ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

เราเป็นทอม แต่แฟนสาวท้อง !

เราเป็นผู้หญิงห้าวซึ่งชอบเพศเดียวกันสรุปด้วยตัวเองคือ เราเป็นทอม มีแฟนที่คบหามาด้วยกัน 2 ปีกว่าเเล้วตอนนี้ 

เรื่องนี้มันเกินขึ้นช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา ตามประสาวัยรุ่นก็อยากมีเงินใช้เลยมีความคิดที่จะหางาน past time ทำ (จขกท. อายุ 18 ปี) เพื่อที่จะมีเงินใช้ซื้อของส่วนตัว หรือสิ่งที่อยากได้ ระหว่างที่หางานทำกับแฟน (เรากับแฟนอยู่บ้านเช่าที่เดียวกัน) ก็มีรุ่นพี่ติดต่อมาที่แฟนบอกว่ารู้จักร้านอาหาร ขายแอลล์กอฮอร์ด้วยรับสมัครพนักงานเสริฟอยู่ เรากับแฟนดีใจมากเลยไปสมัครที่ร้าน พอไปถึงที่ร้าน เจ้าของร้าน (เราขอใช้นามสมมุติว่า B) พี่ B ก็รับพนักงานแค่คนเดียว เรากับแฟนตัดสินใจว่า เราจะให้แฟนทำงานที่นั้น ส่วนตัวเราจะหาที่ใหม่ เวลาเข้างานของแฟนคือ 4 โมงเย็น ถึง เที่ยงคืน ทั้งหมดในร้านมีพนักงาน 2 คน คือแฟนเรากับพนักงานอีกคนนึง (เราขอใช้นามสมมุติพนักงานอีกคนว่า A) การเดินทางระหว่างที่แฟนไปทำงานที่นั้นคือ เราไปส่งบ้าง ติดรถพี่ A ไปบ้าง หลังๆคือ พี่ B มารับบ้างเพราะพี่ A ชอบหยุดงานบ่อยๆ ส่วนตอนกลับเราเป็นคนไปรับ

ระหว่างที่แฟนเราทำงาน เราก็หางานทำไปเรื่ยยๆ จนเจอร้านอาหารร้านนึง เลยสมัครและได้ทำงาน เวลาเข้างานของเราคือ กะเช้า 10โมงเช้า ถึง สี่ทุ่มครึ่ง และอีกกะคือ  กะดึก 4 โมงเย็น ถึง ตี 3 

พอเรามีงานทำ เวลาที่เราไปรับไปส่งแฟนก็เริ่มน้อยลง แต่เรายังมีเวลาไปเเวะเวียน ไปนั่งที่ร้านที่แฟนทำงานบ้างบางครั้ง เรามีโอกาสได้คุยได้ปรึกษาพี่ B ตลอด จนเชื่อใจกัน ถึงขั้นนับถือกันเลย เราได้รู้ว่า พี่ B เป็นพ่อม้ายลูกติด 1 คน 

จำได้เลยว่าวันนั้นเราเข้างานกะดึก แฟนโทหาเราบอกว่า เพื่อนพี่ B มาสังสรรค์กันชวนแฟนเราและพี่ A กินด้วย ให้กินไหม ? ด้วยความที่เราใว้ใจเราเลยให้ดื่ม 

พอถึงเวลาเลิกงานก็กลับมาที่บ้านเช่า เปิดประตูห้องเข้ามาเจอแฟนกระโดดเข้ามากอดและร้องให้ฟูมฟาย เราเลยบอกไห้แฟนใจเย็นๆ สักพักนึงแฟนเงียบแล้วบอกว่า ไอ้ B มันไห้กินเหล้าแล้วไม่รู้สึกตัวเลย รู้อีกทีก็อยู่ในห้องๆ นึงซึ่งเเฟนเราไม่ได้ใส่ผ้าอยู่เลย แล้วบอกไอ้ B ว่าให้พากลับบ้าน จะกลับบ้าน ตอนนั้นเราโมโหมาก เราเลยโทรให้มันมา อารมณ์ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดเลยจิงๆ ตอนนั้นรู้สึกเกลียดทั้งแฟน ทั้งไอ้ B และก็ตัวเราเอง พอไอ้ B มาถึงหน้าบ้าน เราก้ลากแฟนเราลงมาแล้วถามแฟนว่า จะเลือกใคร ทำไมทำกันอย่างนี้ คำตอบที่ได้รับจากปากไอ้ B คนที่เรานับถือคือ "พี่ขอโทดจริงๆ น้องต้องเข้าใจพี่ด้วยน่ะ ว่าพี่ไม่มีเมีย เลยต้องทำแบบนี้ " อ้าวไอ่.. ทำไมพูดหมาไม่รับประทานอย่างนี้ฟ่ะ ตอนนั้นเราอยากเอากำมัดชกหน้ามันแรงๆมาก แต่เราคือผู้หญิงตัวเล็กคนนึง เราเลยทำไม่ได้ แต่ก็ได้ด่ามันแบบมันเหวอไปเลย และเราก้สั่งไห้แฟนเราหยุดไปทำงานที่นั้น ไอ้ B ยังมีหน้ามาขอยกมือไหว้เราแล้วพูดว่า
"อย่าให้น้องเค้าออกเลย ถ้าให้น้องเค้าออกร้านพี่แย่แน่ๆ "ร้องไห้ แฟนเราเป็นคนค่อนข้างสวย หุ่นดี สูง ดึงลูกค้าได้เยอะเลย ) เหอะ ...บ้าเรอะป่าว ยังมาหน้าด้านอีก แต่เราก็ไม่ไห้ไปทำงานอีก ส่วนแฟนเราก็บอกเราว่า ไม่ได้อยากไห้มันเป็นแบบนี้ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แฟนเราเลยลากเราไปบนห้อง ส่วนไอ้B ก็ขี่รถกลับบ้านไป 

มาถึงห้องเรานี่แยกเตียงนอนกับแฟนเลย เราบอกตรงๆ เราทำใจไม่ได้เลย เราเครียดมาก เรากำลังคิดว่าเราจะเอาไงต่อไปดี ตอนนั้นเราคบกันได้ประมาณปีกว่าๆ ซึ่งถือว่าเป็นความรักที่ดี ช่วยเหลือกันมาตลอด พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายยอมรับกันและกัน แต่ตอนนี้เหมือนใจเราหวิวๆ ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดที่เราทำ เเฟนเราเข้ามากอดเรา เราก็ผลักเขาออกไปตลอด เขานอนร้องไห้ทุกคืน ตาบวมทุกวัน พยายามคุยไห้เราเข้าใจแต่เราก้กลับมาดีเหมือนเดิมเพราะเรารักเขา แต่ในใจคือคิดเรื่องนี้ตลอดเวลา เราทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมาก แบบแทบทุกวันเลย 

เวลาผ่านไปเดือนนึงคือวันครบรอบที่ประจำเดือนของเราและแฟนมา (มาพร้อมกันตลอด) วันนั้นประจำเดือนเรามาแต่ของแฟนยังไม่มา เราเลยข่มใจตัวเองไห้คิดดีดี เราคิดว่ามันคงคลาดเคลื่อนรอดูพรุ่งนี้ละกัน พอถึงอีกวันนึงเรารอแล้วรอเล่าไห้ประจำเดือนแฟนมาแต่มันก็ยังไม่มา ตอนนั้นเราคิดอย่างแรกคือแฟนเราท้องแน่ๆ เราเลยเอาไลน์แฟนไลน์ไปหาไอ้ B ว่าซื้อที่ตรวจครรภ์มาไห้ด่วนเลย สักพักมันก็ซื้อมาแขวนไห้ที่รั้ว แฟนเราลงไปหยิบและเอามาตรวจผลปรากฎว่า สองขีดสิครับ !!!

แฟนเราล้มทั้งยืน ส่วนเราหรอ เอ๋อรับประทานเลย ตอนนั้นอารมณ์แบบนั่งนิ่งๆ เฉยๆ ตาไม่กระพริบ แต่ยังหายใจอ่ะ นั่งมองที่ตรวจครรภ์อย่างงั้นอยู่ 2 ชั่วโมงได้ เราคิดทบทวนไปว่า เรากับแฟนเราก็เรียนเพศศึกษามานี่ ทำไมไม่กินยาคุมฉุกเฉิน ทำไมไม่หาวิธีป้องกันตัว คือแบบเรากับแฟนไม่เคยผ่านผู้ชายมาก่อนเลย ไม่รู้ว่าต้องทำไง คิดไม่ทันจริงๆ TT แล้วล้มตัวลงนอนกอดแฟนน้ำตาไหลกอดคอกันร้องจนเช้าเลย 

แล้วนึกขึ้นใด้แต่มันมีความคิดชั่วๆ มากที่สุดเท่าที่เคยคิดมาคือต้องเอาออก เลยไห้แฟนโทหาไอ้ B (เราแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง มันเลยคิดว่าเราไม่รู้)  บอกว่าท้อง จะเอาออก เพราะเรียนอยู่และไม่ได้ตั้งใจด้วย มันเลยรับปากว่าจะหาเงินให้เอาออก ระหว่างที่รอมันหาเงินไห้เอาออก เวลาผ่านไปนานถึง 3 เดือน !! มันผลัดไปเรื่ยยๆ ผลัดแบบ ตอนนี้พี่ยังไม่มี ตอนนี้ร้านพี่แย่มาก ไม่มีเงินหมุนเลย (ส่วนตัวเรากับแฟนก็ไม่มีความรู้เรื่องทำแท้งเลย หรือเราโง่กันมาก) จนถึงเดือนที่ 3 รร. เราเปิดพอดี 

วันนั้นเราไป รร. มือถือของแฟนอยู่ที่เรา ระหว่างที่เรียนอยู่ มีสายนึงโทเข้ามา เราก็รับแล้ะเป็นเสียงผู้หญิงคนนึง เราจำได้ว่าเป็นคนสนิท(เราขอแทนสมมุติว่า J) ของไอ้ B โทมาบอกว่า 
J : น้อง E (Eไห้แทนชื่อแฟนเรา) นี่พี่ J น่ะ พี่เอาเงินมาให้น้องให้เอาไปทำแท้ง ออกมาหน้า รร. หน่อยตอนนี้เลย
เรา : อ๋อนี่ไม่ไช่ E น่ะครับ นี่แฟน E เดี่ยวผมติดต่อ E ให้ 
.. ตอนนั้นเราไห้ J ถือสายรอ เพื่อที่เราจะประชุมสายให้แฟนเรากับ J คุยกัน 
เรา : ประชุมสายไห้แล้วครับ คุยได้เลย 
J : อ่อ น้อง E ค่ะ พี่เอาเงินมาให้แล้ว ลงมาเอาหน่อยหน้า รร. 
E : ค่ะ 
แล้วก้วางสาย J ไป ส่วนเรากับแฟนยังคุยกันอยู่ แฟนบอกเราว่ากลัว ให้เราลงไปด้วย ส่วนตอนนั้นเราติดเรียนอยู่เลยบอกว่าไม่เป็นไรหรอก เรานั่งติดหน้าต่าง เห็นหน้า รร. พอดีเราเห็น J ยืนอยู่ที่หน้า รร.  และ ไอ้ B อยู่ฝั่งตรงกันข้าม 
เราเห็นแฟนเราเดินไปเอาเงิน จากJ แล้วเดินเข้ามาใน รร. หลังจากนั้นแฟนโทหาเราทันทีและบอกว่า มันให้เงินมาจำนวนนึงซึ่งไม่พอและให้เซ็นอะไรสักอย่างถ้าไม่เซ็นจะไม่ให้เงิน ส่วนตอนนั้นแฟนเราคิดว่าถ้าไม่เอาเงินก้อนนั้นใว้ก้คงไม่ได้อีก เลยรับมา แต่แฟนเราบอกว่าเซ็นแบบไม่ตั้งใจไปด้วยภาษาอังกฤษ เป็นชื่อเล่น 

ได้เงินมาเราก็ปรึกษาคนนึงซึ่งเคยไปทำมาก่อน เลยรู้ว่าเงินที่ให้มานั้นไม่พอ เลยตัดสินใจโทหาพี่ของแฟนแต่คนละแม่กันขอความช่วยเหลือ พี่ของแฟนก็ใจดีมาก บอกว่าจะออกเงินส่วนที่เหลือให้และพาไปด้วย (สถานที่ที่เราจะไปกันคืออีกจังหวัดนึง) วันนั้นเราออกเดินทางไปกันเลย ถึงก็ค่ำแล้ว ไม่ขอบอกว่าเป็นคลีนิคที่ไหน คลีนิคกำลังจะปิดพอดี แฟนก็เข้าไปตรวจร่างกาย สุดท้ายก็เฟลกลับบ้านเพราะหมอไม่รับทำเพราะเเฟนตัวผอมมาก หมอกลัวจะตกเลือด ตอนนั้นพี่ของแฟนก็ตัดสินใจโทหาพี่สาวแท้ๆ ของแฟนเพื่อบอกความจริงเพราะคงหมดหนทางแล้ว 

หลังจากนั้นเลยไปแจ้งความกัน สน. รับเรื่องสอบปากคำอะไรเสร็จก็ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก็กลับกัน แต่ยังมีความคิดที่จะเอาออกกันอยู่ แต่หาที่ไหนๆ ก็ไม่มีใครทำไห้เลย 

ตำรวจเรียกแฟนเราไปพบอีกครั้งและสอบปากคำไอ้ B ด้วย (มันรับสารภาพว่าผสมยานอนหลับ พี่ A ก็โดนแต่โชคดีแฟนพี่ A ไปรับกลับมา ส่วนเราทำงานเลิกตี 3  ) เลยเจรจากันตรงนั้นเลยว่า จะเรียกเงินเท่าไหร่เอายังไง ตอนนั้นฝั่งแฟนเราคิดที่จะเรียกแค่เงินเพื่อที่จะไปเอาออกกัน แล้วได้จบๆกันไป เลยเรียกไปจำนวนหนึ่ง มันก็ตอบตกลง ตำรวจให้เวลามันไปหาเงินเป็นเวลา 1 เดือน ( ตอนนั้นแฟนเราท้องได้ 5 เดือนแล้ว กว่าเวลาเรื่องคดีจะคืบหน้า ช้ามากกกกกก ) 

ตอนที่เรากับแฟนไป รร. มีเรื่องแปลกๆ คือ ครูที่สนิทกับเรามาถามเราว่าแฟนเราชื่อ.... ใช่ไหม เราก็บอกว่าใช่ ครูก็บอกว่า มีคนมาบอกว่าเป็นญาติแฟนเรามาถามที่ห้องงานทะเบียนของโรงเรียนว่า ขอดูบัตรประชาชนหลานได้ไหม ? พอดีจะซื้อทองเซอร์ไพรวันเกิดหลาน แต่จำวันเกิดไม่ได้ โอ้ว ?!? เรานี่ขำเลยเพราะปรกติเเฟนเราจะเป็นคนเงียบๆ ไม่สุงสิงกับญาติคนไหน และมาอยู่กับเราก็นานแล้ว ปีกว่าๆ อ่ะ เรามันใจว่าไม่มีทางแน่ๆที่แฟนเราจะมีญาติแบบนี้ แต่ทางห้องทะเบียนของ รร. ก็แจ้งไปว่าให้ไม่ได้ เป็นความรับทางราชการ แล้วห้องทะเบียนก็ขอดูบัตรประชาชนของคนที่ขอ นางบอกนางลืมไว้แล้วรีบไปเลย เราก็ถามรูปร่างลักษณะจากฝ่ายห้องทะเบียน เรารู้ได้เลยว่าคือนาง J แน่นอน เปิดรูปไห้ห้องทะเบียนดูก็บอกว่าใช่เลยคนนี้นี่ละ เราก็ไม่เข้าใจว่านางจะเอาไปเพื่ออะไร

ผ่านไป 1 เดือนครบกำหนดวันจ่ายเงิน (แฟนเราท้องได้ 6 เดือนแล้ว ) มันกลับมาบอกตำรวจว่ามันไม่มี แล้วมาครั้งนี้ นางJ นี่ก็มาด้วย มาแจ้งความเรื่องว่าแฟนเราไปยืมเงินมันแล้วไม่คืน มันเรียกกลับอีก 2 เท่า โอ้วแม่จ้าวววว เพื่ออะไร เรานี่งงมาก หมวดที่รับเรื่องของแฟนเราก็งงมากว่า หมวดที่รับเรื่องของนางรับเรื่องไปได้ยังไง คงเป็นเส้นเป็นสายกันแน่ๆ เพราะตอนที่แฟนเราถูกสอบปากคำนี่แฟนเราเล่าหมด ว่าได้รับเงินมาเพื่อที่จะไปเอาออก ส่วนเราก็รู้อยู่มาตลอดว่าเรื่องมันเป็นยังไง หมวดและฝั่งแฟนเรางงมาก ก็คดีมันเกี่ยวกันตำรวจคนนั้นมันรับเรื่องไปได้ยังไง ที่จริง ไอ้ J ต้องแจ้งความว่า ไอ้ B เป็นคนยืมไม่ไช่หรอ ? เพราะไอ้ B เป็นคนยืมมาไห้แฟนเราจริงๆ เรารู้ทุกเรื่องแต่แค่เราแกล้งโง่ไห้มันคิดว่าเราไม่รู้ พวกมันคงคิดว่าแฟนเราตัวคนเดียวเล่นงานง่ายแน่ๆ animal สัสจริงๆ  เรื่องมันก็กลายเป็นว่าต้องขึ้นศาลเรื่องคดีของไอ้ B เพราะมันไม่ยอมจ่าย แต่คดีของนาง J นี่จนถึงปัจจุบันนี่ไม่คืบหน้า 

หลังจากรู้แน่ชัดว่าไม่ได้เอาออกแล้ว ครอบครัวฝั่งแฟนก็ยอมรับ ทำใจกันเเล้ว เราก็ทำใจได้บ้าง ลังเลบ้าง ส่วนฝั่งแฟนคิดมากเรื่องเรียน เเละเรื่องเพื่อนของเรามาก ครอบครัวของแฟนคิดว่า เราจะเดินใน รร. ยังไง เพื่อนเราจะเกลียดเราไหม ประมาณนี้  ครอบครัวแฟนคิดว่าตอนนี้ท้องของแฟนเราก็เริ่มโต เริ่มมีคนสังเกตุเห็นจับกลุ่มกันซุบซิบนินทา ส่วนแฟนเราก็คิดมาก คิดสั้นหลายครั้ง แต่เราก็เห็นทุกครั้งเลยรอด เราคิดว่าเราคือกำลังใจเดียวที่เขามี เลยยังอยู่ด้วย คอยดูแล จากที่สมองเราคิดแค่ว่าเอาออก ตอนนี้เราคิดแค่ว่า จะเป็นยังไง คนท้องเขาดูแลกันยังไง ทำทุกวิธีที่ทำให้เขาสบายใจและมีกะจิตกะใจไป รร.  ( ยังอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าหลังเดิม )

ครอบครัวแฟนเลยตัดสินใจโทหาอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อบอกความจริง แล้วอาจาย์ที่ปรึกษาของแฟนเราก็ไปบอกนักเรียนห้องแฟนและอาจารย์ทุกวิชา ทั้งหมด ทุกคนในห้องจากนินทา หรือมองกันแปลกๆ นี่สงสารกันหมดร้องให้กันใหญ่เลย เป็นภาพที่ประทับใจมากๆ 

ส่วนอาจารย์ที่ปรึกษาก็บอกว่าถ้าไม่ไหวค่อยหยุดมา รร. ถ้ายังไหวก้มา จะได้ไม่ต้องหยุดเรียนไปเลย ถึงตอนนี้ แฟนเราท้อง 7 เดือน ท้องใม่ใหญ่มาก แต่สังเกตุเห็นง่ายเพราะปรกติแฟนเราหุ่นดีจนเพื่อนๆอิจฉากัน แฟนเราบอกกับเราเสมอว่า เราคือกำลังใจเดียวที่ทำให้เขากล้าที่จะมาเรียนหนังสือจนถึง 8 เดือนกว่าๆ ใกล้กำหนดคลอด กำหนดคลอดคือ 31 ธันวาคม 2557 แฟนเรามา รร.  จนใกล้คลอดเลย หยุด รร. ไปวันที่ 24 ธันวาคม 2557 

จนถึงวันที่ 29 แฟนเรามีเลือดใหลเลยมาที่โรงพยาบาล และหมอก็ให้นอนที่นั่นเพราะปากมดลูกเปิด 4 เซนแล้ว แม่เเฟนโทหาเราตอนเราอยู่โรงเรียน เราตื่นเต้นบอกไม่ถูกเลย วันนั้นเรารีบกลับมาทำภาระกิจตัวเองให้เสร็จๆ แล้วรีบไปโรงพยาบาล ตอนนั้นไปถึงแฟนใกล้คลอดแล้ว เรารอหน้าห้องคลอดตั้งแต่ ค่ำๆ ถึง เที่ยงคืน แล้วเวลาที่เรารอก็มาถึงคือ แม่แฟนเดินออกมาจากห้องรอคลอด มาบอกว่าแฟนเราเข้าห้องคลอดแล้ว เย้ๆ เราจะได้เห็นคนที่เราดูแลเค้าและแม่เค้าตอนที่เค้ายังไม่ออกมาลืมตาดูโลก

จนวันนี้เราจะได้เจอหน้ากันครั้งแรก เรารอจนไกล้ตี 1 พยาบาลออกมาบอกว่าเราใด้ลูกสาว 55555555 ความรู้สึกตอนนั้นคือน้ำตาไหลรีบเข้าไปดูในห้องพักฟื้น เราเห็นหน้าตัวเล็กครั้งแรกคือน้ำน้ำตาใหล แฟนเราก้จับมือเราไปจับที่ตัวเล็กแล้วพูดว่า "พ่อมาหาแล้วน่ะลูก"  เรานี่น้ำตาไหลพราก เรารักทั้งสองคนมากๆ เราอธิบายไม่ถูกเลย มันเป็นความรู้สึกที่เราไม่เข้าใจ แต่รู้สึกดีมากๆ หลังจากนั้นเราก็ดูแลแฟนเรา มันอยู่ในช่วงเคาท์ดาวว์พอดี เราเคาท์ดาวน์ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก ที่โรงพยาบาล ถึงไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ แต่เราก็มีความสุขกับสิ่งที่ทำมากๆเลย ตอนนี้เรารักตัวเล็กมากๆ เห่อมากๆ เพื่อนๆเราเองก็รักตัวเล็กมากๆ เลย อิอิ 

สิ่งที่เราอยากเตือนคือ 
1. ระวังตัวให้มากๆ โดยเฉพาะผู้หญิง
2.  ถ้าพลาดอย่าลืมป้องกันตัว ยาคุมฉุกเฉินก็ดี ( อันนี้เราพลาดจริงๆ ทั้งที่เรียนมา แต่ไม่เคยเจอประสบการจริงๆ แบบอินโนเซนต์ 555555 ไม่เคยผ่านผู้ชายมาทั้งสองคนเลยไม่ทันคิด ) 
3. อย่าคิดที่จะทำร้ายเด็กที่ไม่รู้เรื่องด้วย อย่าคิดที่จะทำแท้ง มันอันตรายมาก ๆ ( โชคร้ายที่แฟนไม่ได้เอาออกแต่มันอยู่บนความโชคดีคือได้กำเนิดเด็กตัวน้อยๆ มาแล้วรู้ว่าความสุขหลังเรื่องร้ายๆมันมีอยู่จริงๆ )  ประหลาดใจอมยิ้ม07

ขอบคุณคนทั้งที่อ่านจบและไม่จบ เรื่องเรายาวมากๆ เราอยากไห้เอาไปเป็นข้อคิดและอุทาหรในการดำเนินชีวิตจริง ๆ เราเล่าเรื่องจริงไม่อิงนิยายเลย ตอนนี้เรากับแฟนยังคบกันอยู่ 2 ปีกว่าแล้ว รักมากกว่าเดิมมากๆด้วย ไม่รู้ว่าที่รักนี่มันผิดหรือป่าว ? แต่เรามีความสุขดีตอนนี้ หัวใจหัวใจ

ปล. เจ้าตัวเล็กสุขภาพดีมาก แข็งแรงดี ทั้งๆ ที่แฟนไม่ได้บำรุงอะไรจนมาถึง 7 เดือนโน่น แต่อย่าเอาเยี่ยงอย่างน่ะค่ะ








Create Date : 07 มกราคม 2558
Last Update : 7 มกราคม 2558 23:07:14 น. 1 comments
Counter : 1272 Pageviews.  

 
เรื่องร้ายๆผ่านไปแล้ว ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอค่ะ สู้ๆๆนะคะ


โดย: MeYa (สมาชิกหมายเลข 2937057 ) วันที่: 20 มกราคม 2559 เวลา:14:29:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]