Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ 19 อารมณ์นั้นสำคัญไฉน

นักขายมืออาชีพ ตอนที่ 19 อารมณ์นั้นสำคัญไฉน
ลุงไปจบเอาตอนไหนนะคราวที่แล้ว

อ้อ….เรื่อง “ปฏิกิริยาทางอารมณ์ ขึ้นอยู่กับทัศนคติของเรา”

O Our emotional reactions depend upon our attitudes.

ครับ…..เราจะมีปฏิกิริยาทางอารมณ์อย่างไร จะแสดงออกอย่างไร จะตกใจ จะดีใจ จะเสียใจ จะเศร้าใจ จะรัก จะเกลียด จะชัง……..จะอะไรก็ตาม มันเป็นไปตาม “ทัศนคติ” ของเราที่มีต่อสิ่งเร้านั้นทั้งสิ้น

สมมุติว่า เราเป็นไม่เกลียดงู รักงู เล่นกับงูมาแต่เล็ก เราก็มีทัศนคติที่ดีต่องู ว่ามันเป็นเพื่อนที่ดีของเรา ดังนั้น ต่อให้มันตกลงบนตักของเรา เราก็อาจจะไม่ตกใจ กลับจะเอามันมาอุ้ม มาจูบเสียด้วยซ้ำ

ถึงแม้ญาติที่เรารักจะต้องเสียไป แต่เราเข้าถึง “สัจธรรม” ว่า
โลกมันก็เป็นดังนี้ มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ตามที่พระพุทธองค์ท่านว่า…….เราก็ไม่เศร้าโศกอะไร อารมณ์ก็ตั้งอยู่ได้อย่างสงบ

ถ้าเรารู้ว่า สักวันหนึ่ง เราต้องดับไป ตามกฎของธรรมชาติ
จะเหลือก็แต่คุณงามความดีเท่านั้น ที่จะปรากฏแก่คนรุ่นหลัง ทรัพย์สิน ต่อให้มีกี่หมื่นล้าน ก็เอาไปไม่ได้ ตำแหน่งก็เอาไปไม่ได้ ยศฐาบรรดาศักดิ์ก็เอาไปไม่ได้ หุ้นที่เที่ยวชอบฝากใครต่อใครไว้ ก็เอาไปไม่ได้……ก็คงไม่ละโมบ…..ลุ่มหลง
ร่ำรวยจนถึงขนาดนี้แล้วยังไม่พอ ยังจะเอาอีก เอาอีก เอาจนประชาชนคงทนไม่ไหวเข้าสักวัน……ก็อาจจะไม่มีแผ่นดินที่จะอยู่ให้มีความสุขได้

ดังนั้น…..เราจะทำอะไร ก็ขึ้นอยู่กับ “ทัศนคติ” ของเราทั้งสิ้น เราจะเป็นคนดี คนโกงชาติ จะเป็นรัฐบุรุษ หรือเป็นรัฐมนตรีที่ต้องติดคุกในที่สุด ก็อยู่ที่ “ทัศนคติ” ในการมองโลกของเรา หาได้อยู่ที่สิ่งอื่นใดไม่ เราทำตัวของเราเองแท้ๆ

T True emotional control is achieved by replacing undesirable attitudes.
การควบคุมอารมณ์ที่แท้จริง จะทำสำเร็จได้ ก็โดยการเปลี่ยนทัศนคติที่ผิดๆ

การแก้อารมณ์ที่ไม่พึงปรารถนา เช่น เป็นคนใจร้อน ชอบต่อยหน้าคน การมองโลกในแง่ร้าย การหมดกำลังใจบ่อยๆ การโศกเสร้าเสียใจที่เกินเหตุ การดีใจที่เกินเหตุ การชอบหมั่นไส้คนโดยที่เขาไม่ได้มาเกี่ยวอะไรกับเราด้วย

ก็ต้องแก้ที่ต้นตอ แก้ที่ต้นเหตุ คือ….. แก้ที่ “ทัศนคติ”

ดังที่เราสังเกตเห็นพระสงฆ์องค์เจ้าที่มีกิริยานิ่มนวล น่าเลื่อมไส ไม่มีอารมณ์โมหะโทษะ ไม่ลุ่มหลงในลาภยศ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของอำนาจ ยศฐาบรรดาศักดิ์ทั้งหลาย ก็เพราะ ท่านได้เข้าใจ ได้เชื่อ ได้มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อความเป็นจริงแห่งโลกธรรมนั่นเอง

I In the meantime, suppress harmful emotions , Until……………………..
ในขณะเดียวกัน จงพยายามระงับอารมณ์ที่เป็นอันตราย และไม่พึงปรารถนา จนกระทั่ง…………
O Opportunity is found to release them harmlessly.
ประสบโอกาสเหมาะ ที่จะปล่อยอารมณ์นั้นออกมา อย่างไม่
มีอันตราย

ใช่ครับ…..เรายังมนุษย์ปุถุชนธรรมดา วัดก็ไม่ค่อยได้เข้า เข้าไปทีหนึ่ง ก็ไปดูผู้หญิงใส่สายเดี่ยวเสียมากกว่า เรายังไม่บรรลุธรรมขั้นใดๆ ทั้งสิ้น ยังห่างไกลกับสวรรค์หลายลี้นัก…..

ดังนั้นเราก็ยังต้องมีความโกรธ ความเศร้า ความโลภ ความหลง ความไม่รู้จักพอ…เป็นธรรมดา

หลวงพ่อแอ็ด ท่านกล่าวเอาไว้ว่า “จงพยายามกดอารมณ์ที่ไม่พึงปรารถนานั้นไว้” จนกว่าจะถึงโอกาสเหมาะที่จะปล่อยมันออกมาอย่างไม่อันตราย

ท่านหมายความว่าไง…..ท่านหมายความว่า สมมุติว่าเราโกรธลูกค้าที่มาถึงก็ด่าด่าด่าด่า…..ขนาดเราเอาร่มไปขายอันสองอัน แค่ขายถูกกว่ามันหน่อยเดียวมันก็ด่าด่าด่าด่า

ยังไม่พอ ยังไปลากเอาผัว เอาพรรคพวกมาด่าด่าด่า
ให้เราเจ็บใจจนน้ำโหมันจะเล็ดออกมาจากลูกกะตามะรำมะร่อ

หลวงพ่อแอ็ด…ท่านว่า “ให้จงระงับอารมณ์ที่จะไปฆ่าไอ้สองผัวเมียนั้นเสีย…..โดยการเดินหนี หรือไปไหนเสียให้พ้น”……แล้วพอถึงจังหวะเหมาะ จึงหันไปฟันกระบาลมัน เอ้ย…..ไม่ใช่ อย่าทำดังนั้นเทียว หันไปออกกำลังกาย
เต้นแอโรบิ๊ก หัดชกลม หรือไม่ก็หันไปร้องคาราโอเกะ…..
ทำอะไรก็ได้ตามถนัด……หรือจะโพสรูปที่หวามหวิวตามถนัดในห้องสีลม เพื่อที่จะให้อารมณ์ร้ายนั้นละลายหายไป

N Note people’s attitude and use them to………
จงสังเกต และจดจำ “ทัศนคติ” ของบุคคลอื่นไว้ และใช้มัน
S Secure the emotional reaction you want.
เพื่อให้ได้มา ซึ่งปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่เราต้องการ

นี่ไงหละ…หลักการที่จะทำให้ผู้อื่นมีอารมณ์อย่างไรก็ได้ ให้เราจำ “ทัศนคติ” ของบุคคลอื่นไว้ ว่าเขาชอบอะไร เชื่ออะไร รักอะไร เกลียดอะไร…และสร้าง “สิ่งเร้า” ให้เขามีปฏิกิริยา หรือเกิดอารมณ์ตามสิ่งเร้าที่เราสร้างขึ้นนั้นๆ

ถ้าเรารู้ว่าเขาเกลียดงู……มีทัศนคติที่ไม่ดีกับงู…….ก็จงเอางูใส่กระเช้า ผูกโบว์ไปให้เขาเป็นของขวัญวันเกิด……เขาจะกรี๊ดจนวงแตกแน่

ถ้าเรารู้ว่าเขาชอบผู้หญิง รูปร่างกำลังสมส่วน ผมยาว ขาว
หมวย สวย อึ๊ม…..ก็จงเอานางใส่กระเช้าผูกโบว์ไปให้เขา
รับรอง คุณจะล๊อคสเป็ค จะตั้งเงื่อนไขในการประกวดราคาอย่างไรก็ได้

ถ้าเราอยากให้เมียของเราตายเร็วๆ และไม่ต้องคดีข้อหาฆ่าเมียตายอย่างหมอวิสุทธ์ ก็จงสังเกต “ทัศนคติ” ของเธอไว้ให้ดี ว่าเธอไม่ชอบอะไร เกลียดอะไร ไม่ต้องการอะไร…
ก็จงทำดังนั้น ทุกๆวัน วันละสามเวลาหลังอาหาร อีกไม่นานเธอก็จะซูบผอม ตรอมใจตายไปเอง…..แล้วเราก็ได้ไปหาใหม่ ที่สวย รวย กว่าเก่าได้อย่างสบายใจเฉิบ

ลุงแอ็ดมีลูกค้าคนหนึ่ง ซึ่งแกเป็นกรรมการตัดสินการประกวดราคาของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง และเป็นกรรมการที่มีเสียงสำคัญเสียด้วย

วันหนึ่งเรานั่งคุยกันเล่นๆ เรื่องจิปาถะทั่วไป แกก็เล่าให้ฟังว่า “เกลียดอะไร ไม่เท่าเกลียดคนญี่ปุ่น มันเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบคนทั้งโลก แพ้สงครามมาหยกๆ ก็เพราะลอกเลียนสินค้าเขามา จึงมาร่ำรวยเป็นสัตว์เศรษฐกิจของโลก….
……………………………………………………………”

ลุงก็ปล่อยให้แกพล่ามไปเรื่อย….และฟังด้วยความสนใจ ก็รู้ว่า “ทัศนคติของแกที่มีต่อคนญี่ปุ่น…สินค้าญี่ปุ่น…..ติดลบอย่างไม่มีทางแก้ได้”

ตอนนั้นมีประกวดราคาคอมพิวเตอร์เมนเฟรม ก็มีหลายยี่ห้อเข้าไปซื้อซอง รวมทั้งของยี่ห้อญี่ปุ่นคือ NEC และ Fujitsu ด้วย

ก่อนวันที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของญี่ปุ่นจะทำการ Presentation หนึ่งวัน ลุงก็ไม่เยี่ยมคาระวะแก พร้อมทั้ง เอา “เหล้าสาเก” ไปให้แกขวดหนึ่ง เป็นการเตือนความจำ ตอกย้ำจุดเดือดของแก….
พลางไปเล่าให้แกฟังว่า มีลูกน้องเพิ่งไปอเมริกา และแวะเที่ยวที่โตเกียว….ตั้งใจจะซื้อกล้องดิจิทอลมาฝากท่าน….ก็โดนยกเค้าเสียหมดที่สนามบินนาริตะ…เหลือแต่ “เหล้าสาเก” ขวดเดียว

แกฟังแล้วเป็นเดือดเป็นแค้นหนักหนา บอกแล้วว่าไปโตเกียวให้ระวัง….ขะมงขะโมยมันชุกชุม ไอ้กล้องดิจอทง ดิจิทอลก็ไม่ต้องเอามาฝากหรอก ขี้เกียจจะมาใช้ของที่ดีแต่ Copy ของคนอื่นเขามา……และยังนั่งสั่งสอนถึงความไม่เอาไหนของชาวญี่ปุ่นให้ลุงฟังอีกสองชั่วโมง

ทุกคนคงจะรู้นะครับว่า….มันจะเกิดอะไรขึ้น ตอน NEC และ Fujitsu เขาจะมาทำ Presentation ในวันรุ่งขึ้น

ก็ต้องขอโทษพรรคพวกที่ดาต้าแมท และล๊อคเล่ห์ ด้วยที่ต้องใช้วิธีนี้ เพราะเพื่อนชอบเสนอเครื่องตัดราคาชาวบ้านเขาดีนัก

พรุ่งนี้จะกลับมาเรื่อง The Attitude ต่อ

แต่ตอนนี้จำได้ไหมครับ

E-M-O-T-I-O-N-S

มีความหมายอย่างไร…..นี่เป็นเสาเข็ม 8 ต้นแรกของ The Attitude นะครับ

//lungadd.pantown.com/

จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 25 ส.ค. 48 10:15:46 ]


--------------------------------------------------------------------------------










--------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 1

ปิ๊ง! เดี๋ยวเอาไปใช้กับลูกค้าบ้างค่ะ ลุงแอ็ด

จากคุณ : outstanding - [ 25 ส.ค. 48 11:13:14 ]






ความคิดเห็นที่ 2

เรียนถามลุงแอ็ดค่ะ การวิเคราะห์ตลาดเราควรที่จะวิเคราะห์ส่วนไหนบ้างค่ะ เช่นถ้าจะไปเปิดสาขาหรือตลาดใหม่

จากคุณ : ลูกเป็ดสีดำ - [ 25 ส.ค. 48 11:33:53 ]






ความคิดเห็นที่ 3

thanks Na Ka

จากคุณ : ichiko - [ 25 ส.ค. 48 14:25:07 ]






ความคิดเห็นที่ 4

โห ลุงแอ็ดครับ เล่นงี้เลยเหรอครับ

ตอนต้นๆ บทความผมนึกว่าอ่านหนังสือธรรมมะอยู่

แต่ไหงตอนจบมาเป็นวิชาจิตวิทยาไม่รู้เน๊าะ . . .


แต่ได้ความรู้ดีจริงๆ ครับ แหมแค่แซวเล่นอย่าน้อยใจสิครับ เมื่อก่อนแอบอ่าน ตอนนี้มาลงทะเบียนเรียนไปเลยดีกว่า


หลานศิษย์คนใหม่

จากคุณ : อาจารย์โช๊ะ - [ 25 ส.ค. 48 15:45:02 ]






ความคิดเห็นที่ 5

ขอบคุณครับลุง

จากคุณ : virgo_v - [ 25 ส.ค. 48 15:55:16 ]






ความคิดเห็นที่ 6

เข้ามาอ่านค่ะ
ขอบคุณลุงแอ็ดที่นำประสบการณ์มาแบ่งปันค่ะ
: )

จากคุณ : โปจิ - [ 25 ส.ค. 48 16:10:33 A:192.168.12.184 X:202.44.73.10, 202.44.72.3 TicketID:105644 ]






ความคิดเห็นที่ 7

หา เอาร่มไปขายแล้วโดนด่า ฮุ ๆ ๆ









จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 25 ส.ค. 48 17:33:22 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ขอบคุณครับ ลุงแอ๊ด

จากคุณ : แบ่งกัน - [ 25 ส.ค. 48 20:48:04 ]






ความคิดเห็นที่ 9

สุดยอด........ครับ..........ชอบมาก
ได้คิดเลยครับ............................ถึงว่าทำไม๊ทำไม คนบ้างคนที่ได้ฟังเรื่องเดียวกัน คนหนึ่งชอ อกชอบใจเป็นนักหนา
อีกคนได้ยินกลับมองเป็นเรื่องเลวร้ายไม่ดีไปซะทุกอย่าง
ก็เพราะเจ้า...........ตัวทัศนคตินี่เอง.......
ขอบคุณ ลุงแอ็ดที่ยังคงถ่ายทอดสิ่งดีๆ..ให้กับพวกเราทุกคนอยู่เสมอๆ..........

(ผมติดตามอ่านบทความของลุงตลอดเลยนะครับ...มีสาระดีมาก......ขอซูฮกให้...ครับ)

จากคุณ : chaos (ปัญหาคาใจ) - [ 25 ส.ค. 48 21:14:10 ]






ความคิดเห็นที่ 10

ถาม : เรียนถามลุงแอ็ดค่ะ การวิเคราะห์ตลาดเราควรที่จะวิเคราะห์ส่วนไหนบ้างค่ะ เช่นถ้าจะไปเปิดสาขาหรือตลาดใหม่

จากคุณ : ลูกเป็ดสีดำ - [ 25 ส.ค. 48 11:33:53 ]

ตอบ : คุณลูกเปิดสีดำ

คำถามของคุณกว้างมาก และสั้นแค่สองบรรทัด แต่ทำเอาคนตอบเหนื่อย เพราะตอบได้หลายเรื่อง แต่ถ้าจะให้แคบลงเช่นที่คุณบอกว่า หากจะไปเปิดตลาดใหม่ หรือสินค้าใหม่ ควรวิเคราะห์เรื่องใดบ้าง คำตอบก็อาจมีเช่น

1. ข้อมูลของการตลาดใหม่ที่เราจะไปเจาะ
- เรายืนอยู่จุดไหน ด้านจินตนาการ ภาพพจน์ ยอดขาย กำไร ตำแหน่ง และส่วน แบ่งของตลาดนั้นๆ
- สภาพของการแข่งขันในตลาดเป็นอย่างไร ใครลงสนามรณรงค์บ้าง ด้วยกลยุทธอะไร ได้ผลแค่ไหน
-สภาพแวดดล้อมของการตลาด ทั้งระดับจุลภาคและมหภาพ ของเราเป็นอย่างไร

2. เราจะตั้งเป้าหมายอย่างไรกับตลาดหรือสินค้าที่จะไปเจาะ เช่น
- การเจาะตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภค
- การสนองตอบต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ขยายตัวออก
- การเปลี่ยนแปลงหรือการกระจายสินค้า
- การจัดการกับจุดอ่อนของคู่แข่ง
- การยกระดับราคา เปลี่ยนขนาด เปลี่ยนรุ่นที่แพงกว่า (ซึ่งได้กำไรมากกว่า)
-การสร้างการยอมรับสินค้าใหม่
- การเอาชนะความลังเล/ความภักดี ต่อคู่แข่งขันของผู้บริโภค
- การอุดช่องว่างการตลาดด้วยสินค้าใหม่ ราคาใหม่ เทคนิคใหม่
-การบุกเข้าถึงรากฐานของคู่แข่ง ด้วยสินค้าที่ดีกว่า
- การสร้างภักดี ของยี่ห้อสินค้า
- การเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาะของการดำเนินการ/งานบริการ

ข้อสำคัญ : คุณจะเรียกลำดับความสำคัญของปัจจัยข้างบนนี้อย่างไร ต้องการอะไรเป็นอันดับหนึ่ง, สอง, สาม ตามลำดับ
อย่าเอาทุกอย่างพร้อมๆ กัน เพราะคุณจะไม่ได้อะไรเลย

3. การกำหนดเป้าหมายทางการตลาด
- เป้าหมายจ้องเด่นชัดและแจ่มแจ้ง
- สร้างเป้าหมายขึ้นมากจากความเชื่อที่ยอมรับแล้ว
- เขียนความคาดหมายออกมา เป็น Paper

4. การวิเคราะห์ ยุทธวิธี 8 P"s ที่เราจะนำไปใช้กับตลาดใหม่ หรือสินค้าใหม่
1. Product
2. Place
3. Price
4. Promotion
5. Packaging
6. Public relation
7. People
8. Power

5. การวิเคราะห์สถานะการณ์ 6 O's ของตลาดใหม่ หรือสินค้าใหม่
1. Objection : ผู้บริโภคเขาต้องการอะไรกัน
2. Objectives : เขาต้องการสิ่งนั้นเพราะอะไร สิ่งที่จูงใจที่สำคัญ คืออะไร
3. Occations : เขาต้องการสิ่งนั้นในเวลาไหน
4. Outlets : ผู้บริโภคจะไปหาสิ่งที่เขาต้องการที่ไหน
5. Organization : ผู้บริโภคจัดการด้านการซื้อ และมีการตัดสินใจ อย่างไร
6. Operation : ผู้บริโภคมีกระบวนการในการซื้ออย่างไร ปัจจัยที่ ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจมีอะไรบ้าง ราคามี ความสำคัญเพียงใด เขาแสวงหาข้อมูลกันอย่างไร

ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างบนนี้ และยังไม่หมด.....จะต้องพูดหรือเขียนกันเป็นหลายวัน
ก็หวังว่าจะทำความเข้าใจได้บ้าง

หากอยากจะทราบเรื่องใดโดยเฉพาะ...ก็ยินดีนะครับ

//lungadd.pantown.com/

จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 26 ส.ค. 48 10:43:29 ]






ความคิดเห็นที่ 11

กว้างมากๆเลยนะค่ะ ขอตามไปถามต่อค่ะลุงแอ็ด ขอบคุณมากนะค่ะ

จากคุณ : ลูกเป็ดสีดำ - [ 26 ส.ค. 48 11:55:00 ]








Create Date : 01 กันยายน 2548
Last Update : 1 กันยายน 2548 21:18:38 น. 0 comments
Counter : 521 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลุงแอ็ด
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




Friends' blogs
[Add ลุงแอ็ด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.