ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

อ่านเรื่องนี้ท่านได้อะไร "คนขี้ขโมย" ลองวิเคราะห์



      ครั้งหนึ่ง มีชาย นามว่า "อาเว่ย"  เขาอยู่ในหมู่บ้านชนบทเล็กๆแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงของจีน   เป็นหมู่บ้านที่สงบ ชาวบ้านต่างทำมาหากิน รักใคร่กลมเกลียว มีความสามัคคี และมีความสุขหมู่บ้านหนึ่ง

      "อาเว่ย" นั้น เป็นเด็กกำพร้า บิดา มารดานั้นตายแต่น้อย หมดแล้ว  ซ้ำฐานะทางบ้าน ก็ขัดสนพอสมควร  มีอยู่วันหนึ่ง อาเว่ย นั้น หิวเหลือกำลัง ไม่มีแม้แต่ข้าวสาร จะกรอกหม้อ หุงกินในวันนี้  เรียกได้ว่า ลำบากยากเข็ญพอสมควรสำหรับเขาในวันนี้  มืดแปดด้านไปหมด อาเว่ยคิดแล้วคิดอีกจะทำอย่างไรดี  เขาจึง ออกเดินไปเรื่อยๆ เผื่อข้างหน้าจะมีอะไรให้เขากินประทังความหิวได้บ้าง

      อาเว่ยเดินมาถึง บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งแม่บ้านหลังนี้ ได้ทำหมั่นโถวแล้ววางเอาไว้หน้าบ้าน  ด้วยความหิว และ ณ ตอนนั้น ปลอดคน อาเว่ย จึงถือวิสาสะ ขโมยหมั่นโถวนั้นกินทันที



     และด้วยความหิวและความอร่อย อาเว่ยกินหมั่นโถวจนหมด  เจ้าของบ้านก็โผล่มา  เมื่อมองไม่เห็น เห็นแต่อาเว่ยอยู่แต่หน้าบ้านแต่เพียงผู้เดียว เขาจึงนึกได้ว่า เรื่องราวนั้นเป็นอย่างไร

      "อาเว่ย นี่เจ้าขโมยหมั่นโถวข้าเหรอ "

       "ข้าเปล่า" อาเว่ยกล่าวตอบ ด้วยเสียงสั่น ด้วยกลัวที่ว่าอาจถูกลงโทษที่ขโมย

       "เปล่าอะไรอาเว่ย หลักฐานคาตาชัดๆขนาดนี้"  เจ้าของหมั่นโถว โวยวายเสียงดัง ด้วยเป็นหมู่บ้านเล็กๆ เมื่อมีเสียงโวยวายดังลั่น ชาวบ้านแถวนั้น จึงมาดูว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น

      เมื่อชาวบ้านทุกคนมาถึง ต่างมุงดูและเห็นเศษหมั่นโถวติดอยู่ที่ปากของ อาเว่ย  ทุกคนจึงตัดสิน ว่า อาเว่ยผิดจริง เพราะหลักฐานที่ติดอยุ่นั่นเอง

       เวลาผ่านไปเนิ่นนาน  หลังจากความผิดในครั้งนั้น อาเว่ยก็ไม่ได้ ทำผิดอะไรอีกเลย เขายังใช้ชีวิต ตามประสา ไปเรื่อยๆ

       จนกระทั่งวันหนึ่ง  อาเว่ยได้รับจดหมายจากน้องสาวของขา  ให้ไปหาซึ่งน้องสาวอยู่หมู่บ้านใกล้ๆกัน กับหมู่บ้านที่เขาอยู่  เพื่อให้พี่ชายไปเยี่ยมเยียนบ้าง  เพราะว่า น้องสาวของเขานั้น จะย้ายตามสามี ซึ่งจะต้องไปทำงาน ที่เมืองอื่นที่อยู่ห่างไกลออกไปอีก  ซึ่งอาจจะไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลย  อาเว่ย จึงรีบเดินทางออกจากหมู่บ้านไปหา



       ประจวบเหมาะพอดี กับเวลาที่อาเว่ย ออกไปเยี่ยมน้องสาว  มีโจนคนหนึ่ง เข้ามาในหมู่บ้านของเขา  และขโมยม้าขอบคนในหมู่บ้านไป  หมู่บ้านที่เคยสงบ ไม่เคยมีขโมยขโจร จึงเกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

       "ม้าของข้าหายไปได้อย่างไร ต้องมีคนมาขโมยม้าของข้าไปแน่ๆ"  เจ้าของม้าที่หายกล่าว

       "ต้องเป็นอาเว่ยแน่ๆ " มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากกลุ่มชาวบ้าน  และคนอื่นๆ ก็พลอยพยัก ลงความเห็นไปพร้อมๆกัน  เพราะว่าในหมู่บ้านนี้ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน  นอกเสียจากเรื่องที่ อาเว่ยเคยเป็นขโมยหมั่ยโถวนั่นเอง

      เมื่ออาเว่ย กลับมาที่บ้าน ก็ต้องเจอกับคนในหมู่บ้านที่ยืนรอเขากลับมาอยู่เต็มบ้านไปหมด  และพอมาถึง ทุกคนก็รุมด่าว่าเขา เป็นคนขโมยม้าไปขายมา

      "ข้าเปล่า ข้าไปเยี่ยมน้องสาวข้ามา"อาเว่ยพยายามอธิบาย  แต่ก็ไม่มีใครเชื่ออาเว่ยเลยสักคน  จากนั้น ทุกคนก็ค้นตัวอาเว่ย ก็เจอกับเงิน ที่น้องสาวอาเว่ยให้ไว้เอาตั้งตัว จะได้ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป

      เมื่อทุกคนเห็นอาเว่ยมีเงินมากมาย จึงคิดว่า เป็นเงินที่อาเว่ย ขโมยม้าไปขาย จึงยึดเงินนั้นให้เจ้าของม้า และไล่อาเว่ยให้พ้นออกจากหมู่บ้านไป


สุภาษิตสอนใจ

  "ทำชั่วแม้เพียงครั้งเดียว ย่อมจะถูกสงสัยไปตลอดกาล"




Create Date : 24 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2557 7:38:35 น. 0 comments
Counter : 1156 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]