อค่า
พรุ่งนี้ไปวัดพิชัยญาติ ต้องไม่พลาดแน่นอน
ทั้ง 3 วัด อยู่แถวบ้าน ไม่เคยไปชมอย่างใกล้ชิดแบบนี้เลยค่า
สวยงามทุกวัด

ขอบคุณป้าแอ็ดที่นำมาแบ่งปันนะค่า

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 11 เมษายน 2555 17:57:38 น.  


addsiripun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 78 คน [?]




ลบบล็อกงานตัดเย็บทิ้งหมดแล้วนะคะ
[Add addsiripun's blog to your web]