|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
14 มีนาคม 2555
|
|
|
|
วัดต้นเกว๋น
สวัสดีค่ะ
ตามที่เกริ่นไว้ในเอนทรี่ที่ผ่านมา ว่าจะนำเรื่องราวเกี่ยวกับ วัดต้นเกว๋น มาเล่าสู่กันฟัง
เนื่องจากงาน ราชพฤกษ์ 2012 ที่กำลังจะปิดในวันนี้ ป้าแอ๊ดได้ไปอ่านพบในบล็อกของคุณ prayakong ว่า
วัดต้นเกว๋น คือวัดต้นแบบที่นำไปสร้างเป็น หอคำหลวง ในงานราชพฤกษ์
จากลิงค์นี้ " วัดต้นเกว๋น งดงามด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาโบราณ " ลองตามไปอ่านกันนะคะ
ด้วยความที่เป็นคนเมื่อสงสัยแล้ว ต้องพยายามที่จะเดินทางไปพิสูจน์ให้ได้ด้วยตัวเอง จึงเป็นที่มา ของการเดินทางไป วัดต้นเกว๋น เมื่อได้มาเชียงใหม่ ในครั้งนี้
เช้าวันที่ 11 มีนาคม หลังจากที่เราทั้งสองอาบน้ำ ลงไปรับประทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรมแล้ว เวลา 09.00 น. เพื่อนของคุณลุงก็ขับรถมารับเราตามนัดเพื่อไปชมวัดที่เราต้องการ
เราไปชมวัดบวกครกหลวงก่อน เพราะใกล้ที่พักที่สุด จากนั้นไปวัดหางดง แล้วจึงไปวัดต้นเกว๋น
วัดต้นเกว๋น ตั้งอยู่ที่ ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เหตุที่ชื่อ วัดต้นเกว๋น เพราะว่าตั้งตามชื่อที่ชาวเหนือเรียกว่า มะเกว๋นหรือต้นตะขบป่า เนื่องจากสมัยก่อนรอบวัดมีป่าต้นมะเกว๋น
แต่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดอินทราวาส ซึ่งตั้งตามชื่อเจ้าอาวาส คือครูบาอินทร์ ผู้สร้างวัดนี้
ประตูทางเข้าวัด มีสิงห์เฝ้าประตูวัด ซ้ายและขวา
และจากหลักฐานวัดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2399 ถึง ปีพ.ศ. 2412 สมัยพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ เป็นเจ้าหลวงปกครองเมืองเชียงใหม่ วัดต้นเกว๋นเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญในอดีต เพราะเป็นที่พักขบวนพระบรมธาตุศรีจอมทอง จากอ.จอมทอง มาที่เชียงใหม่ ในอดีต เป็นประเพณีที่เจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่ มีการสรงน้ำพระธาตุ คือจากวัดพระธาตุจอมทองมา ก็เดินทางมาด้วยขบวนช้าง ขบวนม้า แล้วแวะมาที่วัดต้นเกว๋น ให้ประชาชนแถวนี้สรงน้ำพระธาตุศรีจอมทอง หลังจากนั้นก็อัญเชิญไปที่วัดสวนดอก 3 วัน 7 วัน แล้วก็ขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นประจำทุกปี เป็นเรื่องของเจ้านายฝ่ายเหนือในอดีต
วัดต้นเกว๋นถือว่าเป็นวัดที่สมบูรณ์ที่สุด และเป็นวัดที่งามที่สุดในประเทศไทย ซึ่งได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น ของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพฯ เมื่อปี 2532
วัดต้นเกว๋นมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่แสดงออกถึงแบบแผนทางศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมล้านนาที่งดงามและทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง
โครงสร้างและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของวัดจะใช้ไม้แกะสลัก โดยนายช่างที่มีความสามารถและชำนาญการแกะสลักในสมัยนั้น
ภายในวัดต้นเกว๋น มีสิ่งที่น่าสนใจ มีวิหารวัดต้นเกว๋น ที่สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณที่มีความงดงามเป็นยิ่งนัก
จนได้รับการนำไปเป็นต้นแบบของหอคำหลวงในงานพืชสวนโลก
วิหารหลังนี้มีความสวยงามด้านงานศิลปกรรมเป็นอย่างมาก
หน้าบันวิหารประดับตกแต่งด้วยกระจกแก้วสีแบบฝาตาผ้าหรือฝาปะกน
โก่งคิ้วจำหลักไม้ลายเครือเถาสอดสลับรูปเศียรนาค มีลายปูนปั้นรูปเทพนมและดอกไม้อยู่หัวเสา
ด้านหน้าบันปีกนกแกะสลักเป็นเศียรนาคในลายเครือเถาผสมกนก
ตีเป็นช่องตารางเพื่อระบายอากาศ ปั้นลมและหางหงส์แกะรูปมกรคายนาคอย่างงดงาม
คันทวยหูช้างจำหลักไม้เป็นรูปกินนรฟ้อนรำ
คันทวยแบบต่างๆ ที่รายล้อมพระวิหาร
คันทวยแกะสลักแบบไม่ซ้ำกันที่ประดับอยู่ข้างพระวิหาร
หลังคาวิหารซ้อนสองชั้น
ด้านในวิหารมีพระประธานประดิษฐานอยู่บนชุกชีเป็นลายรูปปั้นดอกกูด
ฝาหนังด้านหลังพระประธานเป็นซุ้มและมีพระพิมพ์โลหะติดฝาผนัง ซึ่งหล่อเป็นองค์ๆ เอา ติดฝาผนังเป็นรูปคล้ายซุ้ม พระพิมพ์มี 2 แบบคือ แบบใบโพธิ์ปางมารวิชัยขนาด 2x4 ซม. และแบบนาคปรก ขนาด 3x5 ซม.
แล้วยังมีภาพจิตกรรมฝาผนังที่วาดด้วยสีน้ำซึ่งหลงเหลืออยู่เพียงภาพเดียวเท่านั้น
ดาวเพดานแปลกตากว่าที่อื่นๆ
ที่นั่งพระสงฆ์ ทำแบบเรียบง่ายด้วยเสื่อสาน เข้ากับพื้นวิหารที่ปูด้วยเสื่อเช่นกัน
ด้านในพระวิหารเป็นแบบล้านนาทั่วไป
ด้านนอกวิหารยังมีศาลารายในเขตพุทธาวาส เป็นรูปตัว ยู ล้อมพระวิหารไว้
มุมหนึ่งของศาลารายมีพระพุทธรูปนั่ง มีซุ้มป็นลักษณะคล้ายแบบพม่า สวยงามแปลกตา
น้ำต้นที่วางเรียงรายไว้บนกำแพงศาลาราย มีไว้เพื่อดับกระหายของผู้มาเยือน เป็นน้ำใจที่น่ารักยิ่ง
และมีกลองโยน (กลองบูชา) โบราณเรียกว่า ก๋องปูจา กล่าวกันว่า กลองนี้เมื่อตีแล้ว เสียงจะดังก้องกังวาลได้ยินไปทั้งหมู่บ้านหนองควายเลยทีเดียว
บันไดนาคคู่ หน้าพระวิหาร
เศียรนาค มีมกรคายนาค
หางนาค ยังมีการคายต่อกันอีกหลายชั้น
บันไดนาคไม่ใช่ตัวเล็กๆ เลยนะคะ เทียบกับป้าแอ๊ดแล้ว นาคใหญ่พอควร
นอกจากนี้ ในบริเวณวัดต้นเกว๋น ยังมีมณฑปจัตุรมุข อยู่อีก 1 หลัง เป็นมณฑปจัตุรมุขแบบพื้นเมืองล้านนาซึ่งพบเพียงหลังเดียวเท่านั้นในภาคเหนือ
ลักษณะเป็นศาลามีมุขยื่นออกมาทั้งสี่ด้าน ส่วนกลางของศาลามีจั่วซ้อนอยู่สองชั้น
และที่กลางสันหลังคามีซุ้มมณฑปเล็กๆ ซึ่งทางภาคเหนือเรียกว่า ปราสาทเฟื้อง ลักษณะเดียวกับที่พบในภาคอีสานและลาว
มุงด้วยกระเบื้องดินเผาที่เรียกว่ากระเบื้องดินขอ
ส่วนช่อฟ้าของหลังคามีความพิเศษตรงที่ช่างโบราณจะออกแบบให้มีความโค้งงอซึ่งนกสามารถมาเกาะได้
ศาลาจัตุรมุขหลังนี้ สร้างแบบไม่มีตะปู คือการเข้าสลักไม้ จะไม่ใช้ตะปูเลย
ส่วนที่ใช้ตะปูก็จะตีขึ้นเอง เป็นลักษณะตะปู แต่ไม่ใช่เหล็กหล่อเป็นส่วนๆ
ส่วนใหญ่จะเข้าสลักไม้ จากหัวเสาเป็นแพ การเข้าสลักไม้ นี่คือจุดเด่น
จากศาลาจตุรมุข สามารถมองไปจนเห็นกลองปูจา ในมุมของศาลาราย
นอกจากนี้แล้วยังมีอาสนะสำหรับตั้งโกศพระบรมธาตุซึ่งยังอยู่ในสภาพดี มีฮางฮดหรือรางรินสำหรับรองน้ำสุคนธาราหรือน้ำอบน้ำหอมที่นำมาหยดหล่อพระธาตุ มีเสลี่ยงสำหรับหามบั้งไฟจุดบูชาที่แกะสลักลวดลายดอกสวยงาม และรูปนาคลงรักชาดปิดทอง แต่ปัจจุบันทรุดโทรมไปแล้ว (เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ของวัดหลังนี้)
ในศาลาเป็นที่ประดิษฐานของท่านครูบาศรีวิชัย
ป้ายบอกความเป็นมาของศาลาแห่งนี้
ในวันที่เราไปชมวัดต้นเกว๋นนั้น พอดีกับที่วัดมีการใช้ศาลาแห่งนี้เป็นที่ประชุมลูกบ้าน เราจึงรอจนเสร็จการประชุมแล้วจึงเข้าไปถ่ายภาพ และเข้าไปคุยกับท่านผู้ใหญ่บ้าน ท่านได้เล่าให้ฟังว่า คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ เจ้าของเมืองโบราณ เคยมาขอซื้อวิหารวัดต้นเกว๋นแห่งนี้ ไปปลูก รักษาไว้ที่เมืองโบราณ เพราะไม่อยากให้โบราณสถานแห่งนี้ต้องผุพังไปกับกาลเวลา แต่ชาวบ้านไม่ยินยอม วิหารวัดต้นเกว๋นจึงอยู่คู่วัดต้นเกว๋นมาจนทุกวันนี้ และก็บูรณะไปเท่าที่จะทำได้ เพราะการจะบูรณะแต่ละครั้ง ต้องขออนุญาตจากกรมศิลปากร แต่ทางกรมศิลปากรก็ไม่มีงบที่จะให้บูรณะ จึงต้องอนุรักษ์ไว้ เท่าที่ชาวบ้านจะทำได้
ทางวัดได้แบ่งวัดออกเป็นเขตพุทธาวาส และสังฆาวาส ไม่ปะปนกัน เพื่อสะดวกในการอนุรักษ์ ถ้าจะมีการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ เช่น จะสร้างกุฏิ หอระฆัง ก็จะกันออกมานอกกำแพงหมดเลย
เราก็ร่วมทำบุญเป็นแรงหนุนให้ชาวบ้านได้มีกำลังทรัพย์ไว้อนุรักษ์ศิลปกรรมอันมีค่าแห่งนี้ไว้ตามกำลังของเรา
และก็จากมาด้วยความปลื้มใจ ที่ยังมีผู้รู้คุณค่าแห่งศิลปกรรมเช่นชาวบ้าน วัดต้นเกว๋นแห่งนี้
ครั้งหน้าจะพาไปชมภาพเขียนฝาผนังทศชาติชาดก ฝีมือชาวเงี้ยว-ไทยใหญ่ ที่วัดบวกครกหลวงค่ะ
Create Date : 14 มีนาคม 2555 |
Last Update : 20 กรกฎาคม 2561 13:56:53 น. |
|
24 comments
|
Counter : 15779 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: เจฟ IP: 124.122.159.191 วันที่: 14 มีนาคม 2555 เวลา:16:38:35 น. |
|
|
|
โดย: ติ๋มค่ะ IP: 49.49.147.76 วันที่: 14 มีนาคม 2555 เวลา:21:12:17 น. |
|
|
|
โดย: เอื้องใบไผ่ วันที่: 15 มีนาคม 2555 เวลา:16:06:14 น. |
|
|
|
โดย: ปลาทอง9 วันที่: 15 มีนาคม 2555 เวลา:23:43:06 น. |
|
|
|
โดย: jewelmoda วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:8:39:44 น. |
|
|
|
โดย: kalayakeya@hotmail.co.th IP: 10.226.74.55, 203.185.133.16 วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:8:39:54 น. |
|
|
|
โดย: VET53 วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:9:13:52 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:10:56:54 น. |
|
|
|
โดย: anutch2009 วันที่: 17 มีนาคม 2555 เวลา:13:57:31 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 19 มีนาคม 2555 เวลา:11:20:36 น. |
|
|
|
โดย: อุ๊ เมืองทองธานี IP: 203.185.131.68 วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:11:46:21 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:12:34:49 น. |
|
|
|
โดย: jewelmoda IP: 125.24.129.137 วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:13:07:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:5:46:02 น. |
|
|
|
โดย: แม่ส้มแป้น วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:9:52:21 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:11:42:05 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 30 มีนาคม 2555 เวลา:10:32:36 น. |
|
|
|
โดย: VET53 IP: 203.157.48.252 วันที่: 30 มีนาคม 2555 เวลา:15:16:10 น. |
|
|
|
| |
|
|
addsiripun |
|
|
|
|