|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
13 มีนาคม 2555
|
|
|
|
งานราชพฤกษ์ 2012 เชียงใหม่
สวัสดีค่ะ
วันนี้ขอขัดใจท่านผู้ตามอ่านทริปที่ไปชมวัดต่อสักนิดนะคะ ขอคั่นด้วยการพาไปเที่ยวที่อื่นสักทริปหนึ่งค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อน้องหมากระถินสิ้นชีวิตไปเมื่อเดือนที่แล้ว ป้าแอ๊ดก็เคว้งคว้างด้วยความเศร้า จึงหาเรื่องที่จะเที่ยวให้เพลินใจจะได้ห่างหายจากความคิดถึงน้องหมาไปบ้าง มาคิดได้ว่า เรายังไม่ได้ไปเที่ยว งานราชพฤกษ์ 2012 ที่เชียงใหม่เลย น้องหมาก็มาป่วยตั้งแต่เดือนมกรา ทั้งเดือนจึงมัวแต่ปรนนิบัติเธอ จนกระทั่งเธอจากไป ป้าแอ๊ดจึงให้คุณสามีจัดการจองตั๋วรถไฟ เป็นรถนอนขบวนที่ 1 ด่วนนครพิงค์ ไปเชียงใหม่ ในคืนวันที่ 9 มีนาคม
งานราชพฤกษ์ นี้เคยจัดมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เรียกกันว่า งานพืชสวนโลก ป้าแอ๊ดก็ไปเที่ยวกับคุณลุง ถึง 2 ครั้ง เพราะไปครั้งแรกยังเดินไม่ทั่ว ต้องไปซ้ำสองจึงเก็บภาพได้ทั่วถึง
แต่เมื่อไปงานครั้งนั้นแล้ว ถ่ายภาพมาก็เยอะแยะ ทั้งภาพธรรมดาและวิดีโอ ด้วยเหตุที่มีผู้นำภาพในครั้งนั้นมาลงบล็อกเป็นการเอิกเริกหลายบล็อกด้วยกัน ป้าแอ๊ดผู้ที่ถ่ายภาพไม่ค่อยสวย ก็เลยเกิดอาการเขิน ไม่นำภาพลงซะงั้นแหละ
แต่วันนี้ฮึดสู้ขึ้นมา เพราะดูแล้วแทบไม่มีใครเขียนเรื่องนี้ลงบล็อกเท่าไหร่ (อาจจะไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านบล็อก มากมายใน 3 เดือนนี้) ใครที่เห็นภาพ(เดิมๆ)แล้วจะผ่านไปก็ได้นะคะ
จะเล่าเรื่องตามภาพที่ไปเก็บมาพอเป็นสังเขปค่ะ
ขบวนรถไฟเข้าสู่ชานชาลาสถานีรถไฟเชียงใหม่ ในเช้าวันที่ 10 มีนาคม 2012 ช้ามากกว่ากำหนด เราสองคนผู้ชรา ก็หอบหิ้วสัมภาระลงจากรถไฟ ไปพำนักที่โรงแรมใกล้ๆ สถานีรถไฟ (ที่มาพักเป็นประจำกว่า 20 ปีแล้ว) อาบน้ำอาบท่า แต่งตัวใหม่เป็นที่เรียบร้อย เราสองคน กล้องคนละตัว เป้คู่ใจ 1 ใบ หมวกพร้อม ก็เดินออกจากโรงแรม ข้ามถนนมายังจุดจอดรถเมล์ ตรงข้ามสถานีรถไฟเชียงใหม่ เพื่อโดยสารไปยังงานราชพฤกษ์ ที่บริเวณ แม่เหี๊ยะ
รถเมล์ที่ทางงานราชพฤกษ์จัดบริการฟรี เป็นรถเมล์ปรับอากาศ เย็นฉ่ำชื่นใจ เวลาขณะนั้น 11 น. กว่าแล้ว มีคนมารอขึ้นไม่มาก สงสัยใครเขาคงมาเที่ยวกันหมดแล้วละ มีแต่เรานี่แหละ ที่มาล้าหลังเพื่อน ระหว่างทางที่รถแล่นไป บางครั้งทางเบื้องหน้าไกลๆ ก็มองลางเลือน ด้วยอากาศที่เต็มไปด้วยหมอกควัน
จนกระทั่งมาถึงทางเข้างาน ที่เห็นเป็นทางด้านขวามือนั่นแหละค่ะ
อ้อมเนินราชพฤกษ์ มายังที่จอดรถ บริเวณที่จอดรถจะมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ทั้งโอทอป ของพื้นเมืองเต็มไปหมด เป็นอาคารที่จัดเป็นสัดเป็นส่วน ให้ผู้ที่เข้าไปชมงานได้จับจ่ายซื้อกัน ทั้งก่อนและหลังการชมงาน
เมื่อเข้าไปในลานกว้าง ก่อนอื่นจะพบเนินราชพฤกษ์ อยู่ทางด้านขวามือ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว มีผู้คนคราคร่ำเดินขึ้นไปชูมือกันบนยอดเนินเป็นที่สนุกสนาน แต่มาวันนี้ ผู้คนร่อยหรอเหลือเกิน คงเป็นเพราะอากาศที่เชียงใหม่เป็นพิษด้วยหมอกควันที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้
ด้านซ้ายมือยังคงเป็นประตูเมือง ทั้งสองด้าน พญานาคหันหน้าเข้าหากัน ประตูปิด ให้เข้า-ออกทางอื่น
ถัดมาเป็นธงทิว มีน้องคูนกับเพื่อน ร่วมยืนต้อนรับ โปรดสังเกตว่าท้องฟ้าไม่สดใสเลย มีแต่หมอกควันล้วนๆ
สัญญาลักษณ์ของงานมีเพิ่มอีก 4 ตัว คือ น้องคูนเป็นตัวชูโรง เพื่อนที่มาเพิ่มคือ ลมบิน ดินฉ่ำ น้ำใส และไออุ่น
มองเห็นซุ้มอะไรด้านหน้าไกลๆ โน้น สวยจัง น่าเข้าไปถ่ายรูปสักหน่อย
เป็นซุ้มที่ทางงานจัดไว้ให้ถ่ายภาพกันเล่นๆ ค่ะ เราก็เลยถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน ก่อนที่จะเข้าไปชมในงาน
หลังซุ้มแห่งนั้นเป็นเนิน มีทางเดินขึ้นไปชมวิวรอบๆ ยิ่งสูงยิ่งสวยค่ะ
จากนั้นเราก็เดินไปยังที่จำหน่ายบัตร เนื่องจากเราทั้งคู่เป็นผู้สูงอายุ คือเกิน 60 ปี จึงซื้อบัตรผ่านประตูราคาท่านละ 100 บาท เป็นผู้สูงอายุนี่ดีจริงๆ หนอ อิ อิ (แต่ต้องแสดงบัตรประชาชนด้วยนะคะ)
นี่ค่ะ ทางเข้า ก่อนที่จะผ่านทางเข้า จะมีพนักงานตรวจตั๋วแล้วขอตรวจค้นเป้ที่เราสะพายมาด้วย เพื่อความปลอดภัยค่ะ เราสามารถที่จะหยิบใบโบรชัวร์ได้จากที่นี่ เพื่อที่ว่าเดินไปแล้วจะได้ไม่หลงทางค่ะ
นี่เป็นภาพผังงานนะคะ ยืมมาจากหนังสืออะไรลืมชื่อไปแล้วค่ะ แต่ไงๆ ก็ต้องขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ได้มาค่ะ
เราเดินชมงานกันไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็นั่งพัก รับประทานอาหารและน้ำที่เตรียมไปในเป้ จากทางเข้า วนไปทางขวามือ เตร็ดเตร่ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ จนถึงหอคำหลวง
ถ้าใครเดินไม่ไหว จะมีรถกอล์ฟให้เช่า หรือเป็นรถพ่วงวิ่งไปตามสถานีต่างๆ ซื้อบัตรครั้งเดียว ขึ้นลงได้ตลอดทางค่ะ แต่เราสองคนสมัครใจที่จะเดินกันไปตามสบายมากกว่า ไหนๆ ก็ฟิตร่างกายมาเต็มที่เพื่องานนี้แล้ว จริงไหมคะ สู้ๆ ค่ะ
ภาพนี้เป็นเกวียนที่นำมาแสดงในสวนสวัสดี เราสองคนผลัดกันถ่ายภาพอย่างสนุกสนาน ที่นำมาลงนี่เป็นภาพป้าแอ๊ดทั้งนั้นแหละค่ะ อุ อุ คุณลุงเป็นตากล้องสิคะ
มาถึงสวนดาษดา มีแมลงปอและผีเสื้อที่ทำไว้อย่างสวยงาม แขวนเป็นระยะๆ
นี่เป็นหุ่นสาวสวยที่ประดับด้วยดอกไม้ งามน่าชมมาก
นกยูงจำลองกับนางแบบตัวจริงค่ะ 555+
ร้อนนักก็เข้าไปรับไอแอร์เย็นๆ ในอาคารสักหน่อย เหงื่อเปียกผมเลยเห็นไหม เจอช้างสีแดงด้วย แปลกจัง
ด้านในบริเวณสวนดาษดา จะมีเรือนกล้วยไม้ ปลูกดอกไม้สวยๆ อยู่ค่ะ แอร์งี้เย็นเฉียบเลยทีเดียว มา ...จะพาไปชมดอกไม้
กล้วยไม้สีขาว กลีบแข็ง คงทน และดอกใหญ่พอควร
ดอกรักเร่สีขาว ใช่ไหมคะ ชักไม่ค่อยแน่ใจในเรื่องชื่อดอกไม้
เหมือนดอกบานไม่รู้โรยเลยนะคะ
นี่คาดว่าจะเป็นรักเร่สีชมพูอ่อน ดอกตูมต้องกับแสง สวยมากค่ะ ดูอ่อนโยนดี
เดินมาสวนข้างๆ พบนางรำกำลังฟ้อนโยกซ้าย ย้ายขวาอย่างน่าสนุก ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมาก
ดอกเล็บมือนาง แดงแข่งกับสีเสื้อช่างฟ้อน
พืชผักสวนครัว ฟักแฟงแตงร้าน ห้อยกันรุงรังไปหมด
แล้วเราก็เดินผ่านสถานที่ต่างๆ มาอีกเยอะแยะ เช่นประเทศโมร็อคโค ประเทศอิหร่าน จนถึงประเทศภูฎาน
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว คงจำกันได้ว่า ที่ประเทศภูฎานนี้ มีผู้ต้องการเข้าชมจำนวนมาก ถึงกับต้องเข้าคิวกันยาว ว ว ว แต่วันนี้ ผู้คนว่างเปล่าเสียเหลือเกิน ทำให้เราถ่ายภาพสวยๆ กันได้อย่างสบายใจ
ในอาณาบริเวณนั้น เรากดชัตเตอร์กันอย่างสบายอารมณ์ แทบจะไม่มีใครมาบังหน้ากล้องเลยค่ะ
นายแบบ นางแบบ ถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนานจนฉ่ำใจ
แม้แต่ห่วงประตู ก็สามารถที่จะถ่ายภาพมาได้ โดยไม่โดนบัง หุ หุ
จากนั้นเราไปเที่ยวนครวัด นครธมกันค่ะ เดินเยื้องๆ กับประเทศภูฎานเท่านั้นเอง ไม่ต้องนั่งเครื่องบิน
ได้ลูบคลำอัปสราแล้วนะคะ วันไหนได้ไปชมตัวจริงที่กัมพูชา จะมาโพสให้ชมอีกครั้งหนึ่งค่ะ
และแล้ว เราทั้งสองคน ก็มาถึง หอคำหลวง จุดเด่นที่สุดของงานราชพฤกษ์ แหะ แหะ สองคนในภาพนั่น ใครก็บ่ฮู้เน้อเจ๊า ไม่ใช่ป้าแอ๊ดกับคุณลุงแน่นอน...
ก่อนขึ้นบันไดเข้าไปชมหอคำหลวงใกล้ๆ
สิงห์ ด้านหน้าขวามือ
สิงห์ ด้านหน้าซ้ายมือ
เรามาขึ้นไปชมความงามหอคำหลวงกันใกล้ๆ นะคะ
ยืนยันว่ามาถึงชั้นที่ 1 แล้วค่ะ
ขึ้นมาอีก 1 ชั้น ใกล้ประตูหอคำหลวงเข้าไปทุกที
หน้าบันของหอคำหลวงอันวิจิตรตระการตา เด่นสง่าอยู่ท่ามกลางขุนเขาและแมกไม้
ปีกนกสลักลายเครือเถาผสมกนก
ภายในหอคำหลวงมีโคมไฟตั้งไว้ สี่ด้านของโคมไปรองรับด้วยครุฑ มีจิตรกรรมฝาผนังเขียนพระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ความงามของหอคำหลวงในด้านต่างๆ
ด้านซ้ายมือ
ด้านขวามือ
สะพานที่เชื่อมทางเดินจากทางด้านหลัง
ด้านหลัง
เครื่องประดับบนกำแพง
แล้วก็โดนแอบถ่ายภาพ..อีกแล้ว
ชิงช้าสวรรค์ มองจากด้านบนหอคำหลวง
มองจากประตูหอคำหลวงลงไปยังลานเบื้องหน้า
สุดลานหอคำหลวง ต่อเป็นลานโพธิ์
เราทั้งสองคนเดินกันจนเมื่อย จึงตัดสินใจเดินทางกลับ โดยรถเมล์ กลับมาลงที่หน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่เช่นเดิม
ถึงวันนี้ งานราชพฤกษ์ ก็จบลงไปเรียบร้อยแล้ว คงต้องรอโอกาสหน้า ว่าจะมีโอกาสได้ไปเยือนถิ่นนี้อีกเมื่อไหร่
ท่านใดที่ไม่เคยไปชมงานราชพฤกษ์ หากมีโอกาสก็ไปชมได้นะคะ ที่นี่ยังคงเปิดให้มีงานต่างๆ เป็นระยะๆ ตามแต่เทศกาล ต้องตามข่าวค่ะ
ครั้งหน้าจะพาไปชม วัดต้นเกว๋น ที่เป็นต้นแบบของ หอคำหลวง ค่ะ
Create Date : 13 มีนาคม 2555 |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2555 14:11:03 น. |
|
8 comments
|
Counter : 4362 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: เจฟ IP: 124.120.64.253 วันที่: 13 มีนาคม 2555 เวลา:18:04:38 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 13 มีนาคม 2555 เวลา:19:03:25 น. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 13 มีนาคม 2555 เวลา:21:23:25 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 14 มีนาคม 2555 เวลา:9:29:21 น. |
|
|
|
โดย: VET53 วันที่: 14 มีนาคม 2555 เวลา:10:34:22 น. |
|
|
|
โดย: ตรี (kate_tee ) วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:10:19:24 น. |
|
|
|
โดย: pizzahh วันที่: 18 มีนาคม 2555 เวลา:8:47:51 น. |
|
|
|
| |
|
|
addsiripun |
|
|
|
|