|
25 มิถุนายน 2553
|
|
|
|
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (3)
สวัสดีค่ะ
ว่างเว้นการอัพบล็อกไป 2-3 วัน ต้องขอโทษด้วยที่มานำเสนอเรื่องราวของพระองค์ดำ ช้าไปหน่อย
ครั้งนี้จะพาเข้าวัดอีกแล้วค่ะ เพราะของดีๆ ที่จะนำเสนอ อยู่ในวัดค่ะ
วัดนั้นคือ "วัดสุวรรณดาราราม" ที่จังหวัดอยุธยา
แต่วันนี้ไม่ได้นำเสนอความป็นมา หรือประวัติของวัดนะคะ แต่จะนำเสนอ สิ่งที่อยู่ในวัดค่ะ นั่นคือ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง อันเป็นชีวประวัติ ขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
แต่..ไหนๆ ก็มาถึงวัดแล้ว ทราบความเป็นมาสักนิดก็คงจะดีค่ะ
วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร ตั้งอยู่ริมป้อมเพชร อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระอัยกาในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ให้ชื่อว่าวัดทอง เป็นวัดของฝ่ายวังหน้า
ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จขึ้นครองราชย์ จึงโปรด เกล้าฯให้สถาปนาวัดทองขึ้นใหม่และพระราชนามว่า วัดสุวรรณดาราราม เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระบรมชนกนาถและพระบรมราชชนนี ตามพระนามเดิมของทั้งสองพระองค์คือทองดีและดาวเรือง
ลักษณะสถาปัตยกรรมของวัด ตัวโบสถ์จะตกท้องช้าง ทำให้คล้ายท้องเรือสำเภา ซึ่งเป็นการเปรียบพระพุทธศาสนาดั่งนาวาธรรม อันเป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์สมัยอยุธยา
ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่นำเสนอวันนี้ อยู่ในพระวิหารอีกหลังหนึ่ง อยู่ทางด้านขวามือของพระอุโบสถหลังใหญ่
เมื่อเข้าไปในพระวิหาร ภาพจิตรกรรมอันโด่งดังจะอยู่ที่ผนังตรงข้ามกับองค์พระประธาน จะเห็นบานประตูพระวิหารมีอยู่ 3 บาน เปิดให้เราเข้าไป 1 บานเท่านั้น(ขวามือที่เห็น) ภาพนี้กว้างเท่ากับความกว้างของพระวิหารด้านนั้น สูงตั้งแต่ด้านบนประตู ถึงเพดานพระวิหารเลยทีเดียว
จิตรกรรมฝาผนังรูปยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต้นฉบับที่เคยเห็นกันในหนังสือเรียน เป็นภาพเขียนสีน้ำมันฝีมือของ มหาเสวกตรี พระยาอนุศาสน์จิตร เป็นภาพ เรื่องพระราชพงศาวดารสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นภาพเขียนที่มีความเหมือนจริงมีใบหน้า ร่างกายกล้ามเนื้อและสัดส่วนต่างตามสรีระของบุคคลจริง อันมีอิทธิพลมาจากตะวันตกและได้นำมาประยุกต์ใช้ในจิตรกรรมไทย ซึ่งเชื่อว่าเป็นจิตรกรรมสีน้ำมันบนฝาผนังปูนแห่งแรกในประเทศไทย
ภาพเขียนแสดงพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นับเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่มีฝีมือยอดเยี่ยมงดงามมาก กรมศิลปากรได้ถ่ายแบบภาพเขียนนี้ไปไว้ที่อนุสรณ์ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ภาพเขียนพระราชประวัติองค์สมเด็จพระนเรศวรอยู่บนฝาผนังในพระวิหารหลังนี้โดยรอบ
ภาพพระเจ้าหงสาวดีได้ขอสมเด็จพระนเรศวรฯ จากพระมหาธรรมราชา ไปเป็นพระราชบุตรบุญธรรมเมื่อพระองค์มีพระชันษาได้ 9 ปี พระองค์ได้ประทับอยู่ที่หงสาวดีถึง 6 ปี โดยเป็นเพื่อนเล่นกับพระมหาอุปราชของพม่า
วันหนึ่งในพระราชสำนัก มีการตีไก่พนันกันขึ้นระหว่างพระองค์ดำกับมังกะยอชวา ปรากฎว่าไก่ของพระองค์ดำเป็นฝ่ายชนะ ทำให้มังกะยอชวาทรงเคืองและดำรัสดูหมิ่นอย่างผู้ที่ทรงมีอำนาจเหนือกว่า ว่า "ไก่เชลยตัวนี้ ก่งจริงหนอ" พระองค์ดำจึงดำรัสโต้ตอบ เชิงท้าทายอยู่ในที่ว่า "ไก่เชลยตัวนี้ อย่าว่าแต่จะตีกันเล่นๆ อย่างกีฬาในวังเช่นวันนี้เลย จะตีพนันบ้านพนันเมืองก็ยังได้"
เมื่อพระชันษาได้ 15 ปี พระองค์จึงได้เสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา เพื่อช่วยราชการพระบิดา โดยได้เสด็จขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลก
ภาพที่พระองค์ออกไปทำศึกกับหัวเมืองต่างๆ เป็นอันมาก และทุกครั้งพระองค์จะได้ชัยชนะเสมอ
ขณะทรงพระเยาว์และในระหว่างที่พระองค์ประทับอยู่ที่กรุงหงสาวดี ทรงได้ศึกษาวิชาศิลปศาสตร์ และวิชาพิชัยสงคราม มากมาย
ทรงนิยมในวิชาการรบทัพจับศึก พระองค์ทรงมีโอกาสศึกษา ทั้งภายในราชสำนักไทย และราชสำนักพม่ามอญ และได้ทราบยุทธวิธีของชาติต่าง ๆ ที่มารวมกันอยู่ในกรุงหงสาวดีเป็นอย่างดี
ทรงนำหลักวิชามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับเหตุการณ์ และสภาพแวดล้อมได้เป็นเลิศ
ภาพสมเด็จพระนเรศวรยกกองทัพไปปราบเขมร และตัดหัว พระยาละแวกในปี พ.ศ. ๒๑๓๗
ภาพสมเด็จพระนเรศวรฯ เสด็จออกทรงยิงพระแสงปืนสับนก จับพระยาจีนจันตุ ซึ่งลอบลงเรือสำเภาหนี จากพระนคร
ภาพสมเด็จพระนเรศวร ทรงทรงหลั่งสุวรรณภิงคารประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง เมื่อวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีวอก พ.ศ. ๒๑๒๗
วีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวร เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงเสด็จออกปล้นค่ายพม่าซึ่งเป็นทัพหน้าของหงสาวดี ข้าศึกแตกพ่ายถอยหนี พระองค์จึงไล่ตีมาจนถึงค่ายหลวงของพระเจ้าหงสาวดี ทรงเสด็จลงจากม้าคาบพระแสงดาบแล้วนำทหารปีนบันไดขึ้นกำแพงข้าศึก แต่ถูกพม่าใช้หอกแทงตกลงมาข้างล่างหลายครั้ง จึงทรงเสด็จกลับพระนคร พระแสงดาบนี้มีนามว่า " พระแสงดาบคาบค่าย "
ภาพที่พระองค์ทรงพระสุบินว่า มีน้ำท่วมป่า หลากมาแต่ทางทิศตะวันตก พระองค์เสด็จลุยน้ำไปพบจรเข้ใหญ่ตัวหนึ่ง ได้เข้าต่อสู้กัน ทรงประหารจรเข้นั้นสิ้นชีวิตด้วยฝีพระหัตถ์ สายน้ำนั้นก็เหือดแห้งไป พระยาโหราธิบดีกราบทูลพยากรณ์ว่า เสด็จไปคราวนี้จะได้รบพุ่งกับข้าศึก เป็นมหายุทธสงคราม ถึงได้ทำยุทธหัตถีและจะมีชัยชนะข้าศึก
สงครามยุทธหัตถี ที่หนองสาหร่าย ในวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่
สมเด็จพระนเรศวรทรงขับเจ้าพระยาไชยานุภาพช้างพระที่นั่งตรงไปยังพระมหาอุปราชา แล้วร้องตรัสไปโดยฐานที่คุ้นเคยกันมาแต่ก่อน มีความว่า
"เจ้าพี่จะยืนช้างอยู่ในที่ร่มไม้ทำไม เชิญเสด็จมาทำยุทธหัตถีกันให้เป็นเกียรติยศเถิด กษัตริย์ภายหน้า ที่จะทำยุทธหัตถีได้อย่างเรา จะไม่มีแล้ว"
พระมหาอุปราชา เมื่อทรงได้ยินดังนั้นก็ขับพลายพัทธกอซึ่งเป็นพระคชาธาร ออกมาชนกับเจ้าพระยาไชยานุภาพ พระคชาธารของสมเด็จพระนเรศวร
แล้วจบลงด้วย คำของลิลิตตะเลงพ่ายว่า
อุรารานร้าวแยก ยลสยบ เอนพระองค์ลงทบ ท่าวดิ้น เหนือคอคชซอยซบ สังเวช วายชิวาตม์สุดสิ้น สู่ฟ้าเสวยสวรรค์
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงได้ชัยชนะอย่างงดงาม เป็นที่เลื่องลือไปทั่วทิศานุทิศ ข้าศึกศัตรูไม่หาญกล้ามาเบียดเบียนราชอาณาจักรไทยอีกเลยถึง 160 ปี
สมเด็จพระนเรศวรประชวรเป็นระลอก ขึ้นที่พระพักตร์ แล้วกลายเป็นบาดทะพิษ พระอาการหนัก เสด็จสวรรคต เมื่อ วันจันทร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ที่ทุ่งแก้ว เมืองหาง พระชันษา50 ปี เสวยราชสมบัติได้ 15 ปี
มาวันนี้แม้กาลเวลาจะล่วงเลยมานานกว่า 400 ปี แต่ว่าวีรกรรมและความกล้าหาญเสียสละของสมเด็จพระนเรศวรยังตราตรึงอยู่ในจิตใจของปวงชนชาวไทย โดยในหลายสถานที่ในบ้านเราที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับของสมเด็จพระนเรศวร ต่างก็ได้สร้างอนุสาวรีย์ อนุสรณ์สถาน หรือสิ่งก่อสร้างต่างๆไว้เป็นที่ระลึก เพื่อให้ลูกหลานชาวไทยได้จดจำในวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน
Create Date : 25 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2553 16:06:26 น. |
|
10 comments
|
Counter : 36519 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:21:59:00 น. |
|
|
|
โดย: ป้าเกรซ (BabyGreace ) วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:23:19:07 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:1:32:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:7:32:13 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:11:43:30 น. |
|
|
|
โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:12:32:09 น. |
|
|
|
โดย: VET53 IP: 183.89.61.193 วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:13:35:28 น. |
|
|
|
โดย: ป้าแอ๊ด IP: 124.122.66.137 วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:15:10:07 น. |
|
|
|
โดย: ju IP: 113.53.115.127 วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:25:18 น. |
|
|
|
| |
|
|
addsiripun |
|
|
|
|
ทุกอย่างเลยดูคลุมเครือและกลายเป็นตำนานไปหมดเลยครับ
ปล. ผมนอนห้าทุ่มเที่ยงคืน
แล้วก็ตื่นตี 5 ทุกวันครับป้าแอ็ด
ไม่งั้นจะอัพบล้อกและตอบเม้นท์ไม่ทันครับ