|
14 กุมภาพันธ์ 2555
|
|
|
|
ทัวร์ 5 วัด (1. วัดเทพธิดารามวรวิหาร)
สวัสดีค่ะ
ทัวร์ตามรอย ร.๕ เสร็จสิ้นไปตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว แต่เพิ่งลงบล็อกหมดค่ะ
พอมาปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม ป้าแอ๊ดก็เริ่มทัวร์ตั้งแต่ต้นปีเลยนะ ไปกับ มติชน ตามเคย มี อ.ดร.ปรีดี พิศภูมิวิถี เป็นท่านวิทยากร คราวนี้ใช้รถตู้เป็นพาหนะ เพราะสะดวกในการซอกแซกไปตามซอกซอยเล็กๆ ได้สะดวกกว่ารถบัส เราไปกัน 3 รถตู้ค่ะ
โปรแกรมคราวนี้ เราจะไปทัวร์วัดกัน ที้งหมด 5 วัด คือ วัดเทพธิดารามวรวิหาร วัดสุทัศน์เทพวราราม ราชวรมหาวิหาร วัดประยูรวงศาวาส วัดทองธรรมชาติ และสุดท้ายที่วัดพิชัยญาติการาม นะคะ
เริ่มต้นกันที่ มติชน อคาเดมี่ ในเวลา 07.00 น. คุณลูกชายขับรถมาส่งเราทั้งสองคน เพื่อรับประทานอาหารว่างตอนเช้า
จากนั้นมาขึ้นรถตู้ ที่จอดรออยู่แล้ว จำนวน 3 คัน เดินทางจาก มติชน ไปยังวัดเทพธิดารามวรวิหาร ที่หมายแห่งแรก
รถกำลังวิ่งผ่านคลองประปา ย่านประชานิเวศน์ อากาศมองดูแล้วน่าจะเย็นสบาย เพราะเป็นยามเช้า
ในซอยที่รถเลี้ยวเข้าไปในวัดนั้น รอบๆ วัดจะเห็นบ้านไม้สมัยเก่าๆ ปลูกสร้างอยู่เป็นกลุ่มๆ เห็นแล้วคิดถึงบรรยากาศเดิมๆ ของกรุงเทพฯ มากเลยค่ะ
เมื่อลงจากรถแล้ว เราก็เดินตามท่านวิทยากรไปยังลานพระอุโบสถหลังใหญ่ทันที
นี่เป็นโมเดลของพระอุโบสถหลังใหญ่ เบอร์ 1 นั้นคือประตูวัดที่เราเดินเข้าไป และนัมเบอร์ 2 คือประตูที่เดินออกไปสู่พระวิหาร
หน้าบันของพระอุโบสถ มองเห็นได้แต่ไกล แหงนมองกันคอตั้ง
เป็นศิลปะสมัยรัชกาลที่ 3 ที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน หลังคาไม่มีช่อฟ้า ใบระกาและหางหงส์ หน้าบันประดับเครื่องกระเบื้องจีนแทน
ศิลปะในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน เนื่องจากเศรษฐกิจและสังคมในสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 มีการค้าขายกับจีนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ศิลปะและวัฒนธรรมจีนเข้ามามีบทบาทในงานสถาปัตยกรรมไทย
บริเวณลานพระอุโบสถไม่กว้างมากนัก ประกอบกับพระอุโบสถหลังใหญ่มาก ถ่ายภาพเต็มๆ ไม่ได้เลย นี่คือพัธสีมา ที่แสดงว่านี่คือพระอุโบสถค่ะ พระวิหารจะไม่มีพัธสีมาล้อมรอบอย่างนี้
พระปรางค์ มี 4 องค์ตั้งอยู่ประจำทิศทั้ง 4 ของมุมพระอุโบสถ ฐานพระปรางค์แต่ละองค์มีรูปท้าวจตุโลกบาล
หน้าบันบางแห่ง จะเป็นภาพแกะสลักด้วยไม้อย่างวิจิตร
มี รำพันพิลาป ของท่านสุนทรภู่ ได้บรรยายถึงวัดเทพธิดารามว่า
วัดเทพธิดาราม วรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2379 เสร็จในปี พ.ศ. 2382 ตั้งอยู่ที่ริมถนนมหาไชย ใกล้วัดราชนัดดา พอลงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เลี้ยวซ้ายจะถึงวัดราชนัดดา เลยไปอีกนิดจะเป็นวัดเทพธิดาราม
เดิมชื่อ วัดบ้านพระยาไกรสวนหลวง
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้า ฯ ให้สร้าง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระราชทานแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ
หรือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองศ์เจ้าวิลาส พระราชธิดาองค์ใหญ่ใน รัชกาลที่ 3 ซึ่งทรงได้รับใช้เป็นที่โปรดปรานอย่างยิ่งของพระราชบิดา
ซึ่งคำว่าเทพธิดานี้ น่าจะหมายถึง กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ผู้มีพระสิริโฉมงดงาม และกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ยังได้ทรงบริจาคทุนทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อร่วมในการก่อสร้างวัดเทพธิดารามด้วย
พระประธานนั้นสร้างด้วยศิลาขาวบริสุทธิ์จึงเรียกว่า หลวงพ่อขาว อัญเชิญมาจากพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน เฉลิมพระนามว่า "พระพุทธเทวาวิลาศ"
ประดิษฐานอยู่เหนือเวชยันต์บุษบก ซึ่งประดิษฐ์อย่างสวยงาม ที่ผนังพระอุโบสถมีภาพเขียนเป็นรูปพุ่มข้าวบิณฑ์ ไม่ได้เป็นรูปจิตรกรรมฝาผนังเหมือนที่หลายวัดจะนิยมวาดเป็นชาดก
ภาพโดยรวมในพระอุโบสถ อันสวยสดงดงาม จะเห็นว่าที่บนเสาด้านขวามือ มีภาพติดอยู่
เป็นภาพเขียนเรื่องราวของชาวจีน ที่ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ใครทราบช่วยบอกด้วยนะคะ ^^
เมื่อชมพระอุโบสถแล้วจึงเดินออกไปประตูด้านข้าง เพื่อไปชมพระวิหาร ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับพระอุโบสถ
หน้าบันพระวิหารหลังนี้
ภายในพระวิหาร มีพระพุทธรูปองค์สง่า ประทับบนบุษบกอันงดงามวิจิตร
มีพระอัครสาวกยืนอยู่ทั้งด้านหน้า ด้านซ้ายและด้านขวา
ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ มีรูปหมู่อริยสาวิกา ( ภิกษุณี ) ซึ่งได้รับเอตทัคคะ หล่อด้วยดีบุกประดิษฐาน 52 องค์
โดยแต่ละองค์ จะมีใบหน้าและอิริยาบถที่แตกต่างกัน
โดยมีพระนางปชาบดีโคตรมี (เอตทัคคะด้านรัตตัญูญู) พระน้านางของพระพุทธเจ้าและถือเป็นภิกษุณีองค์แรก ประดิษฐานอยู่ตรงกลาง
พระสมัยรัตนโกสินทร์
พระพุทธรูปองค์งดงามอีก 1 องค์ อยู่หน้าผ้าทิพย์
เพดานเขียนเป็นดวงดารา แต่ฝาผนังเขียนเป็นลายนกหงส์คาบดอกไม้
แต่ละตัวเขียนแตกต่างกันออกไป ทั้งดอกไม้และสัสัน
ลายรดน้ำที่หน้าต่าง เขียนตอนเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ และมีอีกมากมายหลายรูปต่างๆ กัน
พระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงส์
บานหน้าต่างที่ปิดไว้ เป็นภาพเขียนแบบจีนนะคะ สีสันสวยงามเชียว
ท่านวิทยากรมืออาชีพค่ะ ติดไมค์ในตัวเสร็จสรรพ เสียงดังฟังชัด บรรยายอย่างคล่องแคล่ว
เครื่องประดับพระอาราม เป็นตุ๊กตาจีนสลักหินมีทั้งรูปคนและสัตว์ เช่น ตุ๊กตาชาววังนั่งพับเพียบเท้าแขน ฯลฯ
ตุ๊กตาจีนสลักหินมีทั้งรูปคนและสัตว์ ที่น่าสนใจคือรูปคน
ในวัดนี้ส่วนมากแกะสลักเป็นผู้หญิงเลียนแบบลักษณะท่าทางและการแต่งกายของผู้หญิงไทยตามสายตาของช่างชาวจีน
หน้าตาของตุ๊กตาออกแนวหมวยๆ แต่ก็ถือว่าดูแปลกตาน่าชมไปอีกแบบ ซึ่งตุ๊กตาหินก็มีมากมาย ไล่เรียงดูแล้วไม่มีเบื่อ
โดยเฉพาะตุ๊กตาตัวนี้ มีตุ้มหูเป็นรูปใบไม้ซะด้วย
สถานที่ที่น่าไปแวะชมภายในวัดเทพธิดารามวรวิหารอีกแห่งหนึ่งคือ กุฏิท่านสุนทรภู่ เป็นกุฏิเล็กๆ แคบๆ แต่บริเวณร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และดอกไม้อันสวยสด
กุฏิสุนทรภู่ เป็นกุฏิที่สุนทรภู่กวีเอกสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เคยจำพรรษา ณ วัดเทพธิดารามแห่งนี้ในขณะบวชเป็นพระภิกษุ
ปัจจุบันทางวัดได้อนุรักษ์กุฏิไว้และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมได้ทุกวัน โดยเก็บรักษาสิ่งของเครื่องใช้ของท่านไว้เป็นอย่างดี และมีรูปหล่อครึ่งตัวของท่านเมื่อยังเป็นพระภิกษุ ประดิษฐานไว้เป็นอนุสรณ์
องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ยกย่องท่านเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม ในปี 2529
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมรำลึกถึงกวีเอกผู้นี้ในวันที่ 26 มิถุนายน เป็นประจำทุกปี
เมื่อชมกุฏิของท่านสุนทรภู่แล้ว คณะของเราก็เดินกลับออกมาขึ้นรถ เพื่อไปยังจุดหมายแห่งที่สองคือ วัดสุทัศน์เทพวราราม
พบกันครั้งหน้าค่ะ
Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2555 14:12:43 น. |
|
11 comments
|
Counter : 8797 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: VET53 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:51:25 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:33:35 น. |
|
|
|
โดย: เอื้องใบไผ่ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:06:45 น. |
|
|
|
โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:18:53:29 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:22:32 น. |
|
|
|
โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:57:08 น. |
|
|
|
โดย: กุ้ง (kungviyada ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:14:11 น. |
|
|
|
โดย: อ๋องต๋อง IP: 110.77.204.200 วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:10:38:14 น. |
|
|
|
| |
|
|
addsiripun |
|
|
|
|
โดดเด่นแต่บอกไม่ถูก ที่นี่ยัวมีหอไตรที่สมาคมสถาปนิกบูรณะ
จนงดงามและได้รับรางวัล unesco ด้วยนะ